ตั้งแต่รายการ Oprah’s Book Club เริ่มออกอากาศเมื่อ 19 ปีก่อน ก็ทำให้นักเขียนหลายคนสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำไปแล้วเป็นจำนวนมาก แล้วสองมหาเศรษฐีชื่อดังจากวงการไอทีจะสร้างกระแสแบบเดียวกันได้หรือไม่?

ในปีนี้ Mark Zuckerberg ตั้งเป้าประกาศว่าจะอ่านหนังสือให้ได้ 1 เล่มทุกสองสัปดาห์ การโพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับหนังสือที่เขาเลือกอ่านจะเข้าถึงผู้ติดตามบนเฟซบุ๊กกว่า 34 ล้านคน ส่วนโพสต์บนเพจ “A Year of Books” ของเขามีการโต้ตอบและสนทนากับเจ้าของหนังสือและสมาชิกที่กดไลค์ ติดตามเพจกว่า 470,000 ราย ขณะที่บล็อกหนังสือส่วนตัวของ Bill Gates (gatesnotes.com/books) มีผู้โต้ตอบบนเว็บไซต์น้อยกว่า ตัวเลขนี้อาจนำไปสู่ความคิดที่ว่าเจ้าพ่อสื่อสังคมออนไลน์น่าจะมีชัยชนะเหนือราชาแห่งวงการคอมพิวเตอร์

เราทำการเปรียบเทียบหนังสือ 6 เล่มล่าสุดที่สองมหาเศรษฐีเชิญชวนให้อ่าน เพื่อประเมินว่าใครส่งผลผลักดันยอดขายหนังสือได้มากกว่ากัน เราสรุปได้ 2 ประเด็น ข้อแรกคือ แม้ว่าบุคคลดังผู้ก่อตั้ง Facebook และ Microsoft จะแนะนำแนวหนังสือที่แตกต่างกัน แต่ต่างฝ่ายต่างก็ไม่น้อยหน้าไปกว่ากันเลยทีเดียว ส่วนข้อสองซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญกว่าก็คือ ทั้งสองมหาเศรษฐีเทียบชั้นไม่ได้กับ Oprah ที่ทำให้หนังสือของ Jonathan Franzens ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า น่าแปลกใจไหม? เราก็ไม่แปลกใจเหมือนกัน
<img class="img-responsive" src="/uploads/userfiles/images/DECEMBER%202015/Book.jpg" alt="" />

มหาเศรษฐีชวนอ่านหนังสือ

รายชื่อหนังสือด้านการลงทุนที่ดีที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา รวบรวมโดยบรรณาธิการ Forbes 
 
<img class="img-responsive" alt="" class="img-responsive" src="/uploads/userfiles/images/Sep%202015/Irrational-Exuberance%2C-3rd-Edition-re.jpg" /> 
Irrational Exuberance, 3rd Edition โดย Robert J. Shiller สำนักพิมพ์ Princeton University Press ปี 2015 
ผู้เขียนเจ้าของรางวัลโนเบลเพิ่มบทวิเคราะห์ฟองสบู่ในตลาดพันธบัตร ในงานชิ้นเยี่ยมที่เจาะลึกภาวะฟองสบู่หลายๆ ครั้งในตลาดการเงิน 
 
<img class="img-responsive" alt="" class="img-responsive" src="/uploads/userfiles/images/Sep%202015/john-bogle.jpg" /> 
John Bogle on Investing: The First 50 Years โดย John C. Bogle สำนักพิมพ์ Wiley ปี 2015 
รวบ รวม 25 สุนทรพจน์เด็ดๆ ที่กล่าวโดยผู้ก่อตั้ง Vanguard ครอบคลุมตั้งแต่เรื่องเด่นๆ อย่างกองทุนดัชนี และเรื่องเด่นน้อยกว่าอย่างการบริจาคอวัยวะ 
 
<img class="img-responsive" alt="" class="img-responsive" src="/uploads/userfiles/images/Sep%202015/The-Physics-of-Wall-Street-re.jpg" /> 
The Physics of Wall Street โดย James Owen Weatherall สำนักพิมพ์ Mariner Books ปี 2014 
Weatherall ศาตราจารย์ด้านปรัชญา อธิบายความซับซ้อนทางการเงินสำหรับผู้อ่านทั่วไป โดยเน้นที่บรรดานักลงทุนแบบคณิตศาสตร์ หรือ Quants 
อิทธิพลอันไร้ขอบเขตของคนเหล่านี้ได้พลิกโฉมการลงทุนในโลกปัจจุบัน 
 
<img class="img-responsive" alt="" class="img-responsive" src="/uploads/userfiles/images/Sep%202015/The-Hedge-Fund-Mirage-re.jpg" /> 
The Hedge Fund Mirage โดย Simon Lack สำนักพิมพ์ Wiley ปี 2012 
Lack กล่าวว่า โอกาสในตอนนี้น่าจะเป็นขาขึ้นของกองทุนเก็งกำไร พร้อมทั้งชี้ว่า นักลงทุนในกองทุนเก็งกำไรส่วนใหญ่จะทำกำไรได้ดีกว่าจากตั๋วเงินคลัง 
 
<img class="img-responsive" alt="" class="img-responsive" src="/uploads/userfiles/images/Sep%202015/The-Big-Short-re.jpg" /> 
The Big Short โดย Michael Lewis สำนักพิมพ์ W.W. Norton ปี 2011 
Lewis ชำแหละวิกฤตการเงินสหรัฐช่วงปี 2007-2008 และโยนบาปให้กับ &ldquo;Doomsday Machine&rdquo; ซึ่งก็คือตลาดอนุพันธ์ที่มักจะถูกเข้าใจอย่างคลาดเคลื่อน เขาเชื่อว่าตลาดพวกนี้เป็นต้นเหตุแห่งความล่มสลายของเศรษฐกิจสหรัฐ 
 
<img class="img-responsive" alt="" class="img-responsive" src="/uploads/userfiles/images/Sep%202015/the-little-book-re.jpg" /> 
The Little Book That Still Beats the Market โดย Joel Greenblatt สำนักพิมพ์ Wiley ปี 2010 
ผู้ จัดการกองทุนมือทองที่ประสบความสำเร็จอย่างมโหฬารแจกแจงกฎของความสำเร็จใน ตลาด หนึ่งในนั้นก็คือการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (value investing) หนังสืออ่านง่ายเล่มนี้เหมาะสำหรับคนรุ่นหนุ่มสาวที่ต้องการหาความรู้ด้าน การเงิน 
 
<img class="img-responsive" alt="" class="img-responsive" src="/uploads/userfiles/images/Sep%202015/Pioneering-Portfolio-Management-re.jpg" /> 
Pioneering Portfolio Management โดย David F. Swensen สำนักพิมพ์ Free Press ปี 2009 
ชาย ผู้อยู่เบื้องหลังกองทุนการกุศลของมหาวิทยาลัย Yale (Yale&rsquo;s Endowment) เผยกลยุทธ์การลงทุนสำหรับสถาบันที่ต้องการสร้างผลตอบแทนยาวนานหลายทศวรรษได้ เช่นเดียวกับเขา

หนังสือขึ้นหิ้ง

(เรียบเรียง นวตา สันติวัฒนา) 
 
ค่าเงินที่มีการอ้าง อิงมูลค่านวัตกรรมที่ยังคงไม่ล้าสมัย และหลักเศรษฐกิจเสรีนิยม คือหัวข้อหลักของ 8 หนังสือเล่มโปรดในปีที่ผ่านมาซึ่ง Steve Forbes ประธานกรรมการและบรรณาธิการบริหารนิตยสาร Forbes ทำการคัดสรรมา (โดยไม่ได้เรียงตามลำดับ) 
&nbsp; 
 
<img class="img-responsive" alt="" class="img-responsive" src="/uploads/userfiles/images/JUNE%202015/List%20of%20Book/Business-Adventures.jpg" /> 
Business Adventures: Twelve Classic Tales From the World of Wall Street 
เขียนโดย John Brooks (สำนักพิมพ์ Open Road Media, ราคา 16.95 เหรียญ) 
 
ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1969 และนำมาตีพิมพ์ใหม่ใน 2014 Brooks เขียนบรรยายได้อย่างเห็นภาพชัดเจน และครอบคลุมเรื่องราวตั้งแต่การประสบความสำเร็จในช่วงแรกของ Xerox ความล้มเหลวครั้งใหญ่ของรถยนต์รุ่น Edsel ไปจนถึงการซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลวงในครั้งแรกและครั้งใหญ่ของโลกการ เงินยุคใหม่ ซึ่งทั้ง Bill Gates และ Warren Buffett ต่างยกให้เป็นหนังสือทางธุรกิจเล่มโปรดของพวกเขา และแน่นอนว่าคุณจะชอบหนังสือเล่มนี้เช่นกัน 
 
 
<img class="img-responsive" alt="" class="img-responsive" src="/uploads/userfiles/images/JUNE%202015/List%20of%20Book/Money--How-the-Destruction.jpg" />&nbsp; 
Money: How the Destruction of the Dollar Threatens the Global Economy &ndash; and What We Can Do About It 
เขียนโดย Steve Forbes และ Elizabeth Ames (สำนักพิมพ์ McGraw-Hill Education, ราคา 28 เหรียญ) 
 
อาจไม่เหมาะที่จะผู้เขียนชื่นชมบรรยายถึงผลงานของตัวเอง เราจึงให้ George Melloan ทำหน้าที่นี้แทน เขาวิจารณ์หนังสือเล่มนี้ใน Wall Street Journal ว่า &ldquo;เป็นหนังสือเกี่ยวกับหลักเศรษฐศาสตร์และนโยบายการเงินอันดื้อรั้นที่ยอดเยี่ยมที่สุด&rdquo; 
&nbsp; 
 
<img class="img-responsive" alt="" class="img-responsive" src="/uploads/userfiles/images/JUNE%202015/List%20of%20Book/Moonshoot.jpg" /> 
Moonshoot!: Game-Changing Strategies to Build Billion-Dollar Businesses 
เขียนโดย John Sculley (สำนักพิมพ์ RosettaBooks, ราคา 27.95 เหรียญ) 
 
เนื้อหา ของหนังสือเล่มนี้มีพลังและน่าจูงใจ มีการอธิบายกลยุทธ์และข้อสังเกตต่างๆ ด้วยเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง Sculley อดีต ceo ของ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Pepsi และ Apple กล่าวว่า ไม่มีเวลาช่วงไหนที่ดีกว่านี้ ที่จะปลุกปั้นธุรกิจใหม่ๆ ออกสู่ตลาด ซึ่งความสำเร็จของเขาในธุรกิจเทคโนโลยี Cloud อุปกรณ์ตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบไร้สาย ระบบวิเคราะห์กลุ่มข้อมูลขนาดใหญ่ อุปกรณ์เทคโนโลยีแบบพกพาต่างๆ รวมกับการวางแผนธุรกิจแบบดั้งเดิมดูจะพิสูจน์แล้วว่าแนวคิดนี้อาจจะจริงขึ้น ได้ 
&nbsp; 
 
<img class="img-responsive" alt="" class="img-responsive" src="/uploads/userfiles/images/JUNE%202015/List%20of%20Book/The-Soft-Edge.jpg" /> 
The Soft Edge: Where Great Companies Find Lasting Success 
เขียนโดย Rich Karlgaard (สำนักพิมพ์ Jossey-Bass, ราคา 28 เหรียญ) 
 
Karlgaard ผู้พิมพ์โฆษณาของ Forbes กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญสำหรับความสำเร็จในระยะยาวที่มักถูกมองข้ามคือสิ่งที่เขาเรียกว่า &ldquo;soft edge&rdquo; อันได้แก่ ความไว้วางใจ ความฉลาด การทำงานเป็นทีม การมีรสนิยมที่ดี และการมีเรื่องราวที่น่าสนใจ บางคนอาจมองว่าปัจจัยอันจับต้องไม่ได้เหล่านี้ แม้จะฟังดูเข้าท่าแต่อาจจะมากเกินจำเป็น แต่ Karlgaard ยกตัวอย่างและอธิบายให้เห็นว่าปัจจัยเหล่านี้คือ สิ่งสำคัญที่จะสร้างความแตกต่างระหว่างบริษัทที่ประสบความสำเร็จกับบริษัท ทั่วไป 
&nbsp; 
 
<img class="img-responsive" alt="" class="img-responsive" src="/uploads/userfiles/images/JUNE%202015/List%20of%20Book/Money-Master-the-Game.jpg" /> 
Money: Master the Game-7 Steps to Financial Freedom 
เขียนโดย Tony Robbins (สำนักพิมพ์ Simon &amp; Schuster, ราคา 28 เหรียญ) 
 
Robbins ศึกษาข้อมูลอย่างมหาศาล รวมถึงไปทำการสัมภาษณ์นักลงทุนชื่อดังที่ประสบความสำเร็จในยุคปัจจุบันอีก จำนวนมาก ทำให้หนังสือเล่มนี้สามารถดึงดูด ทั้งมือใหม่และนักบริหารเงินมากประสบการณ์ที่มีทรัพย์สินในมือหลายพันล้าน เหรียญ ให้เข้ามาอ่านพอๆ กัน 
&nbsp; 
 
<img class="img-responsive" alt="" class="img-responsive" src="/uploads/userfiles/images/JUNE%202015/List%20of%20Book/The-Innovators.jpg" /> 
The Innovators: How a Group of Hackers, Geniuses and Geeks Created the Digital Revolution 
เขียนโดย Walter Isaacson (สำนักพิมพ์ Simon &amp; Schuster, ราคา 35 เหรียญ) 
 
หนังสือ ของ Isaacson เล่มนี้เต็มไปด้วยรายละเอียด เนื้อหาที่น่าเชื่อถือในขอบเขตที่เขาได้นำเสนอ เขาเล่าตั้งแต่ การประดิษฐ์เครื่องจักรไอน้ำไป จนถึงเรื่องราวของผู้ยิ่งใหญ่ในวงการเทคโนโลยีในปัจจุบัน พร้อมประวัติของนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้ หนึ่งในคำแนะนำเด็ดๆ จากหนังสือเล่มนี้มาจาก Howard Aiken ผู้บุกเบิกด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งกล่าวว่า &ldquo;จงอย่ากังวลเรื่องที่จะมีคนมาขโมยความคิดของคุณ ถ้ามันเป็นแนวคิดต้นแบบคุณจะต้องยืนหยัดจนกว่าคนเหล่านั้นจะยอมรับ&rdquo; 
&nbsp; 
 
<img class="img-responsive" alt="" class="img-responsive" src="/uploads/userfiles/images/JUNE%202015/List%20of%20Book/The-Forgotten-Depression.jpg" /> 
The Forgotten Depression-1921: The Crash That Cured Itself 
เขียนโดย James Grant (สำนักพิมพ์ Simon &amp; Schuster, ราคา 28 เหรียญ) 
 
ปี แรกของภาวะเศรษฐกิจถดถอยปี 1921 ที่เกิดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 รุนแรงยิ่งกว่าปีแรกของภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (The Great Depression) ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นไม่ถึง 10 ปี แต่ทว่าวิกฤติเศรษฐกิจปี 1921 แทบจะจบลงทันทีหลังจากที่มันเกิดขึ้น ทำไมละ? เหตุผลคือว่ารัฐบาลสหรัฐดำเนินการตัดลดค่าใช้จ่ายและอัตราภาษี พร้อมทั้ง Fed ดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน Grant เล่าถึงเหตุการณ์ครั้งสำคัญได้อย่างน่าติดตามเป็นพิเศษ ซึ่งอาจทำให้คุณต้องปรับกระบวนทำความเข้าใจใหม่เพราะเรื่องราวครั้งนั้นไม่ สอดคล้องตามหลักการทางเศรษฐศาสตร์ 
&nbsp; 
 
<img class="img-responsive" alt="" class="img-responsive" src="/uploads/userfiles/images/JUNE%202015/List%20of%20Book/Zero-to-One.jpg" /> 
Zero to One: Notes on Startups, or How to Build the Future 
เขียนโดย Peter Thiel และ Blake Masters (สำนักพิมพ์ Crown Business, ราคา 27 เหรียญ) 
 
อัด แน่นไปด้วยข้อมูลเจาะลึกแบบเกาะติดจากบุคคลที่มีประสบการณ์ทั้งด้านการลงทุน (เขาเป็นนักลงทุนรายแรกๆ ของ Facebook) และการเป็นผู้ประกอบการในบริษัทเกิดใหม่ (เขาเป็นเจ้าของ PayPal) อาจฟังดูขัดกับความรู้สึกแต่ Thiel กล่าวว่าอัตราการพัฒนาการครั้งสำคัญของธุรกิจชะลอตัวตั้งแต่ต้นยุค 1970s ซึ่งหนึ่งประเด็นสำคัญที่พูดถึงในหนังสือก็คือ ในช่วงปีนั้นเป็นช่วงเดียวกับที่สหรัฐยกเลิกการอ้างอิงค่าเงินดอลล่าร์กับ ทองคำ และเมื่อค่าเงินอ่อนตัวลง จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีคนสนใจลงทุนน้อยลงในอนาคต

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events