<h2>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดภาพบรรยากาศหลังกิจกรรมอบรม/สัมมนาภายใต้โครงการ “เกษตรทันสมัย พาณิชย์ขายให้ ออนไลน์ทั่วโลก” รุ่นที่ 4 จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 21-23 และ 28-30 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ NEA ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ โดยได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการสินค้าเกษตร สินค้าเกษตรแปรรูป และอาหารของไทย เข้าร่วมกิจกรรมตลอด 6 วันเต็มอย่างคึกคัก</h2><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;<br></p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับโครงการ “เกษตรทันสมัย พาณิชย์ขายให้ ออนไลน์ทั่วโลก” รุ่นที่ 4 ในปีนี้ เป็นการจัดโครงการในรูปแบบ on-site เป็นครั้งแรก ซึ่งผู้ประกอบการจะได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนความรู้โดยตรงจาก ท่านวิทยากรอย่างใกล้ชิด รวมถึงได้ปรับเนื้อหาของหลักสูตรให้มีความทันสมัย และครอบคลุมองค์ความรู้   กว่า 12 กิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นภาคการบรรยาย อาทิ การบรรยายในหัวข้อ การสร้าง Content และเทคนิคการเล่าเรื่อง (Story telling), เทคนิคการถ่ายภาพและการตกแต่งหน้าร้านเพื่อขายสินค้าบน E-commerce และภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารระหว่างประเทศ ฯลฯ&nbsp;</p><p><br></p><div class="se-component se-image-container __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/08/YsQLfnC2Xh3FkbfHWVxa.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="YsQLfnC2Xh3FkbfHWVxa.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="1920,1276"></figure></div><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;<br></p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ยังมีการเสวนาโดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญที่มาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการแบบจัดเต็ม รวมถึงภาคปฏิบัติ (Workshop) ที่เน้นให้ผู้ประกอบการนำความรู้ที่ได้จากการเข้าร่วมกิจกรรมมาทดลองลงมือทำจริงบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่เป็นที่รู้จักทั่วโลกอย่าง AMAZON ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่สามารถพัฒนาองค์ความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการเกษตรไทยในการทำการค้าระหว่างประเทศได้อย่างมีคุณภาพพร้อมก้าวเข้าสู่ตลาดโลก<br></p><p><br></p><div class="se-component se-image-container __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/08/465AUE5QvWYk9aaC5zjT.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="465AUE5QvWYk9aaC5zjT.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1" origin-size="1570,1044"></figure></div><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;<br></p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/preview/71114" alt="กลุ่ม KTIS โชว์กำไรสุทธิงวด 9 เดือนปี 66 โตแรง 379% ที่ 1,510 ล้านบาท อานิสงส์จากคุณภาพอ้อย ราคา และยอดขายที่สูงขึ้น">กลุ่ม KTIS โชว์กำไรสุทธิงวด 9 เดือนปี 66 โตแรง 379% ที่ 1,510 ล้านบาท อานิสงส์จากคุณภาพอ้อย ราคา และยอดขายที่สูงขึ้น</a>​</p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;</p>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events