<h2>การบริจาคเงินของ Mackenzie Scott ขึ้นชื่อเรื่องการสนับสนุนองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเป็นอย่างมาก โดยที่พวกเขาเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องร้องขอ ที่ผ่านมาเธอบริจาคเงินให้แก่ 360 องค์กร ใน 35 เมืองใหญ่ รวมถึงประเทศต่างๆ อย่างเคนยา อินเดีย และบราซิล อีกด้วย</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;มหาเศรษฐีนีใจบุญ MacKenzie Scott เผยถึงการบริจาคเงินเกือบ 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ แก่ 360 องค์กรในปีนี้ ผ่านโพสต์บนเว็บไซต์ Yield Giving ของเธอเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2023 โดยนับจากอดีตจนถึงปัจจุบันเธอทุ่มเงินเพื่อการกุศลไปแล้วเป็นจำนวนมหาศาลราว 1.66 หมื่นล้านเหรียญ&nbsp; &nbsp;&nbsp;การบริจาคของ Scott ในปี 2023 อยู่ในช่วงเดียวกับในปีที่ผ่านๆ มา คือระหว่าง 600,000 ถึง 25 ล้านเหรียญสำหรับองค์กรต่างๆ ที่มีงบประมาณประจำปีน้อยกว่าตัวเลขเหล่านั้น ส่วนใหญ่เป็นองค์กรสนับสนุนการศึกษาปฐมวัย ที่อยู่อาศัยราคาประหยัด ความเท่าเทียมทางเชื้อชาติและเพศ ความเสมอภาคด้านสุขภาพ รวมถึงการมีส่วนร่วมของพลเมืองและสังคม&nbsp; &nbsp;&nbsp;องค์กรการกุศลที่ได้รับเงินบริจาค เช่น องค์กรฝึกงานสร้างอาชีพ Jobs for the Future, ผู้สนับสนุนที่อยู่อาศัยในราคาจับต้องได้ San Francisco Community Land Trust และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเกี่ยวกับการศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัย Zero to Three&nbsp; &nbsp;&nbsp;ประกาศของ MacKenzie Scott เป็นย่อหน้าสั้นๆ ที่กล่าวถึงการบริจาค ดังนี้&nbsp; &nbsp;&nbsp;“ยินดีที่ได้ช่วยประชาสัมพันธ์องค์กรอันน่าชื่นชมทั้ง 360 รายนี้ ทุกองค์กรควรมีพันธมิตรมากขึ้น ขอแสดงความซาบซึ้งทุกคนในทีมที่มีส่วนร่วมสนับสนุนเงินบริจาคแก่พวกเขา” Scott เขียนบนเว็บไซต์ Yield Giving “ขอบคุณที่ทุกคนร่วมกันทำงานเพื่อส่งมอบความปรารถนาดีและความช่วยเหลือให้กันและกัน”&nbsp; &nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ Scott เป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีใจบุญเพียง 11 คนของสหรัฐอเมริกาที่บริจาคทรัพย์สินไปกว่า 20% ของความมั่งคั่งทั้งหมดที่มี โดยเธอเป็นที่รู้จักว่าบริจาคเงินออกไปอย่างรวดเร็ว หลังได้รับหุ้น 4% ใน Amazon จากการหย่าร้างกับ Jeff Bezos เมื่อปี 2019 เธอก็หั่นทรัพย์สิน 1 ใน 3 ไปบริจาคในเวลาเพียงไม่กี่ปี แต่ทว่าเธอยังคงเป็นสตรีที่มั่งคั่งที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก แม้จะมีมูลค่าทรัพย์สินรวมต่ำกว่า 4 หมื่นล้านเหรียญก็ตาม&nbsp; &nbsp;&nbsp;การบริจาคเงินของ Scott มีความโดดเด่นจากมหาเศรษฐีคนอื่นๆ เพราะเธอเลือกบริจาคคราวละน้อย (ต่ำกว่า 10 ล้านเหรียญ) อีกทั้งแต่ละองค์กรที่เธอสนับสนุนก็ไม่มีความเชื่อมโยงใดๆ ถึงกัน โดยส่วนใหญ่มักเป็นองค์กรการกุศลในท้องถิ่น ซึ่งอันที่จริง หลายองค์กรเผยว่าตอนที่ทีมงานของ Scott ติดต่อมาทีแรก พวกเขานึกว่าเป็นพวกต้มตุ๋นเสียอีก&nbsp; &nbsp;&nbsp;Scott ยังเป็นหนึ่งในนักการกุศลเพียงหยิบมือที่ไม่ได้ดำเนินการผ่านมูลนิธิส่วนตัว ซึ่งต้องเผยตัวเลขการบริจาคแต่ละปีในการยื่นภาษี (อีกหนึ่งคนที่บริจาคแบบเดียวกันคือ Jeff Bezos อดีตสามีของเธอนั่นเอง) ตรงกันข้าม เธอดำเนินการผ่านบริษัทจดทะเบียนในรัฐเดลาแวร์ซึ่งเป็นตัวแทนสำนักงานครอบครัวของเธอเองนาม Lost Horse LLC โดยมีชื่อปรากฏบนเอกสารของผู้รับบริจาคหลายราย และเชื่อมโยงกับอสังหาริมทรัพย์สามแห่งในซีแอตเทิลที่คาดกันว่าเธอคือผู้ครอบครอง&nbsp; &nbsp;&nbsp;แถลงการณ์สาธารณะของ Scott หลายฉบับที่กล่าวถึงการบริจาคของเธอนั้นแสดงให้เห็นว่า เธอต้องการให้สื่อต่างๆ มุ่งความสนใจไปยังองค์กรผู้รับเงินบริจาคมากกว่าความมั่งคั่งของเธอ&nbsp; &nbsp;&nbsp;ในเดือนธันวาคมปี 2022 Scott เปิดเว็บไซต์ YieldGiving.com และเผยกระบวนการทำงานของเธอบางส่วน โดยฐานข้อมูลปัจจุบันปรากฏรายละเอียดการบริจาคเงิน 1.19 หมื่นล้านเหรียญจากทั้งหมด 1.66 หมื่นล้านเหรียญตลอดชีวิตที่ผ่านมาของเธอ&nbsp; &nbsp;&nbsp;ช่วงเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา เธอเริ่มเปิดโอกาสและเชื้อเชิญให้องค์กรต่างๆ ที่ขาดทุนทรัพย์มาลงทะเบียนรับเงินบริจาคเป็นครั้งแรก ซึ่งเธอจะมอบเงินให้แก่องค์กรทั้งหมดเป็นจำนวน 250 ราย รายละ 1 ล้านเหรียญ ในช่วงต้นปีหน้า แปลและเรียบเรียงจาก <a href="https://www.forbes.com/sites/phoebeliu/2023/12/08/mackenzie-scott-has-donated-22-billion-to-charity-this-year/?sh=185f37b2c143" alt="MacKenzie Scott Has Donated $2.2 Billion To Charity This Year">MacKenzie Scott Has Donated $2.2 Billion To Charity This Year</a> เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/world/global-world/barbie-doll-to-powerful-woman" alt="Barbie จากตุ๊กตาเติมฝันวัยเด็ก สู่ทำเนียบสตรีทรงอิทธิพลของโลก">Barbie จากตุ๊กตาเติมฝันวัยเด็ก สู่ทำเนียบสตรีทรงอิทธิพลของโลก</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ยอดหญิงนักการกุศล! MacKenzie Scott บริจาคเงินกว่า 2 พันล้านเหรียญตลอดปี 2023 

นอกเหนือจากประสบการณ์ธุรกิจกว่า 40 ปีชีวิตของ "บุญชัย เบญจรงคกุล" มหาเศรษฐีผู้ใจบุญท่านนี้ ยังมุ่งหวังสร้างจิตสำนึกเมล็ดพันธุ์แห่งความดีให้กับสังคมตลอดเวลาที่ผ่านมา

https://youtu.be/9N7y7oF6peU

&nbsp;

<hr />

รับชมบทสัมภาษณ์ของบุคคลที่น่าสนใจ กดติดตามแชลเนลวิดีโอของเราบนยูทูบได้ที่ <a href="https://www.youtube.com/user/ForbesThai">Forbes Thailand Magazine</a>

&nbsp;

บุญชัย เบญจรงคกุล Lifelong Philanthropy นักธุรกิจหัวใจแบ่งปัน (Video)

<h2 class="p1">ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังเหตุเพลิงไหม้ที่สร้างความเสียหายให้กับมหาวิหาร Notre Dame เมื่อเดือนเมษายน อภิมหาเศรษฐีชาวฝรั่งเศส 3 คน (Bernard Arnault, Françoise Bettencourt Meyers และ Françoise Pinault) และชาวอเมริกันอีก 1 คน (Henry Krevis) ได้สละเงินเกือบ 700 ล้านเหรียญ เพื่อนำมาใช้ในการบูรณะวิหารเก่าแก่ใน Paris แห่งนี้</h2>
ตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องธรรมดาสามัญมากขึ้นเรื่อยๆ ที่บรรดาผู้มั่งคั่งซึ่งมีทรัพย์สมบัติมหาศาลจะบริจาคเงินให้กับอนุสรณ์สถานต่างๆ ที่ต้องได้รับการบูรณะซ่อมแซม
&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-23295" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/10/washington-monument-1627184_960_720.jpg" alt="" width="720" height="479" />

สถานที่: Washington Monument, Washington, D.C.

เศรษฐีผู้บริจาค: David Rubenstein ทรัพย์สินสุทธิ: 2.8 พันล้านเหรียญ

ยอดเงินบริจาค, ปี: 10.5 ล้านเหรียญ, 2012 และ 2016 บูรณะหลังเหตุแผ่นดินไหว ในปี 2011 ซ่อมแซมลิฟต์

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-23292" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/10/colosseum.jpg" alt="" width="720" height="480" />

สถานที่: Colosseum, Rome

เศรษฐีผู้บริจาค: Diego Della Valle ทรัพย์สินสุทธิ: 1.4 พันล้านเหรียญ

ยอดเงินบริจาค, ปี: 33 ล้านเหรียญ, 2011 ทำความสะอาดพื้นผิวที่เป็นหิน ติดตั้งรั้วเหล็ก ปรับปรุงห้องใต้ดิน

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-23293" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/10/great-wall.jpg" alt="" width="720" height="480" />

สถานที่: Great Wall of China, Beijing และอื่นๆ

เศรษฐีผู้บริจาค: Robert และ Philip Ng ทรัพย์สินสุทธิ: 1.21 หมื่นล้านเหรียญ

ยอดเงินบริจาค, ปี: 1.6 ล้านเหรียญ, 2018 ซ่อมกำแพงบางส่วนและหอคอย

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-23291" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/10/chateau.jpg" alt="" width="720" height="480" />

สถานที่: Château Chambord, Loire ฝรั่งเศส

เศรษฐีผู้บริจาค: Stephen Schwarxman ทรัพย์สินสุทธิ: 1.44 หมื่นล้านเหรียญ

ยอดเงินบริจาค, ปี: 4 ล้านเหรียญ, 2016 จัดสวนแบบฝรั่งเศสในยุคที่ 18 ใหม่

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-23294" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/10/ponte.jpg" alt="" width="720" height="480" />

สถานที่: Ponte Di Rialto, Venice

เศรษฐีผู้บริจาค: Renzo Rosso ทรัพย์สินสุทธิ: 2.9 พันล้านเหรียญ

ยอดเงินบริจาค, ปี: 6 ล้านเหรียญ, 2013 ซ่อมแซมสะพานเก่าแก่อายุ 427 ปี ปรับปรุงทางเดินโดยรอบ

&nbsp;

อ่านเพิ่มเติม
<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/news/global/jeff-bezos.html">Jeff Bezos มหาเศรษฐีโลกผู้ไม่ลงนามใน Giving Pledge บริจาคเงินเพื่อการกุศลไปเท่าไหร่?</a></li>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/news/global/azim-premji-%e0%b8%a1%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%a8%e0%b8%a3%e0%b8%a9%e0%b8%90%e0%b8%b5%e0%b8%ad%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b8%a2.html">Azim Premji มหาเศรษฐีอินเดีย ประกาศลงจากตำแหน่งประธานฯ Wipro อุทิศเวลาให้การกุศล</a></li>
</ul>
&nbsp;

<hr />

<a href="https://bit.ly/2kmIPNv">คลิกอ่านบทความที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกันยายน 2562 ได้ในรูปแบบ e-Magazine</a>

<img class="alignnone wp-image-15976" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/09/COVER-76-SEPTEMBER-.jpg" alt="" width="300" height="394" />

สถานที่สำคัญกับคนใจบุญ

<h2>มหาเศรษฐีผู้ใจบุญ เหล่านี้คือนักลงทุนระดับเอบวกนี้ทำให้ AltSchool มีทุนสำรองในการทำสงครามในแวดวงเทคโนโลยีการศึกษาที่ไม่น้อยหน้าคู่แข่งรายใดๆ ขอเชิญทำความรู้จักกับบรรดาเจ้าของเงินผู้หลักแหลมซึ่งยินยอมพร้อมรับความเสี่ยง เพียงแค่คุณมีของดีติดตัวมา</h2>
<img class="alignnone wp-image-15318 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/08/MARK-ZUCKERBERG.jpg" alt="มหาเศรษฐีผู้ใจบุญ นักลงทุนระดับเอบวกเพื่อการศึกษา" width="328" height="342" />

MARK ZUCKERBERG
Chan Zuckerberg Initiative

Mark Zuckerberg และ Priscilla Chan ผู้เป็นภรรยาได้ลงทุนกว่า 300 ล้านเหรียญในบริษัทเทคโนโลยีการศึกษา องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร และองค์กรบริหารเขตพื้นที่การศึกษาหลายต่อหลายแห่ง Zuckerberg ได้เขียนจดหมายถึง Maxima ผู้เป็นลูกสาวในขณะที่ยังเป็นทารกน้อยในปี 2015 ซึ่งมีเนื้อความตอนหนึ่งว่า “ลูกจะมีเทคโนโลยีที่เข้าใจว่าลูกจะสามารถเรียนรู้ได้ดีที่สุดด้วยวิธีใด และมีจุดไหนบ้างที่ลูกต้องเน้นเป็นพิเศษ”

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-15321 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/08/PETER-THIEL.jpg" alt="มหาเศรษฐีผู้ใจบุญ นักลงทุนระดับเอบวกเพื่อการศึกษา" width="328" height="342" />

PETER THIEL
Founders Fund

มหาเศรษฐีผู้ใจบุญ ศิษย์เก่าจาก Stanford ผู้นี้เป็นที่รู้กันทั่วไปว่าตัวเขาเกลียดชังระบบการศึกษาแบบดั้งเดิม และกองทุนเงินร่วมลงทุนของเขาได้ลงทุนในธุรกิจเพื่อการศึกษาหลายต่อหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงผู้ผลิตซอฟต์แวร์การเรียนรู้เชิงปรับตัวอย่าง Declara และ Knewton “ผมคิดว่าข้อเสียอย่างหนึ่งของการเรียนมากเกินไปก็คือคุณจะยิ่งถูกล้างสมอง”

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-15320 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/08/LAURENE-POWELL-JOBS.jpg" alt="มหาเศรษฐีผู้ใจบุญ นักลงทุนระดับเอบวกเพื่อการศึกษา" width="328" height="342" />

LAURENE POWELL JOBS
Emerson Collective

Emerson ให้คำมั่นว่าจะมอบเงิน 130 ล้านเหรียญให้กับโรงเรียนรัฐบาล 19 แห่งทั่วประเทศ “โรงเรียนเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้ฉันประสบความสำเร็จได้อย่างแท้จริง...ฉันตระหนักดีจากส่วนลึกในจิตใจว่าถ้าหากไม่มีโรงเรียน ฉันก็จะไม่มีทางได้รับโอกาสดีๆ ในชีวิตอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้”

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-15322 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/08/MARC-ANDREESSEN.jpg" alt="มหาเศรษฐีผู้ใจบุญ นักลงทุนระดับเอบวกเพื่อการศึกษา" width="328" height="342" />

MARC ANDREESSEN
Andreessen Horowitz

บรรดาบริษัทที่ธุรกิจเงินร่วมลงทุนของ Andreessen ให้การสนับสนุนอยู่ มีทั้งเครือข่ายของศูนย์ดูแลเด็กในครัวเรือนอย่าง Wonderschool และ ผู้ให้บริการ MOOC อย่าง Udacity “ห้องเรียนแห่งอนาคตจะต้องนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้มากกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้”

<img class="alignnone wp-image-15319 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/08/PIERRE-OMIDYAR.jpg" alt="มหาเศรษฐีผู้ใจบุญ นักลงทุนระดับเอบวกเพื่อการศึกษา" width="328" height="342" />

PIERRE OMIDYAR
Omidyar Network

บริษัทซึ่งลงทุนในธุรกิจที่มุ่งสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคมของผู้ก่อตั้ง eBay ได้ให้การสนับสนุนธุรกิจเงินร่วมลงทุนด้านการศึกษาเกือบ 100 แห่ง นับตั้งแต่ LearnZillion แพลตฟอร์มรวบรวมเนื้อหาเกี่ยวกับการเรียนการสอนสำหรับครูผู้สอนไปจนถึงผู้ผลิตวิดีโอเพื่อการเรียนรู้ซึ่งดูได้ฟรีอย่าง Khan Academy “คุณต้องพบความล้มเหลวในการลงมือทำบางสิ่งบางอย่าง นั่นถือเป็นประสบการณ์ในการเรียนรู้ซึ่งขาดไม่ได้ เพื่อที่คุณจะสามารถใช้ประสบการณ์ดังกล่าวเป็นสะพานก้าวไปพบประสบการณ์ครั้งใหม่”

เรื่อง: Susan Adams  เรียบเรียง: ริศา

<hr />

<a href="https://bit.ly/2XhaPQ1">คลิกอ่านฉบับเต็ม "AltSchool เงินทุนก้อนโตและเดิมพันครั้งใหญ่เพื่อเด็กตัวน้อย" ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกรกฎาคม 2562 ในรูปแบบ e-Magazine</a>

<img class="alignnone wp-image-10127" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/07/cover-750.jpg" alt="" width="300" height="394" />

มหาเศรษฐีผู้ใจบุญ นักลงทุนระดับเอบวกเพื่อการศึกษา

<h2>Phillip Frost ชายวัย 80 ที่ยังฟิตปั๋ง ผู้เป็นทั้งหมอ นักลงทุน นักประดิษฐ์ และผู้อุปถัมภ์งานศิลปะที่สามารถขยายธุรกิจผลิตยาสามัญออกไปทั่วโลก</h2>
Phillip Frost มหาเศรษฐีอันดับ 2 ของเมือง Miami ยังฟิตปั๋งในวัย 80 ปี นอกจากจะเป็นแพทย์ด้านผิวหนังแล้ว Frost ยังเป็นประธานและซีอีโอของ OPKO Health บริษัทขนาดกลางที่ผลิตยาและให้บริการวินิจฉัยทางการแพทย์

ถึงแม้ว่าบริษัทของเขาจะทำรายได้ถึง 1.2 พันล้านเหรียญ และคาดว่าจะมีผลขาดทุนประมาณ 50 ล้านเหรียญในปี 2016 แต่ Frost ยืนยันว่า OPKO จะมีความหมายกับวงการยาโลกมากยิ่งกว่าความพยายามครั้งไหนๆ ที่ผ่านมาของเขา “เรากำลังพยายามสร้างบริษัทที่จะมีผลิตภัณฑ์สักครึ่งโหล ซึ่งผลิตภัณฑ์แต่ละตัวจะทำยอดขายได้เกิน 1 พันล้านเหรียญ และบางตัวอาจจะทำยอดขายได้ถึงหลายพันล้านเหรียญ” Frost บอก

แม้เป็นบริษัทยา แต่ OPKO เป็นเหมือนบริษัท holding company ซึ่งหลายธุรกิจที่เขาลงทุนก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการดูแลสุขภาพเลย เขาถือหุ้นในหลายบริษัทแม้กระทั่งบริษัทผลิตบุหรี่ สุรา ไปจนถึงบริษัทหลอมรวมข้อมูล (datafusion)

<figure><img src="http://forbesthailand.com/uploads/library/07d2c02041f12ea3fd42cf2529fdc4e9.png" alt="" width="680" height="592" /><figcaption> ตัวอย่างพอร์ตการลงทุนของ Frost: (ซ้ายบน) Castle Brands ผู้ผลิตสุราเกรดพรีเมียม เช่น เหล้ารัม Goslings, (ขวาบน) Neovasc บริษัทในแคนาดาที่เชี่ยวชาญการผลิตอุปกรณ์การแพทย์เพื่อรักษาโรคหัวใจ, (ล่าง) Drone Aviation บริษัทผลิตโดรนสำหรับเจ้าหน้าที่รัฐและกองทัพ</figcaption></figure>

ถึงจะอายุมากถึง 80 ปีแล้ว แต่ Frost ก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ของเขาให้ถึงหลัก 5 พันล้านเหรียญ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็พร้อมที่จะบริจาคมันออกไปเพื่อการกุศลได้ทันทีเหมือนกัน โดยเขาและภรรยา Patricia มุ่งจะเปลี่ยนเมือง Miami ให้เป็นเหมือนนคร Mecca สำหรับศิลปะและวิทยาศาสตร์

เรื่องราวชีวิตของ Frost นั้นมีเหตุบังเอิญประเภทโชคช่วยอยู่หลายครั้ง เขาเริ่มเรียนระดับอุดมศึกษาที่ University of Pennsylvania ในสาขาวรรณกรรมฝรั่งเศส แต่ขณะกำลังเรียนชั้นปีที่สาม เพื่อนคนหนึ่งที่เขาบังเอิญได้พบบอกว่ามหาวิทยาลัยแพทย์ที่เปิดใหม่ในมหานคร New York ชื่อสถาบัน Albert Einstein กำลังเปิดทุนการศึกษา Frost จึงยื่นขอทุนและกลายมาเป็นนักเรียนแพทย์

การที่ Frost ตัดสินใจเลือกเรียนสาขาโรคผิวหนังก็เป็นเรื่องบังเอิญอีกเหมือนกัน เพราะเขาเป็นหูดทำให้ได้รู้จักกับอาจารย์หมอที่กำลังวิจัยยารักษาหูด ซึ่งเขารู้สึกว่าเหมาะกับตนเองที่ต้องการอิสรภาพในการทำงานอย่างอื่น หลังจากเรียนจบ Frost ทำงานรักษาคนไข้และเป็นอาจารย์สอนหนังสือที่ University of Miami

<figure><img src="http://forbesthailand.com/uploads/library/f59dab401c509e5f2ce1b32c980cfe57.png" alt="" width="680" height="476" /><figcaption> สามีภรรยา Phillip Frost และ Patricia Frost</figcaption></figure>

แต่งานแค่นั้นมันยังไม่พอสำหรับ Frost ดังนั้น เขาจึงใช้เวลาตอนกลางคืนประดิษฐ์ เครื่องมือในการตัดผิวหนังแบบ biopsy ประเภทใช้แล้วทิ้ง (ยังมีการใช้งานกันอยู่ในทุกวันนี้) ในช่วงที่เขากำลังเจรจาเพื่อขายผลงานสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ ก็มีโอกาสได้พบกับทนายหนุ่มลิ้นทอง Michael Jaharis

มิตรภาพของ Frost และ Jaharis งอกงามขึ้นจนกลายมาเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกัน เมื่อ Jaharis ตัดสินใจลาออกจากงานประจำเพื่อช่วย Frost ขยายธุรกิจเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์อัลตร้าซาวด์เพื่อทำความสะอาดฟันซึ่ง Frost ซื้อกิจการมา

ในปี 1972 เหตุบังเอิญก็เกิดกับเขาอีกครั้งเมื่อเขาเจอเพื่อนโรงเรียนเก่าคนหนึ่งที่สนามบิน Miami ขณะที่รอขึ้นเครื่องไป New York เพื่อนของเขาคนนี้เป็นผู้บริหารระดับสูงของ Key Pharmaceuticals “เมื่อเรานั่งเครื่องไปถึง New York เราก็ตกลงที่จะนำบริษัทเล็กๆ ของเรา...เข้าไปรวมกับ Key ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์” Frost เล่าให้เราฟัง

<figure><img src="http://forbesthailand.com/uploads/library/1fc7110d32c397cc60bbef5ef47ca496.png" alt="" width="340" height="378" /><figcaption> Michael Jaharis หุ้นส่วนทางธุรกิจของ Frost เขาเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2016 (Photo Credit: The National Herald)</figcaption></figure>

Key Pharmaceuticals เป็นเหมือนใบเบิกทางของ Frost และ Jaharis ที่ทำให้ทั้งสองขยับฐานะมาเป็นมหาเศรษฐีในเวลาต่อมา หลังจากที่ Key ผลิตยาแก้หอบหืด Theo-Dur และยารักษาโรคหัวใจ Nitro-Dur ซึ่งกลายเป็นสินค้าขายดี ปี 1986 Schering-Plough จึงเข้าซื้อกิจการ Key Pharmaceuticals ไปในราคา 836 ล้านเหรียญ ส่งผลให้ Jaharis และ Frost ติดทำเนียบมหาเศรษฐี Forbes 400

แต่แทนที่จะเกษียณออกมารอเก็บกินเงินปันผล Frost เลือกที่จะเริ่มต้นใหม่กับธุรกิจยาสามัญโดยตั้งบริษัท Ivax ทั้งนี้ ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 ธุรกิจยาสามัญกำลังซวนเซเมื่อถูกสื่อมวลชนรุมตีเรื่องคุณภาพยาที่ไม่ได้มาตรฐาน Frost อาศัยโอกาสนี้กว้านซื้อกิจการยาสามัญหลายแห่งและขยายกิจการออกไปทั่วโลก และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เขาดำเนินการโดยอาศัยความได้เปรียบจากสายสัมพันธ์กับคนที่เขารู้จัก

ตัวอย่างเช่น ตอนที่ Frost นำบริษัท Ivax เข้าซื้อกิจการ Glaena บริษัทผลิตยาขนาดใหญ่อันดับต้นๆ ของสาธารณรัฐเช็ก เมื่อปี 1994 เขามีสายสัมพันธ์กับเพื่อนที่ทำให้เขาได้เข้าพบ Vaclav Havelประธานาธิบดีของเช็กในเวลานั้น เขาจึงรู้ว่าสิ่งที่นักการเมืองต้องการคือการรักษาการจ้างงานของคนในบริษัทมากกว่าผลตอบแทน ข้อเสนอของ Frost จึงออกแบบมาได้อย่างถูกต้องและปิดดีลในราคา 50 ล้านเหรียญเท่านั้น

<figure><img src="http://forbesthailand.com/uploads/library/88922614ada92fa64dd0d3f54ac4cd00.png" alt="" width="680" height="545" /><figcaption> ตึกบริษัท Ivax ที่เมือง Miami (Photo Credit: opkodd.wordpress.com)</figcaption></figure>

ต่อมาในปี 2005 Teva Pharmaceuticals ได้เข้ามาซื้อกิจการ Ivax ไปในราคา 7.6 พันล้านเหรียญ และทำให้ Frost ก้าวขึ้นสู่ทำเนียบอภิมหาเศรษฐีระดับพันล้านเหรียญเป็นครั้งแรก

ความสามารถในการซื้อกิจการของ Frost มีให้เห็นอีกครั้งหลังจากที่ฟองสบู่ดอตคอมแตกในปี 2001 Frost เข้าซื้อกิจการ Ladenburg บริษัทหลักทรัพย์เก่าแก่อายุ 120 ปี ซึ่ง Frost สามารถสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจนี้ในช่วงสิบปี รายได้ของบริษัทขยับเพิ่มขึ้นจาก 30 ล้านเหรียญ เป็น 1.1 พันล้านเหรียญ

ในปี 2013 Frost ได้ยินเรื่องยาเร่งวิตามิน D ชื่อ Rayaldee ที่ช่วยรักษาโรคไตมาจากคู่สนทนาระหว่างทานอาหารกัน เขาโทรหา Charles Bishop เจ้าของสตาร์ทอัพแห่งนี้ทันทีและขอให้เขาเข้ามาพบภายใน 3 ชั่วโมง หลังจาก Bishop พรีเซนท์ไปได้แค่ 4 สไลด์ Frost ก็ตัดบทไปคุยเรื่องดีลซื้อขายทันที

<figure><img src="http://forbesthailand.com/uploads/library/ee394562d914d5e9f5588601cfc55fd5.png" alt="" width="680" height="399" /><figcaption> ยาเร่งวิตามิน D "Rayaldee" (Photo Credit: seekingalpha.com)</figcaption></figure>

ความรีบร้อนในการทำข้อตกลงทางธุรกิจของ Frost นั้นเป็นที่ขึ้นชื่อเลื่องลืออยู่แล้ว เขาทำการบ้านมาอย่างดีและเชื่อว่าการรักษาโรคไตจะกลายมาเป็นธุรกิจใหญ่ของ OPKO เพราะในสหรัฐฯ มีผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังมากถึง 25 ล้านคน และมีโอกาสทางการตลาดถึง 500 ล้านเหรียญ

แต่ก็ใช่ว่าตลาดหุ้น Wall Street จะตอบรับทุกดีลของ Frost ในทางบวก เมื่อปี 2015 Frost ได้ประกาศว่าเขาจะใช้เงิน 1.47 พันล้านเหรียญเพื่อเข้าซื้อกิจการ Bio-Reference Labs ซึ่งมีชื่อเสียงในด้าน Genomics และ ลำดับพันธุกรรม (genetic sequencing) ข่าวนี้ฉุดให้หุ้น OPKO ร่วงแรงถึงกว่า 50% ภายในเวลาแค่ 4 เดือนหลังจากที่ Frost ประกาศดีลนี้ออกมา

Frost และภรรยายังจัดทำทุน Frost Scholars ซึ่งทุนนี้จะคัดเลือกนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยรัฐบาลรัฐ Florida ปีละ 10 คน และนักศึกษาจากประเทศอิสราเอลอีก 4 คน เพื่อส่งไปเรียนต่อและทำวิจัยที่ Oxfordจนได้ปริญญาโทสาขา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีวิศวกรรม และคณิตศาสตร์ (STEM discipline) และยังบริจาคเงิน 100 ล้านเหรียญให้ University of Miami เพื่อพัฒนาสถาบันเคมีและศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง

<figure><img src="http://forbesthailand.com/uploads/library/45841edeb2c6657c5d988534e50364c2.png" alt="" width="680" height="401" /><figcaption> ธุรกิจของ Frost มุ่งหมายที่จะทำให้เมือง Miami เป็นศูนย์กลางแห่งวิทยาศาสตร์ โดยพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ใหม่นี้จะมีทั้งท้องฟ้าจำลองและพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดมหึมา</figcaption></figure>

“เราอยากจะทำให้ Miami เป็นศูนย์กลางของเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์” ดร. Frost บอก

สองสามีภรรยา Frost ได้ร่วมลงนามใน The Giving Pledge ของ Warren Buffet และ Bill Gates และพวกเขายังสนับสนุนเงินทุนแก่คณะดุริยางคศิลป์ของ University of Miami และ พิพิธภัณฑ์ศิลปะนานาชาติของ Florida นอกจากนี้ ยังบริจาคเงิน 45 ล้านเหรียญเพื่อก่อสร้าง Patricia &amp; Phillip Frost Museum of Science ซึ่งมีทั้งท้องฟ้าจำลอง และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดมหึมา เปิดตัวไปในเดือนมีนาคม 2017

“เราอยากให้คนหนุ่มสาวที่ได้เข้ามาดูพิพิธภัณฑ์ของเราตื่นตะลึง และหวังว่าเมื่อพวกเขาใช้เวลาอยู่ในนั้นนานๆ มันจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาอยากเข้ามาทำงานในสายวิทยาศาสตร์” Frost กล่าวทิ้งท้าย

<hr />

<a href="https://goo.gl/kkiaJt">คลิกอ่านฉบับเต็ม "มหาเศรษฐีผู้ใจบุญ" ได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ เมษายน 2560 ในรูปแบบ e-Magazine</a>
<a href="https://goo.gl/kkiaJt"><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/8b0b2b9aeabc084e54cf4ef4888dc65e.png" alt="" /></a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events