<h2>เคยเป็นกันไหม? พอถึงเย็นวันอาทิตย์แล้วกลับรู้สึกห่อเหี่ยวไม่มีแรงใจ แม้แรงกายจะฟื้นฟูหลังการพักผ่อนช่วงสุดสัปดาห์ ฝรั่งเรียกอาการนี้ว่า Sunday Scaries หมายถึงความวิตกกังวลและเหนื่อยล้าเมื่อวันหยุดกำลังจะผ่านพ้นไป สำหรับคนไทย คำใกล้เคียงคงเป็น ‘ไม่อยากให้ถึงวันจันทร์’ เพราะต้องกลับไปทำงานกันอีกแล้ว</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แต่ละคนคงมีวิธีการรับมือกับอาการดังกล่าวแตกต่างกัน สำหรับ Yamini Rangan ซีอีโอสาวเชื้อสายอินเดียแห่ง HubSpot บริษัทซอฟต์แวร์เพื่อการตลาดและการขายมูลค่า 34 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เธอแก้ปัญหานี้โดยการทำงานวันอาทิตย์เอาเสียเลย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ฉันไม่กลัววันอาทิตย์เลยค่ะ ฉันสนุกกับมันเพราะมันคือเวลาของฉัน” Rangan เผยในรายการพอดแคสต์ The Grit “ฉันมีโอกาสตัดสินใจว่าจะเรียนรู้อะไร จะทำอะไร จะคิดอะไร จะเขียนอะไร เป็นตารางที่ฉันวางแผนไว้โดยสมบูรณ์ ไม่มีอะไรมารบกวนฉันได้นอกจากความคิดของฉันเอง”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา ไม่มีสุดสัปดาห์ไหนผ่านไปโดยที่เธอไม่ได้ทำงาน การต้องไล่ตามอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทำให้เธอต้องตื่นตัวอยู่เสมอ หมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเป็นประจำ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แนวทางของ Rangan อาจดูสวนกระแส Work-Life Balance ที่ผู้คนมากมายในปัจจุบันแสวงหา แต่ซีอีโอ HubSpot มีวิธีการบริหารจัดการเวลาชีวิตของเธอเอง พอถึงคืนวันศุกร์ เธอจะวางงานทุกอย่างลง ไม่แตะต้องคอมพิวเตอร์ และจะไม่มีการเปิดเช็กอีเมลในวันเสาร์ซึ่งเป็นวันพักผ่อน โดยเธอจะใช้เวลาส่วนตัวไปกับการเดินเล่นเคียงข้างสามี เล่นโยคะ นั่งสมาธิ และอ่านหนังสือ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“วันเสาร์มีค่าสำหรับฉันมากค่ะ” Rangan เผย “ถ้าไม่ได้พักผ่อนเลย ฉันจะหมดไฟไวมาก”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Rangan ทำงานกับ HubSpot มาประมาณ 5 ปีแล้ว ปกติเธอจะเริ่มต้นวันทำงานตอน 6 โมงเช้า พร้อมปฏิบัติงานตอน 7 โมง และอาจทำงานจนดึกถึง 5 ทุ่ม อย่างไรก็ตาม เธอเน้นย้ำความสำคัญของการหยุดพัก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุดมาพร้อมการพักผ่อนเต็มที่ค่ะ คุณจำเป็นต้องหยุดพัก”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Rangan ไม่ได้ทำงานหนักหลังขึ้นเป็นซีอีโอ HubSpot เท่านั้น ในวัยเด็กเธอเกิดและเติบโตในอะพาร์ตเมนต์ขนาด 350 ฟุตที่อินเดียใต้โดยอาศัยร่วมกับพ่อแม่และพี่สาว โดยมีแม่เป็นแรงบันดาลใจให้เธอเติบโตมาเป็นหญิงแกร่งในวันนี้ หลังจากนั้น Rangan เลือกเรียนด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ที่ Bharathiar University ก่อนจะย้ายมาที่สหรัฐอเมริกาตอนอายุ 21 ปีเพื่อเรียน MBA ที่ University of California-Berkeley’s Haas School of Business&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;หลังเรียนจบเธอก็ใช้ความรู้และทักษะด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และธุรกิจจนกลายเป็นพนักงานขายที่ประสบความสำเร็จ หลังจากนั้นจึงไต่เต้าสูงขึ้นมาเรื่อยๆ ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี กระทั่งเข้ารับตำแหน่งซีอีโอ HubSpot ที่มาพร้อมค่าตอบแทนเกือบ 26 ล้านเหรียญต่อปี ถือเป็นหนึ่งในซีอีโอเชื้อสายอินเดียที่ได้รับค่าจ้างสูงที่สุดในสหรัฐฯ แหล่งที่มา:​<a href="https://fortune.com/2025/05/12/how-hubspot-ceo-yamini-rangan-avoids-sunday-scaries/" alt="HubSpot CEO avoids the Sunday scaries simply by working on the weekend">HubSpot CEO avoids the Sunday scaries simply by working on the weekend</a>​ ​<a href="https://www.businessinsider.com/hubspot-ceo-weekly-schedule-routine-avoids-sunday-scaries-2025-5" alt="HubSpot CEO's schedule includes a personal workday on the weekend to avoid the 'Sunday scaries'">HubSpot CEO's schedule includes a personal workday on the weekend to avoid the 'Sunday scaries'</a>​ ภาพ: AFP เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/world/global-world/dont-worry-about-your-salary-early-in-your-career-warren-buffett-says" alt="คำแนะนำจาก Warren Buffett “อย่าเพิ่งกังวลเรื่องเงินเดือนแรกเริ่มในเส้นทางอาชีพ”">คำแนะนำจาก Warren Buffett “อย่าเพิ่งกังวลเรื่องเงินเดือนแรกเริ่มในเส้นทางอาชีพ”</a><a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ไม่อยากให้ถึงวันจันทร์? Yamini Rangan ซีอีโอ HubSpot เลือกเริ่มงานตั้งแต่วันอาทิตย์ไปเลย

<h2>Elon Musk ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Tesla, ผู้ก่อตั้ง SpaceX และเจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X (ชื่อเดิมคือ Twitter) เป็นที่ทราบกันดีว่าเขามีวิสัยทัศน์ไม่เหมือนใคร เช่นเดียวกับแนวทางการใช้ชีวิตและการทำงานเฉพาะตัว ซึ่งหลายเรื่องก็ไม่ขอแนะนำให้ลอกเลียนแบบ แต่ที่สิ่งน่าสนใจเกี่ยวกับเขาคือการจัดสรรเวลา ซึ่งทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ในแบบฉบับของตัวเองได้</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;มหาเศรษฐีวัย 52 ปี ผู้นี้เคยเปิดเผยว่าเขาทำงานเกิน 120 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ สูงกว่าเวลาทำงานมาตรฐานทั่วไปที่ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ถึง 3 เท่า เขาเชื่อว่ายิ่งทำงานหนักก็จะยิ่งประสบความสำเร็จได้ไวขึ้น ถึงขนาดเคยกล่าวว่า “ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนโลกได้จากการทำงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์” หนึ่งวันของ Elon Musk&nbsp; &nbsp;&nbsp;ครั้งหนึ่ง Musk เคยบอกใน Reddit Q&amp;A ว่า เขาจะเริ่มวันหนึ่งๆ ด้วยการตื่นเวลา 7 โมงเช้า หลังนอนครบ 6 ชั่วโมง ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพส่วนใหญ่แนะนำว่าผู้ใหญ่ควรนอน 7-9 ชั่วโมงต่อวัน แต่ Musk กล่าวว่า 6 ชั่วโมงเพียงพอแล้วสำหรับเขา และหากเขานอนไม่พอ เขาจะอารมณ์ขุ่นมัว ส่วนสติปัญญาจะด้อยความเฉียบคมลง&nbsp; &nbsp;&nbsp;Musk อาบน้ำเป็นประจำไม่เคยขาด แต่บางครั้งก็ไม่รับประทานอาหารเช้า ส่วนการออกกำลังกาย เขาบอกว่าถ้าเป็นไปได้จะไม่ออกกำลังกายเลยด้วยซ้ำ “แน่นอนว่ายิ่งอายุมากขึ้นก็ยากจะรักษาหุ่นให้ผอมครับ” อย่างไรก็ตามเขายังคงใช้ลู่วิ่งไปพร้อมๆ กับการดูโทรทัศน์เพื่อฝืนตัวเองให้ออกกำลังกาย และอาจจะฟังดูน่าประหลาดใจ แต่ Musk ฝึกศิลปะการต่อสู้อย่างบราซิลเลียนยิวยิตสูและคาราเต้ด้วย​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/06/ccnpfz9f1DhMxx87ry7G.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="ccnpfz9f1DhMxx87ry7G.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp; &nbsp;&nbsp;ระหว่างวันคือการทำงาน Musk มีบริษัทที่ต้องดูแลทั้ง Tesla, SpaceX และ X โดยล่าสุดยังมี xAI เข้ามาเพิ่ม เขาจึงต้องทำงานอย่างหนัก ซึ่งอันที่จริงก็เป็นสิ่งที่เขาชอบ แม้จะเคยเผชิญภาวะหมดไฟและเกือบพลาดงานแต่งงานของน้องชายมาแล้วก็ตาม&nbsp; &nbsp;&nbsp;ก่อนหมดวัน เขาจะหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารและงดดื่มแอลกอฮอล์ 2-3 ชั่วโมงก่อนนอน ใช้เวลาวางแผนสำหรับวันต่อไป หลังจากนั้นจึงอ่านหนังสือก่อนเข้านอน แบ่งบล็อคเวลา จัดสรรชีวิต&nbsp; &nbsp;&nbsp;วิถีชีวิตและการทำงานของ Musk อาจไม่ใช่เรื่องที่ใครต่อใครอยากทำตามเท่าใดนัก แต่มีอยู่ข้อหนึ่งที่น่าสนใจ นั่นคือการจัดสรรเวลา โดยการแบ่งเวลาอย่างเป็นระเบียบและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดว่าจะทำอะไรในตอนไหนบ้าง หากต้องย้ายกำหนดการ จะปรับอย่างไร สิ่งนี้เรียกว่า Time Blocking&nbsp; &nbsp;&nbsp;สำหรับการทำ Time Blocking ของ Musk เขาใช้วิธีการที่เรียกว่า Pomodoro Technique ซึ่งคิดค้นโดยชาวอิตาลีนาม Francesco Cirillio ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1980s ขณะที่เขายังเป็นนักเรียนเพื่อช่วยให้การเรียนและทบทวนหนังสือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น คำว่า Pomodoro แปลว่า มะเขือเทศ มาจากอุปกรณ์สำหรับจับเวลาในครัวของเขาซึ่งทำเป็นรูปมะเขือเทศนั่นเอง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยขั้นตอนของ Pomodoro Technique สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้&nbsp; &nbsp; 1. แบ่งเวลา 25 นาที เท่ากับ 1 Pomodoro โดยเลือกงานที่จะทำให้เสร็จภายในช่วงเวลาที่กำหนด หากมีงานเล็กๆ น้อยๆ ที่ใช้เพียง 5-10 นาทีก็เสร็จ ให้ลองมองหางานอื่นๆ ที่ใกล้เคียงนำมารวมกันใน 1 Pomodoro หากเป็นงานใหญ่ที่อาจใช้เวลาถึง 1 ชั่วโมงให้แบ่งเป็น 2 Pomodoro&nbsp; &nbsp; 2. ใช้เครื่องจับเวลา อาจเป็นนาฬิกาหรือมือถือก็ได้ และตั้งใจทำงานห้ามออกนอกลู่นอกทางจนครบเวลา หากทำงานเสร็จก่อนครบ 1 Pomodoro ให้ทบทวนตรวจความเรียบร้อยของงาน&nbsp; &nbsp; 3.&nbsp;เมื่อครบ 1 Pomodoro ให้พักเบรก 5 นาที ออกไปเดินเล่น ยืดเส้นยืดสาย ทำสมาธิ รับประทานของว่าง หรือลุกไปเข้าห้องน้ำ แต่ไม่แนะนำให้เล่นโทรศัพท์มือถือหรือใช้คอมพิวเตอร์ต่อ&nbsp; &nbsp; 4.&nbsp;ทำขั้นตอนที่ 2 และ 3 ซ้ำอีก 4 ครั้ง จะครบ 2 ชั่วโมงครึ่งพอดี&nbsp; &nbsp; 5. จากนั้นให้พักยาว 20-30 นาที&nbsp;แล้วเริ่ม 1 Pomodoro ใหม่&nbsp; &nbsp;&nbsp;โดยทั่วไปแล้ว 25 นาทีเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับคนๆ หนึ่งในการโฟกัสกับงานชิ้นหนึ่งอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม แต่ละคนสามารถปรับช่วงเวลาให้มากขึ้นหรือน้อยลงตามความเหมาะสมกับตัวเองได้ สิ่งสำคัญคือทำให้ต่อเนื่อง และมีสมาธิจดจ่อกับงานตลอด 1 Pomodoro​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/06/TYHyb528xzWtYrdTEEKZ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="TYHyb528xzWtYrdTEEKZ.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp; &nbsp;&nbsp;นอกเหนือจากการทำงานแล้ว ยังสามารถใช้ Pomodoro Technique กับการเรียนและกิจกรรมอื่นๆ ได้อีกด้วย อาจกล่าวว่าเทคนิคนี้เป็นการเพิ่มโฟกัสและฝึกวินัยในการทำกิจกรรมต่างๆ ให้บรรลุผลอย่างมีประสิทธิภาพก็ว่าได้ ส่วนสาเหตุที่ไม่ควรเล่นมือถือหรือคอมพิวเตอร์ระหว่างพักเพราะต่างก็เป็นสิ่งที่ทำให้เสียสมาธิได้ง่าย&nbsp; &nbsp;&nbsp;ดังนั้น หากคุณอยากทำงานจำนวนมากให้เสร็จลุล่วงในแต่ละวัน Pomodoro Technique ถือเป็นตัวเลือกที่ดี มีหลายคนพิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง รวมถึงมหาเศรษฐีอย่าง Musk ด้วย แต่ขอให้พึงระลึกไว้ว่า วิถีชีวิตและทัศนคติของ Musk ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะทำตามได้ 100% เพราะบ่อยครั้งที่การกระทำของเขามีความสุดโต่งจนเกินไป (เช่น การทำงาน 120 ชั่วโมงต่อสัปดาห์) อีกทั้งนิยามความสำเร็จและการใช้ชีวิตของแต่ละคนก็แตกต่างกัน การพิจารณานำแนวทางที่เหมาะสมมาปรับใช้ให้สมดุลกับตัวเราเองน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แหล่งที่มา:​<a href="https://www.indiatimes.com/worth/news/elon-musk-secret-method-helps-him-work-120-hours-every-week-630875.html" alt="Elon Musk Shares His Secret Method Which Helps Him Work 120 Hours Every Week">Elon Musk Shares His Secret Method Which Helps Him Work 120 Hours Every Week</a><a href="https://www.thenews.com.pk/latest/1172888-elon-musks-daily-health-routine-can-make-you-billionaire" alt="Elon Musk's daily health routine can make you billionaire">Elon Musk's daily health routine can make you billionaire</a>​ ​<a href="https://www.asundergrad.pitt.edu/study-lab/study-skills-tools-resources/pomodoro-technique" alt="Pomodoro Technique">Pomodoro Technique</a>​ ​<a href="https://the1thing.com/the-pomodoro-method-of-time-blocking/" alt="The Pomodoro Method of Time Blocking">The Pomodoro Method of Time Blocking</a>​ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : <a href="https://www.forbesthailand.com/news/hr/8-high-income-skills-safe-from-ai-in-2024" alt="แนะ 8 ทักษะอาชีพรายได้สูงปี 2024 ที่ไม่ต้องกลัว AI แย่งงาน">แนะ 8 ทักษะอาชีพรายได้สูงปี 2024 ที่ไม่ต้องกลัว AI แย่งงาน</a>​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Pomodoro Technique แบ่งเวลาโฟกัสงานด้วยวิธีการแบบ Elon Musk

<h2>สำหรับคนทำงานระดับบริหารจำนวนมาก เวลาหนึ่งวันนั้นยังแทบไม่เพียงพอสำหรับทำงานให้เสร็จสิ้น มิต้องพูดถึงผู้บริหารระดับซีอีโอซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุดต่อความสำเร็จหรือล้มเหลวขององค์กร ความท้าทายสำคัญของพวกเขาคือการที่ถูกจำกัดด้วยเวลาเพียง 24 ชั่วโมงต่อวันเหมือนกับทุกๆ คน แต่มีขอบเขตความรับผิดชอบในการบริหารงานที่มากมายยิ่งกว่า</h2>
งานวิจัยล่าสุดจาก Harvard Business Review ติดตามศึกษาวิธีการบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพอย่างสม่ำเสมอของผู้บริหารคนสำคัญขององค์กร นักวิจัยได้แก่ Michael E.Porter และ Nitin Nohria ติดตามศึกษาซีอีโอทั้งหมด 27 คนในระยะเวลา 3 เดือน

ผู้ช่วยของเหล่าผู้บริหารที่เข้าร่วมการศึกษาจะได้รับการฝึกให้ลงข้อมูลเกี่ยวกับผู้บริหารท่านนั้นๆ ว่ามีการใช้เวลาอย่างไร ใช้เวลาไปกับอะไรและกับใคร ซึ่ง Porter กับ Nohria ได้ใช้ข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์จนได้เป็นข้อเท็จจริงและเทรนด์ที่น่าสนใจของการใช้เวลาของผู้บริหาร

&nbsp;

ตำแหน่งซีอีโอมาพร้อมกับชั่วโมงการทำงานอันยาวนาน

ในฐานะผู้นำองค์กร ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่จะต้องทำงานมากกว่าพนักงานส่วนใหญ่ในบริษัท ตามรายงานวิจัย ผู้บริหารระดับซีอีโอนั้นทำงานเฉลี่ย 9.7 ชั่วโมงต่อวันทำงาน และยังเพิ่มอีกเฉลี่ย 4 ชั่วโมงต่อวันสำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์ แม้แต่ในวันหยุดเทศกาลหรือพักร้อน เหล่าผู้นำก็ไม่หยุดทำงาน โดยมีค่าเฉลี่ยใช้เวลาทำงาน 2 ชั่วโมงครึ่งต่อวันหยุดเทศกาล

สรุปในภาพรวมแล้ว ซีอีโอทำงานเฉลี่ย 62.5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งมากกว่าพนักงานประจำทั่วไปที่ทำงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ถึง 50%

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/c8b6b55234b3178b5226932a9693c36d.png" alt="" />

พนักงานระดับปฏิบัติการและลูกค้าคือคนที่ได้รับความสนใจจากผู้บริหารน้อยที่สุด

ด้วยสายธารแห่งการประชุม การวางกลยุทธ์ และภารกิจรัดตัวต่างๆ ที่ไหลบ่าไม่หยุด ทำให้ผู้นำองค์กรมีแนวโน้มสูงที่จะละเลยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียบางกลุ่มไปทั้งโดยตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ค่อนข้างน่าประหลาดใจที่คนบางกลุ่มที่มักจะถูกละเลยมากที่สุดคือพนักงานระดับปฏิบัติการที่เป็นผู้พบเจอกับลูกค้าโดยตรงและตัวลูกค้าเอง

อ้างอิงจากงานวิจัย ซีอีโอจะใช้เวลาไปกับพนักงานระดับปฏิบัติการทั่วไปเพียง 6% ของเวลาทั้งหมดที่มี สิ่งนี้จะทำให้เกิดความท้าทายทันทีที่ผู้บริหารต้องการทราบอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการบริหารงานภายในองค์กรหรือภาพลักษณ์วัฒนธรรมองค์กร

ยิ่งน่าตกใจขึ้นไปอีก เมื่อมีช่วงเวลาเพียง 3% ของผู้บริหารที่ใช้ไปกับลูกค้า แม้แต่ตัวผู้บริหารที่เข้าร่วมการวิจัยนี้ยังตกใจกับตัวเลขข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น การให้ความสำคัญแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับลูกค้าเพียงน้อยนิดนี้จะทำให้เกิดความท้าทายเช่นกัน เนื่องจากผู้บริหารไม่เห็นภาพที่ชัดเจนว่ามุมมองจากฝั่งลูกค้าเป็นอย่างไร

&nbsp;

ผู้บริหารให้ค่ากับการประชุมที่ได้พบตัวจริง

การวิเคราะห์ยังพบกุญแจในการทำงานของซีอีโอ นั่นคือพวกเขาหรือเธอจะให้ความสำคัญกับการประชุมที่ได้พบปะกันจริงๆ และมักจะหลีกเลี่ยงไม่ให้การประชุมทางโทรศัพท์หรือวิดีโอคอลกลายเป็นวิธีประชุมหลักในการทำงาน เกือบ 61% ของชั่วโมงการทำงานของผู้บริหารจะถูกใช้ไปกับการพบปะพูดคุยกับบุคคลต่างๆ เนื่องจากผู้บริหารมองว่าการสร้างความสัมพันธ์เป็นเรื่องจำเป็น

ถ้าหากมีนัดประชุมกับผู้เกี่ยวข้องในภาคส่วนต่างๆ ที่ไม่ได้ทำงานอยู่ในออฟฟิศบริษัท ซีอีโอจะไม่ลังเลในการออกจากออฟฟิศเพื่อไปสร้างเส้นทางธุรกิจข้างนอก ตามรายงานวิจัยนี้พบว่า มากกว่า 50% ของการทำงานของเหล่าผู้บริหารเกิดขึ้นนอกออฟฟิศ ซึ่งหมายรวมถึงการไปประชุมกับผู้เกี่ยวข้อง เช่น พันธมิตรธุรกิจ ลูกค้า นักลงทุน

&nbsp;

พวกเขาจำเป็นต้องมีเวลาส่วนตัวเหมือนกับเราทุกคน

สถิติที่น่าประหลาดใจสุดท้ายจากการวิจัยนี้ คือการค้นพบว่าผู้บริหารใช้เวลาถึง 28% เพื่อทำงานในบรรยากาศเป็นส่วนตัว ไม่มีผู้คนแวดล้อม ซึ่งตัวเลขที่ค่อนข้างสูงถึง 1 ใน 4 ของการทำงานนั้นน่าประหลาดใจเมื่อคิดว่าซีอีโอมีประชุมและการสั่งการมากมายแค่ไหน โดยช่วงเวลาทำงานส่วนตัวเหล่านี้ก็คือเวลาที่ซีอีโอจะใช้ทำงานต่างๆ ที่คั่งค้างให้เสร็จสิ้นนั่นเอง

&nbsp;

<a href="https://www.forbes.com/sites/markhall/2018/06/25/how-ceo-spend-time/#6d9f9deb4728">แปลและเรียบเรียงจาก New Harvard Study Reveals How CEOs Really Spend Their Work Time โดย Mark Hall เว็บไซต์ Forbes.com</a>

&nbsp;

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events