<h2 class="p1">ระเฑียร ศรีมงคล นำทัพผู้บริหาร “เคทีซี” กางแผนธุรกิจปี 2020 ตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรโต 15% แม้เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัว</h2>
ระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เคทีซี กล่าวว่า วิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ต่อจากนี้คือมุ่งสร้างธุรกิจให้เติบโตโดยอาศัย 2 แพลตฟอร์ม คือ แพลตฟอร์มการเงิน และแพลตฟอร์มสินเชื่อรายย่อย ซึ่งมุ่งเน้น 3 จุดแข็งหลัก คือ ปลอดภัย รวดเร็ว และสร้างประสบการณ์ที่ดี พร้อมรองรับการขยายธุรกิจใหม่เข้าไปในธุรกิจสินเชื่อรายย่อยแบบมีหลักประกันและธุรกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเพิ่มเติมจากธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลที่มีอยู่
ภายใต้วิสัยทัศน์ดังกล่าวจะทำให้เคทีซีสามารถนำเสนอสินเชื่อให้กับผู้บริโภคได้หลากหลายและครบวงจร ทั้งสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นหลักประกัน, พิโกพลัส (สินเชื่ออเนกประสงค์ที่ให้กับรายย่อยระดับจังหวัด) และธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ (สินเชื่อรายย่อยสำหรับผู้ประกอบการอาชีพอิสระหรือผู้มีรายได้ไม่แน่นอน) ซึ่งทยอยเปิดให้บริการแล้ว และคาดว่า 3 ธุรกิจใหม่นี้จะสามารถเริ่มรับรู้กำไรได้ประมาณ 18-24 เดือนนับตั้งแต่วันที่เริ่มดำเนินธุรกิจ


<figure><img class="size-full wp-image-24889" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/12/ktc-03.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> ระเฑียร ศรีมงคล</figcaption></figure>
“เศรษฐกิจปีหน้าไม่คิดว่าจะดีเท่าไหร่ แต่เราต้องเติบโตเนื่องจากแรงกดดันของการเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดฯ เราอาจจะมีกลยุทธ์เพื่อเติบโต และเราเชื่อว่าเราจะสามารถบรรลุตัวเลขเป้าหมายที่เราตั้งไว้ได้ อย่างไรก็ตาม การเติบโตโดยไม่ระวังก็อาจทำให้คุณภาพของทรัพย์สินแย่ลงได้ ดังนั้นในปีหน้าเราจะเข้มงวดกับการอนุมัติบัตรมากขึ้น พร้อมสร้างการเติบโตตามเป้า ซึ่งทำให้เรียกได้ว่าเรากำลังเจอโจทย์ที่ท้าทายเลยทีเดียว” ระเฑียร กล่าว
&nbsp;
<h2 class="p1">ปีหน้าตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรโต 15%</h2>
ขณะที่ พิทยา วรปัญญากุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร - ธุรกิจบัตรเครดิต กล่าวว่า ในปีนี้เรียกได้ว่าไม่ใช่ปีที่ง่ายนักสำหรับเคทีซี เนื่องจากต้องเผชิญทั้งภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ชะลอตัว แต่ 9 เดือนที่ผ่านมา ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซียังสามารถเติบโตได้ถึง 10% หรือประมาณ 1.5 แสนล้านบาท และในไตรมาสสุดท้ายของปีซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนจับจ่ายใช้สอย ทำให้คาดว่าสิ้นปีนี้เคทีซีจะยังสามารถรักษาสัดส่วนการเติบโตที่ 10% ได้ แม้จะต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้เมื่อปีก่อนที่ 15% ก็ตาม
“สำหรับปี 2020 แนวคิดการทำตลาดที่เราวางแผนไว้คือ Everyone, everyday and everywhere ด้วยเป้าหมายที่ต้องการให้เคทีซีเป็นบัตรที่สร้างความสะดวกให้แก่สมาชิก ใช้งานได้ง่าย ทุกวันและทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นการจับจ่ายผ่านออนไลน์หรือการใช้จ่ายที่ร้านค้าในประเทศและต่างประเทศ สร้างความมั่นใจและความปลอดภัยในการใช้บัตร รวมทั้งสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าโดยอาศัยเทคโนโลยีในการวิเคราะห์ข้อมูลและเรียนรู้พฤติกรรมลูกค้าเพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่แตกต่าง”
พิทยากล่าวถึงเป้าหมายในปีหน้าว่า บริษัทได้ตั้งเป้ายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีเติบโต 15% ซึ่งถือเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย แต่คิดว่าจะสามารถบรรลุได้ไม่ยากหากเศรษฐกิจเอื้ออำนวย แม้ขณะนี้ยังไม่มีแนวโน้มหรือสัญญาณที่ดี แต่ด้วยการตลาดที่แตกต่างไป จึงเชื่อว่าจะทำให้เคทีซีสามารถพิชิตเป้าหมายได้สำเร็จ
&nbsp;
<h2 class="p1">“สินเชื่อบุคคล” มุ่งเติบโตอย่างยั่งยืน</h2>
ด้าน พิชามน จิตรเป็นธรรม ผู้อำนวยการ - ธุรกิจสินเชื่อบุคคล กล่าวถึงแผนกลยุทธ์ธุรกิจสินเชื่อบุคคลในปี 2020 ซึ่งอมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการเพิ่มปริมาณสินเชื่อพร้อมกับการสร้างคุณภาพหนี้ที่ดีขึ้น ภายใต้ 4 แกนหลัก  ดังนี้

<ol>
 	<li class="p1">มุ่งหาสมาชิกใหม่ที่มีความต้องการสินเชื่อเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต เช่น สินเชื่อเพื่อการศึกษา พร้อมทั้งขยายการจับมือกันพันธมิตรให้มากขึ้นในในปีหน้า เพื่อให้สามารถไปถึงเป้ายอดสมาชิกใหม่จำนวน 210,000 ราย</li>
 	<li class="p1">มุ่งรักษาฐานสมาชิกปัจจุบันให้มีความผูกพันกับเคทีซี ทำให้สมาชิกมีประสบการณ์ที่ดีในการใช้บัตร ผ่านแคมเปญต่างๆ เช่น โครงการเคลียร์หนี้เกลี้ยง, โครงการเหมาเหมาจ่ายดอกเบี้ยเพียง 199 บาท รวมทั้งวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคเพื่อนำเสนอโปรโมชั่นที่สมาชิกต้องการอย่างแท้จริง</li>
 	<li class="p1">มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดด้วยบริการใหม่ เพิ่มวงเงินฉุกเฉินที่สามารถทำรายการด้วยตนเอง 24 ชั่วโมง อนุมัติรับวงเงินทันทีเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของลูกค้าให้มากขึ้น เป็นต้น</li>
 	<li class="p1">สร้างกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้ลูกค้า เช่น กิจกรรมสัมมนาให้ความรู้การสร้างวินัยทางการเงิน และบทความที่เป็นประโยชน์ในรูปแบบของสื่อที่เข้าใจง่าย รวมทั้งต่อยอดการจัดกิจกรรมเวิร์กช็อปแบ่งปันความรู้เพื่อประกอบอาชีพ พร้อมให้คำแนะนำการลงทุน</li>
</ol>
<figure><img class="size-full wp-image-24888" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/12/Ktc-02.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> (จากซ้าย) พิทยา วรปัญญากุล, ชุติเดช ชยุติ, ระเฑียร ศรีมงคล, ปิยศักดิ์ เตชะเสน และ พิชามน จิตรเป็นธรรม</figcaption></figure>

&nbsp;
<h2 class="p1">ส่งโปรดักต์ใหม่ “สินเชื่อเคทีซีพี่เบิ้ม” ลุยตลาด</h2>
สำหรับ ปิยศักดิ์ เตชะเสน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส - ช่องทางจัดจำหน่ายและธรกิจร้านค้า กล่าวว่า ปี 2020 น่าจะเป็นปีที่ท้าทายมาก และเป็นปีที่สร้างโอกาสที่ดีให้กับเคทีซีด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่มีความหลากหลายมากขึ้น พร้อมตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด “สินเชื่อเคทีซีพี่เบิ้ม” ประกอบด้วย สินเชื่อทะเบียนรถยนต์, สินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์ และสินเชื่อเงินสด ซึ่งคาดว่าจะได้รับผลการตอบรับที่ดี โดยตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อกลุ่มนี้ไว้ที่ 1.5 พันล้านบาทในปี 2020
“ในปีหน้าเราตั้งเป้าหมายสมาชิกบัตรเครดิตใหม่ 350,000 ใบ และบัตรกดเงินสดเคทีซี พราว 210,000 ใบ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักจะยังเป็นพนักงานประจำรายได้แต่ 3 หมื่นบาทขึ้นไป โดยมุ่งเน้นการรับสมัครผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น”
ขณะที่กลยุทธ์การขยายพันธมิตรร้านค้าในปี 2020 คือ การมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อรุกเข้าธุรกิจร้านค้าออนไลน์รองรับการเติบโตของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ โดยเน้นความปลอดภัยในการทำธุรกรรมที่ได้มาตรฐานสากลและความสะดวกรวดเร็วเป็นสำคัญ
นอกจากนั้น บริษัทจะให้ความสำคัญกับตลาดการผ่อนชำระ KTC FLEXI ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงการขยายฐานร้านค้าในกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะร้านค้า Alipay ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อรองรับการจับจ่ายของกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทย และกลุ่มชาวจีนที่พำนักในประเทศไทยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของบริษัท ณ วันที่ 30 กันยายน 2562  เคทีซีมีกำไรสุทธิ 4.2 พันล้านบาท พอร์ตลูกหนี้การค้ารวมเท่ากับ 7.96 หมื่นล้านบาท (ขยายตัว 9%) ฐานสมาชิกรวม 3.43 ล้านบัญชี (เติบโต 6%) แบ่งเป็นบัตรเครดิต 2.46 ล้านบัตร (ขยายตัว 7%) พอร์ตลูกหนี้บัตรเครดิตรวม 5.1 หมื่นล้านบาท (ขยายตัว 10%)
“อัตราของปริมาณใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต 9 เดือน อยู่ที่ 10.4% NPL รวมลดลงต่อเนื่องอยู่ที่ 1.07% NPL บัตรเครดิตอยู่ที่ 0.96% สินเชื่อบุคคล 9.73 แสนบัญชี (ขยายตัว 5%) ยอดลูกหนี้สินเชื่อบุคคลรวม 2.82 หมื่นล้านบาท (เติบโต 9%) NPL ของสินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 0.83%” ชุติเดช ชยุติ ซีเอฟโอ กล่าว
&nbsp;

อ่านเพิ่มเติม
<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/news/%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%91%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a3-%e0%b8%a8%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a1%e0%b8%87%e0%b8%84%e0%b8%a5-%e0%b8%99%e0%b8%b3%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%9e%e0%b8%9c%e0%b8%b9%e0%b9%89.html">ระเฑียร ศรีมงคล นำทัพผู้บริหาร เคทีซี จัดขบวนทัพรุกเผยแผนปี 2562 ขยายไลน์ธุรกิจใหม่</a></li>
</ul>
&nbsp;

<hr />

<article id="post-24491" class="post-24491 post type-post status-publish format-standard has-post-thumbnail hentry category-global category-news tag-air-new-zealand tag-1809 tag-10698 tag-519">
<div class="body-content post-content-wrap post-detail">

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

</div>
</article>

"เคทีซี" เปิดแผนปี 2020 เติบโตบนความท้าทาย

<h2>เคทีซีเผยแผนปี 2562 เน้นเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคลและร้านค้า แตกไลน์ธุรกิจใหม่ “นาโนไฟแนนซ์” หวังขยับฐานรายได้ให้เติบโตเพิ่มสูงขึ้น ควบคู่กับการสร้างแบรนด์เคทีซีแบบหยั่งรากลึกในใจคนเคทีซี สมาชิกและทุกกลุ่มที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน</h2>
ระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เผยปี 2561 เคทีซีต้องผ่านบททดสอบจากความท้าทายหลายปัจจัย ทั้งจากมาตรการต่างๆ วิวัฒนาการของเทคโนโลยีที่เข้ามาอย่างรวดเร็ว และการแข่งขันในการทำธุรกิจที่ทวีความรุนแรง ทำให้เราต้องช่วยกันคิดพลิกหากระบวนกลยุทธ์หลายอย่าง เพื่อให้ธุรกิจผ่านไปได้ โดยไม่ส่งผลกระทบใดๆ กับสมาชิกของเราที่มีอยู่

“ต้องขอบคุณอุปสรรคเหล่านั้น ที่ทำให้เราแข็งแกร่งและกลับมีผลงานเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก ด้วยผลกำไร 9 เดือน ที่สูงขึ้นถึง 65% เท่ากับ 3,911 ล้านบาท มีจำนวนสมาชิกรวมบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล 3.2 ล้านบัญชี โดยรักษาระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไว้ในอัตราที่ต่ำมากๆ และต่ำกว่าอุตสาหกรรม” ระเฑียร ศรีมงคล เผยและเสริมว่า

<figure><img class="wp-image-2766 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2018/12/ระเฑียร-ศรีมงคล-05.jpg" alt="" width="638" height="372" /><figcaption> ระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เคทีซี</figcaption></figure>

“ในปี 2562 เราคาดหวังว่าจะมีกำไรเพิ่มจากสิ้นปี 2561 ประมาณ 10% ด้วยความเชื่อว่าปีหน้าศรษฐกิจของประเทศไทยน่าจะเติบโตได้จากหลายปัจจัยทางการเมืองและภาคเศรษฐกิจที่ได้วางรากฐานไว้แล้ว ทำให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคมีแนวโน้มดีขึ้นซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคดีไปด้วย สำหรับเคทีซีจะเห็นอะไรใหม่ๆ ออกมาแน่นอน เรื่องหนึ่งคือการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อผลักดันฐานรายได้ให้สูงขึ้นแบบก้าวกระโดด โดยจะเพิ่มธุรกิจนาโน-พิโกไฟแนนซ์ ซึ่งตอนนี้ได้มีการเตรียมโมเดลธุรกิจและจัดกระบวนทัพทุกอย่างไว้รอแล้ว เมื่อได้รับการอนุมัติจากธนาคารกรุงไทยและธนาคารแห่งประเทศไทย”

<figure><img class="wp-image-2765 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2018/12/พิทยา-วรปัญญาสกุล.jpg" alt="" width="638" height="372" /><figcaption> พิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร – ธุรกิจบัตรเครดิต เคทีซี</figcaption></figure>

ด้าน พิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร – ธุรกิจบัตรเครดิต เคทีซี กล่าวถึงกลยุทธ์การตลาดธุรกิจบัตรเครดิตในปี 2562 ว่า กลยุทธ์หลักด้านการตลาดของเคทีซีจะคงรักษาจุดแข็งของความร่วมมือด้านการตลาดกับพันธมิตรร้านค้าที่หลากหลาย ในการสร้างสรรค์โปรโมชันที่น่าสนใจและแตกต่างเพื่อกระตุกความสนใจของสมาชิก ทั้งหน้าร้านค้าและออนไลน์ เน้นการสื่อสารที่เข้าใจง่าย ตรงไปตรงมาและมีความคุ้มค่า ตรงใจ ครอบคลุมทุกกลุ่มสมาชิกเป้าหมายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ด้วย 3 อาวุธหลัก คือ 1) รายการสะสมคะแนน KTC FOREVER ที่ยืดหยุ่น แลกง่ายแลกได้จริง 2) บริการผ่อนชำระ KTC FLEXI เพื่อตอบโจทย์ร้านค้าและสมาชิกบัตร  3) บริการ KTC World Travel Service สำหรับคนรักการท่องเที่ยว

นอกจากนี้ เคทีซียังเล็งเห็นถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ผู้บริโภคนิยมทำอะไรด้วยตนเอง ทั้งการค้นหาข้อมูลที่สนใจและการทำรายการ เราจึงได้พัฒนาบริการและช่องทางการสื่อสาร โดยปรับปรุงการใช้งานโมบายแอปพลิเคชัน “KTC Mobile” (เปลี่ยนชื่อจาก TapKTC) เพื่อให้สมาชิกเข้าถึงการใช้งานได้สะดวกและมั่นใจในความปลอดภัย โดยปัจจุบันมีจำนวนสมาชิกที่ลงทะเบียนใช้แอพฯ KTC Mobile เกือบ 1 ล้านราย หรือประมาณ 60% ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด รวมทั้งจะมีการปรับปรุงเว็บไซต์ www.ktc.co.th  และ www.ktcworld.co.th เพื่อให้ใช้งานง่ายและตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกบัตรมากขึ้นอีกด้วย โดยในปี 2562 เคทีซีคาดว่าจะมียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเติบโต 15%

<figure><img class="wp-image-2764 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2018/12/พิชามน-จิตรเป็นธรรม.jpg" alt="" width="638" height="372" /><figcaption> พิชามน จิตรเป็นธรรม ผู้อำนวยการ – ธุรกิจสินเชื่อบุคคล เคทีซี</figcaption></figure>

พิชามน จิตรเป็นธรรม ผู้อำนวยการ – ธุรกิจสินเชื่อบุคคล เคทีซี กล่าว “ในปีหน้าสภาวะการแข่งขันธุรกิจสินเชื่อบุคคลจะยิ่งมีความร้อนแรงมากขึ้น ทั้งจากผู้ประกอบการที่อยู่ในตลาดรวมถึงผู้ประกอบการรายใหม่ๆ โดยกลยุทธ์การตลาดของเคทีซีในปี 2562 จะมุ่งขยายจำนวนสมาชิกให้ได้ถึง 1 ล้านราย และตั้งเป้าเพิ่มอัตราการเติบโตของยอดลูกหนี้ 10% โดยจะเดินหน้าแบ่งเบาภาระคนไทยให้ได้รับสินเชื่อที่เป็นธรรม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและร่วมลดการพึ่งพาหนี้นอกระบบในปัจจุบัน"

เคทีซียังได้พัฒนาบริการเบิกเงินสดออนไลน์ผ่านแอพฯ “KTC Mobile” ให้รวดเร็วและสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยสามารถเบิกได้ตามวงเงินสูงสุดที่มีในบัตรตลอด 24 ชั่วโมงแบบเรียลไทม์ สะดวกสบายไม่ต้องใช้ PIN เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใช้บริการออนไลน์มากขึ้น บริษัทฯ ยังมีแผนจะเพิ่มจำนวนธนาคารรองรับความต้องการในอนาคตเพื่อให้สมาชิกเลือกโอนเงินได้สะดวกยิ่งขึ้น และล่าสุดสมาชิกสามารถเลือกผ่อนชำระตามแบบที่ต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนชำระเป็นงวดที่เท่ากัน หรือเลือกผ่อนชำระขั้นต่ำ 3% หรือ 300 บาทได้

<figure><img class="wp-image-2763 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2018/12/ปิยศักดิ์-เตชะเสน.jpg" alt="" width="638" height="372" /><figcaption> ปิยศักดิ์ เตชะเสน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส - ช่องทางจัดจำหน่ายและธุรกิจร้านค้า เคทีซี</figcaption></figure>

ปิยศักดิ์ เตชะเสน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส - ช่องทางจัดจำหน่ายและธุรกิจร้านค้า เคทีซี กล่าวถึงกลยุทธ์การบริหารช่องทางจัดจำหน่ายและธุรกิจร้านค้าว่า “การขยายฐานผลิตภัณฑ์ของเคทีซีในปี 2562 จะมุ่งเน้นไปที่คุณภาพในการนำเสนอขายให้มากขึ้น โดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าและถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย  โดยจะใช้ตัวแทนขายอิสระ (Outsource Sales) และสาขาของธนาคารกรุงไทยเป็นช่องทางหลัก และใช้ช่องทางออนไลน์เป็นยุทธศาสตร์ในระยะยาว โดยได้เตรียมความพร้อมทุกด้านเพื่อรองรับการเติบโตทั้งแพลทฟอร์มแบบเปิด (Open Platform) ของเว็บไซต์ใหม่ เพื่อให้พันธมิตรทุกรายสามารถทำงานกับเคทีซีได้อย่างไม่มีข้อจำกัด

“กลยุทธ์การบริหารธุรกิจร้านค้ารับบัตร ในปี 2562 บริษัทฯ จะรุกขยายเข้าธุรกิจร้านค้าประเภทใหม่ๆ และตลาดต่างจังหวัด รวมทั้งมุ่งเจาะธุรกิจร้านค้าออนไลน์เพื่อตอบสนองการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเทรนด์ดิจิทัล และสนับสนุนธุรกิจร้านค้าให้เปลี่ยนจากการรับเงินสดมาเป็นผ่านบัตรเครดิตด้วยเครื่องมือทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ  ขานรับการสร้างสังคม ไร้เงินสดตามนโยบายของรัฐ"

<figure><img class="wp-image-2762 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2018/12/ชุติเดช-ชยุติ.jpg" alt="" width="638" height="372" /><figcaption> ชุติเดช ชยุติ ซีเอฟโอ เคทีซี</figcaption></figure>

ชุติเดช ชยุติ ซีเอฟโอ เคทีซี กล่าวถึงกลยุทธ์ในการบริหารการเงินว่า “ในปีนี้บริษัทฯ ยังคงมีสถานะทางการเงินที่เข้มแข็งมาก โดยคาดว่าสิ้นปี 2561 นี้จะสามารถทำกำไรราว 5 พันล้านบาท ด้วยการขยายฐานบัตรที่มากขึ้น อีกทั้งคุณภาพพอร์ตที่ดีทำให้การตั้งสำรองลดลง และการควบคุมต้นทุนการเงินที่ดี

ปี 2562 บริษัทฯ จะยังคงมุ่งดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพ ด้วยการบริหารต้นทุนเงินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งการหาต้นทุนที่ต่ำและเพิ่มสัดส่วนของเงินกู้ระยะยาวมากขึ้น ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ออกหุ้นกู้ในระยะยาว 5-10 ปีมากขึ้น เพื่อให้สามารถควบคุมเงินทุนให้อยู่ในระดับต่ำ โดยได้ออกหุ้นกู้ไปแล้วรวมทั้งสิ้น 45,885 ล้านบาท หรือประมาณ 90% ของเงินกู้ยืมทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนเงินของบริษัทฯ ปรับขึ้นในอัตราที่ช้ากว่าดอกเบี้ยตลาด และในปี 2562 บริษัทฯ มีแผนจะระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ประมาณ หนึ่งหมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตัวของบริษัทฯ และทดแทนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดราว 5.3 พันล้านบาท

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events