กว่า 4 ทศวรรษที่ ตระกูลศรีวิกรม์ บริหารกิจการแบบธุรกิจครอบครัวภายใต้เครือ บริษัท ศรีวิกรม์ กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งมีแนวทางดำเนินธุรกิจในเครือตามแบบฉบับอนุรักษ์นิยมดังเช่นที่หัวหน้าครอบครัวผู้ล่วงลับ เฉลิมพันธ์ ศรีวิกรม์ ผู้เป็นสามีของ คุณหญิงศศิมา ศรีวิกรม์ วัย 79 ปี ประธานกรรมการ บริษัท ศรีวิกรม์ กรุ๊ป โฮลดิ้งฯ และประธานสโมสร Reading FC. และเป็นบิดาของลูกทั้ง 4 คนคือ พิมล ศรีวิกรม์, ชัยยุทธ ศรีวิกรม์, วิกร ศรีวิกรม์ และทยา ทีปสุวรรณ
ปัจจุบันสมาชิกครอบครัวทั้ง 5 คนต่างถือหุ้นที่ 20% เท่าๆ กันในบริษัท ศรีวิกรม์ กรุ๊ป โฮลดิ้งฯ และส่งผ่านแนวทางทำธุรกิจแบบอนุรักษ์นิยมก็ถูกส่งผ่านมายังเลือดเนื้อเชื้อไขทั้ง 4 คนด้วย กระนั้นนับตั้งแต่ เฉลิมพันธ์ เสียชีวิตมาได้ราวๆ 5 ปีการเจริญเติบโตและการเปลี่ยนแปลงของ ศรีวิกรม์ กรุ๊ป โฮลดิ้งฯ ก็ไม่ได้หยุดนิ่ง เพียงแต่อาจไม่ได้เติบโตก้าวกระโดดเฉกเช่นธุรกิจของครอบครัวอื่น
ในส่วนของธุรกิจโรงแรม InterContinental Bangkok ที่อยู่ภายใต้การบริหารของ บริษัท เพรสิเด้นท์โฮเต็ลและทาวเวอร์ จำกัด โดยมีทายาทสายตรงของเฉลิมพันธ์จะเป็นผู้ถือหุ้นหลักที่อัตราส่วนราว 50%, โรงเรียนศรีวิกรม์ กิจการเริ่มแรกที่เฉลิมพันธ์สร้างขึ้นและยังยืนหยัดถึงทุกวันนี้แม้แทบไม่เคยมีกำไรมาตลอด 52 ปี ล่าสุดจึงตัดสินใจหาพันธมิตรจากอังกฤษมาร่วมกันพัฒนาเป็นโรงเรียนนานาชาติ, ธุรกิจพรมไทปิงที่ปัจจุบันบริหารโดย บมจ. อุตสาหกรรมพรมไทย ซึ่งมี พิมล บุตรชายคนโตวัย 50 ปีเป็นเจ้าภาพหลักดูแลธุรกิจในฐานะประธานกรรมการอยู่ทำยอดขายได้หลายพันล้านบาทในสามปี
ด้วยความที่คุณหญิงศศิมา มักมีความสนใจและมีค่านิยมในการทำธุรกิจต่างจากสมาชิกครอบครัวศรีวิกรม์คนอื่นๆ การลงทุนริเริ่มกิจการใหม่ๆ ของเธอ โดยเฉพาะการเข้าไปซื้อสโมสรฟุตบอล Reading F.C. จึงเป็นการใช้เงินทุนส่วนตัวเพื่อตอบสนอง passion ที่เธอไม่อาจปล่อยให้ผ่านไปได้ เนื่องจากทุกการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับการบริหารธุรกิจครอบครัวศรีวิกรม์จะต้องผ่านการลงคะแนนเสียงแบบ 100% จากคณะกรรมการครอบครัว (family council)
“ดิฉันเสนออะไรไป พวกเขาไม่เคยสนใจเลย เพราะว่าเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างเสี่ยง” คุณหญิงกล่าวถึงการลงทุนในสโมสร Reading F.C. ดังนั้นการลงทุนซื้อสโมสร Reading F.C.จึงเป็นทุนส่วนตัวของคุณหญิงศศิมาเองที่ไม่เกี่ยวข้องกับครอบครัวศรีวิกรม์ โดยซื้อหนี้สินที่มูลค่าเกือบ 40 ล้านปอนด์จากเจ้าหนี้ของสโมสรร่วมกับพันธมิตรอีก 2 รายคือ นรินทร์ นิรุตตินานนท์ และ สัมฤทธิ์ ธนะกาญจนสุทธิ์ ที่ครองสัดส่วนหุ้นใน Reading ที่ 50% (ในนาม GPT Football Investment Ltd. 25% และ GPT UK Investment Ltd. 25%) และ 25% ตามลำดับ
ล่าสุดคุณหญิงศศิมาให้ พิมล ช่วยดูแลบริหารจัดการโรงแรม Millennium Madejski Hotel ที่ครอบครัวศรีวิกรณ์ ซื้อจาก Sir John Madejski ผู้เป็นอดีตเจ้าของโรงแรมและเจ้าของทีม Reading F.C. และอยู่ระหว่างดำเนินการขออนุญาตก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ซึ่งคาดว่าจะสร้างผลตอบแทนคืนกลับมาได้ราว 50 ถึง 70 ล้านปอนด์
นอกจากนี้ คุณหญิงศศิมา กลับมาพัฒนาอสังหาฯ อีกครั้งด้วยทุนส่วนตัวของเธอเองร่วมกันเพื่อนๆ ในนาม บริษัท ศศิสมบัติ จำกัด ซึ่งตัวเธอรับหน้าที่ ประธานกรรมการ ว่าเป็นอีกหนึ่ง passion ที่สมาชิกครอบครัวศรีวิกรม์คนอื่นๆ ไม่ได้ให้ความสนใจ “เหน็ดเหนื่อยมา 3 ปี ไปดูงานทุกอาทิตย์ไม่เคยหยุด นอกจากต้องไปต่างประเทศ จนกำลังจะปิดโครงการเรียบร้อยภายในเดือนธันวาคมนี้” ศศิมาเล่าถึงการทุ่มเทของเธอที่ให้กับโครงการคอนโดมิเนียม 360 องศา พาโน เขาใหญ่ ที่ใส่เงินไปที่ระดับร้อยล้านสำหรับโครงการที่มูลค่าราว 1.4 พันล้านบาท
ถึงวันนี้ แม้ คุณหญิงศศิมาจะกล่าวว่า เธอไม่เคยวางเป้าหมายในชีวิตเลย แต่เธอก็ยืนยันว่ามีความสุขและเต็มที่ในทุกสิ่งที่ลงมือทำแบบไม่ใส่เกียร์ถอยหลัง แต่สิ่งที่เธอรู้สึกภาคภูมิใจที่สุด คือการเลี้ยงลูกทั้ง 4 คนให้เป็นคนดีได้อย่างใจพ่อแม่ และอีกความภูมิใจคือบสามารถสร้างให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้อย่างที่ควรจะเป็น พร้อมทิ้งท้ายว่า “แม้ตัวเราจะเก่งอย่างไรแต่ถ้ากลับบ้านแล้วลูกติดยาหรือทำตัวไม่ดี ชีวิตก็คงไม่สนุกเท่านี้”
เรื่อง: ชญานิจฉ์ ดาศรี
คลิ๊กอ่าน "ครอบครัวศรีวิกรม์ ต่อยอดมรดกแบบอนุรักษ์นิยม" ฉบับเต็มได้ที่ Forbes Thailand Magazine ในรูปแบบ E-Magazine