‘เมิร์ซ เอสเธติกส์’ ยอดขายแตะ 2,000 ล้าน ตอกย้ำผู้นำธุรกิจหัตถการเสริมความงาม เดินหน้าสร้างความมั่นใจลูกค้าชาวไทย

<h2>บริษัท สรรสร้างสุข จำกัด ปั้น DEVONTE (เดวอนเท่) ลงสนามลักซ์ชัวรี่สกินแคร์สำหรับบุรุษ เจาะกลุ่มวัย 30 ปีขึ้น ชูจุดเด่นนวัตกรรม Biotechnology ที่ให้ความสำคัญตั้งแต่ระดับเซลล์บำบัด</h2>
<figure><img class="wp-image-64282 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/คุณวันธนบดี-.jpeg" alt="DEVONTE" width="720" height="480" /><figcaption> วันธนบดี จิตตานุเคราะห์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สรรสร้างสุข จำกัด</figcaption></figure>

วันธนบดี จิตตานุเคราะห์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สรรสร้างสุข จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแบรนด์ DEVONTE เผยว่า “ก่อนจะตัดสินใจปั้นแบรนด์เดวอนเท่ ได้ศึกษาตลาดและดูแนวโน้มการเติบโตตลาดสกินแคร์ผู้ชายมามากกว่า 5 ปี ทำให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตของตลาดนี้ โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติโควิด-19 ที่ทั้งโลกต่างต้องเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจ หลายธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์กลับโตสวนกระแส”

อย่างไรก็ดี แม้ว่าตลาดสกินแคร์สำหรับผู้หญิงจะมีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง ทว่าสกินแคร์กลุ่มผู้ชายกลับมีคู่แข่งที่น้อยกว่า ประกอบกับพฤติกรรมของผู้ชายในยุคใหม่ให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเอง ทั้งเรื่องรูปร่าง การแต่งกาย และการดูแลผิวพรรณ

ฉะนั้นเมื่อนำมาผนวกภาพรวมการเติบโตของธุรกิจ Men’s Beauty (สกินแคร์และเครื่องสำอาง) จากข้อมูลการวิเคราะห์และสำรวจ สะท้อนให้เห็นว่ามีการเติบโตสูงถึง 2 เท่าในทุกปี ซึ่งในปี 2565 คาดว่าตัวเลขตลาดสกินแคร์สำหรับผู้ชายจะอยู่ที่ 41,600 ล้านบาท และอัตราการเติบโตของตลาดสกินแคร์สำหรับผู้ชายสามารถมีโอกาสเติบโตไปสูงถึง 62,400 ล้านบาทในอีก 5 ปี ข้างหน้า

จากปัจจัยบวกเหล่านี้จึงตัดสินใจ ปั้นแบรนด์ DEVONTE ลงชิงมาร์เก็ตแชร์ ในกลุ่มลักซ์ชัวรี่สกินแคร์ โดยเน้นเจาะกลุ่มผู้ชายอายุ 30 ปี มีไลฟ์สไตล์เป็นคนช่างเลือก ใส่ใจตัวเอง พร้อมชูจุดเด่นการนำนวัตกรรม Biotechnology หรือ เทคโนโลยีชีวภาพ ที่ให้ความสำคัญตั้งแต่ระดับเซลล์บำบัด พร้อมสารสกัดนานาชนิด อาทิ GenoWhite&#x2122; ที่ช่วยยับยั้งการทำงานของเมลานินเม็ดสีผิว EMlastic ซึ่งถือเป็น Super Protein อาหารผิวชั้นยอดสำหรับเซลล์ผิว ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่อยากมีผิวดูดี  

<figure><img class="wp-image-64279 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/thumbnail_15.-INTENSE-SKIN-BOOSTER-SERUM.jpg" alt="DEVONTE" width="720" height="484" /><figcaption> DEVONTE’S INTENSE SKIN BOOSTER SERUM</figcaption></figure>

โดยนำร่อง 5 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่
<ul>
 	<li>REFRESH POLISHING CLEANSER ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าเนื้อเจลพร้อมบำรุงในขั้นตอนเดียว</li>
 	<li>DAILY DEFENSE DAY CREAM SPF 50 PA+++ บำรุงพร้อมปกป้องผิวจากรังสียูวี และละอองฝุ่น PM2.5</li>
 	<li>INTENSE SKIN BOOSTER SERUM เซรั่มบำรุงผิวเข้มข้นที่มี LAMININ COMPLEX EX7 สารสกัดเข้มข้น ถึง 7 เท่า </li>
 	<li>DEEP RECOVERY NIGHT CREAM ฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลายจากแสงแดด มลภาวะ ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ คืนความชุ่มชื้นให้กับผิว</li>
 	<li>ADVANCE WHITE ENRICH MASK มาส์กบำรุงผิวหน้า ช่วยให้ผิวหน้าแลดูสว่างกระจ่างใส โดยการเลือกสรรสารสกัดที่มีคุณภาพและใส่ลงไปในปริมาณที่เหมาะสม</li>
</ul>
สำหรับกลยุทธ์การทำการตลาด บริษัทฯ ทุ่มงบมากกว่า 100 ล้านบาท เพื่อให้ครบคลุมทุกมิติของการสื่อสาร โดยดึง 4 หนุ่ม เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์, เคน-นครินทร์ วนกิจไพบูลย์, คิด-คณชัย เบญจรงคกุล และ กุน-กิตติคุณ ตันสุหัส เป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งแต่ละคนเป็นตัวแทนผู้ชายยุคใหม่ที่ประสบความสำเร็จจากหลากหลายวงการ และไม่ลืมที่จะใส่ใจดูแลตัวเอง นอกจากนี้ยังเป็นสปอนเซอร์ในรายการต่างๆ อย่างล่าสุดเป็นสปอนเซอร์ให้กับเวที Miss Grand Thailand 2022 และดึง ไฮดี้ - อมันดา อแมนด้า เจนเซ่น เป็น Friend of the Brand เพื่อสื่อสารในมุมมองของผู้หญิงที่รู้สึกดีกับต่อผู้ชายที่ดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ 

ในส่วนของช่องทางการจัดจำหน่าย ปัจจุบันเน้นขายบนช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ได้แก่ <a style="color: #333333;" href="http://www.devonte296.com/" target="_blank" rel="noopener noreferrer" data-auth="NotApplicable" data-linkindex="1">www.devonte296.com</a>, Shopee, Lazada, JD central และ We Love Shopping พร้อมชิมรางตั้ง pop up store ณ ศูนย์การค้า สยามพารากอน บริเวณแฟชั่น ฮอลล์ ระหว่างวันที่ 11 – 26 มิถุนายน และทางเชื่อมระหว่าง พาร์ค พารากอน, BTS สถานีสยาม และ ศูนย์การค้า สยาม เซ็นเตอร์ ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน – 3 กรกฎาคม และจัดเต็มกับกิจกรรมส่งเสริมการขาย และกิจกรรมทางการตลาดอีกมากมาย โดยคาดว่าภายในเดือนมีนาคม ปี 2566 จะสามารถทำยอดขายรวมอยู่ที่ 800 ล้านบาท

อ่านเพิ่มเติม: <a style="color: #003300;" href="https://forbesthailand.com/commentaries/insights/7-เทรนด์การลงทุน-ที่ภาคธ.html">“7 เทรนด์การลงทุน” ที่ภาคธุรกิจต้องเร่งทำ สร้างขุมพลังเพื่อการแข่งขันในโลกธุรกิจไร้พรมแดน</a>
<div class="single-content-writer-box">
<div>

<hr />

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a style="color: #003300;" href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

</div>
</div>

“สรรสร้างสุข” ปั้น DEVONTE เจาะตลาดลักซ์ชัวรี่สกินแคร์สำหรับบุรุษ

<h2>หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับ เมิร์ซ บริษัทยายักษ์ใหญ่สัญชาติเยอรมัน จากการคิดค้นยาต้านโรคอัลไซเมอร์และผลิตภัณฑ์ยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์ แต่ที่จริงแล้ว เมิร์ซ เริ่มต้นธุรกิจตั้งแต่ปี 2451 ด้วยเทคโนโลยีและเวชภัณฑ์ความงามมาก่อน</h2>
ในวันนี้ที่ เมิร์ซ มีอายุครบ 110 ปี และยังดำเนินการบริหารภายใต้การดูแลของครอบครัว เมิร์ซ รุ่นที่สี่ โดยปัจจุบัน เมิร์ซ เร่งเครื่องเดินหน้าโฟกัสการพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์นวัตกรรมความงามและทรีตเมนต์ เพื่อผงาดในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีความงามระดับโลก

“ช่วงสิบปีที่ผ่านมาภาพรวมอุตสาหกรรมยาระดับโลกประสบกับความท้าทายอย่างมาก” มร. ฟิลลิปส์ เบอชาร์ด ซีอีโอของเมิร์ซ กล่าว

<figure><img style="width: 638px; height: 492px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/2111a70f79fd71262debe2e4b800adfd.jpg" alt="" width="638" height="492" /><figcaption> อาคารสำนักงานใหญ่ของ Merz ณ กรุงแฟรงเฟิร์ต ประเทศเยอรมนี</figcaption></figure>

“นอกจากการแข่งขันจะสูงแล้ว ความสำเร็จจากการทดลองทางคลินิกยังมีอัตราต่ำ โดยเฉพาะในยาด้านระบบประสาทที่เราทำอยู่ เราจึงต้องหากลยุทธ์ใหม่และพิจารณาธุรกิจอื่นๆ ที่บริษัทของเรามี เราเห็นว่าผลิตภัณฑ์ความงามมีโอกาสเติบโตมากที่สุด แม้ว่าตลาดความงามจะยังเล็ก แต่ก็มีศักยภาพที่จะเติบโตอีกมากผู้บริโภคมากมายสนใจมาพบแพทย์เพื่อรับทรีตเมนต์ด้านความงาม ปรากฏการณ์สังคมผู้สูงอายุที่ทั่วโลกกำลังประสบก็เป็นตัวชี้วัดที่ดีว่าตลาดนี้จะเติบโต เพราะเมื่อคนมีอายุยืนยาวขึ้นก็ย่อมอยากมีสุขภาพที่แข็งแรงพร้อมกับรูปลักษณ์ที่อ่อนเยาว์ ตลาดความงามยังมีโอกาสอีกมากสำหรับผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับผมมันคือตลาดที่ยังใหม่เลยทีเดียว”

เมิร์ซ นำเสนอตัวเลือกด้านเทคโนโลยีความงามผ่านทางบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อมอบความสวยอ่อนเยาว์และสุขภาพผิวที่ดีให้กับผู้บริโภค กลุ่มผลิตภัณฑ์ของ เมิร์ซ มีตั้งแต่เดอร์มัลฟิลเลอร์แบบต่างๆ โบทูลินั่ม ท็อกซิน เครื่องยกกระชับผิวด้วยอัลตราซาวด์ ไปจนถึงเครื่องสลายเซลลูไลท์ นวัตกรรมด้านความงามของ เมิร์ซ ที่เป็นแบรนด์ที่รู้จักที่สุดคือ เดอร์มัลฟิลเลอร์กลุ่มไฮยาลูโรนิกแอซิด จากสวิตเซอร์แลนด์โบทูลินั่ม ท็อกซิน บริสุทธิ์ จากเยอรมนี และอัลเธอราปี ซึ่งเป็นนวัตกรรมยกกระชับผิวด้วยอัลตราซาวด์ ชนิดเดียวของโลกที่ผ่านการรับรองโดยองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา

“อัลเธอราปี เป็นการส่งพลังงานจากคลื่นอัลตราซาวด์ เข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อสร้างจุดความร้อน และกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อผิวมีคอลลาเจนตามธรรมชาติก็จะยกกระชับ ไม่หย่อนคล้อยโดยเฉพาะบริเวณใบหน้าและลำคอ” ซีอีโอของบริษัทอธิบาย

“มันเป็นที่นิยมเพราะไม่ต้องฉีดยาหรือผ่าตัดและได้ผลเป็นธรรมชาตินี่เป็นสิ่งที่เราและแพทย์ที่ร่วมงานกับเรามุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จ นั่นก็คือการมอบความงามตามธรรมชาติ หรือทรีตเมนต์ที่จะทำให้คุณดูอ่อนวัยในแบบที่ควรจะเป็น ตามกายภาพตามธรรมชาติของคุณเอง ที่ผ่านมาเราจึงไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงและให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมอัปเดตความรู้แพทย์และบุคลากรผู้ให้บริการเพื่อความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้บริโภค สำหรับเราความเชื่อมั่นเป็นปัจจัยสู่ความสำเร็จที่สำคัญและผมภูมิใจอย่างมากที่จะบอกว่า เมิร์ซ คือผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ความงามที่รักษาทั้งคุณภาพและความน่าเชื่อถือได้เป็นอย่างดีในตลาดโลก”

<figure><img style="width: 638px; height: 425px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/ada9204f2cdefdb6ff20c3bcfe4a5137.jpg" alt="" width="638" height="425" /><figcaption> มร.ฟิลลิปส์ เบอชาร์ด ซีอีโอของเมิร์ซ</figcaption></figure>

เมิร์ซ เป็นบริษัทระดับโลกที่นอกจากจะดำเนินกิจการในยุโรปแล้วยังรวมไปถึงเอมิเรตส์ ประตูสำคัญสู่การขยายธุรกิจในตะวันออกกลาง นอกจากนี้ เมิร์ซ ยังขยายธุรกิจไปยังละตินอเมริการ่วมกับคู่ค้าในเม็กซิโก บราซิล โคลอมเบีย และ อาร์เจนตินา รวมไปถึงสหรัฐอเมริกาที่ เมิร์ซ ครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่งด้านผลิตภัณฑ์ความงาม

ส่วนในเอเชียแปซิฟิกซึ่งถือว่าเป็นเขตเศรษฐกิจที่มีการเติบโตสูงที่สุดของโลกในขณะนี้ เมิร์ซมีสำนักงานระดับภูมิภาคที่สิงคโปร์ สำนักงานสาขาในเกาหลีและไต้หวัน รวมทั้งบริษัทลูกในจีน ออสเตรเลีย อินเดีย ฟิลิปปินส์และไทยผลิตภัณฑ์ของ เมิร์ซ มีให้บริการมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก สำหรับประเทศไทย เมิร์ซ เข้ามาจัดตั้งบริษัทตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งแม้จะเป็นความยากและท้าทายในการทำธุรกิจในตลาดที่มีการแข่งขันสูง มร.ฟิลลิปส์ เบอชาร์ด กล่าวว่า ในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้น ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียแปซิฟิก โดยเป็นรองจาก เกาหลี ไต้หวัน และออสเตรเลียตามลำดับ

“อนาคตของ เมิร์ซ จะยังอยู่ที่ผลิตภัณฑ์ความงาม” มร.ฟิลลิปส์ เบอชาร์ด กล่าว

“เราเชื่อว่านี่คือตลาดที่มีอนาคตสดใส และเรามีนวัตกรรมมากมายที่อยากจะนำออกสู่ตลาดนอกจากด้านความงามยังมีนูโรท็อกซินสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านกล้ามเนื้อบนใบหน้า หรือผู้ป่วยหลังภาวะหลอดเลือดสมองแตก เรามุ่งมั่นและตั้งใจที่จะเป็นบริษัทผลิตภัณฑ์ความงามและนูโรท็อกซินผู้นำนวัตกรรมที่น่าเชื่อถือที่สุดในตลาด เราจะไม่หยุดยั้งที่จะมอบความอ่อนเยาว์และความงามให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลก ตามหลัก ปรัชญา Live Better. Feel Better. Look Better ที่เรายึดถือมาตลอด”

<img style="width: 638px; height: 440px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/3042b5068664f331d8c8d885a2304385.jpg" alt="" />

<hr />

Building on 110 years of success 

German-based Merz might have been recognized widely for its Alzheimer’s disease breakthrough and prescription pharmaceuticals, but in fact, the company was founded back in 1908 with aesthetic medicine.

110 years later under its fourth-generation management of the Merz family, the thriving firm reinvented itself once again, by going back to where it started with medical aesthetics and neurotoxin therapeutics treatment.

“Over the past decade, the pharmaceutical industry has become increasingly challenging. It was very intensive as the success rate of the clinical trials is relatively small, especially in neurology that we initially specialize in,” Philip Burchard, CEO of Merz Pharma GmbH &amp; Co.KGaA, said.

<img style="width: 638px; height: 492px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/2111a70f79fd71262debe2e4b800adfd.jpg" alt="" />

“We looked at the various businesses that the company had and the one that looked the most promising for the future was aesthetic medicine. There is much room to grow, despite the fact that it’s a relatively small market. There is a big potential that more consumers would come to see the physicians for treatments, either to correct or prevent the signs of ageing. We saw a lot more male consumers showing interests in aesthetic treatments, and the global phenomenon of ageing society is paving way to an increasing demand for aesthetics enhancement. People live longer, and they put a lot of effort to stay healthy, to feel good and also to look young. There’re also a lot of potential to grow in terms of products, innovation and applications so I consider this is still a young market.”

Merz offers many treatment options for partnering with healthcare professionals to provide fresher, healthier skin to patients that look years younger. The Merz product range extends from a variety of dermal fillers and a botulinum neurotoxin to an ultrasound lifting procedure and a pioneering cellulite treatment. Among the notable innovations are hyaluronic acid dermal filler, German-made pure Botulinum toxin and Ultrasound lifting device, Merz’s most popular product to date, which is the only US-FDA cleared non-surgical ultrasound lifting procedure.

“It’s actually an energy-based device that emits micro-focus ultrasound into the skin. The ultrasound will go through the skin and create little heat points below the skin so it will encourage your skin to re-create collagen and therefore it will create a natural lift,” the CEO explained.

“Your skin is tightened and thereafter lifted, especially around the face and the neck. It’s very well-received because it’s non-invasive and the result is natural. Natural look, or what we say ‘the better, younger version of yourself’, is what Merz and the physicians strive for. The aspiration is that these treatments are very holistic and natural looking. We made sure to create the best quality products and train our physicians well to deliver safe and effective treatments to the consumers. Trust is one of the key factors to success for us, and so far, we have maintained very high level of standard and credibility in the global aesthetic medicine industry.”

<figure><img style="width: 638px; height: 425px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/ada9204f2cdefdb6ff20c3bcfe4a5137.jpg" alt="" width="638" height="425" /><figcaption> Mr.Philip Burchard, CEO of Merz Pharma GmbH &amp; Co.KGaA</figcaption></figure>

Merz is a truly international presence. Not only it operates in several European countries, it also now arrives in the United Arab Emiate - an important base for business in the Middle East. Latin America is also playing an increasingly important role for Merz, with affiliate in Mexico, Brazil, Columbia and Argentina. The United States is an especially attractive market for Merz, and the company currently holds a significant share of what is the world’s largest aesthetics market.

In the Asia Pacific region, one of the fastest-growing parts of the world, Merz has regional headquarter in Singapore, branch offices in South Korea and Taiwan, and now subsidiaries in China, Australia, Hong Kong, Malaysia, India, the Philippines and Thailand.

We also have representative offices in Indonesia and Vietnam. In addition, Merz works together with selected distribution partners who represent Merz’ s product portfolio in more than 70 additional countries worldwide.

In 2015, Merz decided to set up its own business entity in Thailand, and according to Burchard, this is a big challenge for growing Merz in one of the most competitive markets. Currently, Thailand is one of the fastest growing markets among APAC region, secondary to Korea, Taiwan and Australia respectively.

“Looking to the future, we’re going to continue to focus very much on the aesthetic medicine,” Burchard professed.

“We think that this is a great market which has a long way to go. we have some great innovation in our pipeline that we want to bring to the market that will bring true benefits to physicians, and among them are also neurotoxins for neurologically movement disorders and post-stroke patients. Our vision is to become the most admired, trusted and innovative aesthetics and Neurotoxin Company. We will continue the rediscovering of beauty, in keeping true to our motto, Live Better. Feel Better. Look Better.”

<img style="width: 638px; height: 440px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/3042b5068664f331d8c8d885a2304385.jpg" alt="" />

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events