<h2>จิตตะ เวลธ์ ประเมินครึ่งปีหลังยังเห็นความไม่แน่นอนจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและการลงทุน พร้อมรับมือ Trump Tariffs ด้วยการจัดพอร์ตแบบ Core &amp; Satellite กระจายความเสี่ยง ด้วย Global ETF และ Jitta Ranking Alpha ในสัดส่วน 80:20 เอาชนะความผันผวนได้ด้วยผลตอบแทน +3.49%* ขณะที่ AI ยังชี้ “จีน” ตลาดหุ้นที่น่าลงทุนครึ่งปีหลัง จากอัตราส่วนหุ้นดีราคาถูกเพิ่มขึ้นมาถึง 15.6 เท่าขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ลดลงอยู่ที่ 0.61 เท่า สะท้อนราคาที่แพงไปแล้ว เผยผลตอบแทนล่าสุด (YTD) ตลาดหุ้นจีนยังโดดเด่น ทั้ง Jitta Ranking หุ้นฮ่องกง +19.64% หรือกลุ่ม Thematic หุ้นจีนที่ล้วนสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่า 20%</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นายตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด (บลจ.) เปิดเผยว่า แม้บรรยากาศการลงทุนทั่วโลกจะเริ่มผ่อนคลายความกังวลจากประเด็นสงครามการค้าและความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์บ้างแล้ว เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ที่ตลาดผันผวนรุนแรง แต่ในช่วงที่เหลือของปี ประเด็นเหล่านี้จะยังคงกดดันตลาด และอาจกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อในช่วงที่เหลือของปี และส่งผลให้ธนาคารกลางทั่วโลก โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed ต้องคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงเพื่อควบคุมเงินเฟ้อต่อไป เป็นประเด็นที่นักลงทุนต้องจับตา &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“หากย้อนประวัติศาสตร์เงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกา หลังเหตุการณ์สำคัญ เงินเฟ้อจะพุ่งแรงอย่างเห็นได้ชัด เช่นในปี 2489 ที่สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นไปถึง 18.1% แต่ในทางกลับกัน ไม่ว่าจะผ่านมากี่วิกฤติตลาดหุ้นก็สามารถปรับตัวกลับขึ้นมาได้ โดยดัชนี S&amp;P500 สร้างผลตอบแทนได้ถึง 326.65% (31 ธันวาคม 2542 - 14 กรกฏาคม 2568) สะท้อนได้ว่าในทุกวิกฤติมีโอกาสเสมอ ดังนั้นนักลงทุนต้องทำการบ้านหนักขึ้นเพื่อให้เป็น “นักเลือก” ค้นหาหุ้นที่ดีในราคาเหมาะสม ทนทานต่อความผันผวนในระยะยาวให้เจอให้ได้” นายตราวุทธิ์ กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นายตราวุทธิ์กล่าวว่า เมื่อภาพการลงทุนกำลังเปลี่ยนไปตามบริบทใหม่ของโลก นักลงทุนจำเป็นต้องมีหลักคิดในการลงทุนที่ถูกต้องเพื่อให้พร้อมเผชิญกับความไม่แน่นอนในอนาคต ซึ่งการกระจายความเสี่ยง (Diversification) ให้พอร์ตคือกุญแจสำคัญ รวมถึงการจัดพอร์ตแบบ Core &amp; Satellite ที่มีการแบ่งสัดส่วนของ Core Port หรือพอร์ตหลักให้มีสินทรัพย์ที่กระจายความเสี่ยงอย่างครอบคลุม และสร้างความมั่นคงให้พอร์ต ควบคู่ไปกับ Satellite Port หรือพอร์ตรอง เสริมการลงทุนแบบมุ่งเน้นผลตอบแทน ในประเทศหรือธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ซึ่งสัดส่วนของทั้ง 2 พอร์ต อาจจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการรับความเสี่ยงของนักลงทุนเอง แต่สัดส่วนที่ปลอดภัยที่ Jitta Wealth แนะนำจะอยู่ที่ 80:20&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้สูตรการลงทุนที่ Jitta Wealth แนะนำคือการจัด Core Port ด้วย Global ETF แผนการลงทุนที่มีการกระจายความเสี่ยงในหุ้นและตราสารหนี้คุณภาพดีทั่วโลก และจัด Satellite Port ด้วย Jitta Ranking Alpha นโยบายการลงทุนที่มี Alpha AI อัลกอริทึมวิเคราะห์ประเทศของ Jitta Wealth คัดเลือก ‘ตลาดหุ้นที่ดี ในเวลาที่เหมาะสม’ การจัดพอร์ตแบบนี้ที่สัดส่วน 80:20 ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถนำพาพอร์ตให้ผ่านพ้นวิกฤติ Trump Tarriffs ได้ โดยในวันที่ 8 เมษายน 2568 ที่สหรัฐฯ มีการประกาศ Liberation Day ผลตอบแทนของพอร์ตติดลบเพียง 5.27% จากต้นปี ถือว่าน้อยมากเทียบกับสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกที่ร่วงรุนแรงในช่วงแวลาเดียวกัน และล่าสุดเมื่อตลาดเริ่มนิ่ง (14 กรกฎาคม 2568) ผลตอบแทนก็กลับมา +3.49% พิสูจน์ได้ว่าการจัดพอร์ตด้วยหลักการนี้สามารถฝ่าวิกฤติความผันผวนได้จริง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“การกระจายความเสี่ยงและการจัดพอร์ตแบบ Core &amp; Satellite โดยมี Global ETF เป็น Core Port สามารถฝ่าวิกฤติได้จริง ด้วยผลตอบแทนที่ดีและความเสี่ยงต่ำ เหมาะที่นักลงทุนจะใช้เป็นพอร์ตหลักได้อย่างสบายใจ ไร้กังวล และการมีพอร์ตหลักที่มั่นคง จะช่วยให้นักลงทุนสามารถเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนด้วยการเลือกลงทุนในตลาดหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดีในอนาคตใน Satellite Port ได้ด้วย”&nbsp;นายตราวุทธิ์ กล่าว &nbsp; &nbsp; ตลาดหุ้นที่มีโอกาสเติบโตเวลานี้ นักลงทุนอาจจะให้ความสนใจในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ยังคงทำสถิติ All Time High ได้เสมอ แต่สหรัฐฯ เองก็ยังมีประเด็นที่ต้องติดตาม ทั้งปัญหาภาระหนี้ที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงความต้องการพันธบัตรสหรัฐฯ เริ่มลดน้อยลง ขณะที่ประเทศคู่แข่งอย่างจีนในเวลานี้ถือว่ายังมีความแข็งแกร่ง มีจุดยืนที่มั่นคงในเวทีโลกเห็นได้จากการตอบโต้ภาษีสหรัฐฯ แม้ในภาพรวมของภาคประชาชนจะแสดงให้เห็นถึงการใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น แต่เศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง GDP เติบโตอยู่ในระดับที่สูงกว่า 5.5% (2564-2567) ซึ่ง สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกเกือบ 2%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตามหากถาม AI ถึงประเทศที่น่าลงทุนในเวลานี้ ด้วย Jitta Market Prediction ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ในแบบ AI Predictive Analytics ที่มีการนำฐานข้อมูลการลงทุนมาวิเคราะห์ในทุกมิติ เพื่อเฟ้นหาตลาดที่น่าลงทุน และมีศักยภาพที่จะสร้างผลกำไรดีที่สุดในอนาคต โดยข้อมูลล่าสุด (11 กรกฏาคม) AI พบว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีอัตราส่วนหุ้นถูกต่อหุ้นแพงลดลงมาอยู่ที่ 0.61 เท่า จากสิ้นปีก่อนที่มี 0.72 เท่า สะท้อนว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ เวลานี้อาจจะแพงไปแล้ว เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นจีนที่มีอัตราส่วนหุ้นถูกต่อหุ้นแพงเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 15.6 เท่าจากสิ้นปีก่อนที่มีเพียง 9 เท่า &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เวลานี้ระบบเศรษฐกิจโลกถูกขับเคลื่อนไปตามการแข่งขันระหว่างสหรัฐอเมริกา และจีน ในอีก 10 ปีข้างหน้า ยังไม่มีใครตอบได้ว่าสหรัฐฯ หรือจีน ใครจะขึ้นเบอร์หนึ่งของโลก แต่ที่แน่ๆ เราก็จะเห็นการเติบโตของทั้ง 2 ประเทศนี้ต่อไป ” นายตราวุทธิ์ กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับผลตอบแทนการลงทุนในนโยบายต่างๆ ของ Jitta Wealth ตั้งแต่ต้นปีมาถึงปัจจุบัน (14 กรกฎาคม 2568) นั้น นโยบายที่เกี่ยวกับหุ้นจีนสามารถสร้างผลตอบแทนได้โดดเด่น เช่น Jitta Ranking หุ้นฮ่องกง สามารถสร้างผลตอบแทน (YTD) +19.64% และหากดูเป็นธีมการลงทุน พบว่าธีมบริการสุขภาพจีน +29.34% ธีมพลังงานสะอาดจีน +26.19% ธีมตลาดหุ้นจีน +23.16% ธีมหุ้นฮ่องกง +22.50% ธีมเทคโนโลยีจีน +19.26% ส่วนJitta Ranking หุ้นจีน +4.77% และ Jitta Ranking Alpha +4.15%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“AI ของ Jitta Wealth ชี้ให้เห็นโอกาสในตลาดหุ้นจีนมาโดยตลอด และเวลานี้ยิ่งตอกย้ำความแม่นยำได้จากผลตอบแทนที่ชัดเจน ซึ่่งตลาดหุ้นฮ่องกงที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนำไปก่อนเพราะเป็นตลาดที่เงินทุนไหลเข้าออกง่าย แต่หากมองโครงสร้างในระยะยาวแล้วในอนาคตเชื่อว่าจะเห็นการโยกเม็ดเงินไหลกลับเข้าสู่จีนแผ่นดินใหญ่แน่นอน”&nbsp;นายตราวุทธิ์ กล่าว หมายเหตุ * +3.49% เป็นผลตอบแทน Core &amp; Satellite ตั้งแต่ต้นปี (YTD) ในสกุลเงินไทยบาท หากเป็นสกุลเงินในประเทศที่ลงทุน จะมีผลตอบแทน +8.32% ภาพ:&nbsp;จิตตะ เวลธ์ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/news/finance-and-investment/citibank-recommends-6-business-trends-to-cope-with-us-tariffs" alt="'ซิตี้แบงก์' แนะภาคธุรกิจ 6 เทรนด์รับมือกำแพงภาษีสหรัฐฯ ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกผันผวน">'ซิตี้แบงก์' แนะภาคธุรกิจ 6 เทรนด์รับมือกำแพงภาษีสหรัฐฯ ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกผันผวน</a><a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

จิตตะ เวลธ์ชี้ AI Market Prediction ยังล็อกเป้าหุ้นจีน เน้นจัดพอร์ต Core & Satellite

<h2>‘จิตตะ เวลธ์’ มองแนวโน้มการลงทุนปี 68 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจโตต่อเนื่อง เพราะตามสถิติแล้วปีหลังจากการเลือกตั้งสหรัฐฯ ตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้น โดยมองหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังมีโอกาสเติบโตขึ้นได้ท่ามกลางความผันผวนที่สูงขึ้นจากฐานราคาที่อยู่สูง ในส่วนของไทยมองว่าเศรษฐกิจยังทรงๆ และตลาดหุ้นไทยมีโอกาสน้อยลงที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด เหมือนในอดีต นอกจากนี้ยังจับตาการปรับเกณฑ์เก็บภาษีลงทุนนอกของกระทรวงการคลังว่าจะมีการปรับเปลี่ยนอย่างไร ล่าสุด ยังเปิดตัวพอร์ตใหม่ Jitta Ranking Alpha เพื่อเป็นตัวช่วยให้นักลงทุน สามารถเข้าลงทุนใน ‘ตลาดหุ้นที่ดีในเวลาที่เหมาะสม’</h2>&nbsp; &nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp;นายตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มการลงทุนต่างประเทศในปี 2568 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจโตต่อเนื่อง เพราะตามสถิติแล้วปีหลังจากการเลือกตั้งสหรัฐฯ ตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้น โดยมองว่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เช่น กลุ่ม 7 นางฟ้า ยังมีโอกาสเติบโตขึ้นได้ท่ามกลางความผันผวนที่สูงขึ้นจากฐานราคาที่อยู่สูง ในส่วนของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต้องติดตามความคืบหน้าของนโยบายต่างๆ เช่น นโยบายการปรับลดภาษีสำหรับภาคธุรกิจในประเทศ การขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ความเข้มงวดด้าน Immigration ฯลฯ&nbsp; &nbsp; &nbsp;ส่วนเศรษฐกิจจีน คาดว่าปี 68 ยังเติบโตได้แต่ยังต้องติดตามว่าจะถึง 5% หรือไม่ แต่คาดว่าจะมีการอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ผ่านนโยบายการเงินการคลังที่ผ่อนคลายมากขึ้น เพื่อรับมือกับสงครามการค้าที่จะเพิ่มขึ้น (เช่น สหรัฐฯ อาจขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน)&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp;ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกง ในปี 2568 เชื่อว่าจะได้รับผลดีเช่นกัน หากจีนมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ส่วน GDP คาดว่าจะขยายตัวที่ 2.5%&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp;ในส่วนของไทยมองว่าเศรษฐกิจยังทรงๆ และตลาดหุ้นไทยมีโอกาสน้อยลงที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด เหมือนในอดีต แม้ว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันจะมีนโยบายที่อาจสร้างการเติบโตได้ เช่น Entertainment Complex, นโยบายดึงดูดการลงทุนด้าน EV ฯลฯ แต่เชื่อว่ายังไม่เติบโตสูงเหมือนในอดีต อาทิ หลังจากภาวะวิกฤตต้มยำกุ้งเกิดขึ้น ภาคธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงจากเครื่องยนต์หลักอย่าง ภาคการเงิน อสังหาริมทรัพย์ ไปสู่ภาคพลังงาน การสื่อสาร โรงพยาบาล ฯลฯ แต่ปัจจุบันภาคธุรกิจไทยยังไม่สามารถปรับตัวเพื่อตอบโจทย์สินค้าที่โลกต้องการได้ดีนัก&nbsp; &nbsp; &nbsp;นอกจากนี้ในปี 2568 ยังจับตาการปรับเกณฑ์เก็บภาษีการลงทุนในต่างประเทศของกระทรวงการคลังว่าจะมีการปรับเปลี่ยนหรือไม่ จากปัจจุบันที่จะจัดเก็บภาษีจากกำไรที่เกิดขึ้นจากการลงทุนในต่างประเทศเมื่อนำเม็ดเงินนั้นกลับเข้าสู่ไทย โดยผู้ลงทุนต้องแจ้งต่อทางการด้วยตนเอง แต่ยังมีการพูดคุยถึงกรณีการเก็บภาษีกำไรในช่วงที่มีการลงทุนในต่างประเทศ (ไม่นำกลับเข้าไทยก็ต้องเสียภาษี) แต่ยังอยู่ระหว่างพูดคุยในรายละเอียด ว่าควรเก็บหรือไม่ จะมีการลดหย่อนใดบ้าง หรือจะทำให้สอดคล้องกับการจัดเก็บภาษีของประเทศอื่นๆ อย่างไร<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/12/xwbcycjnhhJnLrJh3Djw.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-index="0" data-file-name="xwbcycjnhhJnLrJh3Djw.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp; &nbsp; &nbsp;ในส่วนของ Jitta Wealth มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร 15,000 ล้านบาท มีฐานลูกค้าราว 30,000 - 40,000 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทฯ มี 4 นโยบายลงทุนผ่านหุ้นและ ETF ได้แก่ นโยบาย Jitta Money นโยบาย Global ETF นโยบาย Thematic และนโยบาย Jitta Ranking โดยใช้เทคโนโลยีในการวิเคราะห์คุณภาพสินทรัพย์ และบริหารพอร์ตลงทุนอย่างมีวินัย เพื่อการลงทุนระยะยาว&nbsp; &nbsp; &nbsp;ล่าสุด เปิดตัว Jitta Ranking Alpha ซึ่งพัฒนาต่อยอดจาก AI ของบริษัทฯ เพื่อจับสัญญาณลงทุนตามเป้าหมายที่จะลงทุนใน ‘ตลาดหุ้นที่ดีในเวลาที่เหมาะสม โดยมีการปรับพอร์ตอย่างต่อเนื่องทุก 3 เดือน และสับเปลี่ยนประเทศให้ทุกปี (ลงทุนภายใต้ จีน สหรัฐฯ ฮ่องกง ญี่ปุ่น)&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp;ทั้งนี้ แนะนำเหมาะสำหรับผู้ลงทุนระยะยาวอย่างน้อย 3-5 ปีขึ้นไป โดย Jitta Ranking Alpha กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำที่ 2 ล้านบาท (กระจายการลงทุนเฉลี่ย 5 แสนบาทต่อประเทศ) เพื่อการกระจายความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนที่ดีสุดจากการทดสอบผลตอบแทนย้อนหลัง (Back Test) 10 ปี ตั้งแต่ 2557-2566 ของ Jitta Ranking Alpha เฉลี่ยอยู่ที่ 20.71% ต่อปี&nbsp;(ณ 19 พ.ย. 2567) ภาพ: จิตตะ เวลธ์,&nbsp;<a href="https://unsplash.com/@bash__profile?utm_content=creditCopyText&amp;utm_medium=referral&amp;utm_source=unsplash" style="background-color: initial; font-family: &quot;DB FongNam X&quot;, sans-serif; font-size: 34px; text-align: var(--bs-body-text-align);">Nicholas Cappello</a> on <a href="https://unsplash.com/photos/close-up-photo-of-monitor-displaying-graph-Wb63zqJ5gnE?utm_content=creditCopyText&amp;utm_medium=referral&amp;utm_source=unsplash" style="background-color: initial; font-family: &quot;DB FongNam X&quot;, sans-serif; font-size: 34px; text-align: var(--bs-body-text-align);">Unsplash</a> เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/marketing/bar-b-q-plaza-partnered-vitaday-vitamin-water-cabbage-taste" alt="จึ้งมาก! น้ำดื่มผสมวิตามิน กลิ่นกะหล่ำปลี ผลงานบาร์บีคิวพลาซ่า x วิตอะเดย์ สร้างปรากฏการณ์ใหม่วงการอาหาร"></a><a href="https://www.forbesthailand.com/news/marketing/inter-express-second-half-2024-support-chilled-frozen-business-logistic-transportation-system" alt="Inter Express เผยแผนครึ่งหลังปี 67 พร้อมหนุนธุรกิจสินค้าแช่เย็น-แช่แข็ง ผ่านระบบโลจิสติกส์ขนส่งครบวงจร"></a><a href="https://www.forbesthailand.com/news/finance-and-investment/sec-etf-nov-2024" alt="ก.ล.ต. เปิดรับฟังความเห็นฯ เตรียมปรับเกณฑ์รองรับ leveraged และ inverse ETFs เพิ่มผลิตภัณฑ์ลงทุนที่หลากหลาย"></a><a href="https://www.forbesthailand.com/news/finance-and-investment/jsccib-th-gdp-dec-2024" alt="ภาคเอกชนมองบวก! กกร. มั่นใจ GDP ปี 67 โต 2.8% แต่ต้องติดตามผลกระทบน้ำท่วมภาคเหนือ-ใต้"></a><a href="https://forbesthailand.com/news/finance-and-investment/th-set-2567-dec-2024" alt="ทรีนีตี้ มองดัชนีหุ้นโค้งท้ายปี 67 ทรงตัวที่ 1,430-1,450 จุด รับแรงหนุนจาก “วายุภักษ์1-ThaiESG”">ทรีนีตี้ มองดัชนีหุ้นโค้งท้ายปี 67 ทรงตัวที่ 1,430-1,450 จุด รับแรงหนุนจาก “วายุภักษ์1-ThaiESG”</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

'จิตตะ เวลธ์' มองปี 68 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจโตต่อ  จับตาปรับเกณฑ์เก็บภาษีลงทุนนอก

&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด เรือธงด้านการเงินการลงทุนภายใต้กลุ่ม SCBX เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ และขยายบริการด้านการเงินการลงทุนแบบครบวงจรอย่างไม่หยุดยั้ง ล่าสุดจับมือ บริษัท จิตตะ ดอทคอม จำกัด (Jitta) สตาร์ทอัพ WealthTech ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มวิเคราะห์หุ้น ด้วย AI คัดหุ้น พื้นฐานดีราคาเหมาะสมตามหลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investment) ร่วมเปิดตัวไอเดีย ลงทุนสุด เอ็กซ์คลูซีฟ “คัดหุ้นสหรัฐฯ แนวโน้มเติบโตดี ด้วย Jitta Ranking” ผ่านฟีเจอร์ Wealth Idea บนแอปพลิเคชัน InnovestX หวังช่วยเสริมอาวุธให้นักลงทุนหุ้นต่างประเทศของ InnovestX ซึ่งมีจำนวนลูกค้าเติบโตสูงกว่า 61% ในปี 2565 สามารถลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีโอกาสทำกำไรได้ในระยะยาว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พุฒิกานต์ เอารัตน์ Chief Digital Business Officer บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด​ กล่าวว่า “ความต้องการลงทุนหุ้นต่างประเทศของนักลงทุนไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมาก เห็นได้จากการเติบโตของฐานลูกค้าของ InnovestX ในปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึง 61% เมื่อเทียบกับปี 2564 บริษัทจึงได้พัฒนาต่อยอดบริการ Wealth Idea ซึ่ง ได้รับความนิยมจากนักลงทุนของ InnovestX อย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวไอเดียการลงทุนสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ร่วมกับ บริษัท จิตตะ ดอทคอม จำกัด (Jitta) ภายใต้เพลย์ลิสต์ “คัดหุ้นสหรัฐฯ แนวโน้มเติบโตดี ด้วย Jitta Ranking” ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการช่วยวิเคราะห์ และคัดสรรหุ้นสหรัฐฯ ตัวท็อป เป็นหุ้นที่มีคุณภาพเด่น มีรายได้และกำไรเติบโตดี ต่อเนื่อง ทั้งยังมี Market Cap สูง ตลอดจนมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุน มีโอกาสทำกำไรชนะดัชนีตลาดในระยะยาว เราเชื่อว่าบริการนี้จะช่วยเป็นไอเดียในการลงทุน หุ้นต่างประเทศและตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนได้เป็นอย่างดี”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เพลย์ลิสต์ “คัดหุ้นสหรัฐฯ แนวโน้มเติบโตดี ด้วย Jitta Ranking” เป็นบริการที่ผสานระหว่างจุดเด่นของทั้ง InnovestX และ Jitta สองผู้ให้บริการด้านการลงทุนระดับประเทศ ผ่านฟีเจอร์ “Wealth Idea” เพลย์ลิสต์การลงทุน บนแอป InnovestX ที่คัดสรร และรวบรวมทุกไอเดียการลงทุนในทุกสินทรัพย์ จากทีมนักวิเคราะห์ ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน และถูกแบ่งออกเป็นหมวดหมู่อย่างชัดเจน เข้ากับเครื่องมือ Jitta Ranking ของ Jitta ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการวิเคราะห์ และคัดสรรหุ้นน่าลงทุนตามหลัก “ลงทุนในธุรกิจที่ดี ในราคาที่เหมาะสม”&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/06/bp1Nk9cfy5gbYYfiXqAp.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="bp1Nk9cfy5gbYYfiXqAp.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="2250,2250"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยคำนวณจาก Jitta Score ที่บ่งบอกถึงคุณภาพของธุรกิจ และ Jitta Line ที่แสดงมูลค่าที่เหมาะสมของหุ้นและผลประกอบการล่าสุด เพลย์ลิสต์ “คัดหุ้นสหรัฐฯ แนวโน้มเติบโตดี ด้วย Jitta Ranking” บนฟีเจอร์ Wealth Idea นี้จะเป็นไอเดียการลงทุน หุ้นต่างประเทศ ที่เหมาะกับทั้งนักลงทุนที่มีประสบการณ์การลงทุน และนักลงทุนหุ้นต่างประเทศมือใหม่ให้สามารถ ลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเพิ่มโอกาสทำกำไรจากการลงทุนได้ในระยะยาว โดยการร่วมมือกันในครั้งนี้ InnovestX มุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยขยายศักยภาพและประสิทธิภาพการลงทุนให้แก่นักลงทุนสามารถต่อยอดเสริมพอร์ตลงทุนให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนได้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้านตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จิตตะ ดอทคอม จำกัด กล่าวว่า “บริษัทมีความยินดีและตื่นเต้นอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกับ InnovestX และนี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ทั้ง 2 บริษัทได้ร่วมกันสร้างพื้นฐานที่ดี ให้นักลงทุนสามารถลงทุนในหุ้นต่างประเทศได้อย่างมีหลักการผ่านเครื่องไม้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ สามารถลงทุนได้อย่างเหมาะสม และเท่าทันสถานการณ์เศรษฐกิจที่มีความเสี่ยงและผันผวนรออยู่ ซึ่งในอนาคตบริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะพัฒนาต่อยอดความร่วมมือกันไปอีกขั้นเพื่อช่วยให้นักลงทุนสามารถลงทุนได้อย่างสบายใจและมีกำไรที่ยั่งยืน”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับลูกค้า InnovestX และนักลงทุนที่สนใจลงทุนหุ้นต่างประเทศ สามารถลงทุนได้ง่ายๆ ตามเพลย์ลิสต์ “คัดหุ้น สหรัฐฯ แนวโน้มเติบโตดี ด้วย Jitta Ranking” ผ่านฟีเจอร์ Wealth Idea บนแอป InnovestX ได้แล้ววันนี้ที่นี่ หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Direct Message Facebook InnovestX, Line OA: @InnovestX &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/preview/70364" alt="&quot;ออราเคิล&quot; เปิดตัว “X10M” แพลตฟอร์ม Oracle Exadata เจนใหม่ รองรับโหลดข้อมูลมากขึ้นในราคาเท่าเดิม">"ออราเคิล" เปิดตัว “X10M” แพลตฟอร์ม Oracle Exadata เจนใหม่ รองรับโหลดข้อมูลมากขึ้นในราคาเท่าเดิม</a> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events