วิน สันติพงศ์ไชย ปรับพิกัดชาร์จพลังสปีด GT Auto - Forbes Thailand

วิน สันติพงศ์ไชย ปรับพิกัดชาร์จพลังสปีด GT Auto

การเติมเต็มความฝันในวัยเด็กที่หลงใหลในเครื่องยนต์กลไกของรถสปอร์ตเป็นขุมพลังขับเคลื่อนธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์ครบวงจร พร้อมขยายพอร์ตตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการแบรนด์ Subaru, Volvo, GWM และ Kia คว้าโอกาสเทรนด์ EV เร่งเครื่องยอดขายทะยาน 4 พันล้านบาทในปี 2568


    เลขไมล์ประสบการณ์ที่สั่งสมจากความสนใจในรถสปอร์ตตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา และสามารถหารายได้เป็นกอบเป็นกำผ่านการซื้อมาขายไปรถสปอร์ตมือสองจนเป็นเหมือนงานอดิเรกที่ช่วยให้ได้รับทั้งความรู้และการแลกเปลี่ยนมุมมองกับผู้ซื้อรถ โดยสามารถนำไปใช้ต่อยอดธุรกิจยานยนต์ในฝันควบคู่การสืบทอดกิจการของครอบครัวในฐานะทายาทกิจการหนังสือพิมพ์รายวันภาษาจีนที่มียอดขายสูงสุดในประเทศไทยขณะนั้น

    “ช่วงเรียนปริญญาตรี Hotel Management และปริญญาโทไฟแนนซ์ที่ Hawaii เราชอบซื้อรถสปอร์ตและเปลี่ยนใหม่เป็นงานอดิเรก เพราะสนใจศึกษาเรียนรู้คาแร็กเตอร์ที่แตกต่างกันของรถแต่ละรุ่น และได้ประสบการณ์ความรู้รวมถึงมุมมองต่างๆ ซึ่งช่วงแรกอาจจะมีขาดทุนบ้าง แต่ตอนหลังก็ได้กำไรและนำเงินไว้ใช้จ่ายที่นั่น จนกระทั่งกลับมาเมืองไทยก็มาเป็นอาจารย์สอน Hotel Management ที่ ABAC 4 ปี และช่วยพี่น้องดูแลด้านไฟแนนซ์ให้ธุรกิจครอบครัว โดยทำประมาณ 20 กว่าปีก็ขายกิจการในปี 2553 และลุยธุรกิจรถเต็มตัว”

    วิน สันติพงศ์ไชย  ประธานจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีที ออโต้ จำกัด เล่าถึงการเริ่มต้นเปิดโชว์รูมขนาดเล็ก GT Cars ย่านสาทร เพื่อขายรถสปอร์ตมือสองสภาพดีและรถคลาสสิก พร้อมกับการทุ่มเทดูแลบริหารธุรกิจหนังสือพิมพ์ซิงเสียนเยอะเป้าของครอบครัวเป็นเวลากว่า 20 ปี ก่อนจะตัดสินใจขายกิจการหนังสือพิมพ์ในปี 2554 ทำให้มีโอกาสและเวลาสานต่อธุรกิจรถยนต์ที่สนใจอย่างเต็มที่

    ในจังหวะเดียวกับแบรนด์ Subaru กำลังเริ่มเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเมื่อปี 2555 ทำให้วินเล็งเห็นโอกาสก่อตั้งบริษัทดำเนินธุรกิจเป็นผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการรายแรกของ Subaru ในกรุงเทพมหานคร ขณะที่บริษัทยังได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Jaguar Land Rover อย่างเป็นทางการของประเทศไทยในปี 2556 พร้อมสร้างโชว์รูมและศูนย์บริการเพื่อรองรับการขยายสาขาบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ โดยในปี 2559 ได้สร้างอาคารใหม่บนถนนพัฒนาการ ชั้น 1 และ 2 เป็นโชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์ Subaru และชั้น 3 เป็นโชว์รูมรถสปอร์ตและรถหรูมือสอง

    “แบรนด์ Subaru ในต่างประเทศขณะนั้นได้รับความนิยมมาก เช่น อเมริกามียอดขายเป็นอันดับ 2 หรืออันดับ 3 เพราะเป็นรถที่ดีทั้งเครื่องยนต์และเทคโนโลยี ซึ่งเมืองไทยยังไม่มี ถ้ามีก็แพงมากเพราะเสียภาษีจากญี่ปุ่น จนปี 2555 ผลิตในมาเลเซียได้ AFTA เราก็นำแบรนด์ Subaru เข้ามา หลังจากนั้นเรายังเป็นตัวแทนจำหน่าย Jaguar และ Land Rover ประมาณ 3 ปี เขาเปลี่ยน distributor ก็ไม่มีดีลเลอร์แล้ว ปกติเราจะดีลตรงกับบริษัทแม่จึงไม่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายต่อ”



    การขยายพอร์ตธุรกิจของวินได้รับการเสริมทัพความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นหลังจากได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Volvo อย่างเป็นทางการของประเทศไทยในปี 2561 และเริ่มบุกเบิกเปิดตัวโชว์รูม Volvo และศูนย์บริการต้นแบบมาตรฐาน VRE (Volvo Retail Experience) แห่งแรกในประเทศไทยบนถนนวิทยุ ใจกลางกรุงเทพมหานคร

    นอกจากนี้ บริษัทยังเปิด Volvo Selekt สาขาถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งจำหน่ายรถผู้บริหารป้ายแดงและรถยนต์ Volvo มือสองคุณภาพดีที่ผ่านการรับรองคุณภาพจาก Volvo Car Thailand แบบสแตนอะโลนห่งเดียวในไทย รวมถึงขยายธุรกิจไปยังพัทยา จังหวัดชลบุรีในปี 2564 ซึ่งเป็นโชว์รูมและศูนย์บริการ Volvo แห่งเดียวในภาคตะวันออก พร้อมดูแลตลาดรถยนต์ Volvo ในเขตภาคตะวันออกทั้งหมด

    “เมื่อก่อนภาพของคนซื้อ Volvo จะอายุ 40 ปีขึ้นไป แต่หลังจากปรับโฉมใหม่คนซื้อ Volvo อายุลดลงเหลือ 20-30 ปีขึ้นไป ด้วยดีไซน์และความคุ้มค่า ทั้งออปชั่นและความปลอดภัย ซึ่งครอบคลุมทุก dimension ของการขาย โดยสามารถแก้ pain point ของลูกค้าที่ซื้อและซ่อมทำให้ cost of ownership ลดลงมาก ซึ่งเราเลือกทำเลวิทยุเป็นโชว์รูมแห่งแรก ก่อนจะขยายสาขาพัทยาเป็น touchpoint ลูกค้าภาคตะวันออก และเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพการซื้ออันดับต้นๆ ของไทย รวมถึง Volvo Selekt ที่เพชรบุรีตัดใหม่และย้ายไปพัฒนาการ โดยเน้นรถผู้บริหารป้ายแดงและรถป้ายขาวที่ผ่านการรับรองรถสภาพดี ไมล์น้อย ที่สำคัญเป็นรถที่ได้ดีลคุ้มค่า”



    ขณะเดียวกันบริษัทยังได้รับการแต่งตั้งเป็น Official Automotive Partner กับค่ายรถยนต์ Great Wall Motor (GWM) ในปี 2566 ซึ่งโชว์รูมและศูนย์บริการตั้งอยู่บนถนนพัฒนาการ รวมถึงเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทยังได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์แบรนด์ Kia อย่างเป็นทางการในประเทศไทย จาก บริษัท เกีย เซลส์ ประเทศไทย จำกัด (Kia Sales Thailand) โดยโชว์รูมแห่งแรกจะตั้งอยู่ที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี พร้อมเปิดให้บริการในไตรมาส 2 ปีนี้

    “นอกจากโขว์รูม Volvo 3 แห่ง เรายังมีโชว์รูม Subaru และ GWM ที่พัฒนาการ 2 แห่ง ในปีนี้เราเตรียมเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการเพิ่มอีก 3 สาขา ได้แก่ สาขาพัทยาช่วงไตรมาส 2 และอีก 2 สาขาในไตรมาส 4 รวมถึงเราเพิ่งเซ็นสัญญากับ GWM เพราะเป็นรถที่มีคุณภาพ ลูกค้าพอใจกับการใช้งาน เราไม่ต้องการให้ลูกค้าซื้อแล้วรถมีปัญหา เขาก็จะเสียความรู้สึก และ GWM มีทั้ง EV ไฮบริด ซึ่งสามารถตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่เปิดใจกับรถยนต์ไฟฟ้าและกลุ่มที่ยังไม่มั่นใจกับ EV หรืออาจจะต้องขับรถทางไกลก็สามารถใช้ไฮบริดได้”




สตาร์ทสู่เส้นชัย 4 พันล้าน

    การผสมผสานประสบการณ์ในธุรกิจรถยนต์ร่วมกับการบริหารการเงินและความเสี่ยงจากการทำงานกว่า 20 ปีในธุรกิจหนังสือพิมพ์ของครอบครัว ด้วยความรักและความหลงใหลในเครื่องยนต์กลไก ทำให้วินสามารถขับเคลื่อนเส้นทางธุรกิจในฝันให้เติบโตอย่างต่อเนื่องจนเป็นหนึ่งในผู้นำตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ที่สามารถสร้างยอดขายสูงสุดในประเทศไทยสำหรับแต่ละแบรนด์ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 

    วินกล่าวถึงความสำเร็จที่ผ่านมาทั้งแบรนด์ Subaru สามารถครองแชมป์ยอดขายสูงสุดในประเทศได้ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา และบริษัทยังได้รับรางวัลจากแบรนด์ Volvo ในปี 2566 ได้แก่ โชว์รูมที่ทำยอดขายรถยนต์ใหม่สูงสุดในประเทศไทย โชว์รูมที่ทำยอดขายรถยนต์ รถยนต์มือสองได้มากที่สุดในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงถึง 25% และบริษัทเป็น 1 ใน 4 ดีลเลอร์ของ Volvo จากทั้งหมด 9 ดีลเลอร์ ซึ่งได้ติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Solar Carport

    ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยรายได้รวมในปี 2566 จำนวน 2.5 พันล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 20% ซึ่งสวนทางกับภาพรวมยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ลดลง 8% พร้อมเดินหน้าสู่ตัวเลข 3 พันล้านบาทในปีนี้ และมั่นใจรายได้แตะ 4 พันล้านบาทในปี 2568 


    “เป้าหมายการเติบโตเราวางไว้ 10-20% ทุกปี เพราะเรามีแบรนด์ใหม่เข้ามา รถรุ่นใหม่ของแต่ละแบรนด์ และรายได้ต่อสาขาทุกปีต้องมากกว่า 500-600 ล้านบาท เราจึงคาดการณ์ตัวเลขรายได้ที่ 4 พันล้านบาทในปี 2568  โดยเรามั่นใจในจุดแข็งที่เราเลือกแบรนด์ที่มีโรงงานในเมืองไทยแล้ว หรืออย่าง Volvo ก็มีศูนย์รีไซเคิลแบตเตอรี่ที่ประเทศไทยทำให้สามารถสลับแบตเตอรี่เก่าได้ ส่วนอะไหล่อื่นๆ ก็เร็วขึ้นกว่าเมื่อก่อน โดยแบรนด์ต่างๆ ต้องปรับตามความต้องการตลาด ซึ่งเรามองว่าเราต้อง dynamic พอปรับตามคนอื่นได้”

    นอกจากนั้น  วินยังเดินหน้าปรับโครงสร้างองค์กรของบริษัทให้สามารถขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างคล่องตัวและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนตามเป้าหมายที่วางไว้ด้วยการแบ่งธุรกิจ 5 หมวดให้ทำงานส่งเสริมซึ่งกันและกัน ภายใต้ GT Cars Group ประกอบด้วย GT Auto ดำเนินธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์อย่างเป็นทางการ 3 แบรนด์ในประเทศไทย ได้แก่ Subaru, Volvo, GWM และ Kia ซึ่งในปีนี้จะเปิดเพิ่มอีก 3 สาขา รวมเป็น 9 สาขาภายในปีนี้  

    ส่วน GT Cars ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ให้บริการรับซื้อและขายรถมือสองทั้งรถสปอร์ต รถหรู และรถคลาสสิกจากประสบการณ์ในวงการรถยนต์หรูมือสองมายาวนานกว่า 20 ปี โชว์รูมตั้งอยู่บนถนนพัฒนาการ และกำลังจะย้ายไปถนนเพชรบุรีตัดใหม่ช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ รวมถึง GT Detailing Center ธุรกิจขัด-เคลือบสีรถยนต์ รวมทั้ง Smart Repair ซ่อมสีเฉพาะจุด GT Body & Paint ศูนย์ซ่อมสีและตัวถังรถยนต์ สุดท้ายธุรกิจใหม่ EV Nation เน้นขายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ประเภท EV ซึ่งจะเปิดตัวช่วงไตรมาส 3 ปีนี้

“รายได้ของเราส่วนใหญ่มาจากการขายรถใหม่ 80% ส่วนที่เหลือเป็นรถมือสองและธุรกิจอื่นๆ ของเรา ซึ่งเน้นการให้บริการหลังการขาย เหมือนเราขายทุกอย่างสำหรับทุกแบรนด์ ลูกค้าไม่ต้องไปไหน เราสามารถซัพพลายให้หมด ครบวงจร โดยรวมเราแบ่งหมวดธุรกิจออกเป็น 5 หมวดให้ส่งเสริมซึ่งกันและกัน ซึ่งในอนาคตเรายังต้องการจับกลุ่มลูกค้าข้างนอกในแต่ละหมวดธุรกิจ ทำให้เพิ่มรายได้และกำไรมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจอู่สี เคาะพ่นสี และ EV Nation จำหน่ายอุปกรณ์เสริมเกี่ยวกับรถอีวีทั้งหมดจะเป็นธุรกิจที่มีโอกาสการเติบโตสูง เพราะในปี 2573 หลายประเทศห้ามขายรถน้ำมันแล้ว รถไฟฟ้าก็ต้องมาในปีนั้น”



    วินย้ำความมั่นใจในโอกาสธุรกิจและพัฒนาการให้บริการตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครอบคลุม โดยบริษัทเริ่มทำการตลาดออนไลน์ตั้งแต่ก่อนกิดโควิด-19 เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้งานได้อย่างตรงกลุ่มในเวลาอันรวดเร็ว ภายใต้งบประมาณที่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและยังสามารถประเมินผลตอบรับจากลูกค้าได้ทันที ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับการปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น ด้วยการต้องปรับกลยุทธ์การสื่อสารและเข้าถึงลูกค้าทุกแพลตฟอร์ม รวมถึงปรับวัฒนธรรมองค์กรให้มีความคล่องตัวขึ้น 

    ขณะเดียวกันวินยังให้ความสำคัญกับการบริหารทรัพยากรบุคคล ด้วยการรับฟังความคิดเห็นและเปิดโอกาสให้ทีมงานรับรู้ถึงการมีส่วนร่วมในความสำเร็จ พร้อมปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลง เพื่อการเติบโตในการทำงานและธุรกิจขององค์กรอย่างยั่งยืน

    “เราให้ความสำคัญตั้งแต่การคัดเลือกทีมงานเข้ามาและมองสิ่งที่เราสามารถช่วยเทรนนิ่งเสริมในสิ่งที่พนักงานขาด โดยไอเดียของบริษัทแต่ละแบรนด์มี GM ที่มีประสบการณ์หลายแบรนด์และอายุ 50 ปีขึ้นไปด้วย Sales Manager จะเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่สามารถโค้ชได้ โดยเน้น ownership ให้เขารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรและรักในสิ่งที่ทำ ซึ่งงานของ Sales Manager จะเป็นการช่วย support sales เพราะเราเชื่อว่าทุกคนมีศักยภาพแต่จะดึงออกมาอย่างไร เราต้องสร้าง passion และทำให้คนขายของเชื่อว่าเขาเอาของดีให้ลูกค้า ทำให้เขามีความสุขกับงานและเห็นอนาคตตัวเองที่นี่ ที่สำคัญต้อง fair กับเขา โดยให้รายได้ที่เขาพอใจและบริษัทก็พอใจ มันต้องมีบาลานซ์”


 ภาพ: วรัชญ์ แพทยานันท์



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ‘อัจฉรา บุรารักษ์’ 25 ปีปลุกปั้น ‘ไอเบอร์รี่ กรุ๊ป’ ปีนี้จ่อส่ง 3 แบรนด์ลงตลาดอาหารไทย

คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤษภาคม 2567 ในรูปแบบ e-magazine