แม้วัยเพียง 34 ปี แต่พิธาน องค์โฆษิตมีความฝันยิ่งใหญ่ ที่จะนำพา KCE ขึ้นเป็น “ที่หนึ่ง” ของโลก ในฐานะทายาทรุ่นที่ 2 เขามุ่งมั่นขยายงานต่อจากพ่อมหาเศรษฐีหมื่นล้าน ผู้บุกเบิกส่งออกแผ่นพิมพ์วงจรอิเล็กทรอนิกส์จนตลาดโลกยอมรับ
ชายหนุ่มเบื้องหน้าของพวกเราคือ พิธาน องค์โฆษิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.เคซีอี อิเลคโทรนิคส์ (KCE) หนุ่มมาดเนี้ยบ น้ำเสียงสุภาพ พูดจาถ่อมตน เขามักตกเป็นข่าวตามหน้าข่าวบันเทิงอยู่บ่อยครั้ง ในฐานะควงคู่กับดาราสาวซูเปอร์-สตาร์ ทั้งที่แท้จริงแล้วในอีกด้าน คนอาจลืมไปว่า เขาเป็นนักธุรกิจผู้ร่ำรวยความสามารถ มุ่งมานะ ขยันขันแข็ง และมีวิสัยทัศน์ ทั้งยังได้รับความไว้วางใจจากมหาเศรษฐีที่ชื่อบัญชา ผู้เป็นบิดา ให้สานต่อธุรกิจหมื่นล้านของตระกูลบัญชาเป็นมหาเศรษฐีของไทย ที่จัดโดย Forbes อยู่อันดับที่ 46 ในปีนี้ ถือครองทรัพย์สิน 1.76 หมื่นล้านบาท ก่อตั้ง KCE ในปี 2525 และแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนในปี 2535 บุกเบิกจน KCE เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายแผ่นพิมพ์วงจรอิเล็กทรอนิกส์ (printed circuit board: PCB) ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และใหญ่อันดับ 5 ของโลกที่ผลิตและจำหน่าย PCB ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ สานต่องานพ่อ พิธาน มีปริญญาตรี 2 ใบคือ สาขาวิศวกรรมไฟฟ้าและสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จาก University of California, Riverside ประเทศ-สหรัฐฯ และด้านเอ็มบีเอจาก Cornell University หลังเข้าทำงานอย่างเต็มตัวพิธานนำความรู้และประสบกาณณ์ปรับปรุงจุดอ่อนต่างๆ ของบริษัท อาทิ รื้อระบบซ่อมบำรุง ซึ่งเป็นจังหวะที่ดีเพราะบัญชาก็เห็นว่า ระบบเริ่มที่จะควบคุมไม่ได้ โดยงานส่วนใหญ่ที่รับผิดชอบ มุ่งเน้นไปที่เรื่องการบริหารต้นทุนในทุกๆ ด้านให้ลดต่ำลง เพื่อสามารถแข่งขันกับบริษัทต่างชาติอื่นๆ ในตลาดโลกได้ จากนั้นในปี 2556 เขาก็ได้ถูกโปรโมตให้เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ “ตอนปี 56 ผมดูเกือบทุกอย่าง ยกเว้นอาร์แอนด์ดี พ่อเห็นว่า สิ่งที่เราเริ่มทำไป เริ่มออกดอกออกผล วางระบบไป...ดูรายละเอียดหมด ดูวิธีการต่อรองเอง ตั้ง target เมื่อก่อนบริษัทเราไม่มี เริ่มทำ cost saving ที่เห็นผล กำไรเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ” เขากล่าว เขาบอกว่า สิ่งที่ทำให้ KCE แข็งแกร่งมากขึ้นในอนาคต ช่วยเติมเต็มสิ่งที่พ่อสร้างมาช่วงที่บัญชาบริหาร KCE มีการเติบโตค่อนข้างเร็ว ให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิต เพื่อให้สินค้ามีคุณภาพ มากกว่าให้ความสำคัญกับการจัดระบบงานหลังบ้าน เหตุเพราะระหว่างปี 2553-2543 เป็นช่วงที่ฐานการผลิต PCB ย้ายจากยุโรปและอเมริกามาในทวีปเอเชีย โดยมีจีนเป็นตลาดผลิตใหญ่ พ่อจึงต้องเร่งผลิตสินค้าให้มีคุณภาพตามมาตรฐานยุโรป เพื่อมัดใจและขยายฐานลูกค้าจากฝั่งตะวันตก ดังนั้น เมื่อทายาทรุ่นที่ 2 เข้ามารับช่วงต่อ ภารกิจจัดทัพหลังบ้านให้มีประสิทธิภาพจึงตกอยู่ที่พิธาน ที่ไม่เพียงรักษาการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพแล้ว แต่ยังทำต้นทุนให้ถูกลง เพื่อ “ราคา” สินค้าของบริษัทลดลง เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด โดยเฉพาะจากประเทศจีน ที่หนึ่งของโลก ความฝันที่จะขึ้นเป็นผู้ผลิตแผ่นพิมพ์ PCB อันดับ 1 ของโลก อยู่ในความคิดของพิธานตลอดเวลา ปัจจุบันอุตสาหกรรมนี้ทั่วโลกมีมูลค่าตลาดราว 6 หมื่นล้านเหรียญและในปี 2561 คาดว่าน่าจะโตขึ้นเป็น 6.5 หมื่นล้านเหรียญ ปัจจุบันผู้นำในตลาดครองสัดส่วนส่วนแบ่งตลาดราว 5% ส่วน KCE มีไม่ถึง 1% ซึ่งพิธานบอกว่า ยังมีโอกาสอีกเยอะ หากบริษัท “ขยัน”และมุ่งมั่นอย่างจริงจัง พิธาน ไม่รีบร้อนที่จะไปถึงเป้าหมายนั้น แต่จะค่อยๆ ก้าวไปอย่างมั่นคง โดยเร่ิมที่เป้าหมายแรกคือ เป็นเบอร์ 1 ของผู้ผลิต PCB โลกเพื่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในอีก 5 ปีข้างหน้า จากที่อยู่อันดับ 5 ในปัจจุบัน จากนั้นอีก 8 ปีต่อมา เขาจะผลักดันให้บริษัทก้าวขึ้นเป็นยักษ์ใหญ่ที่สุดของ PCB โลกตามที่หวัง พิธานบอกว่า ทุกวันนี้ KCE ก็เติบโตมีระบบที่แข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับปีที่แล้ว KCE มียอดขาย 1.25 หมื่นล้านบาท มีกำไรสุทธิ 2.24 พันล้านบาท โตจากปี 2557 ที่มียอดขายรวม 1.17 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 2.11 พันล้านบาทจากนี้ไปยอดขาย ทุกวันนี้ พิธานเดินทางตลอดเพื่อเยี่ยมเยียนลูกค้า หาลูกค้าใหม่ในต่างประเทศด้วยตัวเองเพื่อนำข้อมูลที่ได้มาปรับปรุงพัฒนาสินค้าและบริการ หรือแม้แต่ในยามที่ลูกค้ามีปัญหาสามารถโทรหาพิธานได้โดยตรง จุดนี้ ทำให้ได้ใจจากลูกค้าจำนวนไม่น้อย เนื่องจากอายุยังไม่มาก เขาบอกว่า ยังมีพลัง ยังรับภาระงานได้อีกเยอะ อดหลับอดนอนก็ยังไหว ทั้งหมดก็เพื่อพิชิตฝันให้ KCE เป็น “เบอร์ 1” ของอุตสาหกรรม PBC โลกคลิ๊กอ่าน ฉบับเต็ม "พิธาน องค์โฆษิต ดัน KCE เป็นเบอร์หนึ่งของโลก" ได้ที่ Fobes Thailand Magazine ฉบับ SEPTEMBER 2016