เจ้าของธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ด้านไอทีรายใหญ่อย่าง “เจมาร์ท กรุ๊ป” มีธุรกิจหลากหลาย ทั้งขายอุปกรณ์ด้านไอทีและเครื่องใช้ไฟฟ้า ขายสินค้าแบบผ่อนส่ง สินเชื่อส่วนบุคคล และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เมื่อหลายปีก่อนซื้อกิจการซิงเกอร์เข้ามาอยู่ในกลุ่ม ส่งผลให้กิจการขายสินค้าแบบผ่อนชำระเติบโตอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจพัฒนาพื้นที่คอมมูนิตี้มอลล์ “แจ๊ส อะเวนิว” ซึ่งก็เติบโตด้วยดี ขยายไปหลายสาขา
นอกเหนือจากธุรกิจที่รับรู้รายได้ในกลุ่มเจมาร์ทแล้ว อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารผู้เป็นทั้งเจ้าของและผู้นำองค์กรนี้ยังมีธุรกิจที่เป็นความสนใจส่วนตัวนั่นคือ กิจการร้านกังสดาล ธุรกิจร้านอาหารและสันทนาการที่เชียงใหม่ ซึ่งเปิดบริการและเติบโตในเชียงใหม่มานานกว่า 30 ปี ปัจจุบันก็ยังคงเปิดดำเนินการด้วยรูปแบบที่ปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลาและยุคสมัย เขายังคงเดินหน้าร้านกังสดาลให้เป็นที่ยอมรับได้อย่างต่อเนื่อง
ในสายตาของคนทำธุรกิจเมื่อมองเห็นโอกาสย่อมคว้าไว้เสมอ สำหรับอดิศักดิ์นอกจากโอกาสที่น่าสนใจเป็นเครื่องชี้นำการลงทุนแล้ว เขายังมีศรัทธาในความเชื่อและเซนส์ส่วนตัวจากสิ่งที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง แต่สามารถนำมาสู่ก้าวใหม่ของธุรกิจที่ใช้ทุนส่วนตัวซื้อกิจการเข้ามาบริหารต่อ แม้การลงทุนครั้งนี้ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเจมาร์ทแต่ก็เป็นการลงทุนส่วนตัวที่อดิศักดิ์ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน
นั่นคือเหตุการณ์เมื่อ 2 ปีก่อน เมื่ออดิศักดิ์ได้เข้าพักที่โรงแรมอนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท กลายเป็นจุดเริ่มต้นทำให้เขาตัดสินใจเข้าซื้อกิจการโรงแรมอนันตรา เชียงใหม่ พื้นที่ 7.5 ไร่ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิง ซึ่งการซื้อครั้งนี้มาจากศรัทธาและความเชื่อส่วนตัว เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่สามารถใช้เหตุผลมาอธิบายได้ แต่ทำให้เขาตัดสินใจซื้อโรงแรมที่มีอายุยืนยาวกว่า 20 ปีแห่งนี้มาเป็นอีกหนึ่งธุรกิจเพื่อดำเนินการในนามส่วนตัว โดยใช้บริษัทลงทุนเดียวกับร้านกังสดาล แหล่งแฮงเอาต์ชื่อดังที่อยู่คู่เมืองเชียงใหม่มากว่า 3 ทศวรรษ

อะไรทำให้นักธุรกิจผู้มีพื้นเพเป็นชาวจังหวัดยะลาตัดสินใจลงทุนในเมืองเหนือห่างไกลจากบ้านเกิดพอสมควร “ผมชอบเชียงใหม่และวัฒนธรรมเมืองเหนือจึงมาทำร้านกังสดาลที่หลายคนรู้จัก ทำมากว่า 30 ปีแล้ว กิจการไปได้ดี ขยายและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ” อดิศักดิ์เล่าเหตุผลที่เขาตัดสินใจลงทุนกิจการแรกที่เชียงใหม่ หลายคนอาจไม่ทราบว่าอดิศักดิ์คือเจ้าของกังสดาล แต่ด้วยธุรกิจที่ยืนหยัดยาวนานทำให้อดิศักดิ์เดินทางไปเชียงใหม่และสนใจการทำธุรกิจที่เชียงใหม่
หลังผ่านสถานการณ์โควิด-19 ธุรกิจโรงแรมล้วนได้รับผลกระทบมากน้อยต่างกันไปจึงเกิดการซื้อขายเปลี่ยนมือโรงแรมหลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือการตัดสินใจเข้าซื้อกิจการโรงแรมอนันตรา เชียงใหม่ เมื่อปี 2565 อดิศักดิ์เล่าว่า จุดเริ่มต้นมาจากการที่เขาและภรรยาได้เดินทางมาพักผ่อนที่เชียงใหม่โดยเข้าพักที่โรงแรมอนันตรา เชียงใหม่ แล้วเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นทำให้เขาและภรรยาตัดสินใจลงทุนซื้อโรงแรมแห่งนี้จากเจ้าของเดิมที่กำลังประสบปัญหาในช่วงโควิด-19 โดยจุดเริ่มต้นความสนใจมาจากความเชื่อและศรัทธา “คนอื่นอาจไม่เข้าใจ แต่ผมและภรรยาเชื่อว่าผู้ที่ปกป้องคุ้มครองที่นี่ต้องการให้เราเข้ามาดูแล ผมเชื่ออย่างนั้น”
ลงทุนด้วยศรัทธา
อดิศักดิ์เล่าว่า เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นในช่วงที่ตนและภรรยาได้มาพักที่โรงแรมนี้ โดยภรรยาและตัวเขาไม่ใช่คนที่เชื่อเรื่องลี้ลับหรือเหตุการณ์เหนือธรรมชาติใดๆ “ภรรยาผมไม่ใช่สายมู ไม่เคยมู และไม่มีความเชื่อเรื่องเหล่านี้ แต่วันนั้นมานอนที่โรงแรมเธอฝันเห็นคุณตาคุณยายอยู่ในห้อง ทั้งสองท่านเหมือนจะฝากฝังให้เราทำอะไรบางอย่าง” นั่นคือสิ่งที่ภรรยาบอก และรุ่งเช้าเมื่อพวกเขาเดินออกมาด้านหลังโรงแรมที่ติดแม่น้ำปิงทั้งคู่ได้พบกับศาลคุณตาคุณยายเหมือนในฝัน เชื่อมโยงอย่างไม่น่าเชื่อ
“ผมเชื่อว่าคุณตาคุณยายท่านฝากให้เราดูแลที่นี่ ผมจึงตัดสินใจจะซื้อ แต่ก็ยังไม่ได้ซื้อ ณ ตอนนั้นเลย เพราะมีคนอื่นมายื่นขอซื้อก่อน ตอนนั้นผมก็ไม่ได้ติดใจอะไร แต่แล้วผมซื้อโรงแรมนี้มาได้ มันคงถูกลิขิตไว้แล้ว” อดิศักดิ์เล่าถึงความเชื่อพร้อมรอยยิ้มอย่างอารมณ์ดี เขามองว่าการได้อสังหาริมทรัพย์แห่งนี้มาถูกกำหนดมาแล้ว เขาจึงได้ซื้อและมาดูแลโรงแรมนี้ การซื้อก็เหมือนการลงทุนทั่วไป มีการทำ deal diligence เข้าดูข้อมูลทรัพย์สินอย่างละเอียด ทุกอย่างจบภายในเดือนมกราคม ปี 2565
หลังจากนั้นทิ้งช่วงไปราว 1 เดือนการซื้อก็สำเร็จสมบูรณ์ แต่การลงทุนครั้งนี้ไม่ได้ซื้อในนามเจมาร์ท เพราะบอร์ดบริษัทไม่เห็นด้วย มองว่าเป็นธุรกิจที่ต่างจากธุรกิจหลักเกินไป และตอนนั้นเพิ่งผ่านช่วงโควิดมาไม่นานกิจการโรงแรมส่วนใหญ่ขาดทุน แต่เขามองว่าการท่องเที่ยวอย่างไรก็ต้องกลับมา เมื่อรวมกับเหตุผลลึกๆ ในใจที่ว่า คุณตาคุณยายฝากฝังให้ดูแลเขาจึงเดินหน้าซื้อกิจการโรงแรมในนามบริษัทส่วนตัว

“ตอนที่ซื้อนั้นโรงแรมอนันตรา เชียงใหม่ ยังมีสัญญากับเชนไมเนอร์กรุ๊ป 8 ปี ชื่อและเชนโรงแรมจึงเหมือนเดิม ซึ่งตอนนี้เหลือสัญญาอีก 6 ปี” เขาเผยและว่า หลังซื้อกิจการโรงแรมผลประกอบการก็ดีขึ้นเรื่อยๆธุรกิจท่องเที่ยวฟื้นตัวดีมาก ทำให้มีคนมาขอซื้อต่อแต่เขาไม่ขาย ทั้งที่นักลงทุนเจ้าใหม่ต้องการจะซื้อให้ได้ ยื่นข้อเสนอดีมาก แต่อดิศักดิ์ก็ยืนยันไม่ขายด้วยเหตุผลของศรัทธาที่มีกับพื้นที่
แต่หนทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะหลังจากชื่นชมกับการฟื้นตัวของท่องเที่ยวมาได้ไม่นานนัก ราว 2 ปีกว่าก็เกิดเหตุน้ำท่วมเชียงใหม่อย่างหนักเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาตามที่หลายคนเห็นในข่าว น้ำล้นมาจากแม่น้ำปิงเข้าท่วมโรงแรมทั้งบริเวณสูงกว่า 1.3 เมตร เสียหายเกือบทั้งหมด เฟอร์นิเจอร์ ห้องพัก และอื่นๆ เสียหายไปไม่น้อย อดิศักดิ์เล่าว่า ตอนนั้นเขาตกใจทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน แต่ก็ได้เดินทางมาเผชิญปัญหาด้วยตัวเองหลังได้ทราบข่าว
“วันที่ 5 น้ำเข้า พอวันที่ 6 ผมมาถึงโรงแรมก็ถามทีมว่าจะกลับมาเปิดได้วันไหน ไม่มีใครตอบ ไม่กล้าตอบ ผมเลยกำหนดเอง ต้องกลับมาเปิดให้ได้วันที่ 21 ตุลาคม ผมกำหนดไปหลายคนก็ยังไม่มั่นใจ” อดิศักดิ์เล่าว่า เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะกลับมาได้อย่างไร แต่มันก็ต้องมีกรอบเวลาที่ชัดเจน เมื่อพนักงานไม่มีใครกล้ารับปาก เขาในฐานะเจ้าของจึงต้องกำหนดวันเพื่อให้ทุกคนทำตามกรอบเวลา
หลังจากกำหนดวันเปิดตัวแล้วเขาเล่าว่า ไม่น่าเชื่อทีมงานสามารถรีโนเวตโรงแรมทั้งหมดได้เสร็จภายใน 20 วัน จึงมั่นใจว่าจะกลับมาเปิดได้ “ความรู้สึกตอนน้ำท่วมผมเชื่อว่าเจ้าที่อยากให้ผมทำอะไร ถามถึงการฟื้นฟูไปไม่มีใครกล้า commit วันเปิด เราจึงกำหนดเองในฐานะเจ้าของ ทุกคนก็เชื่อมั่น” นั่นเป็นการตัดสินใจสำคัญ เมื่อหัวเรือฟันธงว่าต้องทำให้เสร็จภายในกี่วัน ทุกคนก็พร้อมใจกันทำ ทุกคนช่วยกันเต็มที่ เขาก็อนุมัติการจัดซื้อ จัดเตรียมสิ่งของต่างๆ โซฟายังใช้ตัวเดิมปรับปรุงด้านนอกให้สวยงาม ซ่อมด้วยการปิดรอยน้ำไว้ก่อน ทุกอย่างเดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว
ไม่ใช่แค่การฟื้นฟูภายในโรงแรมแต่ยังรวมไปถึงองค์ประกอบอื่นๆ ของโรงแรมด้วย เช่น ต้นไม้ใหญ่ข้างหน้าโรงแรมอายุเกิน 10 ปีแล้วล้มออกไปทางถนน เขารีบแก้ปัญหาเพราะมีความเชื่อว่า “นี่อาจเป็นการเตือนให้ต้องระมัดระวัง ก็ทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะต้นไม้นี้ปลูกมาพร้อมๆ กับโรงแรมน่าจะเกิน 10 ปีแล้ว ต้องรักษาไว้เช่นกัน” ไปจนถึงเรือนไม้อายุกว่า 140 ปี เป็นส่วนหนึ่งของโรงแรมอนันตรา เชียงใหม่ อาคารเก่าหลังนี้เคยเป็นสถานกงสุลอังกฤษ เป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ อดิศักดิ์ยอมรับว่าเหตุผลหนึ่งที่เขาซื้อโรงแรมแห่งนี้ก็เพราะอยากอนุรักษ์อาคารนี้ด้วย ต้องการรักษาไว้ให้ดี เปิดเป็นร้านอาหาร สร้างมูลค่าเพิ่มให้อาคารเก่าแก่แห่งนี้ ทำให้ยังคงสภาพที่ดีแข็งแรง สวยงาม และเป็นที่ชื่นชมของผู้มาเยือน
ภาพ: API และอนันตรา เชียงใหม่
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : นพ อนุรุทธิ์เนตรศิริ ปั้น HOMESK ผู้นำกระเบื้องเซรามิกภาคเหนือ
