<h2>Builders Vision กลุ่มนักลงทุนที่เน้นการสร้างคุณค่าร่วมกัน ซึ่งก่อตั้งโดย Lukas Walton ทายาทของ Walmart ด้วยเงินหลายพันล้านเหรียญ เพื่อเปลี่ยนแปลงโลก แต่นั่นอาจไม่เพียงพอ</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Builders Vision ของ Lukas Walton ยักษ์ใหญ่ในโลกแห่งการลงทุนในธุรกิจที่สร้างผลลัพธ์ทางสังคมและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยเมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเป็นครั้งแรกว่า ได้ใช้เงิน 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อชะลอการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งเสริมการทำฟาร์มแบบยั่งยืน และรักษามหาสมุทรของโลก รวมถึงเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่อื่นๆ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;องค์กรที่ก่อตั้งโดยทายาทของ Walmart วัย 37 ปี ได้ส่งข้อความอย่างจริงจังว่า “ไม่ว่าเราจะพยายามมากแค่ไหนเราก็ไม่สามารถทำตามลำพังได้”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เรามีเงินทุนจำนวนมากที่สามารถนำไปใช้ได้ แต่ปัญหาพวกนี้มันระดับล้านล้านเหรียญ” Matt Knott กรรมการผู้จัดการใหญ่ของ Builders Vision กล่าวในสัมภาษณ์พิเศษ “แม้ว่าเราจะประสบความสำเร็จอย่างท้วมท้นด้วยตัวของเราเอง แต่มันก็ยังไม่เพียงพอ เราต้องดึงนักลงทุนและผู้ใจบุญคนอื่นๆ มาร่วมหัวจมท้ายไปกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ด้วยกัน”​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><a href="https://buffet.ookbee.com/magazine/forbes/issue/b16f6311-0750-4ce0-bc84-a71daf4fa879" alt="https://buffet.ookbee.com/magazine/forbes/issue/b16f6311-0750-4ce0-bc84-a71daf4fa879" data-image-link="image"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/Cr1RHfXoamCCVVXxipRP.jpg" alt="" data-image-link="https://buffet.ookbee.com/magazine/forbes/issue/b16f6311-0750-4ce0-bc84-a71daf4fa879" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Cr1RHfXoamCCVVXxipRP.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="720,910"></a><figcaption><div>Matt Knott กรรมการผู้จัดการใหญ่ของ Builders Vision</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Walton ก่อตั้ง Builders Vision ในปี 2021 เพื่อเป็นเสมือนเสาหลักสำหรับงานการกุศล การลงทุน และการรณรงค์ ปัจจุบันสินทรัพย์ของกล่มมีทั้งเงิน 2 พันล้านเหรียญในส่วนของการกุศล 2.05 พันล้านเหรียญสำหรับธุรกิจการลงทุนภายใต้ชื่อ S2G Ventures และอีกหลายพันล้านเหรียญ (กลุ่มขอไม่บอกตัวเลขที่แน่นอน) สำหรับบริษัทจัดการสินทรัพย์ Builders Asset Management&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จนถึงปัจจุบัน Builders Vision ได้ลงทุน ให้ทุน หรือเป็นพันธมิตรกับสตาร์ทอัพและองค์กรที่มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมเกือบ 450 แห่ง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ความสำเร็จอันโดดเด่นที่ปรากฏในรายงานมีทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่ยั่งยืนกว่า 170 รายการ การสร้างงานกว่า 42,000 ตำแหน่ง การติดตั้งกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียน 15,685 เมกะวัตต์ ซึ่งเพียงพอที่จะจ่ายไฟให้รัฐ Iowa และ Michigan รวมถึงการลด การกักเก็บ หรือการหลีกเลี่ยงการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 4 ล้านเมตริกตัน หรือเทียบเท่ากับรถยนต์โดยสารประมาณ 870,000 คัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในปี 2022 Builders Vision ซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างผลลัพธ์เชิงบวก ได้ทุ่มเทลงรายละเอียดของอิทธิพลจากงานที่ทำ โดยรวบรวมข้อมูลจากบริษัทในพอร์ตและพันธมิตรอื่นๆ ตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2020 ถึงมิถุนายน ปี 2023 กลุ่มได้เน้นไปด้านพลังงานมากที่สุดด้วยเจตนารมณ์ชัดของเงินทุนจำนวน 1.8 พันล้านเหรียญ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ Builders Vision ยังให้คำมั่นสร้างผลลัพธ์เชิงบวกในธุรกิจอาหารและการเกษตรด้วยเงินจำนวน 1 พันล้านเหรียญ และอีก 260 ล้านเหรียญเพื่อมหาสมุทรที่สะอาดขึ้น เกษตรอินทรีย์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในรายงาน Builders Vision บอกว่า ได้ลดและหลีกเลี่ยงการปล่อยหรือกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์จากการดำเนินงานด้านอาหารและการเกษตรได้มากกว่า 3.1 ล้านเมตริกตัน หรือเทียบเท่ากับรถยนต์โดยสาร 683,761 คัน นอกจากนี้ ยังพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือเทคโนโลยีอย่างน้อย 114 รายการ เพื่อส่งเสริมการผลิตและการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ รวมทั้งบริหารจัดการที่ดินกว่า 1 ล้านเฮกตาร์อย่างยั่งยืน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ตัวอย่างธุรกิจที่กลุ่มเข้าไปลงทุน ได้แก่ Clear Frontier ในเมือง Omaha ซึ่งช่วยให้เกษตรกรเปลี่ยนจากวิธีการเดิมๆ ไปสู่เกษตรอินทรีย์ โดย Clear Frontier ซื้อฟาร์มที่สามารถเปลี่ยนไปทำเกษตรอินทรีย์ได้ จากนั้นก็ปล่อยเช่าให้เกษตรกรท้องถิ่นที่ทำเกษตรอินทรีย์อยู่แล้วหรือต้องการเรียนรู้วิธีการ ปัจจุบันมีพื้นที่มากกว่า 6,000 เฮกตาร์ในรัฐ Nebraska, Colorado และ Texas โดยปัจจุบันพื้นที่ 30% ได้รับการรับรองว่าเป็นพื้นที่ปราศจากสารตกค้างแล้ว และส่วนที่เหลืออยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/w7c8A4CDnDJgKyKJqL5N.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="w7c8A4CDnDJgKyKJqL5N.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1" origin-size="720,405"></figure></div> พลังงานสะอาด&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ความมุ่งมั่นที่ใหญ่ที่สุดของ Builders Vision คือ พลังงานสะอาด แม้ว่าเงินทุนส่วนใหญ่จะมีการจัดการผ่านผู้จัดการกองทุน แต่ก็มีการลงทุนโดยตรงในบริษัทต่างๆ ด้วย เช่น Electric Hydrogen ผู้พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อผลิตไฮโดรเจนสีเขียว และ Brimstone ผู้ผลิตซีเมนต์สะอาด&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ กลุ่มเน้นการลงทุนร่วมในเทคโนโลยีที่พร้อมขยายขนาดแต่ผู้ประกอบการต้องการความช่วยเหลือในด้านการผลิตเชิงพาณิชย์ หรือการหาเงินทุน Frank O’Sullivan กรรมการผู้จัดการของ S2G Ventures ซึ่งดูแลการลงทุนด้านพลังงานสะอาดกล่าวว่า สำหรับ S2G ซึ่งเป็นกองทุนร่วมลงทุนของ Builders Vision “เราจะเน้นการปฏิบัติในอีก 10-15 ปีข้างหน้า และมองหาโอกาสที่สามารถสร้างผลลัพธ์ครั้งใหญ่ได้”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกเหนือจากการติดตั้งกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียน 15,685 เมกะวัตต์ในปีที่ 2022 กลุ่มยังบอกว่า ได้สร้างงานใหม่เกือบ 26,000 ตำแหน่งในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดอีกด้วย มหาสมุทรแสนสะอาด&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การแก้ปัญหาเรื่องการประมงเกินขีดจำกัด การแพร่กระจายของไมโครพลาสติก และการสูญพันธุ์ของสายพันธุ์สัตว์ทะเลหลายชนิด ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่องค์กรการกุศล ธุรกิจที่จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือมหาสมุทรนั้นมีน้อยมาก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“แนวคิดก็คือ เราจะนำนวัตกรรมและการพัฒนาธุรกิจมาสู่พื้นที่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การกุศลสำหรับมหาสมุทรได้อย่างไร” Peter Bryant ผู้อำนวยการโครงการมหาสมุทรประจำฝ่าย Builders Initiative ของ Builders Vision ซึ่งเคยร่วมงานกับ Walton ด้านสิ่งแวดล้อมที่ Walton Family Foundation กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในบรรดาบริษัท 31 แห่งที่มีเป้าหมายการฟื้นตัวของมหาสมุทรและได้รับการสนับสนุนก็มี Atlantic Sea Farms ซึ่งปลูกและเก็บเกี่ยวสาหร่ายทะเลในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน หรือ Coral Vita ซึ่งใช้เทคนิคการทำชิ้นส่วนปะการังขนาดเล็กเพื่อฟื้นฟูแนวปะการัง หรือ Moleaer ซึ่งบำบัดน้ำด้วยฟองอากาศระดับนาน หรือนาโนบับเบิ้ล (nanobubble)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ยังทำงานร่วมกับท่าเรือ San Diego เพื่อปรับปรุงการฟื้นตัวของชายฝั่ง รวมถึงวางแนวปะการังเทียม 360 ลูกที่ทำจากตะกอนในพื้นที่และเปลือกหอยนางรม เพื่อป้องกันการกัดเซาะ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แม้ว่าความมั่งคั่งของ Walton ทำให้ Builders Vision เป็นหนึ่งในนักลงทุนสร้างผลลัพธ์ทางสังคมรายใหญ่ที่สุดในโลก แต่กลุ่มก็หวังว่าจะขยายใหญ่ขึ้นอีกทั้งในแง่ของตัวเงินและอิทธิพล “ผมจะไม่บอกตัวเลขเป๊ะๆ แต่คิดว่าน่าจะหลายเท่าของสิ่งที่เราลงทุนอยู่ทุกวันนี้” Knott กล่าว “ที่สำคัญกว่านั้นคือ ผมคิดว่าเราน่าจะหาเงินได้อีกหลายเท่าด้วยการชวนนักลงทุนคนอื่นๆ มาร่วมเดินทางกับเรา” เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ&nbsp;:&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/world/asia/kiat-lim-thomson-medical-expanding-to-vietnam" alt="Kiat Lim พา Thomson Medical สยายปีกบินสู่เวียดนาม">Kiat Lim พา Thomson Medical สยายปีกบินสู่เวียดนาม</a>​ ​<a href="https://buffet.ookbee.com/magazine/forbes/issue/b16f6311-0750-4ce0-bc84-a71daf4fa879" alt="คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมีนาคม 2567 ในรูปแบบ e-magazine">คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมีนาคม 2567 ในรูปแบบ e-magazine</a><div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure><a href="https://buffet.ookbee.com/magazine/forbes/issue/b16f6311-0750-4ce0-bc84-a71daf4fa879" alt="https://buffet.ookbee.com/magazine/forbes/issue/b16f6311-0750-4ce0-bc84-a71daf4fa879" data-image-link="image"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/k2eYHZhFhmyHi8JwLNns.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="k2eYHZhFhmyHi8JwLNns.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="300px,auto" data-rotate="" origin-size="500,656" data-image-link="https://buffet.ookbee.com/magazine/forbes/issue/b16f6311-0750-4ce0-bc84-a71daf4fa879" style="width: 300px; height: auto;" data-index="2"></a></figure></div>​

ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ของ Builders Vision ยักษ์ใหญ่นักลงทุนเพื่อสังคม

<h2>ไทยเบฟฯ สานฝันธุรกิจแบ่งปัน เปิดเวที Win Win War ซีซั่น 4 เฟ้นหานักธุรกิจเพื่อสังคม มุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมเปิดรายการใหม่ขยายกลุ่มเป้าหมายสู่เยาวชน ประยุกต์ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นสร้างสินค้าและบริการตอบโจทย์สังคม รับเทรนด์โลก เตรียมจัดงานเอ็กซ์โป โชว์ผลงานธุรกิจเพื่อสังคม พร้อมจับคู่ธุรกิจเดือนก.ย.นี้</h2>
ศูนย์ C asean ในเครือบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เปิดตัว Win Win War Thailand รายการเรียลิตี้โชว์เฟ้นหาสุดยอดนักธุรกิจแบ่งปันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นโครงการต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 4 ปี เพื่อสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนที่มีศักยภาพให้มีโอกาสเติบโต ซึ่งนอกจากจะสร้างรายได้ให้ชุมชน ยังเกิดประโยชน์ต่อสังคมในด้านต่างๆ เช่น สิ่งแวดล้อม การแก้ปัญหาความยากจน ความหิวโหย และปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม

<img class="alignnone size-full wp-image-63305" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/05/ต้องใจ-ธนะชานันท์-0505.jpg" alt="" width="450" height="448" />

ต้องใจ ธนะชานันท์ กรรมการผู้จัดการ C asean กล่าวว่า รายการเรียลิตี้ Win Win War Thailand เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคม เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของไทยให้มีความเข้มแข็ง หลังจากกลุ่มไทยเบฟเวอเรจ เข้าไปมีส่วนร่วมในการผลักดันของโครงการประชารัฐทุกจังหวัดในช่วงที่ผ่านมา และต้องการขยายผลในวงกว้างโดยการนำเสนอในรูปแบบรายการโทรทัศน์ สร้างเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์จากทุกภาคส่วน บ่มเพาะทักษะให้ผู้ประกอบการธุรกิจแบ่งปัน ให้สามารถใช้กลไกด้านธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อช่วยแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมต่อไป

โดยจัดขึ้นเป็นปีที่ 4 ที่ผ่านมามีผู้สนใจสมัครเข้ามาร่วมแข่งขันไม่ต่ำกว่า 4,000 ทีม สร้างโอกาสให้กับนักธุรกิจเพื่อสังคมไม่ต่ำกว่า 100 ธุรกิจ และได้รับรางวัลโทรทัศน์ทองคำ ในปี 2561 รางวัลทีวีสีขาว ประจำปี 2562 และมีผู้ยอดผู้ชมในช่องทางออนไลน์ กว่า 24 ล้านครั้งในซีซั่นที่ผ่านมา ซึ่งผู้สมัครเข้าแข่งขันชิงตำแหน่งสุดยอดนักธุรกิจแบ่งปันในครั้งนี้ มีเงินรางวัลรวม 2,000,000 บาท

“ที่ผ่านมา มีนักธุรกิจเพื่อสังคมไม่ต่ำกว่า 100 ราย ที่เข้ามาร่วมเป็นเครือข่ายกับบริษัทฯ และบริษัทฯได้มีการพัฒนา ต่อยอดให้ธุรกิจมีการเติบโตอีกไม่ต่ำกว่า 10 ราย โดยเข้าไปช่วยในหลายด้าน เช่น การเข้าไปถือหุ้น การเข้าไปช่วยพัฒนาด้านการตลาด การทำบัญชี รวมถึงการสร้างเครือข่าย หาพันธมิตร และช่องทางจำหน่าย เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน” ต้องใจระบุ

สร้างกระแสธุรกิจเพื่อสังคมรับเทรนด์โลก

<img class="alignnone size-full wp-image-63307" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/05/กิติกร-เพ็ญโรจน์.jpg" alt="" width="600" height="400" />

กิติกร เพ็ญโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Heliconia H Group ผู้ผลิตรายการชื่อดัง เช่น Masterchef ในฐานะที่ปรึกษารายการ กล่าวว่า รายการเป็นมากกว่ารายการบันเทิงทั่วไป แต่เป็นโครงการที่ให้โอกาสธุรกิจเพื่อสังคม ทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ ขณะที่ต้องก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมด้วย ซึ่งในปีนี้ ได้เปิดตัวรายการใหม่ Win Win War Otop Junior สำหรับเยาวชนอายุ 9 – 14 ปี นำความรู้ในห้องเรียนผสมกับภูมิปัญญาและวัสดุท้องถิ่นมาประยุกต์สร้างเป็นสินค้าและบริการที่เอื้อประโยชน์ต่อสังคม ผู้ชนะจะได้รับทุนการศึกษา 40,000 บาท และมีโอกาสไปดูงานนวัตกรรมอย่างยั่งยืนที่สิงคโปร์

“รายการโทรทัศน์ สามารถสร้างการรับรู้ ปรับเปลี่ยนทัศนคติและมุมองของคนได้ เหมือนที่เราทำรายการมาสเตอร์เชฟ กระตุ้นให้คนรุ่นใหม่สนใจอาชีพเชฟมากขึ้น เช่นเดียวกันกับรายการ Win Win War Thailand ที่กระตุ้นให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจธุรกิจเพื่อสังคม อยากทำให้ธุรกิจที่เอื้อประโยชน์ต่อสังคม ซึ่งกำลังเป็นกระแสความสนใจของโลก” กิติกรกล่าว

ต้องใจ กล่าวว่า บริษัท ไทยเบฟฯ ได้ดำเนินการต่อยอดและขยายผลให้กับธุรกิจเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน ผ่านการจัดงาน Sustainable Thailand Expo ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 และในปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 ก.ย. – 2 ต.ค. 2565 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นงานที่รวบรวมนวัตกรรมธุรกิจเพื่อสังคมที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน เปิดให้นักธุรกิจเพื่อสังคมที่เข้าร่วมการแข่งขันมานำเสนอผลงาน เปิดเวทีกิจกรรม สร้างการเรียนรู้ รวมถึงการหาพันธมิตร และสร้างเครือข่าย รวมไปถึงการจับคู่ธุรกิจ เพื่อช่วยผลักดันธุรกิจเพื่อสังคมในประเทศไทยให้เติบโตอย่างแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/property/%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b9%82%e0%b8%99-%e0%b8%ad%e0%b8%b4%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%84%e0%b8%97%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%84-%e0%b9%82%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%aa%e0%b9%8c.html">นาโน อิเลคทริค โปรดักส์ รุกตีตลาดโครงการบิ๊กอสังหาฯ ตั้งเป้า ปี 2565 โกยยอดขาย 1,500 ล้านบาท</a>

<hr />
<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่ เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events