แนะนำบริการ WEALTH ครบวงจรกับ บล. คลื่นลูกใหม่ บริษัทหลักทรัพย์ ไพน์ เวลท์ โซลูชั่น
มุ่งมั่นตอบสนองความต้องการลูกค้าและนักลงทุน ลุยธุรกิจ Wealth Management ที่แตกต่างด้วยรูปแบบ AGILE Wealth Management ส่งทีมมือทองส่องโอกาสการลงทุนเด็ดทั่วโลกพร้อมบริการครบวงจร
พจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด ได้เปิดตัวบริษัทหลักทรัพย์ ไพน์ เวลท์ โซลูชั่น จำกัด เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเพื่อดำเนินธุรกิจ Wealth Management โดยทีมงานวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งเคยทำงานในส่วนงาน Wealth Management สถาบันการเงินต่างประเทศมาคัดเลือกและแนะนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินแบบครบวงจรให้แก่ลูกค้าและนักลงทุน
“บล.ไพน์มีทีมงานที่มีประสบการณ์ด้านการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เคยผ่านการทำงานในลักษณะเดียวกันในสถาบันการเงินต่างประเทศ มีความเชี่ยวชาญในการค้นหาและวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์การลงทุนและวางแผนจัดสรรเงินลงทุน เพื่อให้บริการที่เหมาะสมกับลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและใกล้ชิดมากที่สุด”
พจน์กล่าวว่า วรรณเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนทั้งในและต่างประเทศมาตลอด 30 ปี ซึ่งได้พิสูจน์มาแล้วจากการเติบโตในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นทีมผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ย้ายจากวรรณไปอยู่ไพน์จะช่วยเสริมคุณภาพการบริการควบคู่ไปกับการบริหารผลตอบแทนบนประเภทสินทรัพย์การลงทุนที่กว้างขึ้นได้อย่างเต็มศักยภาพ
กลุ่มเป้าหมายกลุ่มแรกที่ไพน์มุ่งเน้นในช่วงเริ่มต้น ได้แก่ ลูกค้าและนักลงทุนของวรรณที่อยู่กับบริษัทมายาวนานหรือมีเงินลงทุนสูงซึ่งบริษัทจัดอยู่ใน Eternity segment และจะขยายฐานลูกค้าออกไปโดยเริ่มจากกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในเจนเนอเรชั่น Baby Boomer และ Gen X ไปยัง Gen Y, Millennial และ Gen Z ให้มากขึ้น โดยเฉพาะ Gen Y ที่มีความเชื่อใจในบลจ.วรรณส่งต่อมาจากรุ่นก่อนหรือรุ่นพ่อแม่ มีความรู้ความเข้าใจในการลงทุน เข้าถึงข้อมูลเร็ว ทันสมัย ต้องการบริการที่แตกต่าง ต้องการลงทุนบนผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนได้สูงสุด
สุรศักดิ์ ธรรมโม กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ไพน์ เวลท์ โซลูชั่น จำกัด กล่าวว่า บริษัทวางเป้าหมายเป็น ONE-Stop Financial Service ให้กับนักลงทุน โดยมีผู้เชี่ยวชาญและผู้แนะนำการลงทุนของ บล.ไพน์ ช่วยออกแบบพอร์ตการลงทุนให้เหมาะกับนักลงทุนแต่ละประเภทตามสถานการณ์เศรษฐกิจและความเสี่ยงที่นักลงทุนยอมรับได้ และมีผลิตภัณฑ์การลงทุนที่กว้างขึ้น
“ผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เราแนะนำให้ลูกค้าและนักลงทุนจะไม่ได้กระจุกตัวอยู่แค่การลงทุนในไทยเท่านั้น แต่รวมถึงตลาดต่างประเทศด้วย ซึ่งตลาดการลงทุนในต่างประเทศนั้นมีความหลากหลายมากและยังมีสินทรัพย์ในการลงทุนให้ค้นหา เพื่อเปิดโอกาสสร้างผลตอบแทนได้อีกมาก”
สำหรับจุดเด่นของบล.ไพน์ที่แตกต่างคือการนำทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถในวิเคราะห์การลงทุนได้อย่างยอดเยี่ยม (Analytics) มารวมเข้ากับผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลายและครอบคลุมทั่วโลก (Global) แล้วเสริมด้วยนวัตกรรมและแพลตฟอร์มการลงทุน (Innovative) ให้เข้ากับตัวลูกค้าและนักลงทุน (Lifestyle) ผ่านขั้นตอนการลงทุนที่เข้าถึงง่ายและรายงานการลงทุนที่เข้าใจง่าย (Efficient) จนได้ออกมาเป็นรูปแบบ AGILE Wealth Management
บล.ไพน์จะเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุนให้กับผู้ลงทุนโดยให้คำแนะนำครบทุกผลิตภัณฑ์การลงทุนในรูปแบบ Selective Open Architecture ผ่านกองทุนรวมจาก บลจ.ชั้นนำในประเทศและต่างประเทศ ตราสารหนี้ในตลาดแรก หุ้นกู้อนุพันธ์ (Structured Notes) ซึ่งอาจรวมถึงผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสินทรัพย์ดิจิตัลในอนาคต
“เราวางเป้าหมายเริ่มต้นด้วย AUA (Asset Under Advisory) เดิมประมาณ 2 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะมีการเติบโตเฉลี่ยปีละ 15% และจะเติบโตไปเป็น 4 หมื่นล้านบาทภายใน 3-5 ปีนี้” สุรศักดิ์กล่าว
สำหรับแผนธุรกิจช่วงแรกจะเริ่มต้นนำร่องด้วยผลิตภัณฑ์กองทุนรวมในประเทศที่เป็นที่คุ้นเคยผ่านระบบ FundConnext และ Streaming for Fund ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และจะเริ่มเสนอผลิตภัณฑ์กองทุนรวมทั่วโลกในรูปแบบลงทุนตรง (Direct Offshore) ผลิตภัณฑ์ตราสารหนี้โดยเฉพาะในตลาดแรกหรือ IPO รวมถึงการให้คำแนะนำแบบ Asset Allocation ทั้งการลงทุนระยะยาว (Strategic Asset Allocation: SAA) การลงทุนระยะสั้นถึงกลาง (Tactical Asset Allocation: TAA) และการลงทุนแบบจับจังหวะตลาด (Trading Ideas) ให้เหมาะกับลูกค้า
เมื่อลูกค้าเห็นความสามารถและยินดีรับคำแนะนำเพิ่มมากขึ้น บริษัทจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความซับซ้อนเพิ่มขึ้น เช่น หุ้นกู้อนุพันธ์ มาเสริมความแข็งแกร่งในด้านผลตอบแทนให้กับพอร์ตลงทุน โดยในอนาคต บริษัทวางแผนที่จะขอใบอนุญาตเพิ่มเติม เพื่อนำผลิตภัณฑ์ประเภทประกันชีวิต ผลิตภัณฑ์ดิจิทัลต่างๆ เพื่อให้ไพน์สามารถแนะนำผู้ลงทุนได้ครบวงจร โดยนอกจากจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจให้กับองค์กรแล้ว ยังช่วยให้เจ้าหน้าที่การตลาดและตัวแทนอิสระมีทางเลือกและรูปแบบผลิตภัณฑ์ครอบคลุมและทันสมัยมากขึ้นรวมทั้งตอบโจทย์นักลงทุนมากขึ้นด้วย
พจน์กล่าวเสริมว่า เป้าหมายของ บล.ไพน์ ที่ผู้บริหารของบริษัทตั้งใจจะยึดมั่น คือ การแสวงหาโอกาสการลงทุนในรูปแบบใหม่ๆ และโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้นให้กับผู้ลงทุนทั้งบุคคลและนิติบุคคล โดยเรามุ่งจะเป็นผู้นำร่องในผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้กับอุตสาหกรรม ซึ่งจะเห็นตัวอย่างใน 2-3 ปีที่ผ่านมา ทีมผู้บริหารได้นำผลิตภัณฑ์การลงทุนรูปแบบใหม่ๆ เข้ามาในตลาดเสมอ เช่น กองทุน Life Settlement ที่เป็นการลงทุนบนกรมธรรม์ประกันชีวิตในตลาดรองของสหรัฐอเมริกา เข้ามาเสนอต่อนักลงทุนเป็นรายแรกในประเทศไทย ซึ่งผู้บริหารของ บล.ไพน์ คือกลุ่มคนหลักๆ ที่ทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้
“ในปีที่ผ่านมา หนึ่งในกองทุนที่ติดอันดับหนึ่งของประเทศ คือ กองทุนเปิด วรรณ โกลบอล อีคอมเมิร์ซ (ONE-GECOM) ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ โดยทำผลตอบแทนได้ถึง 118% จากการผสมผสานระหว่างการคัดเลือกผู้จัดการกองทุนและเซกเตอร์ที่น่าให้ผลตอบแทนในการลงทุนที่เหนือกว่าการลงทุนปกติอย่างเช่นการลงทุนในธุรกิจที่เน้นการเติบโต เช่น หุ้นเทคโนโลยี และ eCommerce ประกอบกับคำแนะนำในการจัดสรรพอร์ตการลงทุนของเจ้าหน้าที่การตลาดทำให้ผู้ลงทุนสร้างผลตอบแทนบนพอร์ตการลงทุนมากขึ้นสูงสุดถึง 30% ในบางพอร์ต ทำให้เราได้รับความไว้วางใจเป็นอย่างมากในการดูแลลูกค้า”
สำหรับเป้าหมายในปีนี้ วรรณ จะยังให้ความสำคัญกับการเติบโตของ AUM (Asset Under Management) เหมือนเดิม โดยปัจจุบัน AUM ของวรรณได้แตะจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.8 แสนล้านบาท จาก 4 ปีก่อนที่ 9.8 หมื่นล้านบาท โดยในปี 2564 เพียงปีเดียว AUM เพิ่มเข้ามากว่า 3 หมื่นล้านบาท
“เราเติบโตอย่างรวดเร็วและตั้งเป้าเดินหน้าเต็มที่ในการขยายธุรกิจและยกระดับบริษัทสู่ระดับภูมิภาค บริษัทมีทีมงานที่นำร่องเรื่องธุรกิจใหม่เน้นผลิตภัณฑ์ทางการเงินในรูปแบบใหม่ๆ มากขึ้นกว่าเดิม เพราะต้องหาความแตกต่างเพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนให้กับลูกค้า เมื่อมีโอกาสเราจะพยายามมองหาพันธมิตรทางธุรกิจและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เสมอตามสโลแกนของเรา Activate Opportunities” พจน์กล่าวทิ้งท้าย
ขณะนี้บล.ไพน์ อยู่ระหว่างขั้นตอนสุดท้ายในการขอดำเนินธุรกิจกับทาง ก.ล.ต. และจะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้
TAGGED ON