Vladislav Doronin เดินหน้า "AMAN" โลกการพักผ่อนยุคใหม่ - Forbes Thailand

Vladislav Doronin เดินหน้า "AMAN" โลกการพักผ่อนยุคใหม่

การเปิดตัว Amanpuri ที่ภูเก็ตด้วยจำนวนห้องพักราวๆ 50 ห้องพัก เมื่อเปรียบเทียบเชนโรงแรมที่ต่างแข่งขันด้วยจำนวนห้องพักหลักร้อยห้องแล้วนั้นในขณะนั้น ทำให้เห็นถึงหลักการทำธุรกิจของกลุ่ม Aman ที่มอบให้กับแขกผู้เข้าพัก โดยมีปรัชญา 4 ข้อเปรียบเสมือนเสาหลักในการดำเนินธุรกิจที่สืบต่อมาจนกระทั่งปัจจุบันในยุค Vladislav Doronin ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม Aman

“สวรรค์บนดิน” นิยามติดปากจากผู้เข้าพัก Amanpuri ที่ ภูเก็ต รีสอร์ตแห่งแรกของ Aman Resorts ที่เริ่มให้บริการราวปี 1988 เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างประสบการณ์การเข้าพักแบบลักชัวรี ไฮเอนด์ ที่นำหลักคิดการดำรงชีวิตแห่งโลกตะวันออกผสมผสานการออกแบบด้านสถาปัตยกรรมบนสถานที่ตั้งสำหรับการพักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัว ปรัชญาดังกล่าวกลับเด่นชัดเป็นอย่างมาก หลังจากการระบาดโควิด-19 ที่สถานการณ์การระบาดทำให้บรรดาผู้ประกอบอุตสาหกรรมโรงแรมในทุกระดับต้องปรับมาตรฐานการบริการ สู่ฉากหน้าของการให้บริการรูปแบบใหม่ ขณะเดียวกันด้านนักท่องเที่ยวเอง ต่างเฝ้ารอโอกาส จังหวะ และโหยหาการเดินทางท่องเที่ยว พักผ่อนในบรรยากาศและประสบการณ์ต่างแดนใหม่ ภายใต้ความคาดหวังมาตรฐานบริการที่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งการมอบประสบการณ์สุดประทับใจเป็นไปตามแนวทางการดำเนินธุรกิจของ Aman ที่เรียกว่า “transformation experiences” บริการที่ถูกส่งมอบและได้รับความเชื่อมั่นจากแขกผู้เข้าพักเป็นประจำกับ Aman เป็นเวลายาวนาน “Transformation experiences จะพบได้จากการเดินทางระหว่างประเทศในการเดินทางไปยังวัฒนธรรมที่แตกต่างและเป็นสิ่งที่ อมัน ให้ความสำคัญภายใต้แนวคิดการบริการที่เราได้นำเสนอ” Doronin กล่าว อีกหนึ่งจุดเด่นของอสังหาริมทรัพย์กลุ่ม Aman คือการออกแบบ การตกแต่ง และการจัดการพื้นที่ซึ่งเน้นความเป็นส่วนตัวของแขกผู้เข้าพัก และยังสอดคล้องเข้าสมัยกับมาตรการการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลที่หน่วยงานรัฐในหลายประเทศได้กำหนดไว้ ทำให้โรงแรมและรีสอร์ตในกลุ่ม Aman แทบไม่ต้องปรับตัวและเป็นสิ่งที่ไม่ตั้งใจ ทำให้ภาพรวมความต้องการในการเข้าพักในกลุ่มรีสอร์ตจึงมีความต้องการที่ต่อเนื่อง อย่าง Amanzoe กรีซ, Amanyara ที่หมู่เกาะเติกส์และเคคอส แขกที่พักได้รับบริการอย่างเต็มรูปแบบไม่ว่าเรื่อง การกินอยู่ หลับ นอน การเข้ารับการสปา ทรีตเม้นต์ ภายในวิลล่าส่วนตัว “สิ่งที่ผมรู้สึก เราเปลี่ยนตัวเองด้านบริการน้อยมาก เพราะเดิมเรามีบริการเหล่านี้อยู่แล้ว มีพื้นที่ให้แขกเยอะ โอกาสที่แขกที่เข้าพักจะเจอกันค่อนข้างน้อย แต่เราก็ต้องปฏิบัติตามแนวทางของรัฐบาลในแต่ละประเทศ พนักงานทุกคนต้องเข้าถึงการรับวัคซีนให้เร็วที่สุด” Doronin กล่าว แม้ Doronin จะกล่าวว่าถึงการปรับตัวในการให้บริการของโรงแรมค่อนข้างน้อยก็ตาม แต่ด้วยสถานการณ์การท่องเที่ยวที่หยุดชะงัก สั่งห้ามผู้คนเดินทางข้ามพรมแดนไปยังต่างแดน ทำให้อุตสาหกรรมโรงแรมและรีสอร์ต ต่างปรับโฟกัสกับกลุ่มนักท่องเที่ยวภายในประเทศ ทั้งยังเป็นแนวทางของกลุ่ม Aman เช่นกันที่ต้องศึกษาและลงสำรวจเรื่องการท่องเที่ยวภายในประเทศต่างๆ ซึ่งทำให้ Aman ได้พบเรื่องราวท้องถิ่นและข้อมูลสดใหม่ และยังเสริมกลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อมุ่งเน้นการทำการตลาดกับกลุ่มเป้าหมายภายในประเทศ โดยเฉพาะ Amangiri สหรัฐฯ, Amanyara ที่หมู่เกาะเติกส์และเคคอส, Amanpulo ฟิลิปปินส์ โดย Aman ทำให้ทั้ง 3 แห่งนี้มีอัตราการเข้าพักที่ดีกว่าก่อนการเกิดโควิด-19 “อมันยังคงให้ความสำคัญกับการโฟกัสการท่องเที่ยวจากกลุ่มนักท่องเที่ยวภายในประเทศ แม้ว่าการท่องเที่ยวระหว่างประเทศจะกลับมาแล้วก็ตามที่ผ่านมา Amanpulo ฟิลิปปินส์, Amangiri สหรัฐฯ และ Aman Venice อิตาลี โรงแรมทั้ง 3 แห่งที่มีผลการดำเนินที่ดีที่สุดของกลุ่มโรงแรมในเครือประจำปี 2020-2021 เลยทีเดียว”
หนึ่งในกิจกรรมของ Amangiri ที่รอต้อนรับแขกผู้มาเยือน
Doronin เปิดเผยด้วยว่า รอยัลตี้โปรแกรมของกลุ่ม Aman ถือว่ามีความแข็งแกร่งที่สุดในอุตสาหกรรมการโรงแรมซึ่งสะท้อนได้จากจำนวนแขกที่กลับมาเข้ามาใช้บริการ อย่าง Amanpuri ภูเก็ต มีความต้องการของผู้เข้าพักเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะแขกเดิมที่ต้องการกลับมาเยี่ยมรีสอร์ตที่เปรียบเสมือนบ้านหลังของ Aman ที่ภูเก็ตและยังเป็นโรงแรมเรือธง ซึ่งโดยปกติในทุกซีซั่นจะมีการเปิดตัว เพรชทีช โปรแกรมแพลน ในทุกๆ ปีในการต้อนรับผู้เข้าพักและยังเป็นโปรแกรมที่แขกคนสำคัญของ Aman รอคอย นอกจากนี้ระหว่างช่วงเวลาโควิดทีมของ Aman ไม่ได้หยุดนิ่ง คิดและสร้างผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมต่อแฟนคลับของ Aman ระหว่างการล็อกดาวน์ ด้วยการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มดูแลผิวพรรณให้คลายความคิดถึงไม่ว่าจะเป็นการออกกลุ่มผลิตภัณฑ์ อาทิ อาหารเสริม SVA จากสมุนไพร กลุ่มสกินแคร์ น้ำหอม เครื่องหอม และเสื้อผ้า เพื่อให้บรรดาแฟนคลับสัมผัสกลิ่นอายของ Aman ได้ที่บ้านของตัวเอง
Aman New York
สำหรับการลงทุนและขยายสาขาของกลุ่ม Aman นั้น Doronin เปิดเผยว่าใกล้จะถึงช่วงเวลาสำคัญและไฮไลท์ของกลุ่ม Aman ที่เรียกว่าเป็นโครงการที่จะเกิดขึ้นครั้งเดียวในชีวิต ด้วยการเปิดตัว Aman New York ตั้งอยู่บนถนนหมายเลย 5 ซึ่งเป็นหนึ่งในทำเลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก  เป็นการปรับปรุงอาคาร Crown Building ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ใจกลางเมืองนิวยอร์ก มาทำเป็นโรงแรมสุดหรูให้บริการห้องสวีทจำนวน 83 ห้อง มีเรสสิเด้นท์ 22 หลัง “อมัน นิวยอร์ก เป็นโครงการพิเศษมาก ถือได้ว่าเป็นโครงการที่จะเกิดเพียงครั้งหนึ่งในชีวิต ด้วยการออกแบบนำแรงบันดาลใจในการสร้างอสังหาริมทรัพย์ของอามานแห่งโลกตะวันออก มาผสมผสานความศิวิไล แห่งเมืองแมนฮัดตัน” Doronin ตั้งเป้า Aman New York จะเป็น Holistic Wellness Center แห่งแรกของฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นศูนย์สุขภาพแบบครบวงจร ขณะที่ Holistic Wellness Center ฝั่งตะวันออกอยู่ที่ Amanpuri ภูเก็ต เป็นสถานที่แห่งแรก นอกจาก Aman New York อีกหนึ่งไฮไลท์คือการเปิดตัว Aman Nai Lert Bangkok ในปี 2566 โดยโครงการนี้ประกอบด้วยส่วนของโรงแรม ที่จะห้บริการชั้นสูงจากบริการ สปา และ Aman Club นอกจากนี้ยังมีในส่วนที่เป็นเรสสิเด้นท์ ภายในบริเวณปาร์คนายเลิศ “ธุรกิจเรากำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีโครงการที่จะเปิดตัวในอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้า” Doronin กล่าว
Aman Venice อิตาลี
สำหรับวัฒนธรรมการทำงานและหลักการเชิงธุรกิจของ Aman ของเขานั้น Doronin เผยว่า เขาเองมีความมั่นใจว่าถ้าเรามีความเข้าใจและมองมุมที่ชัดเจน เราจะประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจระหว่างประเทศ และการมีมุมมางธุรกิจเดียวกันจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่ Aman ต้องการ โดยตัวเขาเองปัจจุบันยังคงทำงานหนัก และว่าความตั้งใจในการทำงานของเขาจะช่วยในธุรกิจมุ่งไปสู่ความสำคัญ “ถ้าเราใส่ใจในความสำเร็จและใส่ใจในองค์ประกอบกับสิ่งที่ทำผลงานจะออกมาดีและมีประสิทธิภาพ” Doronin ทิ้งท้ายด้วยว่า นอกจากนี้ความสมดุลระหว่างการทำงานและการพักผ่อนเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง เพราะว่าถ้าสุขภาพดี จะส่งผลให้ทุกอย่างดี “ที่ อมัน เราสนับสนุนให้พนักงานของอมันใส่ใจในสุขภาพ ผมออกกำลังทุกวันไม่ว่าจะเป็นการทำสมาธิ จี้กง โยคะ ทุกรีสอร์ตของอมันไม่พลาดที่จะเข้าไปเข้ากิจกรรมต่างๆ ที่ทางรีสอร์ตจัดขึ้นมา” อ่านเพิ่มเติม: Forbes Halo 100: บริษัทผู้สร้างแบรนด์ขวัญใจมหาชน
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine