“ฤทธี กิจพิพิธ” ดัน SCN ผงาดเมียนมา ผุดโรงไฟฟ้ามินบูใหญ่สุดในอาเซียน

<h2>SCN ฟันธงแนวโน้มดีมานด์ก๊าซ NGV ในประเทศฟื้นตัวหลังราคาน้ำมันขาขึ้น เล็งแตะระดับ 60 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ดันส่วนต่างราคาเชื้อเพลิงเทียบน้ำมันเบนซิน-ดีเซล เกือบเท่าตัว</h2>
ดร.ฤทธี กิจพิพิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN ผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจร เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่อยู่ในช่วงขาขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันในกลุ่มโอเปคได้รวมตัวกันลดกำลังการผลิตลง 210,000 บาร์เรลต่อวันเพื่อแก้ปัญหาราคาน้ำมันตกต่ำ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับสูงขึ้นอีกครั้ง โดยปัจจุบันมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 50-55 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และมีความเป็นไปได้ว่าภายในกลางปีนี้ราคาน้ำมันดิบจะปรับเพิ่มขึ้นไปแตะระดับ 60 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ดังนั้น บริษัทฯ มองว่าเป็นโอกาสที่ดีของกลุ่มเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ NGV ที่คาดว่าจะมีแนวโน้มความต้องการใช้ภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเมื่อเปรียบเทียบราคาก๊าซธรรมชาติ NGV ที่ใช้ในภาคขนส่งสินค้ากับราคาน้ำมันเบนซินและดีเซล จะมีส่วนต่างราคาขายปลีกหน้าสถานีบริการที่เพิ่มขึ้น โดยก๊าซธรรมชาติ NGV มีราคาขายอยู่ที่ 12.55 บาทต่อกิโลกรัม ณ วันที่ 26 ม.ค. 60 ขณะที่ราคาน้ำมันเบนซินอยู่ที่ประมาณ 27.38 บาทต่อลิตรและราคาดีเซลอยู่ที่ 26.39 บาทต่อลิตร

จากส่วนต่างราคาระหว่างก๊าซธรรมชาติ NGV กับน้ำมันเชื้อเพลิงทั้ง 2 ชนิดมีมากกว่า 2 เท่าตัว สะท้อนให้เห็นได้ว่าก๊าซธรรมชาติ NGV เป็นเชื้อเพลิงในภาคขนส่งที่มีความคุ้มค่าที่สุดและผู้ประกอบการภาคขนส่งโลจิสติกส์นิยมใช้มากที่สุด

“ปีนี้เราจะเห็นส่วนต่างราคาระหว่างก๊าซธรรมชาติ NGV กับน้ำมันเบนซิน-ดีเซลเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันยังมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก จึงมีโอกาสที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะปรับตัวสูงขึ้นไปถึง 60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล มีผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันในไทยมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้อีก เราเชื่อมั่นว่าผู้บริโภคในภาคขนส่งโลจิสติกส์ จะหันมาใช้ก๊าซ NGV เพื่อประหยัดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจซึ่งส่งผลต่อปริมาณการใช้ที่เพิ่มขึ้นในที่สุด” ดร.ฤทธี กล่าว

นอกจากนั้น การดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ จะส่งผลดีต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และช่วยสนับสนุนการใช้ก๊าซธรรมชาติ NGV เพิ่มขึ้น และการปลดล็อคราคา NGV ในปีที่ผ่านมาของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และนโยบายของ ปตท. ซึ่งเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมขยายสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ NGV จากปัจจุบันที่มีสถานี 501 แห่งทั่วประเทศ ให้ครอบคลุมทั่วประเทศยิ่งขึ้น จะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและกระตุ้นให้เกิดการใช้ก๊าซธรรมชาติ NGV เป็นเชื้อเพลิงแทนน้ำมันเบนซินหรือดีเซลมากขึ้นด้วย

<img style="width: 680px; height: 453px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/b42806172d91c8e903346bef744cd73c.png" alt="" />

โลจิสติกส์หนีราคาน้ำมันใช้ NGV

<h2>ความผิดพลาดในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเป็นบทเรียนให้ผู้ก่อตั้ง บมจ.สแกน อินเตอร์ สร้างรากฐานที่มั่นคงในธุรกิจแก๊สธรรมชาติครบวงจร ที่พร้อมส่งต่อให้ทายาท 2 พี่น้องผนึกกำลังสานต่อ แจ้งเกิดโครงการส่งแก๊สธรรมชาติอัดป้อนโรงงานอุตสาหกรรมรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย</h2>
บมจ.สแกน อินเตอร์ ดำเนินกิจการธุรกิจพลังงานและธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับแก๊สธรรมชาติแบบครบวงจร ตั้งแต่สถานีบริการแก๊สธรรมชาติ ปตท. พร้อมบริการขนส่ง NGV และยังเป็นผู้ออกแบบ รับเหมา ติดตั้ง และซ่อมอุปกรณ์ตามสถานีแก๊ส NGV รวมทั้งอุปกรณ์ระบบแก๊สธรรมชาติอื่นๆ กำลังเปลี่ยนผ่านจากรุ่นพ่อผู้ก่อตั้ง ธัญชาติ กิจพิพิธ  ที่เริ่มกิจการในปี 2531 ด้วยเงินทุนเพียง 5 ล้านบาท มาสู่รุ่นทายาทชายและหญิง

พี่ชายคนโต ฤทธี กิจพิพิธ ดุษฎีบัณฑิตด้านวิศวกรรมพลังงานจากสหรัฐ นั่งเก้าอี้กรรมการบริหาร ผู้อำนวยการสายงานบริหารและการตลาด ดูแลภาพรวมโครงการทั้งหมด และการบริหารด้านการตลาด ส่วนน้องสาวคนเล็ก นริศรา กิจพิพิธ ซึ่งสำเร็จปริญญาโทวิศวกรรมถึงสองใบ ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารและผู้อำนวยการสำนักเลขานุการบริษัทฯ ทำหน้าที่บริหารด้านการเงินและดูแลความเป็นไปได้ของงบการเงินแต่ละโครงการ

“เราเรียนต่อโทด้านวิศวกรรม พี่ชายก็เป็นวิศวกร ถ้าดูทั้งคู่ก็จะไม่ครบ จึงเข้ามาช่วยด้านการเงินของบริษัทฯ ดีกว่า พอเข้ามาทำแล้วก็ชอบ เพราะได้ดูเรื่องเงินลงทุน งบการเงิน ถ้าพี่ชายอยากลงทุนโครงการไหนต้องมาปรึกษา มาขอเงินเรา” นริศรากล่าว

หน้าที่หลักอีกอย่างที่ทั้งสองต้องรับภาระเพิ่มขึ้น ก็คือการนำธุรกิจครอบครัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อระดมทุนมาขยายกิจการในโครงการแก๊สธรรมชาติอัดแรงดันสูงในภาคอุตสาหกรรม (industrial compressed natural gas หรือ ICNG) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่บริษัทฯ ครอบครองสิทธิบัตรแต่เพียงผู้เดียว

เนื่องจากทั้งสองเห็นโอกาสที่ท่อแก๊สธรรมชาติ ปตท.ยังไม่ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ โรงงานอุตสาหกรรมบางแห่งยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งแก๊สธรรมชาติตามแนวท่อแก๊สได้ จึงต้องใช้ ICNG การอื่นในการจัดส่งจากท่อสู่โรงงานผ่านกระบวนการและเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรม เป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย

“ความท้าทายอยู่ที่การนำเสนอความสามารถของเราให้ลูกค้าหรือผู้ที่สนใจมองเห็นว่า เราเก่งตรงไหนมากกว่าให้เขาโฟกัสที่งบการเงินหรือเงินปันผล เพราะเรามั่นใจในความพร้อมที่จะโตต่อเนื่อง แต่ถ้ามองผลลัพธ์อย่างเดียว เวลานี้อาจจะไม่สามารถสะท้อนภาพในอนาคตได้ทั้งหมด” ฤทธีกล่าวถึงความท้าทาย

<figure><img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/The%20Next%20Tycoons/DSC_0334.JPG" alt="" width="720" height="449" /><figcaption> เทคโนโลยีเฉพาะของสแกน อินเตอร์ พร้อมเดินหน้าธุรกิจแก๊สครบวงจร สู่การต่อยอดโครงการ ICNG แห่งเดียวในประเทศไทย</figcaption></figure>

<hr />

สแกน อินเตอร์: บทเรียนจากความผิดพลาด

ผู้ก่อตั้งธุรกิจวัย 58 ปี ธัญชาติ กิจพิพิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ย้อนอดีตว่า ความมั่นใจในใบปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กลับกลายเป็นดาบสองคม ทำให้ลาออกจากงานประจำมาเป็นเจ้าของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในปักษ์ใต้ในวัย 29 ปี  แต่ความมั่นใจที่มากเกิน ทำให้รับงานเกินตัว จนต้องเรียกสมัครพรรคพวกมาร่วมทีม เมื่อ “มากคน มากความ” ธัญชาติจึงต้องปล่อยมือจากธุรกิจที่ลงแรงก่อตั้ง แล้วเดินทางกลับเข้ามาแสวงโชคในกรุงเทพฯ อีกครั้ง

“กลับมาคิดว่าจะทำธุรกิจอะไร สมัยนั้นเราอ่านหนังสือเรื่องพลังงานของอเมริกาบอกว่า น้ำมันในโลกนี้เหลือประมาณครึ่งหนึ่ง เราจึงสนใจธุรกิจเกี่ยวกับพลังงาน และกลับมาเป็นลูกจ้างอีก หาบริษัทที่เกี่ยวกับน้ำมัน ได้ร่วมงานกับฝรั่ง และเป็นจุดเริ่มต้นการเข้าสู่ธุรกิจพลังงานแท้จริง”

&nbsp;

<hr />

<a href="http://goo.gl/59LmeL">อ่าน “2 พี่น้องวิศวกรผนึกพลัง นำนวัตกรรมพลังงานในเอเชีย” ฉบับเต็มได้ใน Forbes Thailand ฉบับ JANUARY 2015</a>

&nbsp;

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events