เขาใหญ่ฟื้นตัวท่องเที่ยวคึกคัก “IHG” ปักธงอินเตอร์คอนฯ พ่วงจุดขายอีโคทัวริซึ่ม - Forbes Thailand

เขาใหญ่ฟื้นตัวท่องเที่ยวคึกคัก “IHG” ปักธงอินเตอร์คอนฯ พ่วงจุดขายอีโคทัวริซึ่ม

ฤดูฝนที่ผ่านมาป่าเขียวขจี การท่องเที่ยวเขาใหญ่เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง ผู้ประกอบการในพื้นที่ขยับแผนการตลาด ขณะที่เชนโรงแรมดัง IHG นำแบรนด์หรู InterContinental เข้าเปิดตัว พร้อมกลยุทธ์บูมแหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่น เพิ่มจุดขายใหม่ธีม "โรงแรมรถไฟย้อนยุค"


    ราวกลางเดือนกันยายนสายฝนยังคงโปรยปราย มรสุมหลายลูกที่ถาโถมเข้าประเทศเพื่อนบ้านกระทบมาถึงไทยในหลายพื้นที่ ทำให้ต้นไม้ดูเขียวครึ้มเพิ่มเสน่ห์เขตป่าร้อนชื้นได้อย่างชัดเจน “เขาใหญ่” ดูจะตอบรับโอกาสนี้ได้ดี เพราะตลอด 2-3 เดือนที่ผ่านมากิจกรรมด้านการท่องเที่ยวเขาใหญ่คึกคักขึ้นมาก

    ผู้ประกอบการจัดมีเดียทริปนำสื่อมวลชนลงพื้นที่สัมผัสแหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่นพร้อมกิจกรรมเปิดตัวโรงแรมใหม่ที่บริหารโดยเชน IHG ซึ่งตัดสินใจนำโรงแรมหรูแบรนด์ InterContinental เข้ามาเปิดในเขาใหญ่เป็นแห่งแรกในชื่อ “InterContinental Khao Yai Resort” เป็นโรงแรม 5 ดาวแบรนด์ดังที่จะเป็นแม่เหล็กใหม่ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนเขาใหญ่มากขึ้น ขยายฐานจากนักท่องเที่ยวคนไทยสู่กลุ่มเป้าหมายต่างชาติด้วยความเป็นโรงแรมระดับอินเตอร์แบรนด์

    การเป็นเชนโรงแรมใหญ่คือจุดขายสำคัญ แต่จุดเด่นโรงแรมนี้อยู่ที่รูปแบบ ซึ่งโรงแรมสร้างขึ้นจากธีมการออกแบบด้วยแนวคิดการรถไฟสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นการซื้อโบกี้รถไฟหลายขบวนมาออกแบบตกแต่งให้เป็นห้องพักหรูหราหลายแบบ รวมถึงพูลวิลล่า ห้องพักที่มีสระน้ำส่วนตัว (ด้านข้างโบกี้) ห้องสปาหรูบนตู้รถไฟ และ Tea House ที่หรูหรา ด้วยสีสันของห้องโดยสารบนรถไฟให้สัมผัสที่สวยแปลกตาเสมือนกำลังนั่งจิบน้ำชาระหว่างเดินทางด้วยรถไฟผ่านวิวป่าเขาธรรมชาติ ซึ่งแต่ละห้องตกแต่งเป็นธีมประเทศเพื่อนบ้าน ให้สัมผัสความเป็นอาเซียนที่ครบครัน

    นอกจากโรงแรมในตู้รถไฟแล้ว โรงแรมหรูแห่งนี้ยังมีพื้นที่ห้องพักหลักในส่วนของอาคาร ซึ่งออกแบบโดยอ้างอิงจากสถาปัตยกรรมสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นเรือนไม้มีระเบียงกันสาดที่ฉลุลวดลายสวยงาม คุมสีและโทนให้เข้ากับสวนอันร่มรื่นตลอดทั้งพื้นที่ ห้องพักทุกห้องจำลองเหมือนห้องพักบนรถไฟในแบบที่หรูหรา เพิ่มเสน่ห์ด้วยระเบียงชมวิว มุมพักผ่อน มุมส่วนตัวที่ไม่ซ้ำแบบใคร และสระน้ำขนาดย่อมสำหรับแช่ตัวแบบจากุซซี่เปิดวิวธรรมชาติสุดสายตา โรงแรมแต่ละห้องจัดเป็นหมวดหมู่เหมือนสถานีรถไฟ เช่น สถานีปากช่อง สถานีบันไดม้า และสถานีซับม่วง ด้วยจำนวนห้องพักที่ไม่มากเกินไปและสวยไม่ซ้ำกันในสไตล์บูทีกโฮเทล

    นับเป็นการออกแบบที่มีความเฉพาะตัวในสไตล์ของรถไฟที่ครบครันตั้งแต่ก้าวแรกที่มาเยือน บริเวณโถงต้อนรับเป็นเหมือนสถานีรถไฟ และเครื่องเรือนในโรงแรมแห่งนี้แทบทุกชิ้นล้วนจำลองให้เหมือนส่วนประกอบในรถไฟ แม้กระทั่งห้องน้ำและสุขภัณฑ์บางชิ้นก็เลือกให้มีอารมณ์เหมือนห้องน้ำในรถไฟแต่มีความหรูหราและสะดวกสบาย

    เรียกว่าเป็นรถไฟหรูสายธรรมชาติก็ว่าได้ธีมโรงแรมวางไว้ชัดเจน ตั้งแต่ก้าวแรกที่มาเยือนจะต้องผ่านอาคารที่ออกแบบเหมือนชานชาลาสถานี จากนั้นจึงจะเข้าถึงล็อบบี้ที่ไม่เหมือนใคร เพราะออกแบบในพื้นที่ขนาดย่อม แต่ชัดเจนในด้านดีไซน์และคอนเซ็ปต์ของการเป็น “สถานีรถไฟโบราณ” ที่มีความเป็นสากลเหมือนสถานีรถไฟโบราณของต่างประเทศด้วยในเวลาเดียวกัน


ห้องพักในสถานีปากช่องออกแบบโทนสีขาวดำ จำลองบรรยากาศเหมือนห้องพักในตู้รถไฟ 
ขบวนที่กำลังวิ่งมีหน้าต่างชมวิวเสมือนจริง


- โครงการที่ 2 “อุดมคุณธรรม” -

    แนวคิดนี้มาจากผู้เป็นเจ้าของ ซึ่งโครงการนี้เป็นการพัฒนาที่ดินเฟสต่อเนื่องจากโครงการสวอนเลค (Swan Lake) ของ “มานิต อุดมคุณธรรม” อดีตนักธุรกิจผู้โด่งดัง ในฐานะเจ้าของห้างโรบินสัน แฟชั่นไอส์แลนด์ และผู้ร่วมก่อตั้งศูนย์ค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านโฮมโปร โดยปัจจุบันผู้บริหารหลักคือบุตรสาวของเขา รีน่า อุดมคุณธรรม ซึ่งเป็นนักธุรกิจหญิงที่มีรสนิยมดีและชื่นชอบการเดินทาง

    คอนเซ็ปต์โรงแรมแห่งนี้จึงเป็นเรื่องราวของการเดินทาง ด้วยการออกแบบสถาปัตย์ที่กลมกลืนกันทั้งโครงการ ตั้งแต่อาคารต้อนรับ รีเซปชั่นด้านหน้าเป็นเรือนไม้ขนาดเล็กใช้เป็นล็อบบี้ สำหรับเช็กอิน-เช็กเอาต์ออกแบบเป็นสถานีรถไฟโบราณ เก้าอี้ไม้ทรงรีที่คุ้นตาตามสถานีรถไฟต่างๆ ถูกนำมาจัดวางตกแต่งเป็นจุดพักคอย และมีห้องรับรองในส่วนล็อบบี้ที่ออกแบบให้เป็นสถานีรถไฟประดับด้วยเตียงไม้ 2 ชั้น ซึ่งด้านบนเป็นที่นอนของนายสถานี มีบันไดสำหรับปีนขึ้นเป็นเสน่ห์การออกแบบที่ดูสนุกสนานและมีเรื่องราว

    เนื่องจากโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Swan Lake เขาใหญ่ ของนักธุรกิจผู้หลงใหลธรรมชาติและป่าเขา โครงการนี้จึงถูกสร้างขึ้นพร้อมๆ กับการปลูกต้นไม้นานาพันธุ์กว่า 30,000 ต้น ทำให้เขียวครึ้มทั่วบริเวณ จะเรียกว่าโรงแรม InterContinental Khao Yai Resort แห่งนี้เป็นเฟส 2 ของ Swan Lake เขาใหญ่ก็ว่าได้เพราะจุดขายหนึ่งของโรงแรมคือการเดินทัวร์รอบโรงแรม และ Swan Lake ถือเป็นจุดขายสำคัญ เพราะมีทะเลสาบเป็นบ้านหลังใหญ่ของฝูงหงส์กว่า 150 ตัว และเป็นแหล่งรวมปลาคาร์ปสวยงามให้แขกสัมผัสธรรมชาติได้ตลอดเวลา

    ด้วยความที่ผู้บริหารหลักชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยว ของตกแต่งที่พบเห็นได้ในโรงแรมแห่งนี้ส่วนหนึ่งจึงมาจากประสบการณ์การเดินทางของรีน่า ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเดินทางโบราณทรงกล่องสี่เหลี่ยมที่นำมาประดับทั้งในส่วนล็อบบี้และพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆ แน่นอนการออกแบบและคอนเซ็ปต์เป็นตัวกำหนด แต่ความตั้งใจของผู้เป็นเจ้าของและความหลงใหลส่วนตัวคือจุดเริ่มต้นที่สำคัญ

    เมื่อนำมาผสานกับไอเดียการออกแบบของดีไซเนอร์ระดับสากล Bill Bensley และการบริหารของเชนระดับอินเตอร์ IHG ทำให้โรงแรมหรูแห่งนี้เป็นรถไฟสายธรรมชาติแห่งใหม่ที่จะเชื่อมเขาใหญ่ไปสู่สายตานานาชาติได้ไม่ยาก

    “เราตั้งใจกับธีมโรงแรมแห่งนี้ อยากให้ออกมาสวยงาม มีเรื่องราวของการเดินทางที่น่าจดจำ” รีน่ากล่าวเพียงสั้นๆ ในวันเปิดตัวโรงแรมกับแขกและสื่อมวลชนกลุ่มเล็กๆ หลังจากโรงแรมเปิดให้บริการเริ่มมีแขกจองเข้าพักและยังคงมีทริปสื่อทยอยเข้าเยี่ยมชมอย่างต่อเนื่อง

    ในส่วนห้องพักบนขบวนรถไฟจะเปิดบริการในเดือนพฤศจิกายนนี้ ออกแบบหลากหลายเป็นธีมประเทศต่างๆ เช่น ห้องกัมพูชาตกแต่งลวดลายแบบกัมพูชา โทนสีแดงส้มซึ่งเป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่นแบบกัมพูชา และมีอีกหลายห้องที่ตกแต่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนด้วยกันเพื่อให้ความรู้สึกเสมือนได้ไปเยือนประเทศเหล่านั้น เมื่อค้างอ้างแรมบนห้องพักในขบวนรถไฟเหล่านี้

    เสน่ห์อีกอย่างของโรงแรมแห่งนี้คือ ห้องอาหารที่ให้บริการแบบ all day dining ที่ชื่อ “ครัวสมหญิง” (Somying’s Kitchen) ซึ่งเชฟประจำเป็นพ่อครัวอาหารแนวตะวันตกแต่สามารถปรุงอาหารไทยรสจัดจ้านได้เป็นอย่างดี

รีน่า อุดมคุณธรรม และพาชมกรีนมี ออร์แกนิกฟาร์ม

- การตลาดโกลบอลสู่ท้องถิ่น -

    โปรแกรมการท่องเที่ยวสำคัญสำหรับโรงแรม “ผมว่าถ้านักท่องเที่ยวมีอะไรให้ทำมากขึ้น พวกเขาก็จะใช้เวลาในการมาเที่ยวและพักที่นี่นานขึ้น” James Sutcliffe จีเอ็มของโรงแรมกล่าวกับทีมสื่อมวลชนในมื้อค่ำระหว่างทริป ซึ่งมีการนำเสนอด้วยเรื่องราวของท้องถิ่นที่มีทั้งวัฒนธรรมกิจกรรมเกษตรร่วมสมัย และไร่องุ่นแหล่งผลิตไวน์ไทยที่ได้รางวัลชนะเลิศจากฝรั่งเศส ซึ่งหลายคนอาจไม่เคยไปเยือน แม้วันนั้นต้องเดินทางเที่ยวชมท่ามกลางฝนตกตลอดทั้งวัน แต่ก็ดำเนินไปได้ด้วยดี เพราะเนื้อหาที่นำเสนอและเรื่องราวที่ได้สัมผัสมีความน่าสนใจมากกว่าสายฝนที่โปรยปราย

    ทีมงานของโรงแรมนำชมแหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่น 3 แห่ง แต่ละแห่งมีความน่าสนใจต่างกันไป เช่น สวนมะม่วงน้ำดอกไม้ที่มีไอเดียของหวานสุดเก๋ มะม่วงย่างกับไอศกรีมวนิลา นอกจากเป็นเมนูสวยงามยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองทำเองอย่างสนุกสนานที่ “บ้านหมากม่วง”

    แห่งที่ 2 คือ ฟาร์มออร์แกนิก “กรีนมีออร์แกนิกฟาร์ม” (Green Me Organic Farm) ที่นี่มีจัดให้ชมฟาร์มพืชผักออร์แกนิกพร้อมเด็ดจากสวนได้ด้วยตัวเอง มีทั้งลูกมัลเบอรี่ พืชผักสวนครัว และผักสลัด พร้อมจัดชุดลุยฟาร์มด้วยรองเท้าบู๊ตพร้อมผ้ากันเปื้อนและชุดตะกร้าเด็ดผักเก็บไปทานที่บ้าน สร้างความเพลิดเพลินได้เป็นอย่างดี

    ปิดท้ายทริปชมแหล่งท่องเที่ยวเขาใหญ่วันนั้นด้วยไร่องุ่น “Alcidini” ซึ่งเปิดให้ทัวร์ชมไร่ และนำเสนอขั้นตอนการผลิตไวน์ ซึ่งไร่องุ่นแห่งนี้แม้จะมีขนาดเล็กแต่ก็เป็นกิจการที่น่าสนใจ เจ้าของไร่เป็นทายาทรุ่น 2 ของครอบครัวที่ปลูกองุ่นทำไวน์มาตั้งแต่รุ่นบิดา ล่าสุดบุตรชายเรียนจบด้านไวน์จากฝรั่งเศสเป็นคนมาสานต่อกิจการ และไร่ไวน์แห่งนี้ก็มีไวน์ไทยชั้นเลิศที่ไร่ผลิตเองและได้รับรางวัลจากฝรั่งเศสวางจำหน่ายด้วย โดยนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้สัมผัสประสบการณ์ชิมไวน์และสอบถามความรู้เกี่ยวกับไวน์ได้อย่างเต็มที่


ภาพ: InterContinental Khao Yai

อ่านเพิ่มเติม:

>> Leandro Leviste ผู้พลิกโฉมพลังงานแสงอาทิตย์ในฟิลิปปินส์

>> ก้าวข้ามบาร์เรล


คลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2565 ในรูปแบบ e-magazine