สุพันธุ์ มงคลสุธี ซินเน็คอัพเดทตลาดไอทีรับ “New Normal” - Forbes Thailand

สุพันธุ์ มงคลสุธี ซินเน็คอัพเดทตลาดไอทีรับ “New Normal”

รายได้กว่า 3.5 หมื่นล้านบาท ที่ บมจ. ซินเน็ค (ประเทศไทย) ทำได้ในปี 2562 อาจลดลง เมื่อต้องเผชิญวิกฤตไวรัสโควิด-19 แต่แม่ทัพซินเน็คมองว่า วิกฤตครั้งนี้จะเป็นโอกาสใหม่ของสินค้าไฮเทคโนโลยี เพราะมันตอบโจทย์เรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งเป็น กติกาใหม่ของการใช้ชีวิตหลังจากนี้

กว่า 32 ปีบนเส้นทางผู้จำหน่ายสินค้าไฮเทคโนโลยี และอุปกรณ์ด้านไอที-ดิจิทัล บมจ. ซินเน็ค (ประเทศไทย) ผ่านร้อนผ่านหนาว สร้างการเติบโตด้วยการคว้าโอกาสในวิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 ยกระดับจากตัวแทนจำหน่ายรายเล็ก ขึ้นมาเป็นเทรดดิ้งเฟิร์มอันดับ 1 ในตลาดไอทีทำรายได้สูงสุดถึง 3.8 หมื่นล้านบาทในปี 2561 วิกฤตรอบนี้ก็เช่นกัน สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองว่าเป็นโอกาสระลอกใหม่ของสินค้าไอที ซึ่งมาพร้อมโลกการสื่อสารในยุคที่ 5 ด้วยเทคโนโลยี 5G ที่เร็วและแรง “โควิด-19 ทำให้ทุกคนต้องระมัดระวังต้อง work from home และ social distancing ทุกอย่างต้องใช้ไอทีเข้ามาเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เพื่อการทำงานที่บ้านหรือแม้แต่ thermal scan ที่ใช้กันแพร่หลายและ video conference ทุกอย่างล้วนต้องใช้ไอที ยิ่งล่าสุด 5G กำลังมา จะทำให้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น” แม่ทัพผู้ก่อตั้งซินเน็คสรุปภาพความเปลี่ยนแปลงคร่าวๆ ของการใช้ชีวิตของผู้คนและอุปกรณ์ไอทีหลังวิกฤตโควิด-19 ซึ่งเขามองว่า ทั้งตัวบุคคลและอุตสาหกรรมจะวิ่งเข้าหาเทคโนโลยีมากขึ้น เพื่อความปลอดภัยด้านสุขภาพ ความรวดเร็วในการทำงานและการเชื่อมต่อสังคม เป็น new normal ของคนกับเทคโนโลยี ผู้คนจะหันมาให้ความสนใจกับอุปกรณ์ไอทีเพื่อใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น ด้วยรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไป และไม่เฉพาะส่วนบุคคลเท่านั้น การผลิตในภาคอุตสาหกรรมก็จะเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว โดยการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะเป็นตัวเร่งสำคัญ “การใช้คนจะน้อยลง จะใช้เทคโนโลยีมากขึ้นทั้ง AI และ robot อุตสาหกรรมใหม่ๆ ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีทั้งหมด มันจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับทุกอุตสาหกรรม เพราะฉะนั้นตลาดไอทีจะเติบโตมาก” สุพันธุ์ ยังมองว่าเรื่องของเฮลท์แคร์ อีสปอร์ต การสื่อสารและการติดต่อในทุกวงการ ก็จะใช้เทคโนโลยีมากขึ้น แม้แต่การถ่ายทำภาพยนตร์ก็ใช้ไอที ซึ่งเราเห็นการเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว แต่โควิด-19 ทำให้เทคโนโลยีมาเร็วขึ้น “เมื่อก่อน video conference คนไม่ใช้เพราะแพง แต่ทุกวันนี้ใช้กันอย่างแพร่หลายและฟรี ยิ่งถ้ามี 5G การประชุมผ่านวิดีโอจะชัดและแรงกว่านี้ ต่อไปคนอาจจัดเทรนนิ่งที่บ้านโดยมีคนฟังเป็น 100 จากหลายพื้นที่ไม่ต้องเช่าสถานที่ ทุกอย่างฟรีหมด ได้คุณภาพและประสิทธิภาพ แต่ลดต้นทุนลงได้มาก” เมื่อทุกคนต้อง social distancing แต่ยังคงต้องติดต่อสื่อสารเพื่อการทำงานและธุรกิจ ระบบไอทีจึงมีบทบาทสำคัญซึ่งสุพันธุ์ชี้ว่า อุปกรณ์ไอทีจะเป็นตัวเชื่อมสังคมเข้าหากันได้อย่างสะดวกทุกที่ทุกเวลา
ซินเน็ค
สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
  สมาร์ทไลฟ์นำเทรนด์ยุคที่ 5 สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นคือการเปลี่ยนโฉมหน้า เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ ทั้งการใช้ชีวิตและการทำธุรกิจด้วยเทคโนโลยี คนไม่จำเป็นต้องเดินทางไปหากันเพื่อเจรจาธุรกิจ แต่สามารถใช้อุปกรณ์ในการสื่อสารที่ครอบคลุม ได้ประสิทธิภาพ ไม่ต่างจากการพบปะตัวตน “ต่อไปเซลส์แมนไม่ต้องขับรถเพื่อไปหาลูกค้า เพราะวันนี้ใช้ video conference คุยกับลูกค้าได้ข้อมูลชัดเจนพรีเซนต์ได้ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ทุกคนทำงานที่ไหนก็ได้ เวลาไหนก็ได้” เทคโนโลยีช่วยปลดล็อกให้คนมีอิสระในการใช้ชีวิตมากขึ้น สุพันธุ์มองว่า เทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรง มีทั้งสมาร์ทออฟฟิศ สมาร์ทโฮม สมาร์ทเฮลท์แคร์ รวมถึงอีสปอร์ต และเกมมิ่ง ซึ่งเขาบอกว่า ซินเน็คมีสินค้าทุกกลุ่มที่กล่าวมา และเชื่อว่าทุกกลุ่มจะโตขึ้น ผู้ผลิตจะสร้างโปรดักต์ออกมาแข่งขันกันมากขึ้นโดยเทคโนโลยีที่เร็ว ถูกใจผู้ใช้ แพลตฟอร์มที่ดีจะอยู่ในตลาดได้ ใครที่ตามเทคโนโลยีไม่ทันก็จะหายไปจากตลาด พูดถึงสินค้าไอทีหลายคนอาจนึกถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ที่เป็นฟันเฟืองสำคัญในระบบไอทีเมื่อทศวรรษที่แล้ว แต่ถ้าพูดถึงสินค้าไอทียุคนี้ต้องบอกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ทุกอย่างในการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล มีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของทุกคน อยู่ติดตัวทุกคน เป็นอะไรที่ขาดไม่ได้ เพราะบริการทุกอย่างอยู่บนแอปพลิเคชันในโทรศัพท์เคลื่อนที่ ดังนั้นรายได้หลักของซินเน็คจึงมั่นใจว่ายังคงมาจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ “ทุกคนใช้ mobile phone ในกิจวัตรประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสารการหาข้อมูล การดูหนัง วิดีโอ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ การพักผ่อน เป็นทุกอย่าง แถมมีบลูทูธลิงค์อุปกรณ์ได้หมด ไม่ใช่แค่ทีวีแต่ลิงค์ทั้งตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า สมาร์ทโฮมทั้งหมด เทคโนโลยีมาแล้ว อยู่ที่ยูสเซอร์พร้อมจะลงทุนหรือยัง” ประธานซินเน็คบอกว่า อุปกรณ์เหล่านี้จะค่อยๆ ถูกลง สมาร์ททีวีตอนนี้ราคาหลักพันก็ซื้อได้ สมาร์ทโฟนก็เช่นเดียวกัน เทคโนโลยีก้าวหน้าแต่ราคาจะค่อยๆ ถูกลง คนจะเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เทรนด์ที่เกิดขึ้นแน่นอนว่าเทคโนโลยีจะถูกลง และ 5G จะเพิ่มความเร็วขึ้นหลายเท่าตัว อุปกรณ์ทุกอย่างจะเล็กลง การออกแบบเล็กลงแต่เร็วขึ้น ความจุมากขึ้นความสะดวกสบายมากขึ้น และรองรับการใช้ส่วนบุคคลได้อย่างเต็มที่ หลังจากนี้ต้องมาดูเรื่องความปลอดภัยในการใช้งานการป้องกันการแฮกข้อมูลจะเป็นอีกเทรนด์ที่ตามมา สุพันธุ์บอกว่า ซินเน็คเป็นผู้จำหน่ายไม่ใช่ผู้ผลิต จึงมองเทรนด์ตลาดออกทุกผู้ผลิตเมื่อมีไอเท็มใหม่จะวิ่งมาหาซินเน็คเพราะเป็นคนทำตลาด ทำให้ได้รับรู้ทิศทางการผลิตในอนาคต ได้รู้ไลน์อัพของผลิตภัณฑ์ใหม่จากทั่วโลก “robot และ AI จะมาแทนคน เพราะถูกลงหลายเท่าตัว การลงทุนวันนี้ใช้เงินแค่ 20-30% ของเงินลงทุนเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เทคโนโลยีถูกลงจะทำให้คนลงทุนเทคโนโลยีได้ง่ายขึ้น โลกจะเปลี่ยนไปแน่นอน”  
คลิกอ่านฉบับเต็ม Special Report – 7 ผู้นำธุรกิจ 7 เทรนด์เซตเตอร์ ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมิถุนายน 2563 ในรูปแบบ e-magazine