<h2>ในช่วงที่ผ่านมา ถนนอันสวยหรูของ Tesla ก็ไม่ราบเรียบเสียเลย ด้วยหุ้นที่ตกลงไปมากกว่าร้อยละ 15 เมื่ออาทิตย์ก่อนหลัง Elon Musk ได้ทวีตว่าจะขายหุ้นของเขาร้อยละ 10</h2>
<figure><img class="wp-image-54102 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/11/Tesla-e1637050159392.png" alt="" width="720" height="455" /><figcaption> Elon Musk (Photo Credits: Getty Images)</figcaption></figure>

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน หุ้น Tesla ที่ได้ปิดตัวไปเมื่อวันจันทร์ก็ตกลงไปอีกร้อยละ 2 ทำให้ทรัพย์สินของ Musk ไหลออกจากกระเป๋าไปอีก โดยปัจจุบัน Elon Musk มีทรัพย์สิน 2.66 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯจากการคาดการณ์ของ Forbes  ซึ่งหายไปกว่า 5.15 หมื่นล้านเหรียญฯหลังจากที่ทวีตของเขาทำหุ้น Tesla ปั่นป่วนไปหมด

Musk ได้ขายหุ้นของเขาทิ้งมาเรื่อยๆ โดยเขาได้ขายหุ้นมูลค่า<a href="https://www.forbes.com/sites/jonathanponciano/2021/11/12/elon-musk-dumps-more-tesla-stock-lifting-total-sales-to-nearly-6-billion-this-week/?sh=585a33f64d86">ราวๆ 5 พันล้านเหรียญฯ</a>ไปเมื่ออาทิตย์ก่อน และได้ขายเพิ่มอีก 7 ร้อยล้านเหรียญฯ หลังจากนั้น 

เอกสารทางการเงินที่ได้ถูกนำออกมาเมื่อวันศุกร์ก็เปิดเผยให้เห็นการขายรอบใหม่ ทำให้โดยรวม เขาได้ขายหุ้นไปแล้ว 1.2 ล้านหุ้น เป็นมูลค่า 1.2 พันล้านเหรียญฯ (ก่อนภาษี)

สรุปก็คือ Musk ได้ขายหุ้นไปกว่า 6.3 ล้านหุ้น และได้ใช้สิทธิตราสารสิทธิกว่าอีก 2.2 ล้านสิทธิ โดยมีรายได้ทั้งหมดก่อนหักภาษีเกือบ 7 พันล้านเหรียญฯเลยทีเดียว

มันเป็นกลยุทธ์ใหม่ของ Musk ที่เคยเรียกตัวเองว่าเป็นคน “<a style="color: #993300;" href="https://www.wsj.com/articles/elon-musk-techs-cash-poor-billionaire-11588967043?mod=e2twd">มีสภาพคล่องทางการเงินต่ำ</a>” โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่ของเขาผูกติดอยู่กับบริษัท Tesla และ SpaceX บริษัทจรวดของเขามากกว่าที่จะอยู่ในรูปแบบเงินสดหรืออสังหาริมทรัพย์ 

ก่อนจะถึงอาทิตย์ก่อน เศรษฐีเท็กซัสคนนี้ก็ได้ขายหุ้น ​Tesla ไปสองรอบ ครั้งแรกในปี 2010 หลังจากที่ทางบริษัทเปิดตัวเป็นมหาชนได้ไม่นาน โดยเขาได้ขายหุ้นไปกว่า 1.4 ล้านหุ้นในมูลค่ากว่า 24 ล้านเหรียญฯ และอีกครั้งเมื่อปี 2016 โดยครั้งนี้ได้ขายไปกว่า 2.7 ล้านหุ้นเป็นมูลค่าราวๆ 5.93 ร้อยล้านเหรียญฯ ซึ่งเขาได้ใช้เงินตรงนั้นจ่ายภาษีตราสารสิทธิ ​Tesla 

เขาเองก็มีเหตุผลที่เขาจะขายหุ้นเหล่านั้น โดยหุ้นของ Tesla พุ่งขึ้นกว่าร้อยละ 150 ในช่วงปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีตกลงบ้างในอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ตาม

Musk เองก็ได้เสนอว่า Tesla มีมูลค่าสูงเกินจริงอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งยังมี<a href="https://www.forbes.com/sites/chasewithorn/2021/11/10/why-elon-musk-may-want-to-sell-10-of-his-tesla-stock-and-why-he-may-have-to/?sh=29f629911898">กฎหมายภาษี</a>มูลค่าหลายพันล้านรอเศรษฐีคนนี้อยู่ เนื่องมาจากตราสารสิทธิที่จะซื้อหรือขายหุ้นที่จะหมดอายุในเดือนสิงหาคม 2022 นั่นเอง

เม็ดเงินมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านเหรียญฯ จากทั้งหมดเกือบ 7 พันล้านเหรียญฯ ที่ Musk ได้มาจากการขายหุ้น Tesla ถูกนำไปจ่ายภาษีการใช้สิทธิตราสารร้อยละ 10 หุ้นที่เหลือที่ Musk ได้ขายไป อาจจะสามารถช่วยเขาชดเชยภาษีที่ต้องจ่ายเนื่องจากตราสารที่เหลืออยู่ได้บ้าง หรือไม่ก็ถูกนำไปใช้จ่ายคืนเงินที่เขากู้มาเป็นการส่วนตัวจาก Tesla

จนถึงปัจจุบันนี้ Musk ได้ขายหุ้น Tesla ที่เขามีอยู่ไปไม่ถึงร้อยละ โดยยังไม่นับหุ้นใหม่ๆ ของเขาที่ได้มาจากการใช้สิทธิในตราสารสิทธิ เมื่อวันพฤหัสบดี Dan Ives นักวิเคราะห์จาก Wedbush กล่าวว่าการขายร้อยละ 10 ที่เขาเคยทวีตเอาไว้<a href="https://www.forbes.com/sites/jonathanponciano/2021/11/12/elon-musk-dumps-more-tesla-stock-lifting-total-sales-to-nearly-6-billion-this-week/?sh=1131520a4d86">เหมือนจะ “กำลังเกิดขึ้น”</a> 

<figure><img class="size-full wp-image-54103" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/11/Wyden-e1637050212313.png" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> Ron Wyden (Photo Credits: Getty Images)</figcaption></figure>

การซื้อขายของ Musk ไม่ได้เตะตาแค่นักลงทุนทั้งหลาย แต่ทางวุฒิสภาสหรัฐ Ron Wyden ผู้เรียกร้องให้เก็บภาษีเหล่าคนรวยล้นฟ้าให้มากขึ้น ตอบกลับผลสำรวจนั้นผ่านทวิตเตอร์ว่า “การที่ผู้ชายที่รวยที่สุดในโลกคนหนึ่งจะต้องจ่ายภาษีหรือไม่ ไม่ควรขึ้นอยู่กับผลโพลบนทวิตเตอร์ ถึงเวลาแล้วที่จะมีภาษีรายรับเศรษฐีพันล้านสักที” ทวีตของ Wyden ก็ได้ทำให้ทาง Musk <a href="https://twitter.com/elonmusk/status/1457497438474981384">ตอบกลับอย่างหยาบคาย</a> 

วุฒิสภาสหรัฐอีกคนที่วิพากษ์จิจารณ์เศรษฐีพันล้านอยู่บ่อยครั้งอย่าง Bernie Sanders ก็ได้เข้าไปผัวพันกับการปะทะครั้งนี้ในช่วงสุดสัปดาห์และเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดย Sanders ได้<a href="https://twitter.com/SenSanders/status/1459584250668331011?s=20">ทวีต</a>เมื่อวันเสาร์ว่า “เราต้องเรียกร้องให้เศรษฐีรวยล้นฟ้าทั้งหลายจ่ายอะไรบ้าง จบข่าวนะ”

<figure><img class="size-full wp-image-54104" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/11/Sanders-e1637050264829.png" alt="" width="718" height="480" /><figcaption> Bernie Sanders (Photo Credits: Getty Images)</figcaption></figure>

วันต่อมา Musk ได้เล็งเป้าไปยัง Sanders โดยทวีตว่า “ผมชอบลืมไปว่าคุณยังมีชีวิตอยู่” และยังได้ Musk <a href="https://twitter.com/elonmusk/status/1459891238384115722?s=20">ทวีต</a>ตอบอีกว่า “อยากให้ผมขายหุ้นมากกว่านี้หรอ Bernie คุณก็แค่พูดมาเลย . . . ”  

Musk ยังคง<a href="https://twitter.com/elonmusk/status/1460289882568511498?s=20">ทวีต</a>ตอบเมื่อวันจันทร์อีกว่า “โอเค คุณคิดว่าเท่าไรดีหล่ะ ถึงจะยุติธรรม สักร้อยละ 53 ฟังดูดีไหม” และทวีต<a href="https://twitter.com/elonmusk/status/1460300638240317445?s=20">เสริม</a>ว่า “ทักษะการจัดสรรสินทรัพย์ที่ดูเป็นไปได้ของทายาทนี่น่าน่าจะด้อยกว่าผู้สร้างสินทรัพย์นะ เพราะฉะนั้นผมเห็นด้วยกับภาษีกองมรดก” 

อีกทั้ง Musk เองก็ได้ลงนามใน Giving Pledge ซึ่งเป็นสัญญาว่าเขาจะบริจาคทรัพย์สินของเขาอย่างน้อยครึ่งหนึ่งเพื่อการกุศล แต่ Forbes ประเมินว่า Musk ได้บริจาคไปไม่ถึงร้อยละ 1 ของทรัพย์สินที่เขามีอยู่เลยด้วยซ้ำ

แปลและเรียบเรียงโดย ทัตชญา บุษยากิตติกร จากบทความ Elon Musk Is $50 Billion Poorer Since His Twitter Poll Sent Tesla Stock Spiraling เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/world/disney-%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%87-%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%8a%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b9%80%e0%b8%82.html">Disney ‘มุ่ง’ หาช่องทางก้าวเข้าสู่โลกพนันกีฬา</a>

<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Elon Musk กับเงินที่หายไปจากกระเป๋า 5 หมื่นล้านเหรียญฯ

<h2>Elon Musk ประกาศจะขาย "หุ้น Tesla" ตามผลโพลในทวิตเตอร์ของเขา หากขายหุ้นมูลค่ากว่าหมื่นล้านนี้ Musk จะได้ จะเสียเท่าไร</h2>
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา Elon Musk เจ้าของตำแหน่ง<a href="https://www.forbes.com/real-time-billionaires/#541cbb4d3d78">คนที่รวยที่สุดในโลก</a>ได้ทวิต<a href="https://www.forbes.com/sites/lisakim/2021/11/06/elon-musk-says-hell-sell-10-of-his-tesla-stock-if-twitter-users-vote-for-him-to/?sh=100529af51e0">ว่าเขาจะขาย หุ้น Tesla ร้อยละ 10 ที่มีอยู่ดีหรือไม่</a>

ผลโหวตบนโพลปรากฎว่า <a href="https://twitter.com/elonmusk/status/1457064697782489088?s=20">ร้อยละ 57.9 ของคนกว่า 3.5 ล้านที่ร่วมกดคำตอบในโพล</a>นั้นคิดว่าเขาควรจะขาย หุ้น Tesla ซะ ซึ่งเขาก็บอกไว้ในทวิตเตอร์เองว่าเขาจะ “<a style="color: #993300;" href="https://twitter.com/elonmusk/status/1457066048944066565?s=20">ทำตามผลโพลนี้</a>”

<img class="size-full wp-image-53615 aligncenter" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/11/Elon_Musk_Poll.png" alt="" width="663" height="434" />

Musk ถือหุ้น Tesla ไว้จำนวน 170.49 ล้านหุ้น และตราสารสิทธิอีกมากมาย ตัดตราสารสิทธิออกไป ร้อยละ 10 ของหุ้นที่เขาถือก็คือกว่า 17.049 หุ้น และจากการปิดราคาเมื่อวันศุกร์ ราคาหุ้น​ Tesla มีมูลค่า 1,222.9 เหรียญฯ ต่อหุ้น ดังนั้นหุ้นของ Musk มีมูลค่าทั้งหมดราว 2 หมื่นล้านเหรียญฯ

คำถามต่อไปคือ หากขายหุ้นมูลค่า 2 หมื่นล้านเหรียญฯกว่าๆ นี้ Musk จะต้องเสียภาษีเท่าไร? คำตอบคือราวๆ 5 พันล้านเหรียญฯ หากไม่ได้นำมาหักล้างกับการขาดทุนอื่นๆ กำไรส่วนต่างที่เขาจะได้มันมหาศาลเลยทีเดียว 

 เมื่อตอน Musk ลงทุนใน Tesla ช่วงแรก เขาซื้อหุ้นในราคาเพียง <a href="https://www.forbes.com/sites/quora/2014/12/29/how-much-equity-did-elon-musk-get-from-investing-in-teslas-series-a/?sh=178330212a9f">49 เซนต์ต่อหุ้น</a>เท่านั้น หากอ้างอิงจากเอกสารของทาง SEC เมื่อบริษัทเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก หลังจากนั้น ก็มีการแตกหุ้นจาก 1 หุ้น เป็น 5 หุ้น ดังนั้น Musk ก็ลงทุนไปไม่ถึง 10 เซนต์เลยด้วยซ้ำ

แนวคิดที่จู่ๆ จะขายหุ้นครั้งนี้ เกิดหลังจากที่หนึ่งในวุฒิสภาสหรัฐ Ron Wyden ได้ยื่นข้อเสนอให้คิดภาษีกำไรที่ยังไม่รับรู้ของเศรษฐีพันล้านทั้งหลาย เพื่อโต้ตอบบรรดาเศรษฐีที่ไม่จ่ายภาษีเงินได้ระดับรัฐบาลกลาง เพราะพวกเขาเลือกที่จะถือหุ้นเหล่านี้เอาไว้ในนามของคนอื่นแทนที่จะขาย 

Musk <a href="https://twitter.com/elonmusk/status/1457067398712942592?s=20">ทวิตไว้</a>เมื่อวันเสาร์ว่า “แปะไว้หน่อย ผมไม่ได้รับเงินเดือนหรือโบนัสจากไหน ผมมีแค่หุ้น เพราะฉะนั้น ทางเดียวที่ผมจะเสียภาษีได้คือต้องขายหุ้นเท่านั้น”

<img class="size-full wp-image-53616 aligncenter" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/11/Elon_Musk_Tweets.png" alt="" width="669" height="366" />

&nbsp;

หลังจาก Tesla แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนเมื่อปี 2010 Musk ได้ขายหุ้นของเขาไปเพียง 2 ครั้ง การขายครั้งล่าสุดคือเมื่อปี 2016 โดยได้<a href="https://www.sec.gov/Archives/edgar/data/1318605/000149473016000008/xslF345X03/edgardoc.xml">ขายหุ้นของเขาไปทั้งหมด 2.7 ล้านหุ้น</a> คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 593 ล้านเหรียญฯ เพื่อที่จะสามารถครอบคลุมภาษีในการใช้สิทธิตราสารต่างๆ ของเขา

การขายครั้งแรกคือเมื่อกรกฎาคมปี 2010 ปีที่ Tesla เสนอขายหุ้นครั้งแรก โดย Musk ได้ขายหุ้นไปกว่า <a href="https://www.sec.gov/Archives/edgar/data/1318605/000118143110035864/xslF345X03/rrd280655.xml">1.4 ล้านหุ้น</a> โดยมีมูลค่าทั้งหมด 24 ล้านเหรียญก่อนหักภาษี

หุ้นของ Tesla นั้น พุ่งขึ้นกว่า 1,400 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปี 2020 และตัว Musk เองก็<a href="https://www.forbes.com/sites/chasewithorn/2021/11/07/led-by-elon-musks-crazy-gains-american-billionaires-have-added-trillions-to-their-fortunes-during-the-pandemic/?sh=1e5b45f41372">รวยขึ้นเกือบ 2.94 แสนล้านเหรียญ</a> โดย Forbes คำนวนไว้ว่า Musk มีทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 3.184 แสนล้านเหรียญฯ โดยคำนวนล่าสุดเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน และในช่วง 4 ศตวรรษที่ Forbes ได้จับตาดูเหล่าเศรษฐีอเมริกันนี้ Musk เป็นเศรษฐีพันล้านคนแรกที่มีเม็ดเงินแตะ 3 แสนล้านเหรียญฯ

ตัว Elon Musk เอง ก็ทำตัวสมถะ มัธยัสถ์อยู่บ่อยๆ บางทีเขาก็ไม่มีเงินสด ไหนจะขายบ้านทั้งหมดที่เขามีอยู่ และปัจจุบันเขาอาศัยอยู่ใน<a href="https://www.forbes.com/sites/sergeiklebnikov/2021/07/03/where-elon-musk-lives-since-he-pledged-to-ditch-almost-all-physical-possessions/?sh=2ab064f64332">บ้านกล่องเล็กๆ</a> ที่เขาเช่ามาจาก SpaceX ซึ่งเป็นบริษัทจรวดที่เขาเองก็ดูแลอยู่ 

โพลในทวิตเตอร์นี้อาจจะช่วยให้ Musk เปลี่ยนหุ้นที่ตัวเขาเองมองว่ามันราคาสูงเกินไปนี้ให้เป็นเงินสดได้อย่างเป็นที่ยอมรับ เพราะฉะนั้น ถ้ามองในอีกแง่ มันไม่ได้เกี่ยวกับภาษีอะไรหรอก แต่เป็นการเปลี่ยนหุ้น Tesla อันผันผวนกว่าหมื่นล้านหุ้นเป็นเงินในช่วงเวลาที่หุ้นมันแลดูแพงซะเหลือเกิน

แต่ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะขายหุ้น Tesla ถึง 17 ล้านหุ้นภายในวันเดียว หากมีหุ้นจำนวนมากขนาดนี้ถูกปล่อยเข้าตลาด ราคาจะต้องตกแน่ๆ ดังนั้น ดูจะเป็นไปได้มากกว่าที่เขาจะค่อยๆ ขายหุ้นส่วนนั้นทีละนิดละน้อยไปเรื่อยๆ อาจจะใช้เวลาขายเป็นเดือน หรือเป็นปี หรืออาจจะนานกว่านั้นอีก หากอดีตเป็นบทเรียนอะไรให้เราได้ละก็ ถ้าอยากรู้อะไรมากกว่านี้ ก็ต้องจับตาดูบัญชีทวิตเตอร์ของ Musk เอาไว้ดีๆ 

ณ ตอนนี้ ​Elon Musk ยังไม่ได้ตอบคำขอของทาง Forbes เกี่ยวกับความคิดเห็นในการขายหุ้นครั้งนี้

แปลและเรียบเรียงโดย ทัตชญา บุษยากิตติกร จากบทความ Here’s How Much Elon Musk Would Pay In Taxes If He Sells 10% Of His Tesla Stock เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม:<a href="https://forbesthailand.com/world/%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%9a-sway-%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b8%96%e0%b8%b8%e0%b8%87%e0%b8%88%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%ab.html"> รู้จักกับ Sway และถุงจากสาหร่ายที่จะทำให้พลาสติกใช้ครั้งเดียวหายไป</a>

<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events