หลังจาก บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) สร้างความฮือฮาในแวดวงอสังหาริมทรัพย์เมืองไทยไปเมื่อปี 2553 คว้าที่ดินผืนงามบนถนนวิทยุ เพื่อสร้าง 98 Wireless คอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ มูลค่าการลงทุนราว 8.5 พันล้านบาท ซึ่ง แสนสิริ วาดหวังให้เป็นอสังหาฯ ขึ้นชั้น “แฟล็กชิพ” ของบริษัท
ผ่านไปราว 6 ปีกว่า
อภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ สำนักบริหาร ก็นำทีมผู้บริหารระดับสูงของ
แสนสิริ เปิดตัว
98 Wireless ต่อสายตาสาธารณชนอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 14 มีนาคม โดยได้
Tom Wolfe เซเลบริตี้เชฟชื่อดังระดับโลก ที่เคยร่วมงานกับนักร้องและแฟชั่นดีไซเนอร์อย่าง Madonna, Stella McCartney, Roberto Cavalli มารังสรรค์อาหารฟิวชั่นเป็นสีสันในงานเปิดตัว
จุดเด่นของ
98 Wireless นอกจากจะตั้งอยู่บนถนนวิทยุซึ่งเป็นหนึ่งในย่านสำคัญใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร ที่แวดล้อมไปด้วยสถานทูต อาคารสำนักงาน โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ คล้ายคลึงกับย่าน Fifth Avenue ในสหรัฐอเมริกา ยังอยู่ที่ผู้ซื้อสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ได้ 100% (free hold) ออกแบบโครงการด้วยแนวคิดสถาปัตยกรรมแบบ
Beaux-Arts อวลกลิ่นอายความคลาสสิกแต่ก็ให้ความรู้สึกร่วมสมัยไปด้วยในคราวเดียวกัน
การออกแบบตกแต่งภายในได้
Anne Carson Interiors (New York) มาเสริมทัพให้สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ของสถาปัตยกรรม แชนเดอเลียร์ 3 ชั้นที่ทอดตัวลงมาจากเพดานโถงล็อบบี้ เป็นผลงานการสร้างสรรค์แบบ “แฮนด์ เมด” อย่างประณีตกว่า 1 ปี ของทีมงาน
Ralph Lauren Home ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ภายในโครงการก็มาจาก
Ralph Lauren Home ด้วยเช่นกัน
หินอ่อนที่ใช้บนพื้นที่ 28,000 ตารางเมตร เป็นหินอ่อน
Statuario จากอิตาลี ส่วนงานปูนปั้นที่ผนังและเพดานเป็นผลงานของ
Hyde Park Mouldings ซึ่งฝากฝีมือไว้ก่อนหน้านี้ที่ Buckingham Palace ในอังกฤษ White House และ Metropolitan Museum New York ในสหรัฐอเมริกา
25 ชั้นของ
98 Wireless คือที่ตั้งของห้องชุดจำนวน 77 ยูนิต มีทั้ง 2-3 ห้องนอน พื้นที่ตั้งแต่ 120-950 ตารางเมตร ราคาเฉลี่ย ณ ปัจจุบันอยู่ที่
580,000 บาทต่อตารางเมตร ขณะที่บางห้องราคาพุ่งสูงถึงกว่า
720,000 บาทต่อตารางเมตร ขึ้นอยู่กับการตกแต่ง ห้องหรูที่สุดคือ
The One ตั้งอยู่ 2 ชั้นบนสุด ซึ่งมหาเศรษฐีอันดับต้นของเมืองไทยซื้อไปครอบครองแล้วเรียบร้อย ส่วนยอดขายโดยรวมก็เดินหน้าไปแล้วกว่าครึ่ง
98 Wireless ยังมีพื้นที่ส่วนกลางสุดหรูให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้สอย อย่าง สวนกลางแจ้ง ซึ่งตั้งอยู่ติดกับรั้วบ้านพักเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย Lobby Lounge ที่มีโต๊ะไม้สมัยต้นศตวรรษที่ 19 เป็นตัวดึงดูดสายตา Tea Room ที่ออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจจากซาลอนในยุโรป ให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลายด้วยโทนสีเทาและครีมตัดด้วยสีดำ Business Lounge ออกแบบเน้นความเรียบหรูด้วยโทนไม้มะฮอกกานีและทองเหลือง
ส่วนสระว่ายน้ำตั้งอยู่บนชั้น 10 วางตัวขนานไปกับแนวถนนวิทยุ ทั้งยังมีห้องฟิตเนสที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันร่มรื่น ห้องสปา ห้องทำเล็บ หรือแม้แต่ห้องบัลเลต์ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องโยคะหรือคลาสเต้นรำได้
ทั้งหมดเพื่อตอบสนองชีวิตระดับซูเปอร์ลักชัวรี่อย่างแท้จริง