<h2>เมื่อเศรษฐกิจไทยยังต้องการแรงหนุนโดยเฉพาะ SME ส่งผลให้มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 16 ก.ค. 67 จนเกิดโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) GSB Boost Up วงเงินรวม 100,000 ล้านบาท ที่ออมสินจะปล่อยกู้ให้ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวม 16 แห่ง ด้วยดอกเบี้ยฯ 0.01% ต่อปี เป็นระยะเวลา 2 ปี ในฝั่งลูกค้า SME จะกู้ได้สูงสุดไม่เกิน 40 ล้านบาทต่อรายในทุกสถาบันการเงิน ในอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 3.5% ต่อปี</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs ถือเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แต่ปัจจุบันต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ทั้งภาระต้นทุนธุรกิจสูง สภาพคล่องที่จำกัด และความต้องการแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ นำสู่มติคณะรัฐมนตรี (16 ก.ค. 67) ที่จะสนับสนุนแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ วงเงินรวม 100,000 ล้านบาท ให้แก่ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้สั่งการให้ธนาคารออมสินเข้าช่วยเหลือ SMEs ให้มีสภาพคล่องที่เพียงพอ และเพื่อลดต้นทุนทางการเงิน ในการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ด้วยการปล่อยสินเชื่อวงเงิน 100,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี เป็นระยะเวลา 2 ปี ให้แก่สถาบันการเงิน ทั้งธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่เข้าร่วมโครงการฯ เพื่อนำไปปล่อยสินเชื่อต่อให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ที่เป็นลูกค้าเดิมหรือลูกค้าใหม่ ที่ไม่ใช่การรีไฟแนนซ์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยมีเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 3.5% ต่อปี วงเงินสินเชื่อสูงสุดต่อรายรวมทุกสถาบันการเงินไม่เกิน 40 ล้านบาท สามารถติดต่อยื่นขอสินเชื่อได้ที่สถาบันการเงิน ที่เข้าร่วมโครงการฯ ถึง 30 ธ.ค. 2568 หรือจนกว่าจะครบวงเงิน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำ สำหรับลงทุนและเสริมสภาพคล่องในกิจการให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน โดยโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) GSB Boost Up มีสถาบันการเงินเข้าร่วมโครงการ รวม 16 แห่ง ได้แก่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;- ธนาคารกรุงไทย &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;- ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;- ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;- ธนาคารกรุงเทพ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;- ธนาคารกสิกรไทย &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;- ธนาคารไทยพาณิชย์ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;- ธนาคารทหารไทยธนชาต &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;- ธนาคารเกียรตินาคินภัทร &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;- ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;- ธนาคารยูโอบี &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;- ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;- ธนาคารทิสโก้ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;- ธนาคารไทยเครดิต เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/motoring/fti-thailand-motor-industry-july-2024" alt="สภาอุตฯ หั่นเป้าผลิตรถยนต์ปี 67 เหลือ 1.7 ล้านคัน คาดผลิตขายในประเทศลดลง">สภาอุตฯ หั่นเป้าผลิตรถยนต์ปี 67 เหลือ 1.7 ล้านคัน คาดผลิตขายในประเทศลดลง</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events