&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บมจ.อาปิโก ไฮเทค หรือ AH รุกขยายธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์มาเลเซีย ทุ่มเงิน 312 ล้านบาท เข้าลงทุนในกิจการ Advanced Vehicle Engineering Global Sdn.Bhd. ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จากกลุ่มบริษัท “โปรตอน” ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติมาเลเซีย สัดส่วน 60% สยายปีกขยายฐานการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทไปยังต่างประเทศ หวังเพิ่มศักยภาพและโอกาสการเติบโตในธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ ชี้ล่าสุดทริสเรทติ้งขยับอันดับเครดิตองค์กรเป็นระดับ “A-“ จาก “BBB+” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เย็บ ซู ชวน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาปิโก ไฮเทค (มหาชน) หรือ AH กล่าวว่า ล่าสุดบริษัทฯได้เข้าลงทุนในกิจการ Advanced Vehicle Engineering Global Sdn.Bhd. หรือ Avee ซึ่งทำธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จากกลุ่มบริษัท “โปรตอน” ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติมาเลเซีย คิดเป็นสัดส่วน 60% ด้วยวงเงินลงทุนจำนวน 312 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพและโอกาสการเติบโตในธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ รวมถึงขยายฐานการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทไปยังต่างประเทศ <div class="se-component se-image-container __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/06/cBQRv2x9u16HFmTPRSSv.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="cBQRv2x9u16HFmTPRSSv.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="1062,438"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เย็บ กล่าวอีกว่า อาปิโกมีความตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้ขยายธุรกิจเข้าไปสู่ตลาดใหม่ในประเทศมาเลเซีย ที่อุตสาหกรรมยานยนต์มีอัตราการเติบโตสูงและเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์สำหรับประเทศมาเลเซีย นับเป็นการจับมือสร้างพันธมิตรทางธุรกิจระยะยาวกับบริษัทโปรตอน ที่มีบริษัท จีลี่ ออโตโมบิล ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์จากจีน ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 49.9% ทั้งนี้ ภายใต้การเข้าไปลงทุนในสัดส่วน 60% ของกิจการดังกล่าว เราจะนำความเชี่ยวชาญเกือบ 30 ปี ในอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เข้าไปบริหารจัดการและต่อยอดทางธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ โดยกลุ่มโปรตอนมีสัดส่วนการถือหุ้น 40% และยังคงเป็นลูกค้ารายหลักของกิจการเช่นเดิมต่อไป &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยบริษัท Advanced Vehicle Engineering Global Sdn.Bhd. มีฐานการผลิตตั้งอยู่ที่เมืองตันจุงมาลิม ประเทศมาเลเซีย มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์และขึ้นรูปโลหะด้วยความร้อน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อให้ได้มาซึ่งความแข็งแรงของชิ้นส่วนที่มีความแข็งแรงสูงแต่มีน้ำหนักเบา รวมถึงการได้เริ่มดำเนินการประกอบชิ้นส่วนโครงรถยนต์สำหรับรถยนต์โปรตอนรุ่นใหม่อีก 2 รุ่น ซึ่งจะเริ่มดำเนินการผลิตเชิงการค้าในเดือนกรกฎาคม 2566 ซึ่งจุดเด่นของการลงทุนในครั้งนี้ นับเป็นการลงทุนในธุรกิจที่มีการดำเนินการอยู่และมีคำสั่งซื้ออยู่แล้ว และจะสามารถเริ่มรับรู้รายได้ทันที ซึ่งบริษัทใช้งบลงทุนประมาณ 312 ล้านบาท และจะเริ่มรับรู้ผลประกอบการ Avee เข้างบการเงินในเดือนกรกฎาคมนี้ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจดังกล่าวประมาณ 600-680 ล้านบาทในปีนี้ (รับรู้รายได้เฉพาะครึ่งปีหลัง) และตั้งเป้ารับรู้รายได้ 1,500 ล้านบาท ในปี 2567 จากการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ให้กับรถยนต์ Proton รุ่น X90 ที่เพิ่งเปิดตัวไปในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จากในปีที่ผ่านมา AH ได้มีการร่วมลงทุนกับบริษัท พูเรม อินเตอร์เนชั่นแนล จีเอ็มบีเอช (Purem International GmbH) หนึ่งในผู้นำระดับโลกด้านการผลิตระบบควบคุมการปล่อยไอเสียและส่วนประกอบที่เกี่ยวข้อง สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ที่มีลูกค้าเป็นแบรนด์ชั้นนำอย่าง Mercedes Benz, BMW, Ford, และ Geely&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ บริษัทจะเริ่มผลิตระบบควบคุมการปล่อยไอเสียให้กลุ่มโปรตอนภายในไตรมาส 3 ปี 2566 นี้ ซึ่งอาจมีแผนลงทุนเพิ่มเติมในอนาคตสำหรับการผลิตระบบควบคุมการปล่อยไอเสียให้โรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆอีกด้วย &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ล่าสุดทริสเรทติ้งได้ยกระดับเครดิตเรทติ้งองค์กรเป็นระดับ “A-“ จากระดับ “BBB+” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” นับเป็นการตอกย้ำถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องของบริษัทท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวความสามารถในการลดระดับหนี้สินและรักษาอัตราส่วนทางการเงินได้ตามเป้าหมาย &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงสถานะการแข่งขันของบริษัทในการเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในกลุ่ม Tier 1 ของประเทศไทยได้อย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากบริษัทมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า สามารถรับมือกับคำสั่งซื้อจำนวนมากจากลูกค้าหลายรายและยังสามารถคุมต้นทุนและส่งมอบสินค้าคุณภาพได้ทันเวลา ซึ่งช่วยหนุนคำสั่งซื้อจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ให้เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ การยกระดับเครดิตเรทติ้งแสดงให้เห็นถึงความพร้อมและศักยภาพของบริษัทในการลงทุนเพื่อการเติบโตเมื่อมีโอกาสที่ดีเข้ามาในอนาคต &nbsp; &nbsp; อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events