นักร้องซูเปอร์สตาร์เกาหลี “กันต์พิมุกต์ ภูวกุล” กับเส้นทางศิลปินเดี่ยว BAMBAM x ABYSS และ GOT7forever - Forbes Thailand

นักร้องซูเปอร์สตาร์เกาหลี “กันต์พิมุกต์ ภูวกุล” กับเส้นทางศิลปินเดี่ยว BAMBAM x ABYSS และ GOT7forever

นาทีนี้เรียกได้ว่าไม่มีใครไม่รู้จักนักร้องซูเปอร์สตาร์วงเกาหลี "BAMBAM" - กันต์พิมุกต์ ภูวกุล ด้วยผลงานมากมายทั้งร้องเพลง แต่งเพลง แร็ปเปอร์ โปรดิวเซอร์เพลง เป็นนักแสดงและพรีเซนเตอร์ ได้ความรักและการสนับสนุนมากมายจากเหล่า “อากาเซ่” กองทัพแฟนคลับที่แปลชื่อจาก “I GOT7” ทั้งเกาหลี-ไทย และทั่วโลก

BAMBAM ชายหนุ่มวัย 24 ปีคนนี้มีดีที่บุคลิกสดใสร่าเริง ยิ้มเก่ง น่ารัก และเป็นกันเองกับทุกคนจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาสามารถครองใจใครหลายคน ซึ่งเห็นได้จากความตื่นเต้นของเหล่าคนรักแบมแบมผ่านสื่อสังคมออนไลน์ชนิดที่ว่าทุกอิริยาบถของแบมแบมติดเทรนด์ทวิตแบบรายวันเลยทีเดียว แบมแบมโลดแล่นในวงการเพลงเกาหลีและโด่งดังไปทั่วโลกกับวง GOT7 แต่ในที่สุดเหล่าอากาเซ่ทั่วโลกก็มีเวลาให้ได้หยุดลุ้นระทึกทันทีที่รู้ว่า แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล ยินดีร่วมงานกับ Abyss Company ผู้ทำธุรกิจรอบด้านของวงการบันเทิงเกาหลี ที่เริ่มจากการพัฒนาคอนเทนต์ในอุตสาหกรรมเค-ป๊อปและอีสปอร์ตด้วยเป้าหมายการสร้างสรรค์คอนเทนต์สู่ตลาดโลก Abyss ได้เปิดตัวแบมแบมด้วยช่องทางการติดต่อใหม่ถึง 4 ทาง คือ เฟซบุ๊ก, ทวิตเตอร์, อินสตาแกรม และยูทูบ โดยเฉพาะการเปิดตัวในช่องทางยูทูบด้วยลุค ‘พี่กันต์’ ในมาดสุดเท่ สร้างความแตกตื่นให้อากาเซ่ทั่วโลกได้ใจกันไปสุดๆ ในวิดีโอคลิปผ่านยูทูบ BAMBAM SPACE (ชมคลิปได้ที่ https://youtu.be/EJqj5gbUcOg) BAMBAM  

จากบอยแบนด์สู่ศิลปินเดี่ยว

นับเป็นการเริ่ม ต้นทศวรรษใหม่ของชีวิตการงานที่ยิ่งใหญ่ จากเด็กชาย แบมแบม-กันต์พิมุกต์ เด็กไทยวัย 10 ขวบที่ชื่นชอบวัฒนธรรมเกาหลี และหัดร้องเพลงรวมถึงฝึกเต้นคัฟเวอร์ผลงานของ Rain นักร้องเค-ป๊อปชื่อดัง จนเข้าประกวดและชนะรางวัลในงาน Thailand Rain Cover Dance เมื่อปี 2550 และคว้าอันดับที่ 2 ของการประกวดรายการ LG Entertainer ล้านฝัน-สนั่นโลก ในฐานะสมาชิกทีม We Zaa Cool (ทีมเดียวกับ ลิซ่า BLACKPINK) ในปี 2553 แบมแบมร่วมการออดิชันของค่าย JYP Entertainment ในไทย และเซ็นสัญญาเข้าเป็นศิลปินฝึกหัด บินลัดฟ้าไปใช้ชีวิตที่เกาหลีใต้ตอนอายุ 13 ปีอย่างเงียบๆ คนเดียว พร้อมกับความฝันในการเป็นศิลปิน และฝึกปรือภายใต้ชายคา JYP ด้วยเวลากว่า 3 ปีครึ่ง เขาพยายามฝึกฝนปรับตัวกับเรื่องต่างๆ และพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นทุกวัน แต่ยังสามารถคงความเป็นตัวของตัวเองได้ แบมแบมปรากฏตัวครั้งแรกในสื่อจากการร่วมรายการ WIN: Who Is Next ตอนที่ 4 วันที่ 6 กันยายน ปี 2556 ร่วมกับ Mark, Jackson, Yugyeom, Jaehyung, Sungjin, Yeong Quan, Wonpil และ Joo Hyuk ที่เป็นการแข่งเด็กฝึกหัดจาก JYP และ YG Entertainment ซึ่งเขาเป็นแค่ตัวแทนของเด็กฝึกอีกคนที่เข้าร่วมไม่ได้เพราะป่วย แต่ทักษะการเต้นก็โดดเด่นจนประธาน YG ชื่นชม แล้วเด็กชายแบมแบมก็ได้เดบิวต์อย่างเป็นทางการในฐานะสมาชิกวง GOT7 พร้อมซิงเกิลเปิดตัว Girls Girls Girls เมื่อวันที่ 16 มกราคม ปี 2557 จากนั้นเขาต้องทำงานอย่างหนักอีก 6 ปีเต็ม และประสบความสำเร็จท่วมท้น มีผลงานมากมายอย่างอัลบั้มเต็มและ EP รวมกัน 20 ชุดมีบทเพลงฮิตติดชาร์ตในระดับสากล ส่วนงานฝั่งไทยแบมแบมได้เป็นพรีเซนเตอร์ให้แบรนด์สินค้าชั้นนำ ทำเพลง Do You กับแร็ปเปอร์ F.HERO รวมถึงได้ทัวร์คอนเสิร์ต 8 ประเทศ และได้รางวัลใหญ่แห่งปี Best Album (Bonsang) 2021 Golden Disk Awards การันตีความสามารถก่อนอำลา JYP ที่สำคัญแบมแบมยังได้เป็นตัวแทนของ UNICEF Thailand เพื่อรณรงค์แก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็กด้วย ก้าวใหม่ในวัย 25 ปีของแบมแบม-กันต์พิมุกต์ เปิดฉากการเป็นศิลปินเดี่ยวกับ Abyss และให้รับผิดชอบงานทั้งหมดในเกาหลี โดยมี Legion1 รับผิดชอบงานของเขาทั้งหมดในไทย ซึ่งเป็นสิ่งน่ายินดีมากในก้าวสำคัญครั้งนี้ ทีมงาน Forbes Thailand เชื่อว่าแบมแบมจะก้าวผ่านทุกงานไปได้อย่างงดงาม เพราะเขาทำมันด้วยหัวใจที่มุ่งมั่นกับการเป็นมืออาชีพระดับสากล ความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมของการเดินตามความฝันในวัยเด็กก้าวสู่ศิลปินเกาหลีเต็มตัว แบมแบมจึงร่วมเป็น 1 ใน 8 Celebrities 8th Year Forbes Thailand มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ มุมมอง และบอกเล่าเส้นทางการเติบโต การวางแผนอนาคตและเป้าหมายการทำงานของเขา แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 การสัมภาษณ์ครั้งนี้จึงเป็นการส่งตรงบทสัมภาษณ์จากเกาหลีมาไทย แม้จะเป็นการสัมภาษณ์ทางอีเมลแต่อรรถรสความเป็นแบมแบมก็ชัดเจนอบอวลแบบเท่ๆ ในสไตล์ “พี่กันต์” บอกเล่าแนวคิด แรงบันดาลใจ และความใฝ่ฝันก้าวย่างแห่งความสำเร็จ ซึ่งในวัย 25 ปี โดยทั่วไปคือ first jobber แต่แบมแบมเดินมาไกลกว่านั้นเขาสร้างการยอมรับในระดับสากลได้สำเร็จ BAMBAM  

ความฝันที่มุ่งมั่นสู่ความสำเร็จ

ต่อไปนี้คือบทสัมภาษณ์ของแบมแบมที่ส่งตรงจากเกาหลีมายังกองบรรณาธิการ Forbes Thailand ในแบบถามตอบ เพื่อได้เห็นแนวคิดของเด็กหนุ่มอนาคตไกลผู้นี้ -คุณมีมุมมองเกี่ยวกับการเติบโตทั้งด้านความคิด การใช้ชีวิต และหน้าที่การงานของตัวเองอย่างไร และการเป็นแบมแบมอย่างทุกวันนี้เป็นอย่างที่คุณต้องการแล้วหรือไม่ “จากตอนที่เริ่มเดบิวต์ในปี 2557 ถึงตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปมากครับ ทั้งความคิดมุมมอง ความสนใจ การทำงาน และในอีกหลายๆ ด้าน ซึ่งคำตอบของคำถามที่ว่า แบมแบมในวันนี้เป็นไปอย่างที่ผมคิดไหม ก็อยากจะบอกว่า มีทั้งส่วนที่เป็นไปตามฝัน และก็มีส่วนที่คิดไม่ถึงครับ” -หากเปรียบกับช่วงการเติบโตของผีเสื้อดูเหมือนว่าการเป็นศิลปินของ JYP นับเป็นช่วงชีวิตแรกของการเป็นศิลปินของคุณตอนนี้คุณคิดว่าตัวเองได้เติบโตขึ้นอย่างไร “ถ้าเปรียบตัวผมเองกับวงจรชีวิตของผีเสื้อ คิดว่าตอนนี้ตัวเองกำลังจะเติบโตขึ้นเป็นผีเสื้อครับ” -คุณและเพื่อนๆ GOT7 ใช้เวลาหลายปีกว่าจะได้รับรางวัลต่างๆ จนถึงรางวัลล่าสุด Best Album (Bonsang) 2021 Golden Disk Awards ซึ่งมีผลต่อแรงบันดาลใจ ความคิด และจิตใจของคุณอย่างไรบ้าง “ทุกครั้งที่ผมได้รับรางวัลมันเป็นพลัง และแรงผลักดันให้ผมก้าวต่อไป และยิ่งทำให้อยากจะเป็นที่ยอมรับและเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นในอนาคตครับ” -ตอนนี้ใครๆ ต่างก็ยกให้คุณเป็นตัวอย่างของความพยายามในทุกด้านให้กับเด็กไทยที่มีความฝัน ซึ่งตลอดหลายปีที่เติบโตมาพร้อมกับการฝึกฝนและการใช้ชีวิตในแต่ละวันก่อนเดบิวต์ รวมถึงช่วงการทำงานอันหนักหน่วงเมื่อเป็น GOT7 คุณจำได้ไหมว่าบอกกับตัวเองอย่างไรให้ผ่านมาได้ และวันนี้หากจะให้คุณบอกตัวเองในอดีตคุณอยากจะบอกว่าอะไร “ในช่วงเวลาที่ยากลำบากผมมักจะบอกกับตัวเองว่า เรามีชีวิตแค่ครั้งเดียวให้เรามุ่งมั่น มีความสุขและสนุกไปกับมันจะได้ไม่ต้องเสียใจทีหลัง และสิ่งที่ผมอยากจะพูดกับตัวเองที่ผ่านมาก็คือ มีหลายสิ่งที่เราทำได้ดี และมีหลายอย่างที่เราทำได้ไม่ดีแต่เรายังคงยืนอย่างเข้มแข็ง และทำมันได้ดีมากๆ ขอขอบคุณที่ทำให้ผมเป็นตัวเองอย่างในทุกวันนี้” -คุณรู้สึกอย่างไรกับเส้นทางใหม่ครั้งนี้ที่ได้ร่วมงานกับ Abyss Company “ทั้งบริษัท Abyss และตัวผมเองรู้สึกตื่นเต้นกับเส้นทางใหม่ๆ ของผมด้วย เช่น กันมันเลยทำให้ผมนึกถึงความตื่นเต้นเมื่อตอนที่ได้เดบิวต์ มันก็ยิ่งทำให้ผมตื่นเต้นมากขึ้นไปอีกที่จะเริ่มต้นเส้นทางใหม่กับทีมและสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ครับ” BAMBAM -ตอนนี้คุณนับให้ตัวเองเป็นน้องใหม่ในวงการเพลงทั้งในเกาหลีและระดับสากลหรือไม่เมื่อเปลี่ยนจากการเป็นศิลปินกลุ่ม และคิดว่ามีจุดอ่อนอะไรบ้างที่คุณจะต้องพิสูจน์ตัวเองเพื่อเริ่มต้นการต่อสู้ครั้งใหม่ และจะนำไปสู่การสร้างแผนการทำงานในปีนี้อย่างไรบ้าง “เอาจริงๆ ผมว่าเป็นอะไรที่น่าสนุก และท้าทายมากๆ เลยครับ เพราะเส้นทางที่ผมเดินอยู่ตอนนี้เป็นเส้นทางที่ผมเลือกเอง ดังนั้น ไม่ว่าผมจะเป็นน้องใหม่จะแบบกลุ่มหรือแบบเดี่ยว หรือจะอย่างไรก็ตาม มันไม่ได้สำคัญอะไรเลยครับ ไม่ว่าจะอย่างไรผมก็ต้องทำให้ดีที่สุดในทุกด้าน มีความตั้งใจและจริงใจกับทุกสิ่งที่ผมเลือกจะทำ” -คุณวางแผนการเติบโตและเป้าหมายการทำงานในอนาคตไว้อย่างไร รวมทั้งเป้าหมายในอีก 10 ปีข้างหน้า “ผมมักจะตั้งเป้าหมายใหม่ๆ เสมอตั้งแต่ที่เดบิวต์เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ผมสนุกกับความท้าทายที่ต้องเจอในการบรรลุเป้าหมายของผม นั่นทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้น เวลาที่ทำเป้าหมายนั้นได้สำเร็จ หลังจากนี้อีก 10 ปี ผมจะมีอายุ 35 แต่คิดว่าคงจะเป็นเหมือนเดิมครับ” -วงการเพลงเกาหลีมีรูปแบบการทำงานแตกต่างกับของไทยและระดับโลกอย่างไร หลังจากที่คุณผ่านการเดินทางไปหลายประเทศ “ดนตรีไม่มีพรมแดนครับ มันแตกต่างกันก็แต่ละประเภทของดนตรี แต่ดนตรีก็ยังคงเป็นเสียงดนตรีอยู่ดี เมื่อชาวต่างชาติได้ฟังเพลง K-POP ถึงจะไม่เข้าใจความหมายของเนื้อเพลง แต่ก็รับรู้ด้วยความรู้สึกและเข้าใจเพลง K-POP ผ่านเสียงดนตรีได้ ผมว่าสิ่งนี้แหละที่เป็นข้อดีของดนตรี” ก่อนจบบทสัมภาษณ์แบมแบมยังฝากถึง "อากาเซ่" กองทัพแฟนคลับของเขาว่า อยากให้ทุกคนดูแลตัวเองดีๆ ไม่อยากให้ป่วยและรอวันที่เขากับทุกคนสามารถกลับมาเจอกันได้อีก นอกจากนี้ เขายังฝากบอกกับสื่อว่า ขอบคุณที่ให้ความสนใจและสนับสนุนเขามาตลอดหลายปี “อยากให้ติดตามผลงานในอนาคตด้วยครับ” และไม่ลืมทิ้งท้ายเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจว่า เขามีความสนใจอาจยังไม่ใช่ตอนนี้ เขาอยากลองทำน้ำหอม เทียนหอม หรืออะไรที่เกี่ยวกับกลิ่นหอม เป็นอีกฝันของเยาวชนไทยบนทำเนียบศิลปินดังเกาหลีที่มีแฟนคลับระดับสากล   เรื่อง: อรวรรณ หอยจันทร์ และ กนกวรรณ ไม้สนธิ์ ภาพ: Abyss Company ขอบคุณ: Legion1 ผู้ประสานงาน BamBam ในไทย 🎀  รับชม Video เพิ่มเติม:
คลิกอ่านฉบับเต็ม และบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมิถุนายน 2564 ในรูปแบบ e-magazine