อลิสา พันธุศักดิ์ คุนผลิน “ทิฟฟานี่” ผลึกสีสันจรัสโลก - Forbes Thailand

อลิสา พันธุศักดิ์ คุนผลิน “ทิฟฟานี่” ผลึกสีสันจรัสโลก

พลังความเชื่อมั่นในคุณค่าความหลากหลายและเท่าเทียมเป็นแรงบันดาลใจการสานต่อธุรกิจของครอบครัว ด้วยการพลิกโฉมทิฟฟานี่โชว์ฉลอง 50 ปี พร้อมเดินหน้าเวทีประกวด Miss Tiffany’s Universe และ Miss International Queen ร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกทางสังคมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์


    รางวัลหลังม่านการแสดงกว่าครึ่งศตวรรษของทิฟฟานี่โชว์มากกว่ารายได้หรือชื่อเสียงที่ได้รับในระดับโลก แต่เป็นความภาคภูมิใจในการสร้างเวทีที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงความสามารถและคุณค่าของความหลากหลายเท่าเทียมกัน พร้อมยังเดินหน้าตำนานบทใหม่ในการผสมผสานแฟชั่น ศิลปะ และดนตรี มอบประสบการณ์เหนือชั้นทุกมิติภายใต้การขับเคลื่อนของ อลิสา พันธุศักดิ์ คุนผลิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิฟฟานี่โชว์ พัทยา จำกัด และประธานคณะกรรมการจัดการกองประกวด Miss Tiffany’s Universe และ Miss International Queen

    “เราเติบโตพร้อมธุรกิจของครอบครัวและเห็นภาพคุณพ่อคุณแม่ทำงานหนักมาตลอด ทำให้เราตั้งใจเรียนหนังสือเพราะต้องการให้ท่านสบายใจ และเริ่มช่วยงานที่ร้านแลกเงินต่างประเทศที่พัทยาของครอบครัวตั้งแต่อายุ 11-12 ปี โดยคุณแม่ให้เราถือเงินเป็นล้านแลกตามโรงแรม ซึ่งช่วยฝึกเรื่องความรับผิดชอบและไม่ให้เรากล้าจนเกินไป

    “ขณะที่คุณพ่อต้องการความเห็นของคนรุ่นใหม่จึงมักจะถามเราเกี่ยวกับการพัฒนาปรับปรุงโรงแรมเสมอทำให้เราเกิดไอเดียต่างๆ และคุณพ่อยังเชื่อมั่นในตัวเราไม่เฉพาะเรื่องงาน แต่ท่านยังให้เราได้ลองทำหลายๆ อย่าง เช่น สมัยเรียนท่านให้รถเกียร์กระปุกมือสองและโทรศัพท์มาสอนเราขับรถ เพราะท่านต้องการให้เราช่วยเหลือตัวเองได้”


    อลิสากล่าวถึงแนวคิดที่ได้รับการหล่อหลอมและถ่ายทอดสายเลือดการบริหารจาก สุธรรม และอรวรรณ พันธุศักดิ์ โดยสามารถปรับใช้ความรู้ที่ได้รับในระดับปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ ภาครัฐประศาสนศาสตร์ เอกการคลังการเงิน เกียรตินิยมอันดับ 2 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท MBA ด้านการเงินที่ George Washington University ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเริ่มต้นรับผิดชอบโครงการอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัวเต็มตัวในปี 2541

    “ทันทีที่เรียนปริญญาตรีจบ 3 ปีครึ่ง และเรียนภาษาอังกฤษต่ออีกครึ่งปีเพื่อใช้เรียน MBA ที่อเมริกา หลังเรียนจบกลับมาประเทศไทย 1 อาทิตย์คุณพ่อก็ให้เราไปคุมงานก่อสร้างออฟฟิศที่กรุงเทพฯ จนสำเร็จจึงให้ทำโปรเจกต์โรงแรมที่พัทยาต่อเนื่องกันในช่วงที่โรงแรมของครอบครัวกำลังขาดทุนอย่างหนักทั้งจากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ค่าเงินบาท เราต้องทำทุกอย่างเองตั้งแต่การรีโนเวต กู้เงิน คุมงบประมาณการลงทุน ซึ่งเราสามารถนำความรู้ทุกอย่างที่เรียนมาปรับใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับโครงสร้างองค์กร การบริหารงาน บริหารบุคลากร ความเข้าใจด้านการเงินและการลงทุน”

    หลังจากแสดงฝีมือการบริหารกิจการโรงแรม Woodlands Hotel & Resort ซึ่งขาดทุนต่อเนื่องให้สามารถพลิกฟื้นทำกำไรได้ในเวลา 1 ปี ด้วยการพัฒนาโรงแรมจากระดับ 3 ดาวเป็น 4 ดาว และปรับราคาห้องพักเพิ่มมากขึ้น

โรงแรม Woodlands Hotel & Resort


    อลิสาพร้อมรับความท้าทายใหม่ในตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการร่วมบริหารทิฟฟานี่โชว์ พัทยา โดยปรับปรุงโรงละครเดิมให้มีจำนวนที่นั่งเพิ่มเป็น 1,000 ที่นั่ง และความสูง 4 เมตรเป็น 8 เมตร พร้อมสร้างสรรค์การแสดงใหม่ที่มีชื่อเสียง เช่น Gigi, Hello Dolly, โชว์ไทยพระอภัยมณี และเพลง Fifth Elements

    ขณะเดียวกันยังเริ่มต้นจัดประกวด Miss Tiffany’s Universe ซึ่งได้มีการถ่ายทอดสดการประกวดรอบ Final ออกอากาศทางช่องรายการโทรทัศน์เพื่อสร้างเวทีให้กลุ่ม LGBTQ+ และจัดการประกวด Miss International Queen ขึ้นเป็นครั้งแรกที่โรงละครทิฟฟานี่โชว์ ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพเวทีขนาดใหญ่ของไทยเทียบเท่าระดับโลก พร้อมจัดงาน 30th Anniversary of Tiffany’s Show Pattaya เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปีทิฟฟานี่โชว์ในปี 2547


    “เรามีส่วนร่วม transform เล็กๆ ในธุรกิจโรงละครตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปี 1 ช่วงที่เริ่มมีวิศวะคอมพิวเตอร์ เราเล่าให้พ่อฟังเกี่ยวกับตั๋วผีที่หน้าโรงภาพยนตร์สยาม ซึ่งทิฟฟานี่โชว์ก็มีตั๋วผี เราจึงเสนอไอเดียกับคุณพ่อให้นำคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยเรื่องระบบการจำหน่ายตั๋วและผังที่นั่ง รวมถึงติดต่อวิศวกรคอมพิวเตอร์ที่สามารถทำซอฟต์แวร์ได้ โดยหลังจากเข้ามาเป็นผู้ช่วย MD เต็มตัวเราใช้วิธีการเรียนรู้จากผู้ใหญ่ และคุณพ่อก็ให้โอกาสเราทำอะไรได้ทั้งหมด ขอแค่ให้มีแบบแผนในการทำชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรมหรือทิฟฟานี่ท่านให้เราลงทุนทำได้ทั้งหมด”

    นอกจากความสำเร็จในการสานต่อตำนานทิฟฟานี่โชว์ให้เป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก อลิสายังสามารถสร้างการเติบโตธุรกิจของครอบครัวอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นพัทยาสปอร์ตบาซาร์ โรงแรมและรีสอร์ตในเครือบริษัทวู้ดแลนด์ ได้แก่ Woodlands Hotel & Resort, Woodlands Suites Serviced Residences รวมถึงร้านอาหาร ร้านกาแฟและเบเกอรี่ ได้แก่ La Baguette Bakery Café 2 สาขา La Ferme Pattaya 1 สาขา LoLa Summer 1 สาขา และ Thai Marche 1 สาขา

    “ธุรกิจของครอบครัวแบ่งเป็นกลุ่ม entertainment & hospitality ได้แก่ ทิฟฟานี่โชว์ โรงแรม สนามยิงปืน ร้านอาหาร ร้านกาแฟและเบเกอรี่ โดยส่วนใหญ่โรงแรมและร้านอาหารเราดูเรื่องการตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือโปรเจกต์ใหม่ เพราะ operation มี COO ทำอยู่ ซึ่งสัดส่วนรายได้ทิฟฟานี่ประมาณ 60% โรงแรมและร้านอาหาร 40% อนาคตร้านอาหารจะมีสัดส่วนรายได้มากขึ้นจากการขยายสาขา และโรงแรมอยู่ระหว่างการพิจารณาเพิ่มจำนวนห้องพักในคอนเซ็ปต์ใหม่”


    อลิสากล่าวถึงแผนการดำเนินงานขยายสาขาร้าน La Baguette Bakery Café เพิ่มจำนวน 2 สาขาในโซนภาคตะวันออก จากเดิมที่มีสาขานาเกลือและเขาพระตำหนัก พัทยา ซึ่งได้รับการยกให้เป็นร้านเบเกอรี่ฝรั่งเศสต้นตำรับและอาหารชื่อดังของพัทยา รวมถึงเตรียมลงทุนปรับปรุงโครงสร้างโรงแรมให้มีห้องพักและชั้นอาคารมากขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงทางประชากร และขยายกลุ่มผู้เข้าพักให้ครอบคลุมสมาชิกครอบครัวทุกเพศวัย

    “แบรนด์ร้านอาหารปัจจุบันของเราครบทั้งอาหารไทย เมดิเตอร์เรเนียน เบเกอรี่และ bistro ทำให้เราสนใจการขยายสาขามากกว่า โดยภายใน 2-3 ปีนี้เราดูทำเลร้าน La Baguette เพิ่มในโซนตะวันออก ซึ่งอาจจะไม่ใช่พัทยา แต่เป็นศรีราชา บางแสน ระยอง ส่วนโรงแรมจะเป็นการเปลี่ยนห้องพักให้เหมาะกับตลาดและแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงในรูปแบบ wellness เนื่องจากอนาคตกลุ่มผู้สูงอายุจะมีจำนวนมากและเดินทางกับครอบครัว

    “อย่างไรก็ตามเราไม่ได้เน้นเฉพาะผู้สูงอายุ แต่ครอบคลุมเด็กและผู้ใหญ่หรือกลุ่มครอบครัว โดยวางแผนรีโนเวตประมาณปีหน้าและพิจารณาเพิ่มจำนวนชั้นและห้องพักให้มากขึ้นจากเดิมที่มี 200 กว่าห้อง ซึ่งมองไว้ไม่เกิน 80 ห้อง เพื่อรักษาคุณภาพการให้บริการและ facility เพียงพอต่อการใช้งาน เช่น ที่จอดรถ ห้องอาหาร ล็อบบี้ พื้นที่ส่วนกลาง”

เปิดม่านโชว์ Crystalize a Dream

    ภาคต่อของทิฟฟานี่โชว์หลังสร้างประวัติศาสตร์จากโชว์คาบาเรต์ในบาร์เล็กๆ ที่แหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ นับตั้งแต่ปี 2517 สู่การแสดงอันตระการตาในโรงละครคาบาเรต์ระดับโลกที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของพัทยาและความภูมิใจของ LGBTQIAN+ ประเทศไทย พร้อมเดินหน้าสนับสนุนความหลากหลายและความเท่าเทียมกันอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงเวลายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ


    “50 ปีที่ผ่านมาเรามีกระบวนการคิดและนำเสนอการแสดงที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ โดยยกระดับความเป็นมาตรฐานสากลมากขึ้น จากการแสดงคล้าย Drag Show รายแรกๆ ของประเทศพัฒนางาน production และเพลงใหม่จนเป็นเอกลักษณ์ของเรา ซึ่งช่วงโควิด-19 เราต้องหยุดการแสดงชั่วคราวเป็นครั้งแรกและได้ทบทวนวิธีคิดคอนเซ็ปต์ใหม่ โดยมองว่าทิฟฟานี่แข็งแรงพอที่จะเล่าเรื่องตัวเองผ่านการแสดงเช่นเดียวกับโชว์ต่างประเทศ ดังนั้น เราจึงลงทุนประมาณร้อยล้านบาทเตรียมหลังบ้าน ใช้เวลาเป็นปีเปลี่ยนทุกอย่างของการแสดงเหมือน refresh product สร้างคอนเทนต์ใหม่สำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งเราต้องเป็นผู้นำเปลี่ยนแปลงการท่องเที่ยวของไทย เราจะเดินอยู่กับที่ไม่ได้”

    อลิสากล่าวถึงการให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจและยกระดับการแสดงให้ตอบโจทย์ความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องด้วยการพลิกโฉมการแสดงทิฟฟานี่โชว์ครั้งใหญ่เฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีในเดือนกรกฎาคมปีนี้ โดยใช้เวลากว่า 1 ปีในการออกแบบและฝึกซ้อมการแสดงชุดใหม่ที่ผสมผสานแฟชั่น ศิลปะ และดนตรี ถ่ายทอดเรื่องราวอันลึกซึ้งภายใต้แนวคิด Crystalize a Dream


    “เราคุมทั้ง production และการตลาดมา 26 ปี ทำให้คิดและทำเหมือนเดิม แต่เราต้องการโชว์ในมุมมองที่แตกต่างและวิธีคิดใหม่ โดยใช้เวลาเตรียมการเป็นปีในการเปลี่ยนเทคนิค แสง สี เสียง ฉาก ในคอนเซ็ปต์ Crystalize a Dream หมายถึงผลึกแก้วที่มีสีสันหลากหลาย ซึ่งเปรียบได้กับคนที่มีความสามารถหลากหลายรวมกันทำให้ความฝันสำเร็จ และทำให้เวทีนี้มีคุณค่ามากขึ้น 

    "โดยเราหวังว่าผู้ชมจะได้รับอะไรกลับไปทั้ง entertainment, creativity แนวคิดการดำเนินชีวิต รวมถึง inspire การเปิดกว้างและยอมรับ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายเราต้องการให้ครอบคลุมทุกเพศวัยด้วยการสร้างการรับรู้ให้เข้าใจระหว่าง transgender และการแสดงเป็นคนละเรื่อง โดยเราไม่ได้ให้ transgender นำ แต่เน้นการแสดง ความเป็นตัวตนและความหลากหลายในสังคมเกี่ยวข้องกับการแสดง”

    ขณะที่ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติในประเทศไทยปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาระบุตัวเลขตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-11 พฤษภาคม ปี2568 ชาวต่างชาติเที่ยวไทยมีจำนวน 12.9 ล้านคนลดลง 1% ปีต่อปี และคาดการณ์รายได้ท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง 2% (ปีต่อปี) หรือมีมูลค่าประมาณ 6.13 แสนล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับบทวิเคราะห์ของศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยอาจหดตัว 2.8% ครั้งแรกในรอบ 3 ปี หรือมีจำนวน 34.5 ล้านคน ส่งผลให้รายได้การท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติหดตัว 3% จากปี 2567 โดยมีมูลค่าที่ 1.662 ล้านล้านบาท

    สำหรับปัจจัยสำคัญที่กระทบภาคการท่องเที่ยวของไทยที่ผ่านมา ได้แก่ ทิศทางเศรษฐกิจโลกชะลอตัวกระทบกำลังซื้อ และแผนการเดินทางที่นักท่องเที่ยวคำนึงถึงความคุ้มค่าและงบประมาณมากขึ้น ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์การเมืองระหว่างประเทศ รวมถึงความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวไทยลดลงจากภาพลักษณ์ความปลอดภัย โดยผลสำรวจของ Dragon Trail ในเดือนเมษายน ปี 2568 พบว่า ชาวจีนมีความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยลดลงเหลือ 19% และ 51% มองว่าประเทศไทยไม่ปลอดภัย

    นอกจากนั้น การแข่งขันด้านการท่องเที่ยวระหว่างประเทศยังมีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวและการสนับสนุนจากภาครัฐดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่งผลให้ตลาดนักท่องเที่ยวหลักหดตัว เช่น จีน มาเลเซีย เกาหลีใต้ ซึ่งตลาดที่น่าจะยังเติบโตหลักๆ มาจากกลุ่มนักท่องเที่ยวยุโรป เช่น รัสเซีย เยอรมนี ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคตะวันออกกลางอย่างประเทศซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์


    “เราติดอันดับ tourist attraction ของโลก และยังเป็นโชว์ที่นักท่องเที่ยวจีนต้องมาดู ซึ่งปัจจุบันเรายังมีกลุ่มผู้ชมหลากหลาย ทั้งไทย จีน ไต้หวัน เวียดนาม ยุโรป ออสเตรเลีย โดยเรามั่นใจในจุดแข็งของทีมงานที่มีความสามารถและคุณภาพทั้งวิธีคิดและศิลปะใน entertainment ซึ่งการทำโชว์ที่ผู้ชมจะกลับมาดูซ้ำต้องมีสิ่งที่เขาได้แต่ละรอบต่างกัน เช่น ครั้งแรกอาจจะดูคอนเซ็ปต์ ครั้งต่อมาเป็นเพลง และต่อมาเป็นเสื้อผ้า ดังนั้น มันเป็นส่วนผสมของหลายศิลปะรวมกัน โดยทุกคนล้วนเป็นแนวหน้าของประเทศ ซึ่งเป้าหมายของเราไม่ได้มองธุรกิจเป็นที่ตั้ง แต่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งที่ให้คุณค่าทุกคน และสร้างการยอมรับในความสามารถที่พ้นจากเรื่องเพศ ด้วยองค์ประกอบในการแสดงคุณภาพเพื่อให้ทุกคนมาชม”

    ขณะเดียวกันอลิสายังคงมุ่งมั่นสนับสนุนความเท่าเทียมทางสังคมในประเทศต่างๆ ผ่านการจัดประกวด Miss Tiffany’s Universe ในปี 2541 และยกระดับสู่เวทีนานาชาติ Miss International Queen ในปี 2547 ซึ่งมีผู้เข้าประกวด 22 ประเทศ และ ตรีชฎา เพชรรัตน์ ได้รับตำแหน่ง Miss International Queen เป็นคนแรก โดยสามารถสร้างชื่อให้ประเทศไทยและแบรนด์ทิฟฟานี่ในระดับโลก

    “ปัจจุบันเราขายลิขสิทธิ์ Miss International Queen 5 ประเทศ ซึ่งดูพื้นฐานความตั้งใจช่วยสังคมของคนซื้อด้วย โดยเราเริ่มจากเวที Miss Tiffany’s และนำนางงามประกวดต่างประเทศได้อันดับ 1 มา 3 ปีซ้อนจนกระทั่งเราคิดว่าเราสามารถจัดประกวดเองได้และทำไมเราไม่ได้เป็นเวทีใหญ่ของโลก หรือลงทุนเป็นล้านไปต่างประเทศแทนที่จะให้คนเข้ามาประเทศเรา ซึ่งปีแรกก็เหนื่อยมาก แต่เรามองการต่อยอดการประกวด Miss International Queen ที่ทำให้เขาเดินทางเข้ามาหาเราและสร้างความรักความผูกพันกับประเทศไทย รวมถึงการจุดประกายเรื่องความหลากหลายทางเพศและสร้างความเท่าเทียมในประเทศต่างๆ มากขึ้น”



    อลิสาย้ำถึงความสำคัญในความร่วมมือทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ โดยเฉพาะด้านศิลปะและการแสดงต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย รวมถึงสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและบุคลากรให้สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วสอดคล้องกับแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงและแข่งขันได้อย่างแข็งแกร่งในระดับโลก

    “เราเป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ส่วนศิลปะการแสดงซึ่งเสนอนโยบายการสนับสนุนช่วยลดค่าใช้จ่ายให้คนทำงานศิลป์อยู่ได้ โดยไม่เลือกขนาดธุรกิจ แต่เน้นวิธีคิดและ creativity ในการสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปมาก การใช้โดรน kinetic แสงไฟต่างๆ ซึ่งเป็นความท้าทายที่เรายังต้องพึ่งพาต่างประเทศ รวมถึงเราต้องพัฒนาคนให้สามารถแข่งขันได้ในอนาคต เช่น ทิฟฟานี่โชว์ที่จะขายความสวยอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องมีความสามารถ วิธีคิด ครีเอทีฟเข้ามาเสริม โดยเราต้องฝึกซ้อมกันมากขึ้น ซึ่งทุกคนทำงานด้วยใจ เพราะเราทำงานกับศิลปิน ถ้าไม่ใช้ใจทำงานไม่ได้ ดังนั้น หลักบริหารการของเราง่ายๆ คือ ใจเขาใจเรา และใช้ใจทำงานร่วมกับทุกคนไปยังเป้าหมายเดียวกัน เพราะธุรกิจเราถ่ายทอดความสุข ทีมงานต้องมีความสุขก่อนจึงจะให้ความสุขกับคนอื่นได้”



ภาพ: วรัชญ์ แพทยานันท์



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : พิภพ โชควัฒนา “นิวซิตี้” ทศวรรษแห่งนวัตกรรม

อ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนสิงหาคม 2568 ในรูปแบบ e-magazine