วิเชียร แพทยานันท์ ขยับชั้น CMC สู่ Big Player อสังหาฯ
เมื่อศาสตร์แห่งการวินิจฉัยและรักษาบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้รับการประยุกต์เข้ากับการบริหารธุรกิจของครอบครัว ด้วยการจัดทัพปรับโครงสร้างอสังหาริมทรัพย์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมเดินหน้าเข้าตลาดทุนเสริมพลังสู่ยุคเจ้าพระยามหานคร 4.0
เส้นทางชีวิตที่พลิกผันของนายแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว วัย 27 ปีเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีที่รับโทรศัพท์จากบิดา ซึ่งเรียกตัวให้กลับมาช่วยงานธุรกิจครอบครัวอย่างเร่งด่วนพร้อมรับไม้ต่อตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลแพทยานันท์โดยไม่ทันได้ตั้งตัวในปี 2536
“คุณพ่อโทรหาผมบอกให้กลับมาทำงานที่บ้าน โดยไม่บอกเหตุผล พอกลับมาถึงทราบว่าท่านเป็นมะเร็ง ซึ่งในช่วงแรกที่เข้ามาทำธุรกิจยังจับต้นชนปลายไม่ถูกเพราะสิ่งที่เรียนมาไม่เกี่ยวกับธุรกิจ เราใช้เวลาประมาณ 1-2 ปีจึงพบว่าอสังหาริมทรัพย์เป็นเรื่องความน่าเชื่อถือและเครดิต เราจะทำโครงการโดยไม่มีแบรนด์ไม่ได้ จึงจัดตั้งบริษัท เจ้าพระยามหานคร ขึ้นในปี 2537”
วิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด(มหาชน) (CMC) กล่าวถึงการจัดโครงสร้างให้ธุรกิจของครอบครัวที่มีความเกี่ยวเนื่องกันรวมเป็นแบรนด์เดียวกัน เพื่อให้เกิดพลังร่วมในการดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร
สำหรับโครงสร้างธุรกิจในปัจจุบันของกลุ่มบริษัทแบ่งเป็น 3 บริษัทย่อย ได้แก่บริษัท พระยาพาณิชย์พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(PPP) ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย ประกอบด้วย คอนโดมิเนียมทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยว เน้นโครงการคอนโดมิเนียมทำเลใกล้รถไฟฟ้าและการเดินทางสะดวก เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่มีรายได้ระดับกลางถึงช่วงต้นของกลุ่มที่มีรายได้ระดับสูง
ส่วนบริษัท สยามมหานครพร็อพเพอร์ตี้จำกัด (SMP) ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหา-ริมทรัพย์เพื่อให้เช่า โดยมีอาคารซีเอ็มซีทาวเวอร์ ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานให้เช่าสูง 7 ชั้น ขนาดพื้นที่รวมประมาณ 3,983 ตารางเมตร โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ยังเป็นส่วนของสำนักงานบริษัทราว 3,588 ตารางเมตรหรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 90% และปล่อยเช่าให้บุคคลภายนอกเพียงพื้นที่บางส่วนของชั้น 4 หรือประมาณ 10%
นอกจากนั้น บริษัทยังมีโครงการอาคารชุด 8 ชั้น ชื่อ โครงการชาโตว์ อินทาวน์ รัชดา 36 และเตรียมพัฒนาในอนาคต อีก 1 โครงการ คือ โครงการชาโตว์ อินทาวน์ รัชดา 36-2 เนื่องจากที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งทั้งสองโครงการถูกซื้อมาในชื่อ SMP ที่ซื้อมานานตั้งแต่ช่วงปี 2543
ด้านบริษัท ไทยสยามนครพร็อพเพอร์ตี้จำกัด (TSN) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ เช่นชุดครัว บานประตู กล่องจดหมาย โรงงานผนังพรีแคส โรงงานผนัง EPS (ผนังที่ใช้ภายในตึก) โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อรับเหมาก่อสร้างให้โครงการที่พัฒนาโดย CMC, PPP และ SMP เป็นหลัก หากมีความสามารถรับงานภายนอกได้โดยไม่กระทบต่องานของกลุ่มบริษัทก็สามารถรับเหมางานก่อสร้างอื่นได้
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา TSN ไม่มีกำลังเพียงพอที่จะรับงานรับเหมาก่อสร้างของงานภายนอกกลุ่มได้ เนื่องจากตลอดระยะเวลา 3-5 ปีที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทมีการพัฒนาโครงการใหม่เป็นจำนวนมาก ซึ่งนโยบายการดำเนินธุรกิจของ TSN ในอนาคตผู้บริหารยังคงมอบหมายให้เป็นผู้สนับสนุนงานก่อสร้างให้แก่กลุ่มบริษัทเป็นหลัก โดยเลือกรับงานที่มีความเสี่ยงต่ำ ใช้แรงงานน้อยมีอัตรากำไรสูง เช่น การเก็บงานก่อสร้างภายในอาคารส่วนงานที่มีความเสี่ยงสูง เช่น งานก่อสร้างที่ใกล้เขตชุมชน งานก่อสร้างบริเวณเขตพระราชฐาน จะใช้ผู้รับเหมารายอื่นมารับงานแทน
“หลังจากการจัดโครงสร้างและรีแบรนด์ตราสัญลักษณ์ CMC ในปี 2548-2549 บริษัทพัฒนาอย่างรวดเร็ว และสามารถเปิดโครงการมากกว่า 50 โครงการในช่วง 10 ปี ตั้งแต่ 2550-2560 โดยมีชาโตว์ อิน ทาวน์เป็นแบรนด์ที่แข็งแรงเปรียบเป็น role modelให้น้อง ๆ ในวงการก้าวเดินตามมา และเป็นโครงการสร้างแรงบันดาลใจให้นักธุรกิจรุ่นใหม่”