<h2>พวกเขาคือเหล่าอดีตคนหนุ่มสาวไฟแรงแห่ง <strong>30 Under 30</strong> ที่ขึ้นแท่นประสบความสำเร็จอย่างงดงามในปัจจุบัน</h2>
<strong><img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/2016%20march/art-ex30-01.png" alt="" />
Sean Rad</strong>
ศิษย์เก่า 30 Under 30 ปี 2014
ceo, <strong>Tinder</strong>

ในฤดูใบไม้ร่วงของปี 2014 ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ IAC บีบให้ <strong>Sean Rad </strong>ซึ่งเป็น CEO ของแอพฯ หาคู่แห่งนี้ต้องออกจากตำแหน่ง แต่แทนที่เขาจะออกจากบริษัทไปเลย เขากลับยังอยู่ในบริษัทโดยยอมลดตำแหน่งลงมาเป็นหัวหน้าแผนกผลิตภัณฑ์ เพื่อเปิดทางให้ <strong>Christopher Payne</strong> ก้าวเข้ามานั่งเก้าอี้ CEO แทนเขาในเดือนมีนาคม 2015 แต่พอถึงเดือนสิงหาคม <strong>Payne</strong> ก็ถูกปลด และ <strong>Rad</strong> ก็กลับมาเป็นเบอร์หนึ่งของ <strong>Tinder</strong> อีกครั้ง

ในปัจจุบันมีผู้ใช้บริการ <strong>Tinder</strong> ถึงประมาณ 9.6 ล้านคนต่อวัน และได้ทำการจับคู่ไปแล้วกว่า 1 หมื่นล้านครั้ง เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา <strong>Tinder</strong> (และบริการหาคู่อื่นๆ ของ IAC อย่างเช่น Match.com และ OkCupid) ได้ขายหุ้น IPO ในนามของ <strong>Match Group</strong> เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาด Nasdaq ซึ่งหลังจากที่หุ้นเริ่มเปิดซื้อขายในตลาด ราคาหุ้นได้วิ่งขึ้นมาแล้วถึง 20% ทำให้มูลค่าตลาดขยับขึ้นมาถึงเกือบ 3.5 พันล้านเหรียญ “มีคนโสดหลายร้อยล้านคนที่ใช้สมาร์ทโฟน” <strong>Rad</strong> กล่าวในงาน <strong>Forbes Under 30 Summit</strong> “มีคนโสดรุ่นใหม่ๆ เพิ่มขึ้นตลอดเวลา เพียงแค่เน้นให้ความสำคัญกับกลุ่มคนโสดที่มีจำนวนมากมายมหาศาล เราก็อาจจะกลายเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดได้”  — โดย <strong>Steven Bertoni</strong>



<strong><img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/2016%20march/art-ex30-02.png" alt="" />
Michelle Phan</strong>
ศิษย์เก่า 30 Under 30 ปี 2015
ผู้ร่วมก่อตั้ง <strong>ipsy</strong>

ซูเปอร์สตาร์แห่ง <strong>YouTube</strong> รายนี้อายุแค่ 28 ปี แต่กลายเป็นหนึ่งในเจ้าแม่วงการความสวยความงามซึ่งกำลังจะปรับระดับเป็น unicorn เธอเป็นชาวเวียดนามที่พ่อแม่อพยพมาอยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งตอนที่เธออายุ 15 ปี เธอก็เริ่มเขียนเรื่องราวชีวิตในจินตนาการของเธอบนบล็อก และต่อมาเธอก็ก่อตั้ง <strong>ipsy</strong> ซึ่งเป็นธุรกิจเครื่องสำอางแบบตอบรับสมาชิกขึ้นในปี 2011 ในปี 2015 กิจการของเธอมีสมาชิกถึง 1.5 ล้านคนและกวาดรายได้ไปได้ถึงกว่า 150 ล้านเหรียญ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา บริษัทของเธอระดมทุนได้ถึง 100 ล้านเหรียญ ซึ่งตีเป็นมูลค่าของบริษัทของเธอได้มากกว่า 500 ล้านเหรียญ

<strong>Phan</strong> เพิ่งเปิด Open Studios ขึ้นที่ Santa Monica รัฐ California ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเพื่อให้ผู้ชำนาญการด้านความสวยความงามที่ผ่านการตรวจสอบโดย <strong>ipsy</strong> สามารถมาใช้พื้นที่และอุปกรณ์ในสตูดิโอของเธอเพื่อสร้างสรรค์ผลงานโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย “ฉันอยากตอบแทนชุมชนที่ทำให้ฉันประสบความสำเร็จได้ทุกวันนี้” จนถึงตอนนี้ มีคนมายื่นแสดงความจำนงแล้วถึง 10,000 คน นอกจากนี้ เธอยังได้จัดงานประชุม Generation Beauty ขึ้นที่ New York City ในเดือนตุลาคม ซึ่งงานประชุมนี้เธอเป็นผู้ริเริ่มขึ้นที่ Los Angeles ในปี 2012 โดยมีเป้าหมายที่จะรวบรวมเอาบรรดานักสร้างคอนเทนท์ทางด้านความสวยความงาม และเครื่องสำอางแบรนด์ต่างๆ มาพบปะกัน ซึ่งในปี 2016 นี้จะมีการจัดงานนี้ขึ้นในมหานครอีก 4 แห่ง —โดย <strong>Susan Adams</strong>



<strong><img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/2016%20march/art-ex30-03.png" alt="" />
Austin McChord</strong>
ศิษย์เก่า 30 Under 30 ปี 2015
ผู้ร่วมก่อตั้ง <strong>Datto</strong>

ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2015 บริษัท <strong>Datto</strong> ของเขาระดมทุน 75 ล้านเหรียญ ซึ่งทำให้มูลค่าธุรกิจของ <strong>McChord</strong> สูงถึง 1 พันล้านเหรียญ <strong>McChord</strong> ก่อตั้ง <strong>Datto</strong> ซึ่งให้บริการ back up ระบบ IT ขึ้นในปี 2007 จากชั้นใต้ถุนของบริษัทด้านวิศวกรรมของพ่อของเขา ปัจจุบัน <strong>Datto</strong> มีพนักงานถึง 550 คน และสามารถทำรายได้เกิน 100 ล้านเหรียญจากการให้บริการป้องกันข้อมูลของธุรกิจนับพันๆ แห่ง ซึ่งในบรรดาลูกค้าของเขาก็มีนักการเมืองชื่อดังรวมอยู่ด้วย ซึ่งในปีที่แล้ว <strong>Datto</strong> บอกว่าบริษัทได้ให้บริการ back up อีเมล์ส่วนตัวบางส่วนของ Hillary Clinton ด้วย  (แต่ McChord กล่าวว่าพวกเขาบอกไม่ได้ว่าผู้ใช้บริการสุดท้ายเป็นใคร) ในการทำให้กิจการของเขาเติบโตไม่อย่างไม่หยุดยั้งถึงระดับ unicorn เขาบอกว่า “ถ้าคนมาทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม มันก็ยากที่กิจการจะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ได้” —โดย <strong>Steven Bertoni</strong>



<img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/2016%20march/art-ex30-04.png" alt="" />
<strong>Aaron Levie</strong>
ศิษย์เก่าปี 2012
ผู้ร่วมก่อตั้ง <strong>Box</strong>

<strong>Levie</strong> ยังเป็นผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจใน <strong>Box</strong> ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการจัดเก็บข้อมูลบน <strong>Cloud</strong> ที่เขาเป็นผู้ก่อตั้งขึ้นในปี 2005 ในเดือนมกราคมปีที่แล้ว เขาได้นำ <strong>Box</strong> เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และได้มีโอกาสเป็นผู้ลั่นระฆังเปิดการซื้อขายหุ้นในตลาด Wall Street ร่วมกับ <strong>Dylan Smith</strong> ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง <strong>Box</strong> และเป็นอีกคนหนึ่งที่มีชื่อติดอยู่ในทำเนียบ 30 Under 30 ราคาหุ้นของ <strong>Box</strong> ในช่วงนี้อยู่ที่ประมาณ 14 เหรียญ เท่ากับตอนที่เข้าตลาดหุ้นเมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมา ลดลงจากช่วงที่เข้าตลาดตอนแรกๆ แต่ยังมีมูลค่าตลาดสูงถึง 1.7 พันล้านเหรียญ ในขณะนี้ <strong>Levie </strong>ซึ่งพูดถึงตลาดหุ้นว่าเป็นเหมือน “รถไฟเหาะ” สามารถที่จะหันความสนใจไปที่การหาลูกค้ารายใหญ่ให้กับ <strong>Box</strong> อย่างเช่น Southwest Airlines และปรับเปลี่ยน <strong>Box</strong> ให้เป็นมากกว่าแค่ผู้ให้บริการจัดเก็บข้อมูล แต่จะสร้างแพลตฟอร์มที่คนอื่นๆ สามารถสร้างแอพฯ อยู่บนแพลตฟอร์มนี้ได้ด้วย ถือแม้การเอาหุ้นเข้าตลาดจะไม่ราบรื่นเท่าไหร่นัก แต่ <strong>Levie</strong> ก็บอกว่าเขาไม่รู้สึกเสียใจเลย “การเข้าตลาดเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ เพราะในท่ามกลางเสียงร่ำลือต่างๆ นานา เกี่ยวกับมูลค่าของกิจการที่อยู่นอกตลาด มันทำให้คุณรู้ว่าหุ้นของคุณมีมูลค่าเท่าไหร่ และคุณก็จะได้ประเมินสถานะทางการเงินได้อย่างถูกต้อง ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นความได้เปรียบสำหรับกิจการที่อยู่ใน Silicon Valley ในช่วงนี้” — <em>โดย <strong>Alex Konrad</strong></em>

&nbsp;

<hr />

<a href="http://goo.gl/5KbXgP">ไม่อยากรอ คลิ๊กอ่าน <strong>"30 Under 30 เหล่าผู้ประกอบการหนุ่มสาวรุ่นใหม่ผู้ไม่รอความสำเร็จ"</strong> ฉบับเต็ม ได้ที่ <strong>Forbes Thailand </strong>ฉบับ <strong>MARCH 2016</strong> ได้ในรูปแบบ E-Magazine ไอเดียบรรเจิดรอคุณอยู่</a>

<a href="http://goo.gl/5KbXgP"><img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/2016%20march/cover-forbes-march2016-re.jpg" alt="" width="343" height="450" /></a>

All-Star แห่ง 30 under 30

<em>เรื่อง: Steven Bertoni เรียบเรียง: พิษณุ พรหมจรรยา</em>
<h2><strong>Sean Rad ได้เปลี่ยนวิถีการจับคู่ของผู้คนด้วยการสร้างแอพฯ หาคู่ที่ฮอตที่สุดในโลกอย่าง Tinderขึ้นมา และทำให้นักลงทุนใน Wall Street เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อ Barry Diller ด้วย แต่ทั้งหมดนี้ก็ยังไม่พอที่จะทำให้เขารักษาตำแหน่งหน้าที่การงานเอาไว้ได้</strong></h2>
<div>ความยอดเยี่ยมของแอพฯ Tinder อยู่ตรงทำให้การจีบกันมาอยู่ในรูปดิจิทัล ทำได้ง่ายๆ ผ่านสมาร์ตโฟน เพียงแค่เชื่อมเข้ากับบัญชี facebook ของคุณ ก็จะเปิดดูรูปคนนับไม่ถ้วนที่อาจเป็นคู่เดตที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงกับคุณได้ โดยไม่จำเป็นต้องตอบแบบสอบถามหรือแบบฟอร์มใดๆ Tinder จะเชื่อมคุณกับคนที่คุณชอบผ่าน chatbox</div>
<div></div>
<div>Sean Rad หนุ่มวัย 28 ปี ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO กล่าวว่า เราช่วยกำจัดความกลัวในการโดนปฏิเสธจากฝ่ายตรงข้าม</div>
<div></div>
<div>“ถ้าผมเดินเข้าไปคุยกับคนแปลกหน้าสักคนในบาร์ ผมก็กังวลว่าจะถูกปฏิเสธ ขณะที่คนๆ นั้นก็รู้สึกเหมือนกำลังถูกล่า แต่เราทำให้ความรู้สึกเหล่านั้นหมดไป การจับคู่ของ Tinder ก็เหมือนกับการมองสบตาปิ๊งใครสักคนที่อยู่คนละมุมห้อง”</div>
<div></div>
<div>Justin Mateen เพื่อนของ Rad ช่วยทำให้ Tinder โด่งดัง ด้วยการเจาะตลาดมหาวิทยาลัยชั้นนำ จนเกิดเป็นกระแสในมหาวิทยาลัยของสหรัฐฯ จากนั้นก้าวสู่กลุ่มผู้ใช้งานวงกว้าง เมื่อ Mateen นำไปเผยแพร่ในปาร์ตี้คนโสดที่หมู่บ้านนักกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่ Sochi ประเทศรัสเซีย จนเป็นข่าวดังไปทั่วโลก ทำให้บริษัทแม่อย่าง IAC ซึ่งมี Barry Diller เริ่มหันมาสนใจ</div>
<div></div>
<div>อย่างไรก็ตาม กลับเกิดเรื่องอื้อฉาวในหมู่ผู้ก่อตั้ง เมื่อ Whitney White สาววัย 24 ปี ในตำแหน่งรองประธาน ซึ่งมีสัมพันธ์กับ Mateen ออกมาแฉว่าตัวเธอโดน Mateen และผู้ร่วมก่อตั้งรายอื่นๆ ล่วงละเมิดทางเพศ และถูกเลือกปฏิบัติด้วยเหตุที่เป็นผู้หญิง  แม้ว่าสุดท้ายจะประนีประนอมยอมความกันได้ แต่ IAC คงไม่อาจปล่อยให้กิจการที่กำลังจะทำเงินมหาศาลออกนอกลู่นอกทางได้</div>
<div></div>
<div>เมื่อปลายปีแล้ว ขณะที่ Rad กำลังรอเวลาขึ้นเวที Forbes 30 Under 30 ซึ่งมีคนดังมากมาย ไม่ว่า Monica Lewinsky หรือ Malala Yousafzai  เขาได้รับโทรศัพท์สายตรงจาก IAC  แจ้งว่าถูกปลดจากตำแหน่ง CEO ของบริษัทที่เขาก่อตั้งขึ้นเรียบร้อยแล้ว</div>
<div>

<hr />

อ่าน <strong>“Sex, Lies &amp; iPhones”</strong> ฉบับเต็มได้ใน <em>Forbes Thailand </em>ฉบับ JANUARY 2015

</div>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events