ศาสตร์แห่งดีไซน์ร่วมสมัย ความภูมิใจของ 'ดุสิตธานี กรุงเทพ' อันดับ 60 โรงแรมยอดเยี่ยมที่สุดของโลก

&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โรงแรมดุสิตธานีโฉมใหม่เปิดบริการมาเกือบครบ 1 ปี บรรดาลูกค้าเก่าและแฟนคลับอันเหนียวแน่นของดุสิตธานี แวะเวียนมาใช้บริการไม่ขาดสาย โดยเฉพาะที่ห้องอาหาร ซึ่งมีบริการอยู่หลายห้อง &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;"ยอดบุ๊กกิ้งห้องพาวิลเลี่ยนตอนนี้ เต็มยาวไปถึงสิ้นเดือนกันยายน" ปทมา เลิศวิทยาสกุล ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารแบรนด์ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ เผยกับทีมสื่อที่เข้าร่วมกิจกรรม เปิดตัว "ซันเดย์ บรันช์ สไตล์ดุสิตธานี" เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (7 ก.ย. 2568) ณ ห้องพาวิลเลี่ยนที่เต็มไปด้วยอาหารหลากหลายสไตล์บุฟเฟ่นานาชาติ จัดเรียงรายให้ลูกค้าได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด และพิเศษด้วยวัตถุดิบสดใหม่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยเฉพาะชุดอาหารทะเลพิเศษ ที่เสริฟถึงทุกโต๊ะในทันทีเมื่อลูกค้าเข้ามารับบริการ ก่อนจะเดินไปเลือกอาหารจานโปรดจากไลน์อาหารนานาชาติ ที่จัดไว้มากมายกว่า 80 รายการ และลูกค้ายังสามารถสั่ง main course ได้แบบไม่จำกัด ซึ่งจัดเต็มด้วยความพิเศษและใส่ใจสไตล์ดุสิตธานี <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/09/691ij5BwJ5mkfKXPoSxQ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="," data-align="center" data-file-name="691ij5BwJ5mkfKXPoSxQ.jpg" data-file-size="0" origin-size="720,480" data-origin="572px,381px" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สัมผัสแรกเมื่อเดินเข้าสู่ห้องพาวิลเลี่ยน ลูกค้าจะพบไลน์อาหารนานาชาติ จัดเคาน์เตอร์พิเศษเรียงรายอยู่โดยรอบ มีเชฟนำเสนอการปรุงแบบสดใหม่ ให้ลูกค้าเลือกสั่งได้ตามความชอบ "ซันเดย์ บรันช์ สไตล์ดุสิตธานี" เป็นการยกระดับมื้อสายวันอาทิตย์ให้พิเศษยิ่งขึ้น ด้วยประสบการณ์การรับประทานมื้อพิเศษที่เหนือระดับกว่าบุฟเฟ่ต์ทั่วไป ทำให้ลูกค้าทั้งกลุ่มครอบครัวและกลุ่มเพื่อน ได้มีเวลาแห่งความสุขร่วมกัน <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/09/TF7Kn8QKvNt9juMmZGSZ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="," data-align="center" data-file-name="TF7Kn8QKvNt9juMmZGSZ.jpg" data-file-size="0" origin-size="720,480" data-origin="572px,381px" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้วยการนำเสนออาหารรสเลิศนานาชนิด การสังสรรค์พูดคุยกันระหว่างมื้ออาหารในบรรยากาศที่เรียบแต่โก้และผ่อนคลาย ด้วยบริการที่สง่างามอย่างไทยของดุสิตธานี ซึ่งจัดซันเดย์ บรันช์ ให้บริการทุกวันอาทิตย์ที่ห้องอาหารพาวิลเลี่ยน โดยให้เวลาเต็มที่สามชั่วโมงครึ่ง ตั้งแต่ 12.00 น.–15.30 น.&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โลกแห่งความอร่อยของซันเดย์ บรันช์ ในสไตล์ดุสิตธานี เริ่มต้นตั้งแต่ลูกค้าก้าวสู่ห้องอาหาร ซึ่งทุกคนจะได้รับโปรเซคโก (prosecco) เป็นเครื่องดื่มต้อนรับ พร้อมชุดอาหารทะเลพิเศษเสิร์ฟตรงให้ที่โต๊ะของทุกคน เป็นการเริ่มต้นประสบการณ์ซันเดย์ บรันช์ ด้วยการเปิดต่อมรับรสจากเครื่องดื่มต้อนรับ ก่อนจะได้ลิ้มลองอาหารที่นำเสนอกว่า 80 รายการมีทั้งอาหารไทย จีน ญี่ปุ่น และยุโรป&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จุดเด่นของซันเดย์ บรันช์ ในแบบฉบับของดุสิตธานี ที่จัดให้มากกว่ารูปแบบบุฟเฟ่ต์ คืออาหารจานหลัก หรือ main course ที่สามารถสั่งจากเมนูได้ไม่จำกัด และเป็นอาหารจานหลักที่ปรุงสดใหม่ตามความชื่นชอบของลูกค้า อาทิ เนื้อวากิวย่าง เป็นเนื้อที่มีไขมันแทรกอยู่ในระดับเกรด 6+ หอยเชลล์จากฮอกไกโดพร้อมฟัวกราส์เสิร์ฟในสไตล์รอสซินี (Scallop and foie gras Rossini) เนื้อแกะย่าง เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/09/DYUgJv7Vtr9kvx3nPY9w.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="," data-align="center" data-file-name="DYUgJv7Vtr9kvx3nPY9w.jpg" data-file-size="0" origin-size="720,480" data-origin="572px,381px" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div> ​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ยังมี พาสต้านานาชนิด และติ่มซำของนึ่ง ซึ่งสามารถสั่งได้ไม่จำกัดจากในเมนู โดยทีมเชฟจะนำนึ่งสดใหม่มาสิร์ฟที่โต๊ะ ไฮไลท์ของไลน์บุฟเฟ่ คือ ล็อบสเตอร์และสเตชั่นอาหารทะเลระดับพรีเมี่ยม รวมถึงหอยนางรมสด ซึ่งทุกสัปดาห์จะมีหอยนางรม 5 ชนิดสลับหมุนเวียนไป และเพื่อส่งเสริมชาวประมงไทย ในทุกสัปดาห์จะมีหอยนางรมจากทะเลของไทยรวมอยู่ด้วย​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/09/2AsLEr1gyWYqPBrt1EXi.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="2AsLEr1gyWYqPBrt1EXi.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="3"></figure></div>​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/09/AQv1kxzTshyQwKvggjkw.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="AQv1kxzTshyQwKvggjkw.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="4"></figure></div> ​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สเตชั่นเนื้ออบ และของย่าง มุมซุชิ และมุมอาหารไทย อาหารนานาชนิดจากบุฟเฟ่ต์ อาหารจานหลัก และติ่มซำที่ปรุงสดใหม่จากเตา เป็นการรังสรรค์ประสบการณ์การรับประทานให้มีความล้ำลึก ทำให้สนุกกับการลิ้มลองอาหาร ปิดท้ายด้วยมุมขนมหวาน ซึ่งมีทั้งขนมหวานตำรับตะวันตก และขนมหวานตำรับไทย ที่ขาดไม่ได้คือ มุมข้าวเหนียวมะม่วง มีเชฟคอยปลอกมะม่วงเพื่อเสิร์ฟให้สดใหม่ทุกครั้ง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับคนรักการดื่มแชมเปญ และแสวงหาประสบการณ์ซันเดย์ บรันช์&nbsp;ที่โก้หรู จะมีแพ็คเกจแชมเปญดงเปรีญง (Dom Pérignon) เป็นพรีเมี่ยมแพ็คเกจ ที่เสิร์ฟให้อย่างไม่จำกัดตลอดมื้ออาหาร ซึ่งดุสิตธานี กรุงเทพ เป็นโรงแรมเดียวในกรุงเทพฯ ที่นำเสนอแชมเปญดงเปรีญงในรูปแบบเสิร์ฟไม่จำกัด&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในโอกาสเปิดตัวซันเดย์ บรันช์ สไตล์ดุสิตธานี ทางโรงแรมได้มอบข้อเสนอพิเศษให้แก่สมาชิกดุสิต โกลด์ ที่กดติดตามโซเชียลมีเดียของโรงแรม และไลน์ทางการของโรงแรม จะได้รับแชมเปญ ไวน์ และเบียร์ เสิร์ฟอย่างไม่จำกัด ตลอดมื้ออาหาร ตั้งแต่วันนี้ - วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2568 ซึ่งการลงทะเบียนเป็นสมาชิกดุสิต โกลด์ ไม่มีค่าใช้จ่าย &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สนนราคาของ "ซันเดย์ บรันช์ สไตล์ดุสิตธานี" เริ่มต้นที่ 3,200++ บาทต่อคนสำหรับซันเดย์ บรันช์ พร้อมโปรเซคโกต้อนรับ และน้ำอัดลม ราคา 1,900++ บาทต่อคนสำหรับเด็กอายุ 7–12 ปี ราคา 6,200++ บาทต่อคนสำหรับซันเดย์ บรันช์ พร้อมแชมเปญ ไวน์ เบียร์ เสิร์ฟไม่จำกัด และราคา 19,950++ บาทต่อคน สำหรับซันเดย์ บรันช์ พร้อมแชมเปญพรีเมี่ยม ดงเปรีญง เสิร์ฟไม่จำกัด

"ซันเดย์ บรันช์" สไตล์ดุสิตธานี มื้อพิเศษกับรางวัลความอร่อย 

<h2>ดุสิตธานีหยั่งรากฐานในธุรกิจโรงแรมของไทยมาหลายสิบปี แม้เจอ COVID–19 ในระหว่างการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา แต่ยังคงเดินหน้าตามแผนซึ่งปี 2568 นี้ ถือว่าเป็นปีสำคัญที่บริษัทฯ จะเริ่มรับรู้รายได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยจากการลงทุนที่ผ่านมา แม้ปีนี้จะต้องเจอความท้าทายจากเศรษฐกิจจนต้องปรับลดเป้าหมายรายได้ลงแต่ยังเชื่อว่าปีนี้จะพลิกทำกำไรหลังจากการขาดทุนในช่วงที่ผ่านมา</h2> &nbsp; &nbsp; &nbsp;‘ศุภจี สุธรรมพันธุ์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT กล่าวว่า ปี 2568 นี้ประมาณการรายได้ในภาพรวมของ DUSIT จะเติบโต 20-25% (ไม่รวม Bareshell ที่เป็นรายการครั้งเดียว) แบ่งเป็นการเติบโตจากส่วนต่างๆ ดังนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1. ธุรกิจโรงแรม ขยายตัว 20-25%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;2. ธุรกิจการศึกษา ขยายตัว 10-12%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;3. ธุรกิจอาหาร ขยายตัว 10-15%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;4. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (ไม่รวม Bareshell) จะขยายตัวมากกว่า 100%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ประมาณการรายได้นี้ปรับลดลงตามภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและความเสี่ยงที่เกิดขึ้น เช่น การท่องเที่ยวที่ชะลอตัวคาดว่าปีนี้อาจมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 35 ล้านคน ความฝืดเคืองของเศรษฐกิจ ฯลฯ หากมีปัจจัยที่เปลี่ยนไป อาทิ ผลการเจรจาภาษีฯ อาจมีการปรับแผนและเป้าหมายเช่นกัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในด้านสัดส่วนรายได้ในปี 2568 นี้จะใกล้เคียงกับปี 2567 ที่ผ่านมา ได้แก่ สัดส่วนรายได้จากโรงแรมอยู่ที่ 67%, กลุ่มอาหาร 18%, อสังหาริมทรัพย์ 7% และ การศึกษา 5% นอกจากนี้ปี 2568 มองว่า DUSIT จะพลิกกลับมาทำกำไรได้เพราะมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีส่วนในแผนการลดค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ยทั้งจากหุ้นกู้และสินเชื่อกับธนาคารที่มีอยู่ในปัจจุบัน​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/06/QqFJXWcDts8KziTJiqWK.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="0" data-file-name="QqFJXWcDts8KziTJiqWK.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะเดียวกัน DUSIT ยังปรับวิธีการหารายได้ และทำการตลาดแบบพุ่งเป้ามากขึ้นในแต่ละกลุ่มลูกค้า เช่น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1) การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Wellness ที่คนจะใช้เวลาภายในโรงแรมนานขึ้น และมีการใช้จ่ายด้านอื่นๆ มากขึ้น เช่น อาหาร, บริการต่างๆ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;2) กลุ่ม Long Stay เช่น Digital Nomad ที่สามารถทำงานได้ทุกที่ทั่วโลก ซึ่งไทยถือว่าตอบโจทย์กลุ่มนี้ได้ดี เพราะมีอินเตอร์เน็ตที่เสถียร&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;3) Sustainability เพราะปัจจุบันลูกค้าให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;4) ขยายสู่กิจกรรมรอบโรงแรมมากขึ้น เช่น กิจกรรม Unseen และอื่นๆ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;5) กลุ่มที่เดินทางโดยมีวัตถุประสงค์ด้านธุรกิจ ซึ่งอาจพาครอบครัวมาพักผ่อนในทริปเดียวกัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ส่วนครึ่งปีหลัง 2568 ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของแผนกลยุทธ์ 9 ปี มั่นใจว่ากลุ่มดุสิตธานีจะสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากธุรกิจโรงแรมที่สถานการณ์การเดินทางกลับเข้าสู่ภาวะปกติและมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน การขยายเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผ่านโครงการที่พักอาศัย ได้แก่ โครงการ Dusit Residences และ Dusit Parkside ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” ปัจจุบันมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 90% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 16,000 ล้านบาท โดยมีแผนจะเริ่มทยอยโอนในช่วงปลายปี 2568 และจะมีการโอนอย่างมีนัยสำคัญในปี 2569 จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ช่วง Unlock Value ของกลุ่มดุสิตธานีเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบด้วยการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากรายได้ที่รอการรับรู้ดังกล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“หลังจากการรับรู้รายได้จากการโอนโครงการที่พักอาศัยดังกล่าว กลุ่มดุสิตธานีจะสามารถลดภาระหนี้สิน ทำให้ต้นทุนการเงินลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ธุรกิจอาหาร ซึ่งในปี 2567 ที่ผ่านมามีรายได้ 1,470 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 18.6% และธุรกิจการศึกษา ที่มีรายได้ 427 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.8% จะเป็นแรงสนับสนุนที่สำคัญในการสร้างการเติบโตนอกเหนือไปจากธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์”&nbsp;ศุภจี กล่าว&nbsp; &nbsp; ปัจจุบันกลุ่มดุสิตธานีอยู่ในช่วงที่ 3 หรือช่วงเก็บเกี่ยวการเติบโต Unlock Value (2566-2568) ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนกลยุทธ์ 9 ปี (2559-2568) โดยช่วงที่ 1 คือช่วงสร้างฐาน (2559-2561) และช่วงที่ 2 ช่วงขยายการเติบโต Take Off (2562-2565)&nbsp;<div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/06/53XFJh9ayUE9hPDEvN7w.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="1" data-file-name="53XFJh9ayUE9hPDEvN7w.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div>​ ภาพ: DUSIT เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/news/finance-and-investment/travel/dusit-central-park" alt="เปิดแผนงาน 5 ปีของ ‘ดุสิตธานี’ หลังซีอีโอ ‘ศุภจี’ ยืนยัน ปมขัดแย้งผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่กระทบธุรกิจ">เปิดแผนงาน 5 ปีของ ‘ดุสิตธานี’ หลังซีอีโอ ‘ศุภจี’ ยืนยัน ปมขัดแย้งผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่กระทบธุรกิจ</a><a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ดุสิตธานีฯ เดินหน้าฝ่าทุกพายุ คาดปี 68 รายได้โต 20-25% หวังปีนี้พลิกฟื้นมีกำไร

<h2>‘ดุสิตธานี’ โรงแรมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานอยู่คู่กับถนนสีลมมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2513 โดยมีผู้ก่อตั้งคือ ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ที่ตั้งมั่นว่าจะสร้างให้ประเทศไทยมีโรงแรมระดับ Luxury มีมาตรฐานสากล และไม่แพ้แบรนด์ใหญ่จากทั่วโลก</h2><h2>​</h2><h2>​</h2>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจุจบันได้ต่อยอดเข้าจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยมีทายาทของท่านผู้หญิงชนัตถ์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ผ่านบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ที่ถือหุ้น 49.74% ซึ่งจะมีชื่อเป็นกรรมการของบริษัทฯ แต่ในการบริหารบริษัทฯ จะมี ‘ศุภจี สุธรรมพันธุ์’ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ช่วงที่ผ่านมา DUSIT เดินหน้าวางรากฐานและปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ อย่างทำเลหัวถนนสีลมที่เป็นพื้นที่ใจกลางกรุงได้พัฒนาสู่การเป็น Mixed-Use ที่จะมีทั้งโรงแรม Residence Retail ไปจนถึงสวนลอยฟ้าขนาดใหญ่ ฯลฯ ปมขัดแย้งผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่กระทบบริษัทฯ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทว่าหลายวันมานี้เกิดกระแสข่าวการส่งงบการเงินไตรมาส 1/68 ที่ล่าช้า โดยหลายฝ่ายมองถึงปมความขัดแย้งภายในผู้ถือหุ้นใหญ่ของดุสิตธานี ทำให้ฝั่งซีอีโอ ศุภจี&nbsp; ออกมายืนยันว่า DUSIT ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างการบริหารงาน ไม่ว่าจะเป็นส่วนของคณะกรรมการบริษัทหรือฝ่ายบริหารที่มีอำนาจสั่งการ โดยตนเองยังเป็นผู้บริหารสูงสุดที่ดูแลการทำงานภายในกลุ่มดุสิตธานี ซึ่งยังเดินหน้าแผนงานและการดำเนินธุรกิจตามปกติอย่างต่อเนื่อง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุปสรรคชั่วคราวที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการภายในของผู้ถือหุ้น ซึ่งบริษัทฯ ไม่สามารถก้าวล่วงหรือแสดงความเห็นเพิ่มเติมแทนผู้ถือหุ้นดังกล่าวได้”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ช่วงที่ผ่านมา DUSIT แจ้งข้อมูลต่อนักลงทุนอย่างต่อเนื่องโดยระบุว่า งบการเงินไตรมาส 1/68 ผู้สอบบัญชีของบริษัทฯ ยังไม่สามารถลงนามรับรองรายงานการสอบทานงบการเงินดังกล่าวได้เนื่องจากยังไม่ได้รับการแต่งต้้งจากที่ประชุมสามัญ ผู้ถือหุ้นประจำปี ครั้งที่ 32/2568 ที่เลื่อนกำหนดออกไปเป็นวันที่ 28 พ.ค. 2568 ซึ่งจะทำให้การส่งงบการเงินไตรมาส 1/2568 ของบริษัทฯ จะล่าช้าออกไป ระหว่างนั้นตลท. จะขึ้นเครื่องหมาย SP (หลักทรัพย์นั้นถูกห้ามซื้อขายเป็นการชั่วคราว) จนกว่าจะนำส่งงบการเงินฯ ได้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในด้านการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ศุภจี ยืนยันว่า งบการเงินไตรมาส 1/68 ได้จัดทำตามมาตรฐานบัญชีอย่างโปร่งใสและผ่านการตรวจสอบรวมถึงอนุมัติอย่างไม่มีเงื่อนไขจาก ผู้ตรวจสอบบัญชี กรรมการตรวจสอบ รวมถึงคณะกรรมการบริษัทฯ ได้พิจารณาอนุมัติเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจึงเร่งแก้ไขปัญหานี้อย่างเต็มที่ โดยเข้าพูดคุยกับตลท. ซึ่งทางตลท. เข้าใจสถานการณ์และได้นำงบการเงินไตรมาส 1/68 นี้เผยแพร่บนระบบ SET โดยมี Disclaimer ไว้ว่าผู้ตรวจสอบบัญชียังไม่ได้รับอนุมัติ (งบการเงินนี้ผ่านการพิจารณาของบอร์ดบริหารแล้ว) ทำให้หุ้นไม่ติดเครื่องหมาย SP ในวันที่ 15 พ.ค. 68&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้เพื่อบรรเทาไม่ให้มีผลกระทบกับผู้ถือหุ้นทุกคน คณะกรรมการฯ ได้มีการแต่งตั้งผู้สอบบัญชีสำหรับงบการเงินไตรมาส 1/68 ที่จะเข้าพิจารณาในที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 28 พ.ค. 68 นี้แล้ว​ ทิศทางปี 2568 พร้อมเปิดงบไตรมาส 1/68 &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ก่อนจะไปถึงแผน 5 ปี ‘ศุภจี สุธรรมพันธุ์’ เล่าถึงภาพรวมการท่องเที่ยวปี 2568 นี้ยังมีปัจจัยที่ท้าทายหลายด้านอย่างจำนวนนักท่องเที่ยวที่ชะลอตัว และภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ทั่วโลก ดังนั้นปี 2568 นี้ยังมีความไม่แน่นอนสูงเป้าหมายรายได้ปีนี้ที่ตั้งไว้ราว 30-35% ถือว่ายังมีความยากลำบากที่จะไปถึงเป้าหมายนี้ แต่จะต้องมีการปรับแผนเพื่อรับมืออีกครั้งและเชื่อว่ายังเติบโตได้ เพราะปีนี้เป็นปีแรกที่โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ที่สีลมกลับมาเปิดเต็มปีเชื่อว่าจะสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แม้ปี 2567 ผลการดำเนินงานรายได้รวม 11,204 ล้านบาทเติบโต 74.8% แต่ที่ยังขาดทุนสุทธิ 237 ล้านบาท สาเหตุเพราะการจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้และเงินกู้ เนื่องจากที่ผ่านมาไม่ได้มีการเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้น อย่างไรก็ตามเมื่อ Dusit Central Park โครงการใหญ่มูลค่ากว่า 46,700 ล้านบาทจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2569 โดยเฉพาะส่วน Residence ที่ปัจจุบันขายไปแล้วกว่า 80% (มูลค่า 15,500 ล้านบาท) โดยจะเริ่มโอนตั้งแต่ปลายปี 2568 จึงคาดว่ารายได้ส่วนนี้จะมาลดต้นทุนเรื่องดอกเบี้ยลง และสามารถทำให้บริษัทฯ พลิกได้อย่างมีนัยสำคัญ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในส่วนของไตรมาส 1 ปี 2568 ผลการดำเนินงานพบว่ามีรายได้ 2,382 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.0%YoY โดยมีกำไรสุทธิ 48 ล้านบาท เดินหน้ากางแผน 5 ปี (2568-2573) &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับแผนงาน 5 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2568-2573) ทั้งโครงการ Dusit Central Park ที่จะเสร็จสมบูรณ์ และหลายธุรกิจที่ขยายออกไปเริ่มเข้าที่เข้าทางสามารถต่อยอดได้ ทั้งธุรกิจหลักอย่าง 1) โรงแรมเมื่อ ดุสิตธานี กรุงเทพ ให้บริการเต็มรูปแบบเชื่อว่าจะสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงยังมีรายได้จากการบริหารโรงแรมในต่างประเทศ ซึ่งอาจขยายเพิ่มเติมในญี่ปุ่น (เช่น โอซาก้า)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;2) ธุรกิจอาหาร เดิมตั้งใจขยายธุรกิจนี้เพื่อสนับสนุนกลุ่มธุรกิจแม่ โดยมีสินค้าเป็นเครื่องปรุง ผลไม้และข้าวต่างๆ มีบริษัทแยกเช่น Epicure ที่ทำธุรกิจ Catering หรือ Bonjour ที่ทำด้านเบเกอรี่ แม้ธุรกิจอาหารจะมีความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจ แต่ยังเดินหน้าที่จะนำบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนในตลท. ช่วงปี 2569 แต่ยังอยู่ระหว่างศึกษาและวางแผนงานว่าจะนำบริษัทฯ ใดเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;3) อสังหาริมทรัพย์ นอกจาก Residence ที่ตั้งอยู่ในโครงการ Dusit Central Park ที่คาดว่ากลางปี 2569 จะสามารถปิดการขายและโอนทั้งหมดตอนโครงการเสร็จสิ้นในปี 2569 และในอนาคตอาจขยายโครงการที่คล้ายกับ ‘ดุสิต อจารา หัวหิน’ ในโมเดลความร่วมมือกับพันธมิตรในการลงทุนก่อสร้าง แต่จะเน้นพัฒนาบนที่ดินที่บริษัทฯ มีอยู่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สุดท้าย 4) ด้านการศึกษา เช่น โรงเรียนสอนทำอาหารที่เพิ่งเปิดมาได้ 2 ปี แม้ยังไม่มีกำไร แต่ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมามีคนลงเรียนคลาสระยะสั้นกว่า 1,400 คลาส และคลาสระยะยาวอีกจำนวนมาก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การขยายสู่ธุรกิจใหม่ๆ ที่มีศักยภาพเป็นหนึ่งในแผนงานดั้งเดิมที่วางไว้ ส่วนหนึ่งเพื่อสร้างสมดุลด้านรายได้จากเดิมที่ต้องพึ่งพารายได้หลักจากโรงแรมกว่า 90% แต่ภายใน 5 ปี ข้างหน้าเชื่อว่าจะลดสัดส่วนลงมาอยู่ระดับ 60% ซึ่งการมีรายได้จากหลายธุรกิจจะช่วยกระจายความเสี่ยงจากความท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้น ภาพ:&nbsp;Dusit,&nbsp;ออกแบบภาพปกโดย ธัญวดี นิรุติศาสตร์​​ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/news/finance-and-investment/kbank-interest-rate-may-2025" alt="ธ.กสิกรไทยประกาศปรับลดดอกเบี้ยฯ 2 ขา 'เงินกู้ลดสูงสุด 0.15% - เงินฝากลดสูงสุด 0.20%'">ธ.กสิกรไทยประกาศปรับลดดอกเบี้ยฯ 2 ขา 'เงินกู้ลดสูงสุด 0.15% - เงินฝากลดสูงสุด 0.20%'</a><a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

เปิดแผนงาน 5 ปีของ ‘ดุสิตธานี’ หลังซีอีโอ ‘ศุภจี’ ยืนยัน ปมขัดแย้งผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่กระทบธุรกิจ

&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;"ดุสิตธานี กรุงเทพ" โรงแรมสัญชาติไทยระดับลักชัวรี่แบรนด์แรกของเมืองไทย เปิดประตูต้อนรับแขกวีไอพี ที่เข้าพักเป็นวันแรก ท่ามกลางบรรยากาศสุดอบอุ่นและการบริการเหนือระดับในสไตล์ดุสิต ที่จะส่งมอบความประทับใจ ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/jBBvcvEiLQhZxwrdyXb7.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="jBBvcvEiLQhZxwrdyXb7.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในฐานะ "หมุดหมายกรุงเทพฯ" พร้อมเปิดบริการสิ่งอำนวยความสะดวกบางส่วนในเฟสแรก อาทิ แกรนด์ ล็อบบี้ บาร์, ห้องอาหารพาวิลเลียน, ดุสิตกูร์เมต์ และห้องจัดงานเลี้ยง ประชุมสัมมนา ให้แขกได้สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนอย่างเหนือระดับ ภายใต้รูปโฉมใหม่ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของแขกผู้มาเยือนจากทั่วทุกมุมโลก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในโอกาสพิเศษนี้ผู้บริหารกลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ชนินทธ์ โทณวณิก ประธานคณะกรรมการบริหาร ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และมร.เอเดรียน รูดิน กรรมการผู้จัดการโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ พร้อมทีมผู้บริหารและพนักงาน ได้ร่วมกันต้อนรับแขกอย่างอบอุ่น พร้อมจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ พร้อมส่งมอบประสบการณ์ของโรงแรมห้าดาวระดับลักชัวรีในความสูง 39 ชั้น ที่นักเดินทางทั่วทุกมุมโลกจะได้ประทับใจกับห้องพักและห้องสวีททั้งหมด 257 ห้อง มอบความสะดวกสบายเต็มที่ ด้วยขนาดห้องที่กว้างขวางเริ่มต้นที่ 50 ตร.ม. ในห้องดีลักซ์ ห้องพรีเมียร์ ที่โดดเด่นด้วยทัศนียภาพอันเขียวขจี ของสวนลุมพินีและวิวเมืองอันงดงามที่จะได้ชื่นชมเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพมหานครอย่างเต็มที่ในทุกๆ ห้องผ่านกรอบหน้าต่างสีทอง ที่ออกแบบเสมือนกรอบภาพขนาดใหญ่ ส่งมอบโมเมนต์แสนตรึงตาต่อแขกทุกท่านในการพักผ่อนเหนือระดับอย่างแตกต่างและความหรูหราสง่างามแนวร่วมสมัยที่ผสานกลิ่นอายแบบไทยในการตกแต่ง ควบคู่ไปกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ สอดคล้องกับมาตรฐานสากลพร้อมความสะดวกสบายอย่างเต็มที่ ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/hDGaUtyUZBXWmcwDETJM.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="hDGaUtyUZBXWmcwDETJM.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในส่วนของห้องอาหารและบาร์อื่นๆ ซึ่งนำทีมโดยเชฟมากความสามารถ จะทะยอยเปิดให้บริการเพิ่มเติมในเดือนหน้า สำหรับท่านที่รักสุขภาพมีบริการเวลเนสและสปาแบบครบวงจรเพื่อความผ่อนคลายใจกลางเมือง ซึ่งจะเปิดให้บริการในเดือนหน้าเช่นกัน &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เพื่อเป็นการต้อนรับการกลับมาเปิดบริการอีกครั้ง โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ มอบประสบการณ์ ลีมูซีน รับ-ส่งสนามบินเหนือระดับ กับรถปอร์เช่ Panamera 4 E-Hybrid Executive นับได้ว่าเป็นโรงแรมแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นโรงแรมแรกในประเทศไทย ที่นำรถปอร์เช่ รุ่น Panamera 4 E-Hybrid Executive มาให้บริการเป็นรถรับ - ส่ง สำหรับแขกที่จองห้องพักแบบคลับรูม หรือห้องสวีท รวมถึงแขกที่เลือกจองข้อเสนอสุดพิเศษ "Iconic Stay" ที่ประกอบด้วย บริการรับส่งสนามบิน สิทธิ์รับประทานอาหารสุดพิเศษ ในชั้นคลับ, บริการ Devarana Mind &amp; Wellness และเลทเช็คเอาท์ได้ถึงเวลา 16.00 น. ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/q65ZTfbQvo5LxFeKHxJ3.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="q65ZTfbQvo5LxFeKHxJ3.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="2"></figure></div>​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/xMLNaynNUaMiqr5KdsK7.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="xMLNaynNUaMiqr5KdsK7.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="3"></figure></div>​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/8d6UP8q4wwUH2fBPiMo3.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="8d6UP8q4wwUH2fBPiMo3.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="4"></figure></div>​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/9wbQpWEkGXrww8kUmCLh.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="9wbQpWEkGXrww8kUmCLh.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="5"></figure></div> ​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สามารถสำรองห้องพักได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 ตุลาคม 2567 สำหรับการเข้าพักระหว่างวันนี้ ถึง 31 มีนาคม 2568ได้ทาง <a href="https://forbes-admin-v2.vercel.app/cms-post-edit/73889/dusit.com" alt="dusit.com"></a><a href="https://www.dusit.com/" alt="dusit.com">dusit.com</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events