<h3>สยามดนตรียามาฮ่า พลิกวิกฤตเป็นโอกาส ช่วงโควิดเติบโตสวนกระแส พฤติกรรมคนเปลี่ยนหันเสพความบันเทิงภายในบ้าน หนุนตลาดโฮม เธียเตอร์โต จับมือ โซนิควิชั่น รุกโมเดิร์นเทรด ช่องทางออนไลน์ ดันยอดขาย 1,000 ล้านบาท</h3>
บริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด ในเครือสยามกลการ ที่เกิดขึ้นจากปณิธานของ ดร.ถาวร พรประภา ที่ต้องการสร้างเมืองดนตรีที่ได้มาตรฐานสากล โดยเปิดโรงเรียนดนตรียามาฮ่า ในปี 2509 และได้เป็นผู้นำเข้าสินค้าเครื่องดนตรีและเครื่องเสียง ภายใต้แบรนด์ ยามาฮ่า มาตั้งแต่ปี 2532 ตลอดระยะเวลา 54 ปี เครื่องเสียงยามาฮ่า ก้าวเป็นผู้นำตลาดเครื่องดนตรี-เครื่องเสียงในทุกกลุ่มสินค้า

ในปี 2563 เป็นอีกก้าวสำคัญของเครื่องดนตรีและเครื่องเสียงยามาฮ่า โดยบริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด ประกาศจับมือเป็นพันธมิตรธุรกิจกับ โซนิควิชั่น กรุ๊ป เพื่อเพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งและขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ ขยายช่องทางจัดจำหน่ายสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงในบ้าน หรือ โฮม เธียเตอร์ ภายใต้แบรนด์ “ยามาฮ่า” สู่โมเดิร์นเทรด ดีลเลอร์ และช่องทางออนไลน์ ในเครือโซนิควิชั่น กรุ๊ป ทั่วประเทศ รับโอกาสใหม่ที่เกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์โควิด-19

<img class="aligncenter wp-image-32570 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/พีรวัฒน์-ชูเกียรติ-001.jpg" alt="สยามดนตรียามาฮ่า" width="600" height="800" />

พีรวัฒน์ ชูเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้น เป็นทั้งปัจจัยบวกและลบ โดยปัจจัยบวกเกิดจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่อยู่บ้านมากขึ้น มีการเสพความบันเทิงภายในบ้านผ่านวิดีโอ สตรีมมิ่ง หรือวิดีโอ ออน ดีมานด์ สังเกตได้จากยอดสมาชิกของผู้ให้บริการอย่าง NetFlix ที่เพิ่มขึ้นมาก ส่งผลให้มีความต้องการสินค้าในกลุ่มโฮม เธียเตอร์ ทำให้ยอดขายของแบรนด์ยามาฮ่าเติบโตขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่องทางออนไลน์

ทั้งนี้ทางยามาฮ่ามองเห็นโอกาส จึงได้ร่วมกับทางบริษัท โซนิควิชั่น กรุ๊ป ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายกลุ่มสินค้าเครื่องเสียงในบ้าน และโฮม ออดิโอ โซลูชั่น ไปยังช่องทางโมเดิร์นเทรด ดีลเลอร์ และช่องทางออนไลน์ ในเครือ โซนิควิชั่น กรุ๊ป ที่มีจุดขายมากกว่า 50 แห่งทั่วประเทศ

นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีเซอร์ราวด์ เอไอ (Surround AI) และมิวสิค แคลช (MusicCast) ของสยามดนตรียามาฮ่า รวมถึงแผนการเปิดตัวเครื่องเสียงรุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี คาดว่าจะทำให้ยอดขายรวมของกลุ่มยามาฮ่า ที่มีมูลค่า 1,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นอีกร้อยละ 10

“ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามวิถีชีวิตใหม่ ภายหลังจากเกิดวิกฤตโควิด-19 ที่หลายคนให้ความสำคัญกับการอยู่บ้าน สนใจการสร้างความบันเทิง การพักผ่อนภายในบ้านมากขึ้น จะเป็นโอกาสในการขยายตลาดและเป็นปัจจัยที่จะช่วยส่งเสริมการเติบโตของเครื่องเสียงบ้านแบรนด์ยามาฮ่าไปสู่ฐานลูกค้าที่กว้างและครอบคลุมทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น” พีรวัฒน์กล่าว

&nbsp;

<img class="aligncenter wp-image-32571 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/สมัคร-สมัครคามัย-33.jpg" alt="สยามดนตรียามาฮ่า" width="600" height="800" />

สมัคร สมัครคามัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โซนิควิชั่น กรุ๊ป เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดเครื่องเสียงบ้าน-โฮมเธียเตอร์ ระดับไฮเอนด์ (Hi-End Home Audio, Hi-End Home Theater-) มีมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วงสถานการณ์โควิด ตลาดยังเติบโตได้อีกร้อยละ 10 ซึ่งเป็นผลจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป หันมาหาความสุขกับกิจกรรมภายในบ้านมากยิ่งขึ้น ประกอบกับลูกค้ากลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูง จึงมีการลงทุนเปลี่ยนชุดเครื่องเสียงเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตัวเอง

นอกจากนี้ บริษัทได้วางกลยุทธ์การตลาดแบบออมนิชาแนล (Omni-Channel) เพื่อตอบโจทย์ไล์ฟสไตล์ออนไลน์ช้อปปิ้งของผู้บริโภคในปัจจุบัน ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงยามาฮ่าได้ง่ายขึ้นและหลากหลายช่องทางทั้งมิติออนไลน์และออฟไลน์ รวมทั้งอีกหนึ่งกลยุทธ์หลักคือความโดดเด่นด้านบริการหลังการขาย ที่เป็นจุดขายหลักของโซนิควิชั่น กรุ๊ป ที่ให้ความสำคัญมาโดยตลอด

ปัจจุบัน เครื่องเสียงยามาฮ่า ติดอันดับ 1 ใน 3 ของตลาดเครื่องเสียงบ้าน หรือ โฮม เธียเตอร์ ระดับไฮเอนด์หลังจากร่วมมือกับโซนิควิชั่น กรุ๊ป ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจเครื่องเสียง กว่า 20 ปี ครั้งนี้ คาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 3  และขึ้นเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาดเครื่องเสียงบ้าน ในปี 2564

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/finance-and-investment/scb-%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b9%87%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%b4%e0%b8%94-%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2%e0%b8%9e%e0%b8%b2%e0%b8%93%e0%b8%b4%e0%b8%8a%e0%b8%a2%e0%b9%8c-%e0%b9%82%e0%b8%9e.html">SCB เล็งเปิด “ไทยพาณิชย์ โพรเทค” ส่งประกันเจาะตลาดแมส</a>

&nbsp;

<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความด้านธุรกิจ ติดตามได้ที่ Facebook: Forbes Thailand Magazine</a>

&nbsp;

สยามดนตรียามาฮ่า ขยายแนวรุกชิงโอกาสช่วงโควิด

<h2>ถนนหนทางในรัฐแคลิฟอร์เนียช่วงหลายวันนี้เบาบางจากผู้คนและรถรา เนื่องจากประชาชนต่างเก็บตัวอยู่ภายในบ้านพัก</h2>
การเก็บตัวแต่ภายในบ้านเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวด แต่นี้คือโอกาสที่ดีของ Bel Air Circuit ธุรกิจที่ก่อตั้งจากคนวงในแห่งวงการฮอลิวูด บริการจัดจำหน่ายภาพยนตร์สำหรับกลุ่มคนดังและรับสร้างโฮมเธียเตอร์ระดับไฮเอนด์

ปัจจุบันอุตสาหกรรมความบันเทิงแบบออน-ดีมานต์มีตัวเลือกมากมายไม่ว่าจะเป็น Netflix หรือ Amazon Prime Video ที่ทำให้เราเข้าถึงรายการบันเทิงหรือภาพยนตร์ใหม่ล่าสุดอย่างง่ายดาย ในช่วงเวลาเรากำลังกักตัวอยู่ภายในบ้านและทยอยดูภาพยนตร์เรื่องแล้วเรื่องเล่า

ด้านกลุ่มคนมีสตางค์และคนดังต่างเก็บตัวอยู่ที่บ้านของพวกเขาเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าการเก็บตัวของคนกลุ่มนี้ต่างกันตรงที่ราคาซึ่งแพงกว่าเพื่อนบ้านเท่านั้นเอง

หลายปีที่ผ่านมากลุ่มสถาปนิกและนักออกแบบได้นำโฮมเธียเตอร์เป็นส่วนหนึ่งของการขายบ้านและคฤหาสน์หรู แต่เทรนด์ความต้องการโฮมเธียร์เตอร์พุ่งสูงขึ้นเมื่อนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้นำโฮมเธียเตอร์มาเป็นลูกเล่นดึงดูดเหล่าคนมีเงิน

<figure><img class="wp-image-29460 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/05/Jade-Mills_01.jpg" alt="" width="600" height="394" /><figcaption> Jade Mills</figcaption></figure>

Jade Mills นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ระดับตำนานมีลูกค้าคนดังระดับโลก บอกกับเราว่า “ราคาบ้านระดับ 10 ล้านเหรียญฯ ขึ้นไปจะมีห้องนั่งเล่นที่มีจอภาพขนาดใหญ่ แต่หลังๆ ผู้ซื้อมองหาห้องดูภาพยนตร์ที่มอบความสะดวกสบายและตอบโจทย์ยิ่งกว่านั้น อาทิ หนึ่งในคำสั่งซื้อที่เข้ามา ต้องการชั้นใต้ดินของบ้านเป็นทั้ง ยิม บาร์ ห้องเก็บไวน์ และต้องมีจอภาพขนาดใหญ่ และอีกหลายๆ ครอบครัวที่ต้องการพื้นที่ที่พวกเขาสามารถใช้เวลาร่วมกันในกิจกรรมที่ต่างกัน”

ด้าน Aaron Kirman อีกหนึ่งนายหน้าอสังหาริมทรัพย์หรูอีกรายมองเห็นความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลูกค้า “โฮมเธียเตอร์เป็นสิ่งที่ต้องมีหากต้องการขายของในตอนนี้ ผู้คนอยากได้สถานที่ซ่อนตัวจากโลกภายนอก ความต้องการของโฮมเธียเตอร์เกิดขึ้นมาแล้วหลายปีและเพิ่มสูงขึ้นทั้งในแง่คุณภาพที่ดีและขนาดห้องที่ขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งความต้องการเหล่านี้ตีเป็นเงินจำนวนไม่ใช่น้อย โดยเทรนด์กำลังบอกเราว่าคนระดับนี้ต้องสร้างอะไรที่เป็นมากกว่าโรงภาพยนตร์และห้องนั่งเล่นทั่วๆ ไป”

<figure><img class="wp-image-29461 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/05/Lisa-Slayman-.jpg" alt="" width="300" height="400" /><figcaption> Lisa Slayman</figcaption></figure>

ด้าน Lisa Slayman นักออกแบบจากบริษัท Slayman Cinema เธอเป็นผู้ออกแบบห้องสำหรับโฮมเธียเตอร์ ภายในเรสสิเดนซ์หรู Laguna Beach ที่ตั้งอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ

เธอสร้างห้องสำหรับโฮมเธียเตอร์ด้วยการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันตามโจทย์ที่เรสสิเดนซ์แห่งนี้มอบให้

“ในอดีตห้องสำหรับโฮมเธียเตอร์ถูกสร้างมาเพื่อการดูภาพยนตร์เพียงอย่างเดียว แต่หลังจากที่ความต้องการในด้านอื่นๆ เข้ามา ทำให้การออกแบบห้องสำหรับโฮมเธียเตอร์เปลี่ยนรูปแบบไป หลายๆ ครอบครัวต้องการ ห้องที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย บางครอบครัวอาจไม่มีพื้นที่หรือเงินเหลือเฟือ สำหรับออกแบบห้องสำหรับทำกิจกรรมใดโดยเฉพาะ

ซึ่งการออกแบบในยุคใหม่จำเป็นต้องยืดหยุ่นให้เหมาะกับกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ การนั่งดูการแข่งขันกีฬา การเล่มวีดีโอเกมส์ ฟังเพลง ฝึกซ้อมโยคะ ดังนั้นการออกแบบพื้นที่สำหรับห้องโฮมเธียเตอร์ในยุคใหม่ต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่ เพื่อจัดวางตำแหน่งที่นั่งชมที่เหมาะสมและยังต้องมีพื้นที่โล่งสำหรับกิจกรรมอื่นๆ ด้วย”

หนึ่งในผลงานการออกแบบที่สำคัญของบริษัท Slayman Cinema คือโปรเจคห้องโฮมเธียเตอร์สำหรับพระราชวงค์ภายในพระราชวัง Saudi ในกรุง Riyadh ซาอุดีอาระเบีย

โดยห้องโฮมเธียเตอร์ออกแบบอย่างหรูหราที่สุด สร้างอยู่ที่ชั้นใต้ดินของพระราชวัง มีส่วนที่เป็นล็อบบี้รับรองเพื่อบริการอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ การออกแบบตกแต่งด้วยงานไม้เนื้อแข็งสีดำขลับจากอิตาลี ประดับด้วยพลอยสีม่วงและคริสตัลจาก Swarovski พื้นห้องปูด้วยพรมที่ทอขึ้นใหม่จากเส้นด้ายวูลและเส้นไหม

<figure><img class="wp-image-29450" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/05/960x0-3.jpg" alt="" width="600" height="318" /><figcaption> Saudi Royal family</figcaption></figure>

สำหรับอีกหนึ่งผลงานของบริษัทโฮมเธียเตอร์แห่งนี้คือ Lady Luck Theater ที่ตั้งอยู่ใน Laguna Beach ที่พักเรสสิเดนท์สุดหรู และยังได้รับรางวัลชนะเลิศด้านการออกแบบ การออกแบบเน้นโทนสีแดงหรูเป็นหลัก ประดับประดาด้วยคริสตัลจาก Swarovski

ล็อบบี้และทางเดินประดับด้วยโปสเตอร์ภาพยนตร์ ที่นั่งรองรับผู้ชมได้มากถึง 45 คน หน้าจอกว้าง 18 ฟุต รองรับการฉายแบบจากเทคโนโลยี 3 มิติ โดยมูลค่าการสร้าง Lady Luck Theater อยู่ที่ราว 3.5 ล้านเหรียญฯ ใช้เวลากว่า 4 ปีในการสร้างให้เสร็จสมบูรณ์

<figure><img class="wp-image-29456" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/05/960x0.jpg" alt="" width="600" height="400" /><figcaption> Lady Luck theater with balcony SLAYMAN CINEMA</figcaption></figure>

ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งผลงาน West Los Angeles ห้องโฮมเธียเตอร์มูลค่า 2 ล้านเหรียญฯ ที่การออกแบบนำเสนอศิลปะแบบกอธิคจากยุคศตวรรษที่ 17 ของสเปน ฝาผนังนำสถาปัตยกรรมหน้าต่างทรงโค้งแหลมและการประดับด้วยกระจกเขียนสีแบบ Mudejar ที่พื้นผิวในกรอบหน้าต่างตำแหน่งลำโพงบุด้วยขนแผงคอม้านำมาทักทอทำหน้าที่ซ่อนลำโพงที่อยู่ภายใน

<figure><img class="wp-image-29448" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/05/960x0-1.jpg" alt="" width="600" height="394" /><figcaption> West Los Angeles theater by Slayman Cinema</figcaption></figure>

ในยุคนี้ "โฮมเธียเตอร์" กำลังเป็นส่วนหนึ่งของการขายมากขึ้นตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอสังหาริมทรัพย์ เราได้นำบ้านพร้อมขายที่คุณจะได้ครอบครองและเป็นเจ้าของที่สุดของโฮมเธียเตอร์ไปพร้อมๆ กัน มานำเสนอ

&nbsp;

642 Perugia Way, Los Angeles
มูลค่า 35.5 ล้านเหรียญฯ

<img class="alignnone wp-image-29451" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/05/960x0-4.jpg" alt="" width="600" height="400" />

ชั้นใต้ดินของอสังหาริมทรัพย์แห่งนี้คือพื้นที่สำหรับความบันเทิง พักผ่อน และสังสรรค์อย่างแท้จริง มีห้องควบคุมอุณหภูมิไวน์ ยิมขนาดใหญ่ พื้นที่สำหรับโยคะ และโฮมเธียเตอร์ภายใน

&nbsp;

277 St. Pierre Rd. Hollywood Hills
มูลค่า 46 ล้านเหรียญฯ

<img class="alignnone wp-image-29452" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/05/960x0-5.jpg" alt="" width="600" height="274" />

บ้านพักประหนึ่งรีสอร์ตส่วนตัวที่ชั้นใต้ดินมีพื้นที่ใช้สอย 20,000 ตร.ม.ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำ สปา ห้องนวดตัว ซาวน่า อ่างอาบน้ำแบบสตรีม สนามบาสเก็ตบอลและห้องซ้อมแร็กเก็ต

&nbsp;

1475 Bel Air Rd. Los Angeles
มูลค่า 16.89 ล้านเหรียญฯ

<img class="alignnone wp-image-29453" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/05/960x0-6.jpg" alt="" width="600" height="384" />

อีกค่ายแบรนด์อสังหาริมทรัพย์น้องใหม่ที่ยกความสะดวกสบายและความบันเทิงไว้ที่ชั้นล่าง โดยมีห้องโฮมเธียเตอร์เป็นอีกความบันเทิงที่ขาดไม่ได้

&nbsp;

1 West Century Dr PH 40, Los Angeles
มูลค่า 35 ล้านเหรียญฯ

<img class="alignnone wp-image-29454" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/05/960x0-7.jpg" alt="" width="600" height="383" />

เพนท์เฮ้าส์สุดหรู ของนักแสดงชื่อดัง Matthew Perry บนชั้น 40 ที่ดัดแปลงห้องนั่งเล่นเป็นโฮมเธียเตอร์

 

&nbsp;

16388 Shadow Mountain Dr, Pacific Palisades
มูลค่า 1.495 ล้านเหรียญฯ

<img class="alignnone wp-image-29455" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/05/960x0-8.jpg" alt="" width="600" height="399" />

วิลล่าสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนที่หรูที่เป็นของผู้กำกับดังแห่งวงการฮอลิวูดตั้งอยู่บนทำเลที่มีวิวทะเลสามารถมองออกไปได้ไกล ขณะที่ห้องสำหรับดูภาพยนตร์ของเขาตกแต่งได้อย่างหรูหรา

&nbsp;

เรียบเรียงใหม่จาก Outrageous Home Theaters Of The Rich And Famous Are The Perfect Pandemic Escape เผยแพร่บน Forbes.com

<hr />

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

&nbsp;

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events