<h2>Forbes ร่วมกับ TrueBridge Capital Partners เป็นปีที่ 6 ติดต่อกันเพื่อเฟ้นหาธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีผู้ร่วมลงทุนสนับสนุนและเติบโตเร็วที่สุด 25 แห่งทั่วสหรัฐฯ และมีแนวโน้มมูลค่าทรัพย์สินแตะหลัก 1 พันล้านเหรียญ เป็นว่าที่ สตาร์ทอัพพันล้าน ประจำปี 2020</h2>
TrueBridge ขอให้บริษัทร่วมลงทุน 300 แห่งเสนอชื่อบริษัทที่คิดว่ามีโอกาสมากที่สุดที่จะเติบโตเป็น “ยูนิคอร์น” ขณะที่ Forbes ติดต่อธุรกิจสตาร์ทอัพกว่า 100 แห่งด้วยตนเอง จากนั้นจึงวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเงินของสตาร์ทอัพในกลุ่มนี้ราว 140 ราย สัมภาษณ์ผู้ก่อตั้งจนได้รายชื่อสตาร์ทอัพ 25 แห่ง ที่เราเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงสุดที่จะมีมูลค่าแตะหลักพันล้าน โดยข้อเสนอ ว่าที่ สตาร์ทอัพพันล้าน ประจำปี 2020 ดังต่อไปนีั้

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-37225 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/11/1001.jpg" alt="สตาร์ทอัพพันล้าน" width="400" height="400" />
ACORNS
ผู้ก่อตั้ง: Jeff Cruttenden, Walter Cruttenden;
ซีอีโอ: Noah Kerner
มูลค่าการระดมทุน: 257 ล้านเหรียญ
คาดการณ์รายได้ปี 2019: 50 ล้านเหรียญ
ผู้ลงทุนรายใหญ่: Bain Capital, e.ventures, Greycroft, NBCUniversal, PayPal, TPG Capital

ด้วยค่าบริการเดือนละ 1 เหรียญ แอปพลิเคชันของ Acorns จะปัดเศษสตางค์จากมูลค่าการจับจ่ายผ่านบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตทุกๆ รายการให้เป็นจำนวนเต็ม และนำเงินส่วนนี้ไปลงทุนโดยอัตโนมัติ Acorns มีผู้ใช้งาน 7.7 ล้านคน มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการมูลค่า 2.3 พันล้านเหรียญ อีกทั้งยังมีบัญชีเงินออมเพื่อเกษียณอายุ และบัญชีกระแสรายวัน โดยคิดค่าบริการเดือนละ 2 และ 3 เหรียญตามลำดับ

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-37226 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/11/1002.jpg" alt="สตาร์ทอัพพันล้าน" width="400" height="400" />
BENCHLING
ผู้ก่อตั้ง: Ashu Singhal, Sajith
Wickramasekara (ซีอีโอ)
มูลค่าการระดมทุน: 114 ล้านเหรียญ
คาดการณ์รายได้ปี 2019: 21 ล้านเหรียญ
ผู้ลงทุนรายใหญ่: Alkeon, Andreessen Horowitz, Benchmark, Menlo Ventures, Thrive Capital, Y Combinator

Wickramasekara ยังคงเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรีอยู่ที่ MIT ตอนที่เขาผุดไอเดียเรื่อง CRISPR เครื่องมือออกแบบในระบบคลาวด์เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับบรรดานักวิทยาศาสตร์ จากนั้นอีก 8 ปี Regeneron, Gilead, Genentech และบริษัทอื่นอีกนับร้อยๆ แห่งต่างก็ใช้ซอฟต์แวร์เพื่อการวิจัยและพัฒนาของบริษัทแห่งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกัน ในเวลานี้ลูกค้าจำนวนมากต่างเร่งพัฒนาวัคซีนและการรักษาโควิด-19 Benchling จึงพร้อมให้บริการตลอดเวลา แต่ก็หยุดนำเสนอการอัพเดตซอฟต์แวร์ให้แก่บริษัทที่ติดอยู่ในช่วงล็อกดาวน์อย่างสิ้นเชิง

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-37227 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/11/1003.jpg" alt="สตาร์ทอัพพันล้าน" width="400" height="400" />
HOMEBOUND
ผู้ก่อตั้ง: Jack Abraham,
Nikki Pechet (ซีอีโอ)
มูลค่าการระดมทุน: 53 ล้านเหรียญ
คาดการณ์รายได้ปี 2019: 10 ล้านเหรียญ
ผู้ลงทุนรายใหญ่: Atomic, Fifth Wall

ในปี 2017 หลังจากที่ไฟป่าครั้งรุนแรงได้เผาไหม้พื้นที่แหล่งผลิตไวน์ของ California (Abraham กับ Pechet มีบ้านอยู่ที่นี่) 2 ผู้ร่วมก่อตั้งก็เปิดตัว Homebound ขึ้นที่ Santa Rosa ซึ่งอยู่ใกล้ๆ เพื่อช่วยเจ้าของบ้านคนอื่นๆ สร้างบ้านใหม่ โดยรับหน้าที่จัดการทุกขั้นตอนตั้งแต่เรื่องใบอนุญาตก่อสร้าง และการเรียกร้องสินไหมทดแทน ไปจนถึงการออกแบบและก่อสร้าง

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-37228 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/11/1004.jpg" alt="สตาร์ทอัพพันล้าน" width="400" height="400" />
LYRA HEALTH
ผู้ก่อตั้ง: Dena Bravata,
David Ebersman (ซีอีโอ), Bob Kocher, Bryan Roberts
มูลค่าการระดมทุน: 176 ล้านเหรียญ
คาดการณ์รายได้ปี 2019: 50 ล้านเหรียญ
ผู้ลงทุนรายใหญ่: Glynn Capital, Greylock Partners, IVP, Meritech Capital, Tenaya Capital, Venrock

Lyra Health จับมือเป็นพันธมิตรกับบริษัทต่างๆ เช่น eBay, Pinterest และ Starbucks เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพจิตให้แก่พนักงานของบริษัท ทำให้มีแรงงาน 1 ล้านคนสามารถเข้าถึงนักบำบัด โค้ช และแพทย์ 3,000 คนของ Lyra ได้ แม้กระทั่งในช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 แต่ละปีจะมีชาวอเมริกันประมาณ 50 ล้านคนประสบปัญหาสุขภาพจิต และโรคระบาดนี้ยิ่งเพิ่มความตึงเครียดในกลุ่มชาวอเมริกัน ทำให้สุขภาพจิตเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอีกครั้ง Lyra คาดว่าจะมีรายได้ 100 ล้านเหรียญในปีนี้ หรือเพิ่มขึ้นถึงอีกเท่าตัวสำหรับ Ebersman ซีอีโอเคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Facebook แต่ลาออกเมื่อปี 2014 เพื่อมุ่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว


<img class="alignnone wp-image-37229 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/11/1005.jpg" alt="สตาร์ทอัพพันล้าน" width="400" height="400" />
RIPPLING
ผู้ก่อตั้ง: Parker Conrad (ซีอีโอ), Prasanna Sankar
มูลค่าการระดมทุน: 100 ล้านเหรียญ
คาดการณ์รายได้ปี 2019: 10 ล้านเหรียญ
ผู้ลงทุนรายใหญ่: Initialized Capital, Kleiner Perkins, Y Combinator

Parker Conrad ผู้ก่อตั้ง Zenefit ประกาศลาออกหลังโดนกดดันจากเหตุการณ์ไม่ชอบมาพากล แต่หลังจากนั้น 4 ปีเขาก็คืนวงการกับ Rippling สตาร์ทอัพแห่งนี้มีซอฟต์แวร์สำหรับจัดการบัญชีเงินเดือนและสวัสดิการพนักงาน ตลอดจนฮาร์ดแวร์และแอปพลิเคชันทั้งหมดในที่เดียว เพื่อให้การต้อนรับพนักงานใหม่เป็นไปอย่างราบรื่น อีกทั้งยังช่วยประหยัดเวลาในการทำงานเอกสารสำหรับธุรกิจขนาดกลางและย่อมอีกด้วย

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-37230 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/11/1006.jpg" alt="สตาร์ทอัพพันล้าน" width="400" height="400" />
SOLUGEN
ผู้ก่อตั้ง: Gaurab Chakrabarti (ซีอีโอ), Sean Hunt
มูลค่าการระดมทุน: 80 ล้านเหรียญ
คาดการณ์รายได้ปี 2019: 12 ล้านเหรียญ
ผู้ลงทุนรายใหญ่: Founders Fund, Y Combinator

Solugen พัฒนาแบคทีเรียสายพันธุ์ที่มีการปรับแต่งพันธุกรรมโดยใช้เอนไซม์ ซึ่งสามารถเปลี่ยนน้ำตาลข้าวโพดให้เป็นสารเคมีได้ (ปกติจะใช้วิธีแตกตัวของน้ำมัน) จากนั้นบริษัทจาก Houston แห่งนี้ จะใช้วิธีทางชีวภาพในการผลิตส่วนผสมสำหรับทำน้ำยาล้างมือฆ่าเชื้อโรคและทำความสะอาดน้ำเสีย ในอนาคต Chakrabarti ซีอีโอหวังว่าจะสามารถพัฒนาปุ๋ยที่ยั่งยืนให้กับเกษตรกรได้

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-37231 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/11/1007.jpg" alt="สตาร์ทอัพพันล้าน" width="400" height="400" />
TALLY
ผู้ก่อตั้ง: Jason Brown (ซีอีโอ), Jasper Platz
มูลค่าการระดมทุน: 92 ล้านเหรียญ
คาดการณ์รายได้ปี 2019: 20 ล้านเหรียญ
ผู้ลงทุนรายใหญ่: Andreessen Horowitz, Cowboy Ventures, Kleiner Perkins, Shasta Ventures

Tally ช่วยให้คนสามารถชำระหนี้บัตรเครดิตได้ด้วยการขยายวงเงินบัตร และใช้อัลกอริทึมจัดลำดับความสำคัญของหนี้ที่ต้องชำระ โดยคำนวณจากอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันบริษัทบริหารหนี้สิน 500 ล้านเหรียญ แต่คาดว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นตามปริมาณหนี้ผู้บริโภค

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-37232 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/11/1008.jpg" alt="สตาร์ทอัพพันล้าน" width="400" height="400" />
TRUSTED HEALTH
ผู้ก่อตั้ง: Matt Pierce, Lennie Sliwinski (ซีอีโอ)
มูลค่าการระดมทุน: 25 ล้านเหรียญ
คาดการณ์รายได้ปี 2019: 28 ล้านเหรียญ
ผู้ลงทุนรายใหญ่: Craft Ventures, Felicis Ventures, Founder Collective

Trusted Health ช่วยจับคู่พยาบาลเข้ากับโรงพยาบาลที่กำลังต้องการพยาบาล ซึ่งเป็นธุรกิจที่กำลังเติบโตอยู่ในเวลานี้ ก่อนหน้านี้กลุ่มผู้ร่วมก่อตั้งได้มารู้จักกันที่ Hired ซึ่งพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับตลาดต่างๆ และนำความรู้ดังกล่าวมาใช้ในการพยาบาล โดยได้รับแรงบันดาลใจจากประสบการณ์ของคุณแม่ของ Sliwinski ซึ่งเป็นพยาบาลนั่นเอง

&nbsp;

&nbsp;

<hr />

<a href="https://www.ookbee.com/shop/magazine/FORBES/7ab2bffb-4df3-45d2-8ebc-1da16d9ea7cb/october-2020">คลิกอ่านฉบับเต็ม “ว่าที่สตาร์ทอัพพันล้านแห่งปี 2020 ” ได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนตุลาคม 2563 ในรูปแบบ e-magazine</a>

<img class="lazy alignnone wp-image-36548 lazy-loaded" src="https://i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/EDIT-COVER-89-OCTOBER-22-9-63-.jpg" sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/EDIT-COVER-89-OCTOBER-22-9-63-.jpg 2400w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/EDIT-COVER-89-OCTOBER-22-9-63--229x300.jpg 229w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/EDIT-COVER-89-OCTOBER-22-9-63--768x1008.jpg 768w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/EDIT-COVER-89-OCTOBER-22-9-63--780x1024.jpg 780w" alt="" width="300" height="394" data-lazy-type="image" data-lazy-src="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/EDIT-COVER-89-OCTOBER-22-9-63-.jpg" data-lazy-srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/EDIT-COVER-89-OCTOBER-22-9-63-.jpg 2400w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/EDIT-COVER-89-OCTOBER-22-9-63--229x300.jpg 229w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/EDIT-COVER-89-OCTOBER-22-9-63--768x1008.jpg 768w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/EDIT-COVER-89-OCTOBER-22-9-63--780x1024.jpg 780w" data-lazy-sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" />

8 ว่าที่ "สตาร์ทอัพพันล้าน" ประจำปี 2020

<h2>Melanie Perkins สร้างสรรค์ Canva แอปออกแบบ จากสถานที่ที่ดูไม่น่าจะเป็นไปได้จนเติบโตเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่มีมูลค่ามากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เพราะเครื่องมือดิจิทัลของเธอทำให้คนส่วนใหญ่เข้าถึงได้จนสร้างผลกำไร และกลายเป็นภัยคุกคามกับ Adobe และ Microsoft</h2>
เช้าของเดือนพฤษภาคม ปี 2013 อันอบอ้าว Melanie Perkins ซีอีโอของ Canva พบตัวเองลอยละล่องอยู่บน Kiteboard ในช่องแคบระหว่างเกาะ Necker ซึ่งเป็นเกาะส่วนตัวของมหาเศรษฐี Richard Branson และเกาะ Moskito

เรือใบความยาว 30 ฟุตของเธอลอยลำไม่กางใบอยู่ในทะเลแคริบเบียนที่มีกระแสน้ำพัดแรง นักธุรกิจวัย 26 ปีรอความช่วยเหลืออยู่หลายชั่วโมง ขณะเดินอยู่ในน้ำขาซ้ายของเธอกระแทกกับปะการังจนเป็นแผลเป็น แต่ก็บอกกับตัวเองว่างานอดิเรกใหม่นี้คุ้มค่ากับสิ่งที่ต้องเผชิญ ถึงกระนั้นก็ตาม มันก็เป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์การระดมทุนสำหรับบริษัทสตาร์ทอัพธุรกิจซอฟต์แวร์เพื่อการออกแบบ ที่เธอร่วมก่อตั้งกับแฟนหนุ่มเมื่อ 6 ปีก่อน

Canva มีสำนักงานใหญ่อยู่ในออสเตรเลีย คิดเป็นระยะทางหลายพันไมล์จากบรรดาผู้นำวงการที่ทรงอิทธิพลใน Silicon Valley การจะได้รับโอกาสพบปะพูดคุยเป็นเรื่องยาก ส่วนการหาแหล่งเงินทุนมาสนับสนุนนั้นแทบไม่ต้องพูดถึง Perkins ได้ยินคำว่า “ไม่” จากนักลงทุนมากกว่า 100 คนแล้ว จนกระทั่งเธอได้พบกับกลุ่มผู้จัด Kitesurf ของนักลงทุนประเภทร่วมทุนกลุ่มหนึ่งที่งานเสนอไอเดียของบริษัทสตาร์ทอัพที่เมือง Perth

เพราะกลุ่ม Kitesurf ทำให้พวกเขาได้พบกับ Cameron Adams อดีตลูกหม้อของ Google วัย 40 ปี ซึ่งได้ก่อตั้งธุรกิจสตาร์ทอัพใน Sydney โดย Adams พบกับทั้งคู่ในฐานะที่ปรึกษาในเดือนมีนาคม 2012 และได้จับมือเป็นผู้ก่อตั้งคนที่ 3 ของบริษัทในเดือนมิถุนายนเมื่อมีผู้นำในส่วนงานด้านเทคนิคแล้ว พวกเขาก็เดินหน้าฉลุย โดย Canva สามารถระดมทุนตั้งต้นได้รวมกัน 3 ล้านเหรียญ ก้อนหนึ่งในปี 2012 และอีกก้อนจากต้นปี 2013 ซึ่งรวมถึงส่วนที่เป็นเงินสมทบในจำนวนเท่ากันกับอีกแหล่งเงินทุนที่ให้โดยรัฐบาลออสเตรเลีย

ที่ผ่านมาความอุตสาหะเช่นนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ Canva ซึ่งเริ่มต้นจากธุรกิจออกแบบหนังสือรุ่นขนาดเล็กๆ ใน Perth เมืองหลวงของรัฐทางชายฝั่งตะวันตกของออสเตรเลีย จากจุดเริ่มต้นเมื่อครั้งนั้น Canva ได้เติบโตมาเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก มีผู้ใช้กว่า 20 ล้านคนจาก 190 ประเทศ ที่ใช้โปรแกรมประยุกต์บนเว็บของบริษัทที่ให้บริการในรูปแบบฟรีเมียมในการออกแบบตั้งแต่กราฟิกเตะตาสำหรับ Pinterest ไปจนถึงรายการอาหารของภัตตาคารอันสวยหรู นอกเหนือจากราคาที่ใครก็สู้ไม่ไหว (ผู้ใช้หลายล้านคนไม่ต้องจ่ายอะไรทั้งสิ้น)

<figure><img class="wp-image-32742 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/canva-04.jpg" alt="แอปออกแบบ" width="600" height="252" /><figcaption> เครื่องมือของ Canva ถูกใช้เพื่อการออกแบบมากกว่า 2 พันล้านแบบใน Canva Apps</figcaption></figure>

&nbsp;

ความได้เปรียบสำคัญของ Canva เหนือผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Adobe คือความสะดวกในการใช้งาน ก่อนที่จะมี Canva บรรดามือสมัครเล่นต้องใช้วิธีแปะงานออกแบบเข้าด้วยกันบน Microsoft Word หรือไม่ก็โดนโขกค่าเครื่องมือระดับโปรที่ใช้งานแสนยาก ทุกวันนี้ไม่ว่าใครก็สามารถดาวน์โหลด Canva ได้จากทุกที่ และสร้างสรรค์งานได้ภายในเวลา 10 นาที

รายได้ของบริษัทมาจากการขายการบริการแบบที่มีราคาแพงกว่าที่ลูกค้าตั้งใจซื้อแต่แรก โดยเชิญชวนให้ลูกค้าจ่ายเดือนละ 10 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับโปรแกรมที่เป็นเวอร์ชั่นแบบพรีเมียม ซึ่งมีลูกเล่นน่าดึงดูดใจกว่าหรือไม่เช่นนั้นก็จากการขายโปรแกรมที่มีประสิทธิภาพกว่าสำหรับลูกค้าบริษัทที่เพิ่งดำเนินการ

เมื่อเร็วๆ นี้ คลังรูปภาพที่ Canva มีหลายล้านภาพคิดเงินอีก 1 เหรียญ แม้จะเล็กน้อยแต่ทั้งหมดนี้รวมกันเป็นรายได้ก้อนโต ปีนี้บริษัทคาดว่าจะทำรายได้เป็นเท่าตัว โดยเพิ่มเป็น 200 ล้านเหรียญ เงินทุนก้อนล่าสุดที่บริษัทได้มาทำให้มีการประเมินมูลค่าบริษัทเป็นตัวเลขกลมๆ ที่ 3.2 พันล้านเหรียญ

Perkins ซึ่งติดทำเนียบ Forbes 30 Under 30 Asia ปี 2016 มีหุ้นในบริษัทราวร้อยละ 15 คิดเป็นมูลค่า 430 ล้านเหรียญ เมื่อรวมกับหุ้นในจำนวนใกล้เคียงกันของผู้ร่วมก่อตั้งวัย 34 ปี Cliff Obrecht ผู้ที่ตอนนี้เป็นคู่หมั้นของเธอ ทั้งสองจะเป็นคู่รักชาวออสเตรเลียที่น่าจะมีสินทรัพย์รวมกันกว่า 800 ล้านเหรียญ

<figure><img class="wp-image-32741 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/Canva-03.jpg" alt="แอปออกแบบ" width="600" height="400" /><figcaption> Cameron Adams (ซ้าย) ร่วมกับ Melanie Perkins และ Cliff Obrecht แห่ง แอปออกแบบ</figcaption></figure>

Canva เผชิญหน้ากับความท้าทายที่ตรงไปตรงมากว่ามาก นั่นคือการเอาชนะธุรกิจรายใหญ่ ทั้งนี้ Canva ประสบปัญหาคลาสสิกเช่นเดียวกับ Atlassian, Slack และ Zoom นั่นคือ โมเดลฟรีเมียมทำให้คุณเป็นที่รู้จัก แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะไม่ยอมควักกระเป๋าแม้แต่สตางค์เดียว และแม้ Canva จะบอกว่าบริษัทมีผู้ใช้อยู่ในบริษัทใหญ่เกือบทุกแห่งในขณะนี้ก็ตาม แต่คนเหล่านั้นโดยมากเป็นผู้ใช้บุคคล หรือกลุ่มคนเล็กๆ ประเภทที่ใช้ชื่อปลอมไม่ใช่บัญชีบริษัทที่เป็นทางการ การจะเจาะตลาดบนหมายถึงการขึ้นไปต่อกรกับ Adobe ยักษ์ใหญ่ด้านกราฟิก ที่มีมูลค่าตามตลาดอยู่ที่ 1.49 แสนล้านเหรียญ โดยเฉพาะรายได้จากส่วนธุรกิจด้านออกแบบในไตรมาสสุดท้ายของปี 2019 ก็สูงถึง 1.65 พันล้านเหรียญแล้ว

นอกจากนี้ยังมีบริษัทสตาร์ทอัพที่กำลังมาแรงอีกมากมาย รวมถึง Figma และ Sketch ที่จับลูกค้ามืออาชีพ แต่ก็อาจขยายตลาดไปยังกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปได้ไม่ยาก นั่นยังไม่นับรวมสิ่งที่ Canva มองไว้ในอนาคตคือ การลงไปเล่นในสื่อใหม่อย่างวิดีโอและการทำพรีเซนเทชั่น ซึ่งอาจเป็นการลงสนามประลองกับผู้เล่นมากมาย ตั้งแต่ Instagram ที่มีแอปทำวิดีโอเล็กๆ ไปจนถึงไมโครซอฟท์ผู้ผลิต PowerPoint ที่ใช้กันแพร่หลายทั่วโลก

จะบอกว่าหนทางดูมืดมนก็ยังน้อยไป แต่ไม่ใช่สำหรับ Perkins ผู้ที่ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนนักลงทุนจาก Silicon Valley ผู้เต็มไปด้วยความกังขาให้กระโดดมาสนับสนุนบริษัทของเธอเต็มตัว เธอมองตลาดจีนอย่างทะลุปรุโปร่ง และทำตัวเลขในบัญชีธนาคารไปที่ยอดกว่า 200 ล้านเหรียญ สำหรับเธอแล้วทุกอย่างเป็นไปตามแผน “ฉันรู้สึกว่าสิ่งที่เราทำนั้นยอดเยี่ยม แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่เราต้องการทำแล้วนั่นยังถือว่าน้อยมาก เราทำไปแค่ร้อยละ 1 ของสิ่งที่ฉันคิดว่าเป็นไปได้” Perkins กล่าว

ตั้งแต่อดีตมาประเทศจีนเป็นตลาดปราบเซียนสำหรับผู้ผลิตซอฟต์แวร์จากโลกตะวันตก แต่ Canva เป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ด้าน Obrecht ซึ่งดำรงตำแหน่งซีโอโอ หนุ่มร่างสูงที่มีบุคลิกเป็นมิตร เขาเปิดสำนักงานนอก Sydney เป็นแห่งแรกที่ Manila ในปี 2014 จากนั้นได้จ้างอดีตหัวเรือใหญ่ของ LinkedIn ประเทศจีน ให้รับผิดชอบสำนักงานในจีนแผ่นดินใหญ่

ทุกวันนี้ทีมวิศวกรท้องถิ่นจัดการดูแล Canva เวอร์ชั่นประเทศจีนเวอร์ชั่นแรก ซึ่งเป็นการพัฒนาตั้งแต่เริ่มต้น โดยมีคุณสมบัติในการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันส่งข้อความของจีน และ QR code ที่สร้างได้ง่ายๆ ซึ่งเป็นที่นิยมที่นั่น มีลูกค้าอย่าง McDonald’s China และบริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่นำซอฟต์แวร์นี้ไปใช้กับตัวแทน 1,000 แห่งของบริษัท

&nbsp;

<hr />

<a href="https://www.ookbee.com/shop/magazine/FORBES/312a837b-0af3-4945-9cac-b7be029798c7/june-2020">คลิกอ่านฉบับเต็ม Canva แอปออกแบบ จากสตาร์ทอัพพันล้าน ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมิถุนายน 2563 ในรูปแบบ e-magazine</a>

<img class="lazy alignnone wp-image-31977 lazy-loaded" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/COVER-FORBES-85-OK-.jpg" sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" srcset="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/COVER-FORBES-85-OK-.jpg 2400w, https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/COVER-FORBES-85-OK--229x300.jpg 229w, https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/COVER-FORBES-85-OK--768x1008.jpg 768w, https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/COVER-FORBES-85-OK--780x1024.jpg 780w" alt="" width="300" height="394" data-lazy-type="image" data-lazy-src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/COVER-FORBES-85-OK-.jpg" data-lazy-srcset="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/COVER-FORBES-85-OK-.jpg 2400w, https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/COVER-FORBES-85-OK--229x300.jpg 229w, https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/COVER-FORBES-85-OK--768x1008.jpg 768w, https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/COVER-FORBES-85-OK--780x1024.jpg 780w" data-lazy-sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" />

&nbsp;

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events