หลังเปิดให้บริการมาในไทยมาตั้งแต่ปี 2018 จำนวน 2 สาขา คือ สาขาเอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ และสาขาแคปิตอล ทาวเวอร์ ออลซีซั่นส์ เพลส ล่าสุด JustCo (จัสโค) โคเวิร์กกิ้งสเปซสัญชาติสิงคโปร์ ได้เปิดตัวโคเวิร์กกิ้งสเปซสาขาใหม่ล่าสุดของจัสโค คือ สาขาสามย่าน มิตรทาวน์
Kong Wan Long ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการขายและการตลาด JustCo เปิดเผยว่า สาขาที่ 3 ในประเทศไทยนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ 6 ชั้นของอาคารสำนักงานสามย่าน มิตรทาวน์ ครอบคลุมพื้นที่ 12,000 ตารางเมตร รองรับสมาชิกได้กว่า 2,500 คน ถือเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดของจัสโคในประเทศไทย และในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
“จากแนวโน้มการเติบโตของโคเวิร์กกิ้งสเปซที่เห็นได้จากสถิติที่ว่า 22% ของบริษัทที่ติดอันดับ Fortune 500 เป็นลูกค้าของโคเวิร์กกิ้งสเปซ และตั้งแต่ที่เราให้บริการในไทยมา 3 ปี 59% ของการเช่าพื้นที่ของเราในไทยมาจากลูกค้าองค์กรในหลากหลายธุรกิจ ซึ่งถือเป็นความเปลี่ยนแปลงใหม่ที่เกิดขึ้น
“นอกจากนี้ จากที่เรามีจำนวนสมาชิกเพียง 500 คนในปี 2018 แต่ปัจจุบันสมาชิกเราเพิ่มขึ้นเป็น 5,000 คน รวมถึงอัตราการเช่าใช้พื้นที่ของ 2 สาขาก่อนหน้ายังสูงถึง 85% ขณะที่สาขาสามย่าน มิตรทาวน์ จำนวนพื้นที่ที่ปล่อยเช่าแล้วยังสูง 95% หลังจากให้บริการมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2019
โดยเป็นการเช่าพื้นที่จากลูกค้าองค์กรถึง 74% ไม่ว่าจะเป็น ธนาคารกรุงไทย, บริษัทอินเตอร์ทัช, เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้, Grant Thornton เป็นต้น จากเดิมตั้งเป้าไว้ว่าน่าจะมีลูกค้าองค์กร 50%
“ตัวเลขเหล่านี้น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า โคเวิร์กกิ้งสเปซยังเป็นรูปแบบสถานที่ทำงานที่ยังได้รับการตอบรับที่ดีจากคนไทย รวมถึงเทรนด์การเช่าโคเวิร์กกิ้งสเปซที่มากขึ้นขององค์กรขนาดใหญ่ เนื่องจากความยืดหยุ่นของบริการ และความต้องการมีพื้นที่แลกเปลี่ยนพบปะขององค์กรต่างๆ ทำให้นิยมเช่าใช้โคเวิร์กกิ้งสเปซมากขึ้น” Kong Wan Long กล่าว
สำหรับโคเวิร์กกิ้งสเปซแบรนด์จัสโค สาขาสามย่าน มิตรทาวน์ ประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ทำงานแบบเปิดโล่ง, พื้นที่อเนกประสงค์สำหรับงานอีเวนต์ทุกประเภท, ห้องประชุมหลากหลายขนาด, บูธโทรศัพท์ส่วนตัว, ล็อกเกอร์, ห้องปั๊มนมสำหรับคุณแม่, บาร์กาแฟ เป็นต้น พร้อมชูจุดเด่น สมาชิกสามารถเข้าใช้งานได้ทุกสาขาทั่วโลก
โดย Kong Wan Long ระบุว่า สาขาสยามย่าน มิตรทาวน์ นับเป็นสาขาที่ได้รับการตอบรับดีที่สุด หลังเปิดให้บริการเพียง 4 เดือน ก็สามารถสร้างอัตราการเช่าพื้นที่ได้สูงถึง 95% ขณะที่สาขาอื่นๆ (รวมถึงสาขาในต่างประเทศ) ต้องใช้เวลานานถึง 8 เดือน จึงจะสามารถสร้างอัตราการเช่าพื้นที่ถึง 85% ได้
เตรียมเปิดสาขาใหม่ปลายปีนี้
ทั้งนี้ หลังจากได้รับเงินลงทุนจากการสนับสนุนโดยกองทุนความมั่งคั่งแห่งสิงคโปร์ GIC (Government of Singapore Investment Corporation) และ Frasers Property Limited ทำให้จัสโคเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันจัสโคให้บริการใน 8 เมือง 40 สาขา คือ สิงคโปร์ 19 สาขา, จีน (ใน Shang Hai) 3 สาขา, อินโดนีเซีย 3 สาขา, เกาหลีใต้ 5 สาขา, ออสเตรเลีย (Melbourne 2 สาขา และ Sydney 2 สาขา), ไต้หวัน 3 สาขา และประเทศไทย 3 สาขา
จากการเติบโตและความต้องการของผู้บริโภคที่ยังมีจำนวนเพิ่มขึ้น จัสโคจึงเดินหน้าเปิดสาขาที่ 4 ในประเทศไทย โดยเตรียมเปิดสาขาใหม่ที่อาคารอมรินทร์ ทาวเวอร์ ในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้
“อมรินทร์ ทาวเวอร์ ตั้งอยู่ย่านราชประสงค์ ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่มีผู้คนอยากเข้าไปใช้พื้นที่ตรงนั้นในการพูดคุยหรือติดต่อธุรกิจ ซึ่งจะมีขนาดพื้นที่ 5,000 ตารางเมตร ซึ่งหากเปิดให้บริการแล้ว จะทำให้เรามีพื้นที่ให้บริการในประเทศไทยรวม 23,800 ตารางเมตร ซึ่งคาดว่าเป็นอันดับ 1 ในประเทศ”
สำหรับโคเวิร์กกิ้งสเปซสาขาใหม่ของจัสโคที่อมรินทร์ ทาวเวอร์ จะประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและตกแต่งในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของจัสโค นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เกมและสันทนาการอย่าง โต๊ะปิงปอง เกมปาลูกดอก และตู้เกม เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีลูกค้าให้ความสนใจสอบถามเข้ามาแล้ว
Kong Wan Long กล่าวอีกว่า ด้วยดีมานด์การใช้โคเวิร์กกิ้งสเปซ และตลาดในไทยก็ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ทำให้จัสโคเองยังศึกษาถึงโอกาสในการขยายสาขาเพิ่มเติมในไทย
ซึ่งมองว่าหากจะเปิดสาขาใหม่ ก็ต้องเป็นพื้นที่ CBD หรือย่านธุรกิจที่มีรถไฟฟ้าเข้าถึง อย่างไรก็ตาม ต้องมีการศึกษาทำเลและรายละเอียดอีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าทำเลนั้นจะสามาถเปิดได้และได้รับการตอบรับที่ดี
ขณะที่การขยายสาขาประเทศอื่นๆ นั้น ในไตรมาส 2 ปีนี้ จัสโคยังเตรียมเปิดสาขาใหม่ในกรุง Tokyo ประเทศญี่ปุ่น หลังเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2019 ที่ผ่านมา จัสโคยังได้ร่วมลงนามในกิจการร่วมค้ากับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากญี่ปุ่น Daito Trust Construction Co., Ltd ซึ่ง Daito ได้มอบเงินลงทุนแก่จัสโคเป็นมูลค่า 74 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อให้จัสโครุกขยายธุรกิจในญี่ปุ่น