สิงห์รุ่น 4 คอนเนคชันผ่านสายเลือด - Forbes Thailand

สิงห์รุ่น 4 คอนเนคชันผ่านสายเลือด

FORBES THAILAND / ADMIN
09 Dec 2014 | 11:35 AM
READ 22595

บุญรอดบริวเวอรี่ในวัย 81 ปี ภายใต้การนำของ 2 สิงห์หนุ่ม รุ่นที่ 4 ของตระกูล ไม่ใช่เจ้าป่าที่เชื่องช้า แต่เป็นสิงห์ผยอง มากประสบการณ์ที่กำลังพุ่งไปข้างหน้า กวาดตาล่ากิจการอนาคตไกลทุกประเภท ทั้งในและต่างประเทศ ให้องค์กรเติบโตแบบก้าวกระโดด ภายใต้การเฝ้ามองของ ราชสีห์ใหญ่ ผู้นำทัพช่วงชิงเบอร์ 1 ตลาดเบียร์เมืองไทยจาก “ช้าง” มาอย่างภาคภูมิ เมื่อ 8 ปีก่อน

เมื่อผู้พ่อ สันติ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เริ่มถอยฉาก คงแต่งานด้านนโยบายองค์กร  2 พี่น้อง เต้-ภูริต และ ต๊อด-ปิติ ภิรมย์ภักดี ก็ก้าวเข้ามานั่งแท่นกรรมการบริหารบุญรอดบริวเวอรี่ และกรรมการผู้จัดการ บริษัทบุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด อาจกล่าวได้ว่าทั้งคู่นั่งบนบัลลังก์คู่ขนานกัน แตกต่างกันที่ใหญ่ในคนละสายงาน ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา บุญรอดบริวเวอรี่ประกาศปรับโครงสร้างใหญ่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหาร โดยแบ่งธุรกิจในเครือออกเป็น 5 เสาหลัก ได้แก่ 1.ธุรกิจแอลกอฮอล์ 2.ธุรกิจนันแอลกอฮอล์ 3.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 4.ธุรกิจแพ็กเกจจิ้ง และ 5.ธุรกิจจัดจำหน่ายและอื่นๆ ภูริตรับผิดชอบธุรกิจปลอดแอลกอฮอล์พร้อมจับงานพัฒนาธุรกิจใหม่ ขณะที่ปิติคุมธุรกิจแอลกอฮอล์ทั้งหมด ที่ยังคงสร้างรายได้ให้กลุ่มบุญรอดฯ 60% “การทำสินค้าใหม่ขึ้นมาสักอย่าง อย่าไปหลงรัก เพราะแม้จะเป็นความสุขเรา แต่มันคือเป็นความสูญเสียขององค์กร หากไม่ประสบความสำเร็จ” ภูริตผู้พี่ในวัย 37 ปี กล่าวถึงผลงานชิ้นแรก ชาเขียวพร้อมดื่มตราโมชิที่ไม่ประสบความสำเร็จ แต่นั่นคือก้าวเดินที่ท้าทาย กล้าแตกตัวจากอาณาจักรธุรกิจครอบครัวเป็นครั้งแรก เดินหน้าออกมาหาสิ่งใหม่ๆ เพื่อกลับมาสร้างอาณาจักรริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้เป็นปึกแผ่นกว่าเดิม เช่น การเดินยุทธศาสตร์ควบรวมกิจการหรือ M&A จนสร้างดีลใหญ่แห่งปีด้วยการเข้าซื้อ บมจ.รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ เขาโชคดีที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสอีกครั้ง เป็นโอกาสที่จะทบทวนบทเรียนจากความล้มเหลว เรียนรู้จากความผิดพลาด และรู้จักหนทางแก้ไขด้วยตนเอง ณ วันแรกของฝ่ายพัฒนาธุรกิจที่มีคณะทำงานเพียงสามคน กับความล้มเหลวของโมชิ แต่ ณ วันนี้หลังผ่านความล้มเหลวครั้งนั้นมา 10 ปี  สายงานด้านนันแอลกอฮอล์ที่ภูริตสร้างขึ้น มีทีมทำงานกว่า 200 คน ยอดขายไต่แตะ 1.5 หมื่นล้านบาทในปีนี้ พร้อมเป้าหมายสู่ 3 หมื่นล้านบาท หรืออีกเท่าตัวภายในสองปีนับจากนี้
ภูริต ภิรมย์ภักดี (เต้) Present กรรมการบริหาร บริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด กรรมการผู้จัดการ บริษัทบุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด (ธุรกิจนันแอลกอฮอล์) Past จัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกิจ เข้าอบรมวิชากลยุทธ์การบริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศึกษาด้านการปรุงและการผลิตเบียร์ (Certificate, Master of Brewing) ประเทศเยอรมนี

ส่วนปิติผู้น้องวัย วัย 35 ปี รับภาระงานที่เป็นเสาหลักของกลุ่มบุญรอดฯ นั่นคือสายการผลิตเบียร์ ที่วันนี้ต้องเผชิญสมรภูมิที่ดุเดือด ทั้งตลาดในและนอกประเทศ ท่ามกลางภาวะชะลอตัวของการบริโภคเบียร์ทั่วโลก เขาเองยอมรับว่า แม้สิงห์จะกลับมาทวงแชมป์ตลาดเบียร์คืนได้แล้ว แต่ในภาวะตลาดขนาด 1.8 แสนล้านบาท ต้องติดลบต่อเนื่องกันถึงสองปี ในปี 2556-2557 แต่กลุ่มบุญรอดฯ เพิ่งมีปีแรกที่ติดลบในปีนี้ เนื่องจากหนี้สินภาคครัวเรือนอยู่ในระดับสูง จำเป็นต้องมองหาหนทางอื่นที่ช่วยสร้างความเติบโต นั่นคือการบริหารต้นทุนระบบซัพพลายเชนทั้งหมด ตามทำได้ตามแผนในช่วงสองปีจากนี้ จะลดต้นทุนถึง 10% พร้อมดันให้บริษัทเติบโต 15-17% “5 ปีข้างหน้า ธุรกิจของบุญรอดบริวเวอรี่จะต้องเติบโตมากกว่าเท่าตัว หรือจาก 1.2 แสนล้านบาท เป็น 2.5 แสนล้านบาท ซึ่งในสถานการณ์ตลาดในประเทศไม่ดี แน่นอนว่าธุรกิจจะเติบโตต้องมาจากต่างประเทศ” เขากล่าวถึงการบุกตลาดเพื่อนบ้านในมาเลเซีย กัมพูชา เมียนมาร์ ลาว เวียดนาม และจีน รวมไปถึงยุทธศาสตร์เข้าซื้อกิจการระดับภูมิภาค ทั้งกลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โรงงาน หรือครอบคลุมทั้งหมดระบบซัพพลายเชน เพื่อให้ถึงเป้าหมาย 1 ใน 5 ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และนันแอลกอฮอล์ของเอเชีย
ปิติ ภิรมย์ภักดี (ต๊อด) Present กรรมการบริหาร บริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด กรรมการผู้จัดการ บริษัทบุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด (ธุรกิจแอลกอฮอล์) Past เสนอและวางแผนโครงการ "สิงห์อาสา" ร่วมเสนอและเจรจาการเป็น Global Partner กับทีมฟุตบอล Manchester United และ Chelsea ก่อตั้งธุรกิจเสื้อผ้า Singha Life บริษัทสิงห์ เทรนด์ จำกัด

อ่าน "สิงห์หนุ่มผยอง คะนองศึก แยกแตกยอด ร่วมกันรุ่ง" ฉบับเต็มใน Forbes Thailand ฉบับ DECEMBER 2014