XM_Banner_NOV_2024

<h2>บีโอไอ อนุมัติส่งเสริมลงทุน “คอนติเนนทอล” ผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่อันดับ 4 ของโลก จากประเทศเยอรมนี ขยายการลงทุนครั้งใหญ่ที่โรงงานในระยอง มูลค่ากว่า 13,000 ล้านบาท ผลิตยางเรเดียลสมรรถนะสูงเพิ่มอีกปีละ 3 ล้านเส้น จ้างงานเพิ่มอีก 600 คน รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยและเอเชียแปซิฟิก ตอกย้ำศักยภาพไทยเป็นฐานการผลิตยางรถยนต์อันดับ 2 ของโลก เพิ่มมูลค่ายางพาราในประเทศ และยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทย</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการ ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากบอร์ดบีโอไอ ได้อนุมัติคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนโครงการผลิตยางล้อสำหรับรถยนต์และยานพาหนะอื่นๆ (Radial Tires) ของบริษัท คอนติเนนทอล ไทร์ส (ประเทศไทย) จำกัด มูลค่าลงทุนเพิ่มเติม 13,411 ล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยจะก่อสร้างอาคารโรงงานใหม่และส่วนต่อขยายของโรงงานเดิม ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 4 จังหวัดระยอง เพื่อขยายกำลังการผลิตยางล้อสำหรับยานพาหนะจากเดิม 4.8 ล้านเส้น เพิ่มอีกปีละ 3 ล้านเส้น รวมเป็นทั้งหมด 7.8 ล้านเส้นต่อปี และจะจ้างงานในพื้นที่เพิ่มเติมกว่า 600 คน เมื่อรวมกับการจ้างงานเดิม 900 คน จะเป็นทั้งหมดกว่า 1,500 คน โดยจะใช้วัตถุดิบหลักจากในประเทศทั้งสิ้น ได้แก่ ยางธรรมชาติและยางสังเคราะห์ ปีละกว่า 1,700 ตัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับคอนติเนนทอลกรุ๊ป ประเทศเยอรมนี เป็นผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่อันดับ 4 ของโลก ได้ก่อตั้งมานานกว่า 150 ปี ในปี 2566 กลุ่มธุรกิจยางรถยนต์ของบริษัท สามารถสร้างรายได้กว่า 14,000 ล้านยูโร หรือกว่า 5 แสนล้านบาท มีโรงงานผลิตยางรถยนต์ 20 แห่งใน 16 ประเทศทั่วโลก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยได้เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยเป็นเวลา 15 ปี และได้จัดตั้งโรงงานที่จังหวัดระยองเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา เป็นหนึ่งในโรงงานขนาดใหญ่ในเครือคอนติเนนทัล และเป็นโรงงานที่สามารถบรรลุมาตรฐานประสิทธิภาพการใช้พลังงานในระดับสูงที่สุด โดยใช้เครื่องจักรสมัยใหม่ที่ประหยัดพลังงาน มีการใช้ระบบอัตโนมัติในการขนย้ายวัตถุดิบและสินค้า อีกทั้งได้ติดตั้งแผงโซลาร์ขนาด 6.7 เมกะวัตต์ หรือคิดเป็นสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนถึงร้อยละ 13 ของการใช้ไฟฟ้าทั้งหมดในโรงงาน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บริษัท คอนติเนนทอล ไทร์ส ตัดสินใจขยายการลงทุนครั้งนี้ เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์และรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยโรงงานในจังหวัดระยองจะเป็นฐานการผลิตสำคัญ เพื่อจำหน่ายยางล้อให้แก่ผู้ผลิตรถยนต์และผู้ใช้งานทั่วไป ทั้งในกลุ่มรถยนต์นั่ง รถบรรทุกขนาดเล็ก รถจักรยานยนต์ รวมถึงกลุ่มยางรถยนต์เกรดพรีเมียม เช่น รุ่น MaxContact MC7 และยางสมรรถนะสูงสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าจะมีความต้องการยางล้อสมรรถนะสูงและมีความทนทานเป็นพิเศษ เพื่อรองรับระบบส่งกำลังและอัตราเร่งที่แตกต่างจากรถยนต์สันดาปภายใน โดยราคายางรถยนต์ไฟฟ้าจะสูงกว่ายางรถยนต์ทั่วไปถึง 2-3 เท่า​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/10/YR77Vwhrw6JmnCGvq6Wy.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="YR77Vwhrw6JmnCGvq6Wy.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,493" style="" data-index="0"><figcaption><div>นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“การขยายลงทุนครั้งใหญ่ของคอนติเนนทอล ตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นต่อศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นฐานการผลิตยางรถยนต์ที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูงระดับโลก ทั้งในเรื่องความปลอดภัย และการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ซึ่งตามกติกาใหม่ของโลก เช่น EUDR จะต้องตรวจสอบย้อนกลับไปถึงการทำสวนยางที่ไม่ทำลายป่า เพื่อก้าวสู่วิถีเกษตรยั่งยืน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“โดยไทยมีความพร้อมในเรื่องนี้ การขยายฐานผลิตยางรถยนต์ในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบยางธรรมชาติ และยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยแล้ว ยังจะช่วยเสริมซัพพลายเชนอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยให้มั่นคงและแข็งแกร่งมากขึ้นด้วย” นายนฤตม์ กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อุตสาหกรรมยางรถยนต์ เป็นองค์ประกอบสำคัญในซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมยานยนต์ ปัจจุบันประเทศไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออกยางรถยนต์อันดับ 2 ของโลก รองจากจีน ทั้งนี้ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2563 – 2567) มีผู้ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนผลิตยางรถยนต์ จำนวน 41 โครงการ เงินลงทุนรวมกว่า 112,000 ล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยมีผู้ผลิตระดับโลกที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทยแล้ว เช่น มิชลิน (ฝรั่งเศส), บริดจสโตน (ญี่ปุ่น), กู๊ดเยียร์ (สหรัฐอเมริกา), คอนติเนนทัล (เยอรมนี), ซูมิโตโม รับเบอร์ (ญี่ปุ่น), โยโกฮามา ไทร์ (ญี่ปุ่น), จงเช่อ รับเบอร์ (จีน), ปริงซ์ เฉิงซาน ไทร์ (จีน), หลิงหลง (จีน), เซนจูรี่ ไทร์ (จีน), แม็กซิส (ไต้หวัน) เป็นต้น เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/motoring/hyundai-announces-1-billion-baht-investment-to-establish-ev-factory-in-thailand" alt="‘ฮุนได’ ประกาศลงทุน 1,000 ล้านบาท ตั้งโรงงาน EV ในไทย ตั้งเป้าผลิตรถปีละ 5,000 คัน">‘ฮุนได’ ประกาศลงทุน 1,000 ล้านบาท ตั้งโรงงาน EV ในไทย ตั้งเป้าผลิตรถปีละ 5,000 คัน</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

บีโอไอ อนุมัติ ‘คอนติเนนทอล’ ลงทุนเพิ่ม 13,000 ล้านบาท ขยายโรงงานผลิตยางรถยนต์ใน ‘ระยอง’

<h2>อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ผนึกกำลัง ทาร์ซัส กรุ๊ป พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายภาคอุตสาหกรรมยาง นำโดยการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ร่วมกันจัดงาน TyreXpo Asia 2024 งานแรกในไทยที่รวบรวมอุตสาหกรรมยางล้อระดับนานาชาติแบบครบวงจร วางเป้าเสริมแกร่งผู้ประกอบการ ตามนโยบายภาครัฐในการส่งเสริมอุตสาหกรรมยางไทย เปิดเวทีเจรจาธุรกิจ เชื่อมโอกาสทางการค้าและสร้างเครือข่ายให้กับห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมยางไทยแบบครบวงจร</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อุตสาหกรรมยางพาราไทยคือหนึ่งฟันเฟืองหลักสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ โดยที่ผ่านมาไทยถือเป็นผู้ส่งออกยางพารารายใหญ่ของโลกและมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยมีโอกาสที่ดีจากหลากหลายปัจจัยบวก ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นตัวของอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์และยานยนต์ไฟฟ้าที่มีความต้องการสูงขึ้น รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับถุงมือยาง อุปกรณ์การแพทย์ รวมถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่หนุนความต้องการยางในการก่อสร้างเช่นกัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รองผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวว่าตามที่รัฐบาลมีโยบายส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ยางพาราภายในประเทศ ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางพาราโลก กยท. จึงมุ่งเดินหน้าบริหารจัดการยางพาราของประเทศทั้งระบบตามนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ของรัฐบาล และข้อสั่งการของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เร่งขับเคลื่อนนโยบายและแนวทางเพื่อให้สอดรับกับนโยบายดังกล่าว​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/WrYsZoKWfynoM7N9Vg9z.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="WrYsZoKWfynoM7N9Vg9z.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="1553,1035" style="width: 720px; height: auto;" data-index="0"><figcaption><div>อัลวิน เซียว และสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยเฉพาะการส่งเสริมการแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางต่างๆ ซึ่งสามารถดูดซับปริมาณผลผลิตยางออกจากตลาดได้ ควบคู่ไปกับการเพิ่มขีดความสามารถทางการค้าของยางไทยในตลาดโลก โดยการยกระดับผลผลิตยาง และการจัดการระบบยางของไทยให้เป็นไปตามความต้องการและมาตรฐานสากล&nbsp; &nbsp;&nbsp;“งานมหกรรม TyreXpo Asia 2024” เป็นงานมหกรรมยางล้อระดับนานาชาติที่จัดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย ถือเป็นเวทีแสดงความพร้อมของไทยในเรื่อง EU Deforestation Regulation หรือ EUDR ผู้ใช้ยางสามารถมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์จากยางพาราไทยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านมาตรฐาน และตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งกำเนิดยางได้จริง โดยงานนี้ได้รวมเหล่าผู้ผลิตและผู้ค้าในอุตสาหกรรมยางล้อกว่า 250 แบรนด์ ถือเป็นช่องทางการตลาดที่สำคัญ และเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมยางพาราไทยเป็นอย่างมาก&nbsp; &nbsp;&nbsp;อัลวิน เซียว รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการ-เอเชียและสิงค์โปร์ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ กล่าวว่างานดังกล่าวจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญในการรวมเครือข่ายผู้พัฒนา ผู้ผลิต ผู้ค้าและผู้เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยางล้อมากที่สุดในเอเชีย-แปซิฟิก​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/yiiYd5QCRcimGH6jZmEC.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="yiiYd5QCRcimGH6jZmEC.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="750,500" style="width: 720px; height: auto;" data-index="1"></figure></div> &nbsp; &nbsp;&nbsp;การจัดงานครั้งนี้คาดว่าจะดึงดูดผู้ซื้อที่มีศักยภาพจากทั่วภูมิภาคกว่า 5,000 คน โดยได้รวบรวมแบรนด์ชั้นนำด้านยางล้อและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องอีกว่า 250 แบรนด์ เพื่อสร้างโอกาสให้กับผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศได้ขยายตลาดยางล้อ ที่ครอบคลุมถึงการซ่อมแซม บำรุงรักษายานยนต์ อุปกรณ์อะไหล่ยางยนต์ และอุปกรณ์เสริมยางล้อ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พร้อมกันนี้จะได้พบกับโชว์เคส การนำเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดมาพัฒนา รวมถึงขนทัพผู้เชี่ยวชาญมาร่วมแชร์ประสบการณ์ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจจากอุตสาหกรรมยางในอนาคต&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ภายในงานได้เชิญผู้ซื้อจากต่างประเทศกว่า 100 คน ร่วมเจรจาเพื่อต่อยอดความร่วมมือทางธุรกิจ รวมทั้งมีการจัดสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับองค์ความรู้ นวัตกรรมการหล่อดอกยาง และอีกหลายหัวข้อครอบคลุมอุตสาหกรรมยางล้อ ทั้งนี้งานดังกล่าวจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 -17 พฤษภาคม 2567 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/motoring/thai-ev-neta-v-ii-april-2024" alt="NETA เริ่มแล้ว! ผลิตรถ EV ในไทยเพื่อคนไทย ประเดิมรุ่นแรกพร้อมส่งเมษายนนี้">NETA เริ่มแล้ว! ผลิตรถ EV ในไทยเพื่อคนไทย ประเดิมรุ่นแรกพร้อมส่งเมษายนนี้</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ครั้งแรกในไทย! TyreXpo Asia 2024 มหกรรมยางล้อระดับนานาชาติ

<h2>บริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น ประกาศแผนงานสนับสนุนการจัดแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตประจำปี 2566 ด้วยการฉลองครบรอบ 60 ปี ผ่านกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ต 
 </h2><h2>&nbsp; &nbsp;&nbsp;บริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น ประกาศแผนงานสนับสนุนการจัดแข่งขัน มอเตอร์สปอร์ตประจำปี 2566 ด้วยการฉลองครบรอบ 60 ปี ผ่านกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ต ซึ่งในปีนี้ บริดจสโตนพร้อมสนับสนุนวงการมอเตอร์สปอร์ตทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งแต่รายการแข่งขันระดับมืออาชีพไปจนถึงการแข่งขันของมือสมัครเล่น&nbsp; </h2>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยบริดจสโตนจะสนับสนุนยาง Bridgestone POTENZA และยาง Firestone FIREHAWK สำหรับการแข่งขันรถยนต์ และยังมียาง Bridgestone BATTLAX สำหรับการแข่งขันรถจักรยานยนต์ บริดจสโตนจะยกระดับกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกโฉมใหม่และมุ่งสู่การเป็น “แบรนด์พรีเมียมระดับโลกที่มุ่งสู่ความยั่งยืน” เช่นเดียวกับ “การสนับสนุนวัฒนธรรมมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ยังสนับสนุนการขับขี่รถยนต์ด้วยความปลอดภัยและมอบความอุ่นใจในช่วงเวลาของการแข่งขันเมื่อเหล่านักขับต้องเผชิญกับเงื่อนไขและสถานการณ์สุดท้าทาย ภายใต้หลักพื้นฐานของบริษัทที่ว่า “ยางดูแลชีวิต (tires carry life)”&nbsp; <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 450px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/04/6bkhSv6N4VsngF65G6kG.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="450px,172px" data-align="center" data-file-name="6bkhSv6N4VsngF65G6kG.jpg" data-file-size="0" origin-size="450,172" data-origin="450px,172px" style="width: 450px; height: 172px;" data-index="0"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ซึ่งในสถานการณ์สุดท้าทายดังกล่าว บริดจสโตนส่งมอบความภาคภูมิใจและความหลงใหลทั้งสี่ประการใน “Bridgestone DNA” ได้แก่ “การมุ่งเน้นคุณภาพ”, “การให้ความสำคัญกับหน้างาน”, “การให้ความสำคัญและสนับสนุนปัญหาของลูกค้า” และ “จิตวิญญาณแห่งความท้าทาย” ด้วยเทคโนโลยี, ความสามารถในการดำเนินงานอย่างครอบคลุม, ความแข็งแกร่งของแบรนด์ และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในประเทศญี่ปุ่น บริดจสโตนจะสนับสนุนยางสำหรับการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการ SUPER GT และการแข่งขันรถจักรยานยนต์รายการ All Japan Road Race Championship&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยในต่างประเทศ บริดจสโตนจะเป็นผู้สนับสนุนยางภายใต้แบรนด์ Firestone ในอเมริกาเหนือ สำหรับการแข่งขันรถยนต์รายการ NTT INDYCAR® SERIES *2 และสำหรับการสนับสนุนยางสำหรับการแข่งรถในต่างประเทศรายการอื่นๆ ได้แก่ รายการ Endurance World Championship (EWC) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรายการการแข่งขันรถจักรยานยนต์ที่น่าตื่นเต้นเร้าใจระดับโลก จัดโดย Federation Internationale de Motocyclisme (FIM)&nbsp; <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/04/W7TwiEwRS8NgF4eSfG37.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="W7TwiEwRS8NgF4eSfG37.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับแผนงานสนับสนุนการจัดแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตในปีนี้ยังรวมถึงการสนับสนุนการแข่งขันรถยนต์รายการ TOYOTA GAZOO Racing GR86/BRZ Cup ซึ่งเป็นการแข่งขันรถยนต์สุดเร้าใจของยางที่ถูกใช้จริงบนท้องถนน และกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตของมือสมัครเล่น รวมถึงรายการ All-Japan Gymkhana Championship และ Mazda Grassroots Motorsport&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บริดจสโตนยังคงมุ่งมั่นพัฒนาและปรับปรุงเทคโนโลยี รวมถึงความสามารถที่ครอบคลุมของยางที่ใช้ในสนามแข่งอย่างต่อเนื่อง และแสดงความทรงพลังของแบรนด์ผ่านการแข่งขันกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตรายการต่างๆ ได้แก่ การแข่งขันระดับมืออาชีพทั่วโลก ซึ่งจำเป็นต้องใช้ยางสมรรถนะสูงเมื่อต้องเผชิญกับสภาวะและสถานการณ์สุดท้าทายในสนามแข่ง เช่นเดียวกับการส่งมอบ “ความตื่นเต้นเร้าใจในการขับขี่”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทางด้านกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกที่มุ่งสู่ความยั่งยืน บริษัทมุ่งสนับสนุนการแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge *3 ซึ่งเป็นการแข่งขันรถยนต์ระดับโลกด้วยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ จัดขึ้นในประเทศออสเตรเลีย โดยบริดจสโตนเป็นผู้สนับสนุนหลักมาตั้งแต่ปี 2556&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ทางบริดจสโตนได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ คือ การรับรองด้านสิ่งแวดล้อมระดับ 3 ดาว จาก FIA (Three Star of Environmental Accreditation from FIA) หรือ Federation Internationale de l’Automobile ซึ่งเป็นสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติที่ไม่แสวงหาผลกำไรโดยจะควบคุมกีฬาและการแข่งขันกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ต *4&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ในปี 2566 บริดจสโตนยังเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของการแข่งขันรายการ Bridgestone FIA ecoRally Cup *5 ซึ่งเป็นการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้าระดับนานาชาติโดย FIA นับเป็นการขยายบทบาทของบริดจสโตนในการสนับสนุนกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกที่มุ่งสู่ความยั่งยืน <div> </div>อ่านเพิ่มเติม:&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/it/whoscall-%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%9B%E0%B8%B5-2565-%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A2%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%89%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%87-%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2-13-%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C" alt="Whoscall รายงานประจำปี 2565 เผยยอดสายมิจฉาชีพพุ่ง 165% เบอร์มือถือคนไทยรั่วไหลกว่า 13 ล้านเบอร์"></a><a href="https://www.forbesthailand.com/news/global/3-%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%B5%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81-%E0%B8%9B%E0%B8%B5-2023" alt="3 อันดับมหาเศรษฐีไทยติดอับดับ &quot;มหาเศรษฐีโลก ปี 2023&quot;">3 อันดับมหาเศรษฐีไทยติดอับดับ "มหาเศรษฐีโลก ปี 2023"</a>​<hr class="__se__solid">​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events