<h2 class="p1">กรุ๊ป พีเอสเอ ผู้ผลิตรถยนต์เปอโยต์สัญชาติฝรั่งเศส ได้แต่งตั้งบริษัท เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เปอโยต์ ประเทศไทย ภายใต้กลุ่มบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด ให้เป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์เปอโยต์อย่างเป็นทางการในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว โดยพิธีลงนามสัญญาแต่งตั้ง จัดขึ้น ณ สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย พร้อมได้รับเกียรติจาก ฌัก ลาปูฌ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย เป็นประธานสักขีพยาน</h2>
ลอเรนซ์ โนเอล รองประธานอาวุโสอาเซียน กรุ๊ป พีเอสเอ กล่าวว่า “กรุ๊ป พีเอสเอ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ เอ็มจีซี-เอเชีย มาร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ในฐานะผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ เปอโยต์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เนื่องจากเอ็มจีซี-เอเชียเป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกรถยนต์ รวมถึงธุรกิจ mobility ในอาเซียน พร้อมกับความเป็นมืออาชีพของเอ็มจีซี-เอเชีย จึงนับเป็นการเปิดโอกาสให้เราได้ทำตลาดในประเทศไทย รวมถึงนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อีกมากมายในอนาคตเพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้ารายใหม่ๆ ให้กับแบรนด์เปอโยต์ในประเทศไทย โอกาสนี้ขอขอบคุณบริษัท ยูโรเปี้ยน มอเตอร์ คาร์ส สำหรับการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ยาวนานถึง 47 ปี”


<figure><img class="size-full wp-image-11994" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/07/เปอโย02.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> ลอเรนซ์ โนเอล</figcaption></figure>
ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด เปิดเผยว่า “ผมรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจาก กรุ๊ป พีเอสเอ ให้เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์เปอโยต์อย่างเป็นทางการในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว นับเป็นนิมิตหมายอันดีที่ทางกลุ่มบริษัทได้มีโอกาสขยายธุรกิจร่วมกับพันธมิตรธุรกิจระดับโลกอย่างกรุ๊ป พีเอสเอ เรามีความเชื่อมั่นว่า สินค้าภายใต้กรุ๊ป พีเอสเอ จะมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยได้เป็นอย่างดี รวมถึงการบริการอย่างมืออาชีพจากเอ็มจีซี-เอเชีย นับเป็นการร่วมมือกันอย่างแข็งแกร่ง ทั้งในเรื่องของผลิตภัณฑ์และบุคลากรอันเป็นมืออาชีพจาก เอ็มจีซี-เอเชีย”
นอกเหนือจากเหตุผลดังกล่าว เอ็มจีซี-เอเชียจะมีสินค้าที่ตอบสนองและครอบคลุมรถยนต์เกือบทุกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะเป็นผลทำให้เอ็มจีซี-เอเชียขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำค้าปลีกรถยนต์ในภูมิภาคได้อย่างแท้จริง


<figure><img class="size-full wp-image-11997" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/07/เปอโย06.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ และ ดร.ยอร์ก บรอเยอร์</figcaption></figure>
ทั้งนี้ เปอโยต์นำกลยุทธ์และผลิตภัณฑ์แบบใหม่มาประยุกต์ใช้กับประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย ดร.ยอร์ก บรอเยอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเปอโยต์ ประเทศไทย กล่าวว่า “เปอโยต์จะนำเสนอรถยนต์ เพื่อครอบคลุมเซกเมนต์ใหม่ในประเทศไทย เรียกว่า ‘ไฮเอนด์-เมนสตรีม’ ซึ่งมาจากคุณสมบัติที่ผสมผสานความเป็นพรีเมี่ยมแบบรถยุโรป และราคาที่ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้น” 
<img class="alignnone size-full wp-image-11996" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/07/เปอโย04.jpg" alt="" width="720" height="480" />
โดยเปอโยต์มีแผนเปิดตัวในประเทศไทยด้วยเอสยูวี 2 รุ่นหลัก คือเปอโยต์ 3008 และเปอโยต์ 5008 ตามด้วยรถยนต์อีก 6 รุ่นใหม่ภายในสองปีข้างหน้า พร้อมมีแผนสร้างและขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการอย่างครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเฉพาะหัวเมืองหลักในแต่ละภูมิภาค เปอโยต์ ประเทศไทย กำลังเริ่มดำเนินการสรรหาและคัดเลือกพันธมิตรทางธุรกิจหรือตัวแทนจำหน่ายอย่างมืออาชีพที่มีความสนใจและพร้อมร่วมลงทุนดังกล่าว โดยทางบริษัทจะดำเนินการเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการต้นแบบ เพื่อรองรับบริการภายในช่วงต้นไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ รวมถึงโชว์รูมและศูนย์บริการอีกหลายแห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทั่วประเทศช่วงต้นปี 2563
เปอโยต์ ประเทศไทย พร้อมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่เปอโยต์ 5008 สู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกในงาน BIG Motor Sale ระหว่างวันที่ 16-25 สิงหาคมนี้ ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา
<img class="alignnone size-full wp-image-11999" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/07/เปอโย07.jpg" alt="" width="720" height="478" />

&nbsp;

&nbsp;

เรื่องราวน่าสนใจเพิ่มเติม
<ul>
 	<li><header class="entry-header"><a href="https://forbesthailand.com/forbes-life/living/%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%94%e0%b9%81%e0%b8%ab%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%96%e0%b8%99%e0%b8%99-%e0%b8%a3%e0%b8%a7%e0%b8%a1%e0%b8%aa.html">ที่สุดแห่งท้องถนน : รวมสุดยอดรถสปอร์ตสุดหรูเเละรถครอสโอเวอร์อเนกประสงค์ แห่งปี 2019</a></header>
<div class="single-content-writer-box"></div></li>
</ul>

<hr />

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

MGC-ASIA คว้าสิทธิ์ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ "เปอโยต์" อย่างเป็นทางการในไทย

เศรษฐกิจของไทยจะชะลอตัวอย่างไร ก็ดูเหมือนว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่เจาะกลุ่มเป้าหมายเศรษฐีผู้มีกำลังซื้อสูงเท่าไรนัก เช่น ธุรกิจเรือยอชต์ ที่ดึงดูดให้ ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ นักธุรกิจหมื่นล้าน ผู้เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ เอ็มจีซี-เอเชีย ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถหรู อาทิ Rolls-Royce, Aston Martin, BMW และ Mini กระโดดเข้าไปเป็นหนึ่งในผู้เล่น ด้วยเหตุผลว่าต้องการเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจลักชัวรี จึงก่อตั้ง บริษัท เอ็มจีซี มารีน (เอเชีย) จำกัด ขึ้นเมื่อราวกลางปี 2557 ใช้งบลงทุนกว่า 300 ล้านบาท นำเข้าและจำหน่ายเรือยอชต์ Azimut จากอิตาลี ให้บริการเต็มรูปแบบทั้งการขาย การเช่า การประกันภัย รวมถึงบริการจัดเลี้ยง

ความคึกคักของธุรกิจเรือยอชต์ปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัดในปี 2558 เมื่อรัฐบาลส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางมารีน่าของอาเซียน นำสู่การจัดมหกรรมเรือสำราญและมารีน่าครั้งแรกของไทยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จัดแสดงเรือยอชต์และซูเปอร์ยอชต์ (เรือยอชต์ที่มีขนาด 79 ฟุตขึ้นไป) ที่โดดเด่นทั้งในแง่ความสวยงามและนวัตกรรมขึ้นที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีเรือยอชต์เข้ามาเทียบท่าเป็นจำนวนมาก

ตอกย้ำอนาคตของธุรกิจเรือยอชต์ ด้วยการที่รัฐบาลดำเนินการปรับปรุงกฎหมายและระเบียบต่างๆ อาทิ การตรวจคนเข้าเมือง การเดินเรือ ศุลกากร การจัดเก็บภาษี ฯลฯ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจดังกล่าว ด้านกรมเจ้าท่าก็ศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนามารีน่าเพิ่มเติม ทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน ประกอบด้วย จ.ภูเก็ต 2 แห่ง จ.พังงา 2 แห่ง เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี 2 แห่ง จ.ชลบุรี 1 แห่ง และ จ.ตราด 1 แห่ง จากที่มีมารีน่าระดับมาตรฐานอยู่แล้วในฝั่งอ่าวไทย 5 แห่ง และฝั่งอันดามัน 6 แห่ง เป็นการกระตุ้นให้การท่องเที่ยวขยายตัวและสร้างรายได้ให้ประเทศมากขึ้น

ดร.สัณหวุฒิ เห็นด้วยกับนโยบายของรัฐบาลที่ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจทางทะเลของภูมิภาค เนื่องจากระยะหลังมีนักท่องเที่ยวนำเรือยอชต์มาท่องเที่ยวและจอดพักในไทยปีละกว่า 1,000 ลำ และในภาพรวม ตลาดก็มีความต้องการเรือยอชต์ในระดับราคาราว 10 ล้านบาทไปจนถึง 100 กว่าล้านบาท ปีละประมาณ 50-60 ลำ ดังนั้น ปี 2559 เอ็มจีซี มารีน จึงชูกลยุทธ์ให้ลูกค้าทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าถึงแบรนด์ได้มากขึ้น เน้นการนำเรือยอชต์รุ่นระดับราคาหลักสิบล้านบาทเข้ามาทำตลาด

“ปีที่แล้วเราจำหน่ายเรือยอชต์ขนาดกลาง-ใหญ่ ได้จำนวน 3 ลำ ส่วนปีนี้เราจะเปิดตัวเรือยอชต์ขนาด 40-50 ฟุต ราคาไม่เกิน 50 ล้านบาท ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะกับคนไทย คาดว่าปีนี้ยอดจำหน่ายเรือยอชต์เมื่อคิดเป็นลำ จะเติบโตจากปีก่อน 200-300%” หัวเรือใหญ่ของเอ็มจีซี มารีน บอก

ทว่า ดร.สัณหวุฒิ ก็ไม่ได้คาดการณ์ให้ธุรกิจเรือยอชต์เป็นตัวสร้างรายได้หลักให้ เอ็มจีซี-เอเชีย ซึ่งปีที่แล้วมีรายได้รวมกว่า 2.15 หมื่นล้านบาท จากธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ใหม่ รถยนต์มือสอง รถเช่า โบรกเกอร์ประกันภัย ฯลฯ และปีนี้ก็คาดหวังให้รายได้รวมขึ้นไปแตะ 2.5 หมื่นล้านบาท ส่วนหนึ่งเพราะเรือยอชต์ยังเป็นธุรกิจใหม่ของกลุ่ม ต้องใช้เวลาในการเติบโตและสร้างฐานให้แข็งแกร่ง

ถึงอย่างนั้น ผู้บริหารหนุ่มก็คาดหวังถึงรายได้ของเรือยอชต์ที่มากขึ้นในอนาคต ท่ามกลางผู้เล่นเจนคลื่นลมที่โลดแล่นอยู่หลายรายในท้องทะเล

<img class="img-responsive" src="/uploads/userfiles/images/APRIL%202016/ART-news-01.png" alt="" />

<figure><img class="img-responsive" src="/uploads/userfiles/images/APRIL%202016/ART-news-02.png" alt="" width="750" height="511" /><figcaption> Azimut S Collection ขนาด 86 ฟุต โฉมโฉมในน่านน้ำพร้อมดีไซน์การตกแต่งภายในที่โอ่โถง</figcaption></figure>

ภาพ: เอ็มจีซี-เอเชีย

<hr />

<a href="http://goo.gl/lvtWCi">พบบทความทางธุรกิจอันสร้างแรงบันดาลใจทางธุรกิจได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ APRIL 2016 ในรูปแบบ E-Magazine</a>

<a href="http://goo.gl/lvtWCi"><img class="img-responsive" src="/uploads/userfiles/images/APRIL%202016/COVER-Resize.png" alt="" /></a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events