Vivek Bhalla นำเทรนด์ตลาด “IHG” ทั่วไทย-เซาท์อีสต์เอเชีย - Forbes Thailand

Vivek Bhalla นำเทรนด์ตลาด “IHG” ทั่วไทย-เซาท์อีสต์เอเชีย

เครือโรงแรม IHG (InterContinental Hotels Group PLC.) มีรากฐานความเป็นมาทางธุรกิจถึง 200 ปี ส่วนธุรกิจเชนโรงแรม IHG ก่อตั้งเมื่อปี 2546 นำร่องด้วย InterContinental ให้บริการในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดที่ IHG ให้ความสำคัญมากในปัจจุบัน


    “เรามีพอร์ตโรงแรมในไทยประมาณ 30% ในภาคพื้นนี้ เป็นลักชัวรี่คอลเล็กชั่น เช่น Kimpton ที่กรุงเทพฯ สมุย และเชียงใหม่ เราโฟกัสตลาดลักชัวรี่มากว่า 10 ปี” Vivek Bhalla กรรมการผู้จัดการ ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลี IHG Hotels & Resorts เปิดเผยกับทีมงาน Forbes Thailand โดยย้ำว่า IHG ยังคงมีแผนขยายการลงทุนในธุรกิจโรงแรมอย่างต่อเนื่อง

    กลยุทธ์หลักของ IHG คือ การมีแบรนด์โรงแรมระดับหรูที่คนรู้จักดี เช่น Six Senses ทุกคนยอมรับในความลักชัวรี่ของแบรนด์ซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก IHG เป็นเครือข่ายโรงแรมขนาดใหญ่ มีโรงแรมทั่วโลกกว่า 6,505 โรงแรม และห้องพักกว่า 968,112 ห้อง (ข้อมูลจากเว็บไซต์ IHG ณ วันที่ 31 มกราคม ปี 2568) และมีแบรนด์โรงแรมชั้นนำกว่า 20 แบรนด์ ทั้งระดับ 4 ดาว 5 ดาว และระดับลักชัวรี่ เช่น Six Senses, Kimpton Hotels & Restaurants, HUALUXE, Vignette Collection, Regent, InterContinental, Holiday Inn, Iberostar เป็นต้น


บูมตลาดเซาท์อีสต์เอเชีย

    “ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก่อนหน้าสถานการณ์โควิดเราให้ความสำคัญมากสำหรับตลาดในอาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทย และหลังผ่านโควิดมาแล้วก็ยิ่งเปิดโรงแรมในไทยให้ความสำคัญมากขึ้น” Vivek เผยว่า IHG มองไทยเป็นศูนย์กลางในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเครือโรงแรมดังเชนนี้จึงมีโรงแรมที่บริหารอยู่ในไทยถึง 30% ของพอร์ตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงแรมในกลุ่มลักชัวรี่

    เขายังบอกด้วยว่า IHG เป็นเครือโรงแรมขนาดใหญ่ มีโรงแรมทั่วโลกมากกว่า 6,000 แห่ง ถ้าเฉพาะในไทยมีประมาณ 39 โรงแรมและรีสอร์ตที่เปิดบริการแล้ว และอีก 35 แห่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนา ส่วนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลี IHG มีโรงแรมเปิดบริการอยู่ 125 แห่งในปัจจุบัน

บรรยากาศภายในโรงแรม Kimpton Maa-Lai Bangkok ในเครือ IHG


    โรงแรมที่กำลังก่อสร้างมีหลายกลุ่มทั้งลักชัวรี่และโรงแรมทั่วไปที่ปรับเปลี่ยนบริการตามเทรนด์และความต้องการของลูกค้า เช่น ลูกค้าต้องการเชื่อมต่อกับท้องถิ่น โรงแรมต้องเพิ่มประสบการณ์เหล่านี้เข้าไป และความยั่งยืนเป็นสิ่งที่โรงแรมต้องปรับให้เข้ากับทิศทางและกระแสโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง


เติบโตด้วยเทรนด์ความยั่งยืน

    “ความยั่งยืนเป็นส่วนหนึ่งของเทรนด์ที่โรงแรมลักชัวรี่ต้องมี เป็นจุดขายและเรื่องราวที่ใช้เพื่อการเชิญชวนลูกค้ามาใช้บริการ เพราะโลกเปลี่ยนไปผู้คนให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อม ชุมชน และการอยู่ร่วมกัน” สิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นเรื่องที่ดีคือ ธุรกิจกับชุมชนอยู่ร่วมกันอย่างพึ่งพาอาศัยและเติบโตไปด้วยกัน

    Vivek ได้ยกตัวอย่างโรมแรม Kimpton ที่เลือกใช้วัตถุดิบกาแฟจากท้องถิ่น รวมถึงการเลือกใช้สิ่งต่างๆ ที่สามารถใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นมาให้บริการได้ ซึ่งแตกต่างไปจากการทำโรงแรมในอดีตที่ไม่ค่อยเชื่อมโยงกับชุมชน แต่ทุกวันนี้โรงแรมต้องผสานเศรษฐกิจของชุมชนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินธุรกิจ “ผมมองว่าความลักชัวรี่ทุกวันนี้ดูกันที่การบริหารจัดการ การลดการใช้ทรัพยากรสิ้นเปลือง และการส่งต่อเชื่อมโยงกับสังคมอย่างไร สิ่งเหล่านี้เป็นโจทย์ใหม่ที่ตลาดให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ”


ท่องเที่ยวไทยระดับเวิลด์คลาส

    “ธุรกิจโรงแรมของไทยเป็นที่ยอมรับระดับต้นๆ ของโลก และเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต้องการมาเยือน ด้วยชื่อเสียงที่ดี ความโอบอ้อมอารีของผู้คน และราคาที่สมเหตุผล” เป็นราคาที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการทำให้ประเทศไทยเป็น the world destination อันดับต้นๆ มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในโลก

    ผู้นำธุรกิจภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลีของ IHG ยืนยันหนักแน่นว่า การท่องเที่ยวของไทยเติบโตและมีโอกาสเติบโตได้อีก รวมถึงตลาดลักชัวรี่ที่มีความพิเศษเฉพาะตัว เป็นเสน่ห์ของเมืองท่องเที่ยวที่มีทั้งความทันสมัย แหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามทางธรรมชาติ และความเป็นมิตรของผู้คน ทุกอย่างเป็นส่วนประกอบสำคัญทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ของโลกในด้านการท่องเที่ยว

    ด้วยเหตุนี้ IHG จึงมีแผนการลงทุนอย่างต่อเนื่อง นอกจากโรงแรมที่เปิดบริการแล้ว ยังมีพร็อพเพอร์ตี้อีกถึง 35 แห่งที่อยู่ระหว่างพัฒนาเตรียมเปิดบริการในเร็วๆ นี้ และไม่หยุดเพียงเท่านี้ เครือ IHG ยังลงทุนในธุรกิจท่องเที่ยวอีกหลายอย่าง นอกจากโรงแรมใหม่ยังมีการลงทุนเรื่องเทคโนโลยี

    การดำเนินธุรกิจโรงแรมของ IHG ไม่ต่างจากเชนใหญ่ทั่วโลกนั่นคือ มีระบบสมาชิก IHG One Rewards “เรามีโปรแกรมสมาชิกระดับโลก บริการด้วยโปรโมชั่นและกิจกรรมการตลาด ตอนนี้มี active member ราว 145 ล้านสมาชิก” ไม่น้อยเลยสำหรับฐานตลาดที่ต้องเชื่อมโยงกับเทคโนโลยี เพราะดิจิทัลมีความสำคัญและจะสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวข้องทั้งการตลาด บริการ และการบริหาร

    “ทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราได้ลูกค้ามาจากออนไลน์จำนวนมาก พวกเขาเสิร์ชและจองใช้บริการผ่านแอป เป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นแล้ว วันนี้ลูกค้า 60% มาทางออนไลน์ และแน่นอนว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” แม่ทัพ IHG ย้ำพร้อมเชื่อมโยงว่า ด้วยเหตุนี้ทำให้เขาต้องลงทุนด้านเทคโนโลยี เพราะตลาดมุ่งไปด้านเทคโนโลยีมากขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้น




เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ศรัทธาฟื้น “อนันตรา เชียงใหม่”

อ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมีนาคม 2568 ในรูปแบบ e-magazine