Penfolds เผยยอดขายโตช่วงโควิด พร้อมเผยแผนปี 2564 - Forbes Thailand

Penfolds เผยยอดขายโตช่วงโควิด พร้อมเผยแผนปี 2564

Bryan Lau, Regional Manager Penfolds แบรนด์ไวน์เก่าแก่สัญชาติออสเตรเลียที่ก่อตั้งปี 1844 เปิดพฤติกรรมการบริโภคไวน์ของนักดื่มชาวไทยที่เปลี่ยนไปจากผลกระทบของโควิด-19 เผยยอดขายเติบโต 20 % เตรียมแผนการตลาดปี 2564 มุ่งเน้นการสร้างแบรนด์และสร้างตลาดในกลุ่มเป้าหมาย

Bryan Lau ผู้จัดการประจำประเทศไทย Penfolds เผยภาพรวมการเติบโตของแบรนด์ในประเทศไทย โดยในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอันเนื่องจากการการห้ามนั่งรับประทานภายในร้านอาหารตามมาตรการของรัฐบาล “จากมาตรการสั่งห้ามรับประทานอาหารในช่วงที่ผ่านมาทำให้พฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนไป นักดื่มเลือกที่ซื้อไวน์กลับบ้านเพื่อสังสรรค์ที่บ้านหรือสถานที่ตัวแทน ทำให้จากเดิมที่สัดส่วนรายได้ที่มาจากกลุ่มโรงแรมและร้านอาหารกับการซื้อผ่านร้านค้าที่เคยใกล้เคียงกัน ทำให้ปัจจุบันสัดส่วนอยู่ที่ราว 30 ต่อ 70” Bryan เผยและเสริมว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมายอดขายในประเทศไทยของแบรนด์ในปีที่ผ่านมาเติบโตร้อยละ 20 เหมือนเทียบกับปีที่ผ่านมา กลุ่มคนรุ่นใหม่เริ่มนิยมไวน์มากขึ้นเพื่อสังสรรค์หรือทานคู่กับอาหาร รวมไปประชากรของกลุ่มชนชั้นกลางที่เพิ่มมากขึ้นทั้งจำนวนและรายได้ และรวมไปถึงี่กลุ่มผู้มีรายได้ระดับสูง หรือ High-net-worth individual (HNWI) ที่ยังคงนิยมบริโภคไวน์อย่างต่อเนื่อง “ด้วยข้อตกลงทางการค้าของประเทศกลุ่ม FTA ทำให้ราคานำเข้าไวน์จากออสเตรเลียถูกกว่าไวน์ประเทศอื่น ไวน์ของเรามีมากถึง 25 เอสเคยู โดยเรานำเข้ามาในบางกลุ่ม ช่วงราคาอยู่ที่ราวเกือบพันบาทไปจนถึงหลักสามหมื่นบาทต่อขวด ทำให้เราเข้าถึงกลุ่มนักดื่มที่หลากหลายซึ่งปัจจุบันกลุ่มผู้บริโภคของเราอยู่ที่ช่วงอายุตั้งปี 25-45 ปี เป็นหลัก” Bryan กล่าว ด้านการจัดจำหน่าย Penfolds ทำงานร่วมกับ IWS ประเทศไทย เป็นตัวแทนจำหน่ายเพียงรายเดียวในประเทศ โดยในช่วงการระบาดในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาช่องทางการจัดจำหน่ายของแบรนด์เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30 ในช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โมเดิร์นเทรด ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต ขณะที่ช่วงเทศกาลคริตมาสและปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง Penfolds เปิด Festive Pop Up  สโตร์ 2 แห่งที่ ไอคอนสยาม และ เซ็นทรัลเวิร์ด เพื่อรณรงค์ด้านการขายมากยิ่งขึ้น ซึ่งช่วงเทศกาลปลายปี-ต้นปี ยอดจำหน่ายของแบรนด์จะเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าปกติ นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังเปิดตัวคอลเล็กชันพิเศษเพื่อส่งเสริมการขายและเน้นย้ำการมอบไวน์เป็นของขวัญ Bryan กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าประเทศไทยเป็นประเทศกลุ่มเป้าหมาย 3 ประเทศ ที่แบรนด์ต้องการสร้างตลาดให้เข้มแข็ง โดยมี สิงคโปร์ และมาเลเซียรวมด้วย และจากสถิตการบริโภคไวน์พบว่า สิงคโปร์มีอัตราการบริโภค 1.5 ลิตรต่อคนต่อปี ประเทศไทยมีอัตราการบริโภคอยู่ที่ 0.5 ลิตรต่อคนต่อปี และมาเลเซียอยู่ที่ 0.85 ลิตรต่อคนต่อปี ขณะที่ประเทศออสเตรเลียมีการบริโภคไวน์อยู่ที่ 2.5 ลิตรต่อคนต่อปี สำหรับภาพรวมตลาดไวน์ในประเทศไทย ทางแบรนด์มียอดขายติดอันดับ 3 ของตลาดไวน์ในประเทศไทย และเมื่อคิดเป็นสัดส่วนของไวน์นำเข้าสัญชาติออสเตรเลียแบรนด์เองมีสัดส่วนการจำหน่ายอยู่ที่ร้อยละ 12 อ่านเพิ่มเติม: “ลัญจกร อมรกิจบำรุง” ก่อตั้งรีนิว อินโนเวชั่นส์ สร้างนวัตกรรมปกป้องประวัติศาสตร์
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine