<h2>VERTIER จับมือ ศิลปินป็อบอาร์ต 'โอ่ง กงพัฒน์' เปิดตัวเฟอร์นิเจอร์คอลเลกชันใหม่ ‘ONGRHYTHM' พร้อมปลุกความสนุก กระตุ้นจินตนาการ ผ่านเฟอร์นิเจอร์หลากสีสันที่ออกแบบดีไซน์มาได้สุดมัน ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;VERTIER แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชื่อดังของไทย พร้อมสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่ผู้ใช้งานเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้าน ซึ่งนอกเหนือจากการตอบโจทย์ในเรื่องของประโยชน์การใช้งานแล้ว การ Collaboration ผนึกกำลังร่วมกับศิลปินป๊อบอาร์ตระดับแถวหน้าของเมืองไทย อย่าง 'โอ่ง กงพัฒน์' ในการเปิดตัวคอลเลกชันใหม่&nbsp;“ONGRHYTHM” ยังช่วยตอบโจทย์ในเรื่องของการเติมเต็มจิตวิญญาณผ่านผลงานศิลปะที่ออกแบบมาได้อย่างสวยงาม โดดเด่น มีชีวิตชีวา สนุกสดใส ถือเป็นตัวช่วยปลุกพลังของความเป็นคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบ 'เฟอร์นิเจอร์จากศิลปะ' ไว้ได้อย่างกลมกลืนและลงตัว <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/05/iw33o98W9cNnDa4Tn8fe.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="iw33o98W9cNnDa4Tn8fe.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div>​ ก่อนจะตกผลึกออกมาเป็นคอลเลกชัน “ONGRHYTHM”&nbsp; &nbsp; ทีมออกแบบ Design ของ&nbsp;VERTIER ต้องมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนแนวคิดร่วมกับ 'โอ่ง&nbsp;กงพัฒน์'&nbsp;เพื่อให้เกิดความเข้าใจและจะได้ถ่ายทอดความเป็นตัวตนของศิลปินสไตล์ป็อบอาร์ต ที่มีบุคลิกโดดเด่น ชัดเจน มีพลัง และยังเป็นคนร่าเริง สนุกสนาน ร่าเริง ชื่นชอบเสียงดนตรี โดยคุณโอ่งมักปล่อยตัวเองให้เคลื่อนไหวไปกับจังหวะเพลงอยู่เสมอ ซึ่งบุคลิกดังกล่าวยังสอดคล้องและตอกย้ำความหมายของชื่อแบรนด์ VERTIER ได้อย่างแท้จริง <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/05/BEwDQV6orKPNWuwjRo1y.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="BEwDQV6orKPNWuwjRo1y.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วรวุฒิ จันทวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี เดคคอร์ จำกัด&nbsp;กล่าวว่า&nbsp;"เราต้องการสร้างคอลเลกชันที่แสดงให้เห็นฝีมือ ความคิดสร้างสรรค์ สะท้อนตัวตนของคุณโอ่ง กงพัฒน์ ออกมาให้ชัดเจนได้มากที่สุดชื่อคอลเลกชัน ONGRHYTHM ยังเป็นการผสมผสานระหว่างชื่อของศิลปิน “Ong” กับคำว่า “Rhythm” (จังหวะ) ซึ่ง&nbsp; แนวคิดนี้ถูกถ่ายทอดอย่างละเอียดลงบนเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น ตัวอย่างเช่น โซฟา ‘Stop Me Now’ ที่ดึงเอกลักษ์ภาพวาด crocodog ของคุณโอ่ง กงพัฒน์ มาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบนั่นเอง"&nbsp; <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/05/5PyYZgeR5D6tF3csvDk1.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="5PyYZgeR5D6tF3csvDk1.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้าน โอ่ง กงพัฒน์&nbsp;ศักดาพิทักษ์ ศิลปินผู้ออกแบบสร้างสรรค์ผลงาน&nbsp;เผยถึงแรงบันดาลใจหลักของคอลเลกชันนี้เกิดจากการที่เขามองลึกเข้าไปข้างในตัวเองแล้วพบว่า...หัวใจสำคัญของทุกงานศิลปะที่เขาเลือกทำก็คือ “ความสนุก” และนี่คือสิ่งที่เขาอยากจะส่งต่อไปให้ผู้อื่นได้สัมผัสผ่านผลงาน "เฟอร์นิเจอร์จากศิลปะ" ที่เขาและ VERTIER ได้ร่วมมือกันในครั้งนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;และในฐานะศิลปินที่สั่งสมประสบการณ์อยู่ในแวดวงศิลปะและแฟชั่นมานาน ศิลปินป็อบอาร์ตคนดังรายนี้ ยังฝากถึงน้องๆ ว่าที่ศิลปินงานอาร์ตในอนาคตด้วยว่า "การจะเป็นศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานออกมาได้ดี จะต้องหาเอกลักษณ์ความเป็นตัวเองและสะท้อนสิ่งนั้นออกมาให้ได้ ยุคนี้เทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้น เราสามารถดีไซน์ออกแบบผลงานศิลปะผ่านมือถือ คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องมืออื่นๆ ได้ง่ายมาก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด เราควรจะมีเทคนิคการสร้างสรรค์ผลงานจริงๆ จากฝีมือของเรา อย่างผมเองโดดเด่นในเรื่องของการสะบัดแปรง ถนัดในการใช้แปรงลงสี รวมถึงการใช้โทนหลักที่มีสีสันสดใส ลายเส้นขีดๆ เขียนๆ ของเราก็เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร นี่ก็น่าจะเป็นผลให้เราได้มาทำงาน ร่วมกับ VERTIER" <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/05/V7Mtiq9HqcvetZPeESp5.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="V7Mtiq9HqcvetZPeESp5.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="3"></figure></div>​ &nbsp; &nbsp; สำหรับไฮไลท์เด่นของเฟอร์นิเจอร์คอลเลกชันนี้ที่และยังได้นำมาจัดแสดงโชว์ภายในงาน ก็คือ&nbsp;โต๊ะสุดพิเศษภายใต้ชื่อ “This is My Masterpiece” ถือเป็นผลงาน Limited Edition เพียงหนึ่งเดียวในโลกเพราะ โอ่ง กงพัฒน์ ได้ลงมือเพนต์ลวดลายด้วยตัวเองทั้งชิ้น ถ่ายทอดเอกลักษณ์และความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่บนพื้นผิวโต๊ะที่ผลิตขึ้นด้วยวัสดุคุณภาพดีจาก VERTIER <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/05/nZSqUJQcJKaFTftkwLwZ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="nZSqUJQcJKaFTftkwLwZ.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="4"></figure></div> <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/05/NMi9B9sofj2ZvdzybBMi.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="NMi9B9sofj2ZvdzybBMi.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="5"></figure></div>​ &nbsp; &nbsp; อย่างไรก็ตาม การจัดงานในครั้งนี้ทางบริษัทมีวัตถุประสงค์หลักในการยกระดับการรับรู้คุณค่าของเฟอร์นิเจอร์ไทย ทั้งในเชิงศิลป์และการใช้งาน รวมถึงการเปิดมุมมองใหม่ที่ท้าทายความคิดเดิมๆ เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์และศิลปะ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ อีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของการจัดงานเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ ก็คือการได้เผยแพร่และสนับสนุนผลงานของ 'ศิลปินไทย' ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นทั้งในประเทศและตลาดสากล ต่อเนื่องไปถึงการสร้างแรงบันดาลใจให้วงการศิลปะและการออกแบบร่วมสมัยในประเทศไทยเติบโตอย่างแข็งแรงมากยิ่งขึ้นนั่นเอง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับผู้สนใจสามารถชื่นชมงานคอลเลกชัน ONGRHYTHM นี้ ได้ที่ VERTIER Flagship Store ราชดำริ เปิดทำการทุกวัน เวลา: 10:30 - 19:00 น.​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/05/teRvPTdFCMpJK1A9JZS8.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="teRvPTdFCMpJK1A9JZS8.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="6"></figure></div>​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/05/F3VMbYXbbjU7G3dLZoXa.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="F3VMbYXbbjU7G3dLZoXa.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="7"></figure></div>​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/05/h8t6ZZSQAxYdrWJ3Mwpa.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="h8t6ZZSQAxYdrWJ3Mwpa.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="8"></figure></div>​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/05/diG4RXovhyxgqLk2JHMU.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="diG4RXovhyxgqLk2JHMU.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="9"></figure></div> ภาพ : VERTIER เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/forbes-life/the-eye/burberry-beauty-opens-new-store-at-mega-bangna-with-beyond-wear-makeup-collection" alt="Burberry Beauty เปิดตัวสโตร์แห่งใหม่ ณ เมกาบางนา พร้อมเสิร์ฟความงามไร้ที่ติ ผ่านเมคอัพ คอลเลกชัน 'Beyond Wear'">Burberry Beauty เปิดตัวสโตร์แห่งใหม่ ณ เมกาบางนา พร้อมเสิร์ฟความงามไร้ที่ติ ผ่านเมคอัพ คอลเลกชัน 'Beyond Wear'</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

VERTIER จับมือศิลปิน 'โอ่ง กงพัฒน์' เปิดตัวเฟอร์นิเจอร์สีสันสดใส ในคอลเลกชัน 'ONGRHYTHM'

<h2>หลังจากที่ Zang Toi เดินทางจากมาเลเซียมาถึง New York ได้ไม่นาน เขาก็เปิดตัวแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตนเอง ทุกวันนี้เขาชอบสวมกระโปรงสั้นจับจีบ และยังเป็นเจ้าของผลงานออกแบบเสื้อผ้าให้กับสตรีที่มีชื่อเสียงมากมาย</h2>
&nbsp;

สตูดิโอกลาง Manhattan ของ Zang Toi ดีไซเนอร์ชาวมาเลเซีย ประดับด้วยโคมระย้าคริสตัลพร้อมดอกกล้วยไม้สีขาว และมีชุดราตรียาวตั้งโชว์สนนราคาเริ่มต้นที่ 13,000 เหรียญสหรัฐฯ ในห้องมีภาพขาวดำไซส์เล็กใส่กรอบเงินอยู่ภาพหนึ่งในภาพคือ Zang Toi วัยเด็กกับพี่ชายชะโงกหน้าออกมาจากหน้าต่างชั้นบนของร้านขายของชำแห่งหนึ่ง บานเกล็ดไม้เปิดออก เด็กชายทั้งสองถือประทัดไว้ในมือ

&nbsp;

พ่อแม่ของ Toi เป็นเจ้าของร้านค้าแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้าน Kuala Kerai ตอนในของคาบสมุทรมลายู Toi เป็นลูกคนเล็กจากจำนวนพี่น้องรวมทั้งสิ้น 7 คน ในวัยเด็กเขามีหน้าที่เติมสินค้าในร้านจดบัญชีรายรับ-รายจ่ายและทำทุกอย่างที่จะช่วยได้ “นั่นแหละที่ปลูกฝังจิตวิญญาณแห่งการเป็นผู้ประกอบการ ผมชอบค้าขายครับ” Toi กล่าว

&nbsp;

ย้อนกลับไปเมื่อปี 1990 Zang Toi สร้างชื่อให้กับตัวเองเมื่อแจ็กเก็ตและกระโปรงสีส้มม่วง และชมพูสด ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากขนมเค้กกับดอกไม้มาเลเซีย ทำให้เขาได้ปรากฏในบทความตีพิมพ์ในนิตยสาร Vogue ว่าเป็นดาวรุ่งแห่งทศวรรษ นับแต่นั้นเป็นต้นมา เขาก็มีรายชื่อลูกค้ายาวเหยียดไม่ว่าจะเป็น Sharon Stone, Elizabeth Taylor, Melinda Gates, Kirstie Alley, Patti LaBelle และ Ivana Trump รวมทั้งสมาชิกราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย ตลอดจนสมาชิกตระกูล Hearst อีก 1-2 คน

&nbsp;

แม้จะอยู่ในแวดวงธุรกิจนี้มายาวนานถึง 30 ปี แต่ Toi ก็ยังรู้สึกไม่เต็มอิ่ม ในช่วงที่มีการจัดงาน New York Fashion Week เมื่อเดือนที่ผ่านมานั้น เขาจึงเปิดร้านเสื้อ Zang Toi แบบสแตนด์อะโลนขึ้นมาเป็นสาขาแรกโดยเป็นหน้าร้านขนาด 800 ตารางฟุต (72 ตารางเมตร) ตั้งอยู่ที่ Lexington Avenue ใกล้ๆ กับ 75th Street

&nbsp;

นอกจากนี้เขายังทำธุรกิจอื่นไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ Zang Toi Café ที่ Kuala Lumpur และยังออกแบบการ์ดอวยพรแบรนด์ Zang Toi ให้กับ Papyrus ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจเครื่องเขียนทางอเมริกาเหนือ Toi บอกว่าธุรกิจของเขานั้น “มีขนาดเล็ก แต่ทำกำไรได้ดี” โดยมีรายได้ปีละ 5-7 ล้านเหรียญธุรกิจแฟชั่นของ Toi ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสมาชิกครอบครัวที่เป็นผู้หญิง อย่างคุณแม่ของเขาก็เป็นคนในยุคที่สวมกี่เพ้าจีนทุกวัน “แม่ของผมไม่ใช่นักช็อปเลยครับ”

&nbsp;

Zang Toi จำได้ว่าเขาซื้อนิตยสาร Vogue ให้กับตัวเองเป็นครั้งแรก จากนั้นจึงทำภาพปะติดตามโจทย์สำหรับใช้ยื่นส่งเข้าสมัครเรียนเขาได้รับการตอบรับจากทั้ง Parsons และ The Fashion Institute of Technology ที่ New York พ่อของเขาบอกว่ามีเงินพอสมทบค่าเล่าเรียนให้ได้ แต่แทบจะไม่พอค่าใช้จ่ายอื่นๆ เลย Toi จึงเดินทางไปยัง Parsons โดยมีเงินติดตัว 300 เหรียญ และลงมือทำงานพิเศษเป็นผู้ช่วยนักออกแบบเสื้อถักอยู่ที่ SoHo เพื่อหาเงินเป็นค่าเช่า ค่าอาหาร และอุปกรณ์ศิลปะ

&nbsp;

หลังจบการศึกษาในปี 1984 Zang Toi ยังคงทำงานให้กับนักออกแบบคนเดิม (Mary Jane Marcasiano) ต่ออีกหลายปีทีเดียวจนกว่าจะเปิดแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเอง หลังจากเปิดธุรกิจมาได้ 2 เดือนเต็ม ผลงานของเขาก็ไปเข้าตาบรรณาธิการ Vogue

&nbsp;

ด้านลูกค้าของ Zang Toi ก็ดูเหมือนจะชื่นชอบเขาทั้งในฐานะนักออกแบบและเพื่อนคนหนึ่งเลยทีเดียว อาทิ Patti LaBelle ศิลปินนักร้องสาวที่สวมเสื้อผ้าของ Zang Toi มากว่า 15 ปี เธอบอกว่า “การตัดเย็บของเขาเข้ากับตัวฉันพอดี" เขาสามารถตัดเย็บเสื้อผ้าที่เผยให้เห็นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว LaBelle ขึ้นแสดงในงาน Women of Soul ของทำเนียบขาวต่อหน้าประธานาธิบดี Barack Obama กับสตรีหมายเลขหนึ่ง Michelle Obama เธอสวมเสื้อคลุมของ Zang Toi เป็นเสื้อคลุมสีเขียวประดับลูกปัดร้อยด้วยมือ กางเกงผ้าไหมสีดำและเสื้อสตรี เธอบอกว่าประธานาธิบดีถึงกับกล่าวชมชุดที่เธอสวมในวันนั้น ทุกๆ วันเกิดของเธอ Toi ยังคงส่งดอกไม้ให้เธอทุกครั้ง “เขาเหมือนน้องชายฉัน เขาเป็นคนสำคัญจริงๆ”

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/724352c0b4dcfa40184e9fe3ad5d1dae.png" alt="" />

&nbsp;

ธุรกิจของ Toi มีขนาดเล็ก มีทีมงานรวมเพียง 17 คนเท่านั้น ประกอบด้วยช่างแก้ทรงผ้า ช่างเย็บผ้า ช่างตัด ผู้ช่วย 2 คนและผู้จัดการสำนักงานอีก 1 คน ทำงานกันบนพื้นที่ขนาด 3,000 ตารางฟุตบนชั้น 20 ของอาคารระฟ้าแห่งหนึ่งใน Manhattan นี่คือสิ่งที่เขาภาคภูมิใจ และเขาก็บริหาร จัดการงานประชาสัมพันธ์ด้วยตัวเอง

&nbsp;

ทุกวันนี้ เขาบอกว่าตัวเองเป็น “รัฐบุรุษอาวุโส” แห่งวงการ เขาดีใจเหลือเกินที่ได้เห็นดีไซเนอร์ดาวรุ่งชาวเอเชียแจ้งเกิดในสหรัฐฯ คนแล้วคนเล่า ไม่ว่าจะเป็น ฐากูร พานิชกุล ซึ่งเกิดในประเทศไทย หรือ Jason Wu ซึ่งเกิดที่ไต้หวันและเป็นผู้ออกแบบเสื้อผ้าให้กับ Michelle Obama ในขณะที่เขากับดาวรุ่งดวงใหม่ๆ ที่แจ้งเกิดตามมา มีโอกาสลัดฟ้าไปสร้างชื่อไกลถึง New York แต่ Toi เองกลับมองว่าศูนย์กลางแฟชั่นที่ทรงอิทธิพลเริ่มเปลี่ยนไปและกระจายอยู่ทั่วโลกแล้ว เช่น ประเทศจีน ที่ครั้งหนึ่งมองกันว่าเป็นฐานการผลิตต้นทุนต่ำที่ต้องก้าวผ่านประวัติศาสตร์อันยาวนาน ผ่านการสั่งสมทางวัฒนธรรมหลากหลาย และยุคเศรษฐีใหม่ จนกลายเป็นนครหลวงแห่งแฟชั่น ในปัจจุบันได้ Toi บอกว่าอาจจะต้องใช้เวลา10 ปี 15 ปี หรือ 20 ปี แต่จะต้องเกิดขึ้นแน่นอน

&nbsp;

เรื่อง: Chen May Yee เรียบเรียง: ปาริชาติ ชื่นชม

<hr />

<a href="http://goo.gl/u2N4Vq">อ่านฉบับเต็ม "เกิดมาเพื่อแฟชั่น" ได้ใน นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับ ธันวาคม 2560 ในรูปแบบ E-Magazine</a>
<a href="https://goo.gl/u2N4Vq"><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/9892ea8dd2d1ef0f1da34a50a8317e02.jpg" alt="" /></a>
<div class="txt-writer"></div>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events