ไทยเบฟฯ สานฝันธุรกิจแบ่งปัน เปิดเวที Win Win War ซีซั่น 4 เฟ้นหานักธุรกิจเพื่อสังคม มุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมเปิดรายการใหม่ขยายกลุ่มเป้าหมายสู่เยาวชน ประยุกต์ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นสร้างสินค้าและบริการตอบโจทย์สังคม รับเทรนด์โลก เตรียมจัดงานเอ็กซ์โป โชว์ผลงานธุรกิจเพื่อสังคม พร้อมจับคู่ธุรกิจเดือนก.ย.นี้
ศูนย์ C asean ในเครือบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เปิดตัว Win Win War Thailand รายการเรียลิตี้โชว์เฟ้นหาสุดยอดนักธุรกิจแบ่งปันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นโครงการต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 4 ปี เพื่อสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนที่มีศักยภาพให้มีโอกาสเติบโต ซึ่งนอกจากจะสร้างรายได้ให้ชุมชน ยังเกิดประโยชน์ต่อสังคมในด้านต่างๆ เช่น สิ่งแวดล้อม การแก้ปัญหาความยากจน ความหิวโหย และปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ต้องใจ ธนะชานันท์ กรรมการผู้จัดการ C asean กล่าวว่า รายการเรียลิตี้ Win Win War Thailand เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคม เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของไทยให้มีความเข้มแข็ง หลังจากกลุ่มไทยเบฟเวอเรจ เข้าไปมีส่วนร่วมในการผลักดันของโครงการประชารัฐทุกจังหวัดในช่วงที่ผ่านมา และต้องการขยายผลในวงกว้างโดยการนำเสนอในรูปแบบรายการโทรทัศน์ สร้างเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์จากทุกภาคส่วน บ่มเพาะทักษะให้ผู้ประกอบการธุรกิจแบ่งปัน ให้สามารถใช้กลไกด้านธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อช่วยแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมต่อไป โดยจัดขึ้นเป็นปีที่ 4 ที่ผ่านมามีผู้สนใจสมัครเข้ามาร่วมแข่งขันไม่ต่ำกว่า 4,000 ทีม สร้างโอกาสให้กับนักธุรกิจเพื่อสังคมไม่ต่ำกว่า 100 ธุรกิจ และได้รับรางวัลโทรทัศน์ทองคำ ในปี 2561 รางวัลทีวีสีขาว ประจำปี 2562 และมีผู้ยอดผู้ชมในช่องทางออนไลน์ กว่า 24 ล้านครั้งในซีซั่นที่ผ่านมา ซึ่งผู้สมัครเข้าแข่งขันชิงตำแหน่งสุดยอดนักธุรกิจแบ่งปันในครั้งนี้ มีเงินรางวัลรวม 2,000,000 บาท “ที่ผ่านมา มีนักธุรกิจเพื่อสังคมไม่ต่ำกว่า 100 ราย ที่เข้ามาร่วมเป็นเครือข่ายกับบริษัทฯ และบริษัทฯได้มีการพัฒนา ต่อยอดให้ธุรกิจมีการเติบโตอีกไม่ต่ำกว่า 10 ราย โดยเข้าไปช่วยในหลายด้าน เช่น การเข้าไปถือหุ้น การเข้าไปช่วยพัฒนาด้านการตลาด การทำบัญชี รวมถึงการสร้างเครือข่าย หาพันธมิตร และช่องทางจำหน่าย เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน” ต้องใจระบุ สร้างกระแสธุรกิจเพื่อสังคมรับเทรนด์โลก กิติกร เพ็ญโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Heliconia H Group ผู้ผลิตรายการชื่อดัง เช่น Masterchef ในฐานะที่ปรึกษารายการ กล่าวว่า รายการเป็นมากกว่ารายการบันเทิงทั่วไป แต่เป็นโครงการที่ให้โอกาสธุรกิจเพื่อสังคม ทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ ขณะที่ต้องก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมด้วย ซึ่งในปีนี้ ได้เปิดตัวรายการใหม่ Win Win War Otop Junior สำหรับเยาวชนอายุ 9 – 14 ปี นำความรู้ในห้องเรียนผสมกับภูมิปัญญาและวัสดุท้องถิ่นมาประยุกต์สร้างเป็นสินค้าและบริการที่เอื้อประโยชน์ต่อสังคม ผู้ชนะจะได้รับทุนการศึกษา 40,000 บาท และมีโอกาสไปดูงานนวัตกรรมอย่างยั่งยืนที่สิงคโปร์ “รายการโทรทัศน์ สามารถสร้างการรับรู้ ปรับเปลี่ยนทัศนคติและมุมองของคนได้ เหมือนที่เราทำรายการมาสเตอร์เชฟ กระตุ้นให้คนรุ่นใหม่สนใจอาชีพเชฟมากขึ้น เช่นเดียวกันกับรายการ Win Win War Thailand ที่กระตุ้นให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจธุรกิจเพื่อสังคม อยากทำให้ธุรกิจที่เอื้อประโยชน์ต่อสังคม ซึ่งกำลังเป็นกระแสความสนใจของโลก” กิติกรกล่าว ต้องใจ กล่าวว่า บริษัท ไทยเบฟฯ ได้ดำเนินการต่อยอดและขยายผลให้กับธุรกิจเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน ผ่านการจัดงาน Sustainable Thailand Expo ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 และในปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 ก.ย. – 2 ต.ค. 2565 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นงานที่รวบรวมนวัตกรรมธุรกิจเพื่อสังคมที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน เปิดให้นักธุรกิจเพื่อสังคมที่เข้าร่วมการแข่งขันมานำเสนอผลงาน เปิดเวทีกิจกรรม สร้างการเรียนรู้ รวมถึงการหาพันธมิตร และสร้างเครือข่าย รวมไปถึงการจับคู่ธุรกิจ เพื่อช่วยผลักดันธุรกิจเพื่อสังคมในประเทศไทยให้เติบโตอย่างแข็งแรงมากยิ่งขึ้น อ่านเพิ่มเติม: นาโน อิเลคทริค โปรดักส์ รุกตีตลาดโครงการบิ๊กอสังหาฯ ตั้งเป้า ปี 2565 โกยยอดขาย 1,500 ล้านบาทไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่ เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine