ออลล์ อินสไปร์ฯ จัดทัพใหม่ ประกาศเดินเกมรุกธุรกิจ ดึง 3 ผู้บริหารมือดีจากภา คตลาดทุน ดีกรีอดีตเอ็มดีตลาดหลักทรัพย์ฯ ‘เกศรา มัญชุศรี’ นั่งประธานกรรมการและกรรมการอิสระ และ ผู้บริหารจากภาคอสังหาฯ ‘สมชาย ชาญธนเวทย์’ นั่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ‘พิพัฒณ์ นิยะถิรกุล’ นั่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ
เกศรา มัญชุศรี ประธานกรรมการและกรรมการอิสระ บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและกรรมการอิสระครั้งนี้ ถือว่ามีความท้าทายในบทบาทและส่วนร่วมในการช่วยวางแผนและกำหนดกรอบยุทธ์ศาสตร์ของบริษัทฯ ที่เป็นองค์กรเอกชนอย่างเต็มตัว หลังจากที่หมดวาระการดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คนที่ 12 ในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า ทีมผู้บริหารของ ออลล์ อินสไปร์ฯ รวมถึงพนักงานในองค์กรทุกคนมีความมุ่งมั่นและมีศักยภาพในการทำงานอย่างมืออาชีพ โดยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลภายใต้แนวคิดการบริหารงานแบบคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจในทุกๆ รายละเอียดขั้นตอนทำงาน จึงทำให้วันนี้ “ออลล์ อินสไปร์ฯ” สามารถก้าวเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับแนวหน้าของประเทศได้เพียงไม่กี่ปี และจากความมุ่งมั่น ความตั้งใจ รวมทั้งความมีพลังของผู้บริหาร และทีมงาน จึงเป็นสาเหตุหลักในการเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทฯ
“โดยส่วนตัวเชื่อมั่นว่าประสบการณ์ในการทำงานกว่า 35 ปี มีความเชี่ยวชาญการบริหารงานเกี่ยวกับงานด้านเศรษฐศาสตร์และตลาดการลงทุน จะสามารถขับเคลื่อนออลล์ อินสไปร์ฯ ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมุ่งมั่นที่จะมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้บริโภคด้วยที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ครอบคลุมการใช้ชีวิตทุกรูปแบบ ในทำเลเหมาะสมและราคาที่สมเหตุสมผล เพื่อเพิ่มความสามารถในการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้ง่ายและเร็วยิ่งขึ้น” เกศรา กล่าว
ธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ออลล์ อินสไปร์ฯ ประกาศเดินหน้าปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ โดยได้เชิญผู้บริหารระดับมืออาชีพทั้ง 3 ท่าน ซึ่งประกอบด้วย เกศรา มัญชุศรี ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการและกรรมการอิสระ สมชาย ชาญธนเวทย์ ดำรงตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ พิพัฒณ์ นิยะถิรกุล ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ เข้ามาช่วยขับเคลื่อนและเสริมศักยภาพให้บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
โดยการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้บริหารของบริษัทฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของการต่อยอดการขยายธุรกิจในอนาคต โดยบริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์หลักคือ การสร้างการจดจำในแบรนด์ “All Inspire” ให้เห็นถึงความมั่นคงและความน่าเชื่อถือ เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจในการก้าวเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศ และเป็นบริษัทที่น่าร่วมลงทุน ซึ่งจากแผนกลยุทธ์การเจาะตลาด ส่งผลให้ในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าเปิดโครงการครึ่งปีหลังที่ 3,400 ล้านบาท
ตลาดที่อยู่อาศัยของกรุงเทพฯ มีมูลค่าที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้เป็นที่สนใจของบรรดานักลงทุนอสังหาฯ ที่ชอบเข้ามาเก็งกำไรผลตอบแทน รวมถึงกลุ่มที่มองหาที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ความต้องการสูง ทำให้ดีเวลลอปเปอร์หันมาให้ความสำคัญกับรายละเอียดเรื่องทำเลในการพัฒนาโครงการมากขึ้น เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบันมีรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมกลายเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีที่สุด ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องคัดเลือกทำเล ฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงนวัตกรรมเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาในโครงการ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด