Facebook ไม่เปลี่ยน แต่คนเล่นเปลี่ยน - Forbes Thailand

Facebook ไม่เปลี่ยน แต่คนเล่นเปลี่ยน

FORBES THAILAND / ADMIN
03 Feb 2015 | 03:44 PM
READ 3185
ไม่มีข้อสงสัยใดๆ ว่า Facebook คือเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และจะยังคงความเป็นที่หนึ่งต่อไปในอีกชั่วเวลาหนึ่ง

 
ทว่าวิธีการใช้งาน Facebook กำลังเกิดความเปลี่ยนแปลงในแบบค่อยเป็นค่อยไป  จนเริ่มกลายเป็นศูนย์รวมผู้ใช้งานเครือข่ายออนไลน์ ที่แสดงปฏิสัมพันธ์แบบอยู่ไปวันๆ เสียแล้ว
 
การสำรวจของ GlobalWebIndex  (GWI) ล่าสุด ที่เก็บข้อมูลการใช้งาน social network รวม 8 แพลตฟอร์ม แสดงให้เห็นว่า Facebook เป็นเพียงเครือข่ายเดียวที่เกิดภาวะถดถอยของผู้ใช้งานในแบบเข้มข้นจริงจัง เฉลี่ยเป็นรายเดือนตลอดทั้งปี 2014 ซึ่งพบได้ทุกทั่วภูมิภาคของโลก ในขณะที่เครือข่ายออนไลน์เจ้าอื่นๆ อย่าง Pinterest และ Tumblr กลับมีผู้ใช้งานเชิงรุกเพิ่มขึ้น
 
Pinterest มีกิจกรรมเพิ่มขึ้น 97% และ Tumblr เพิ่มขึ้น 95% แต่ Facebook กลับเป็นเครือข่ายยักษ์ใหญ่เพียงแห่งเดียวที่ผู้ใช้งานแบบจริงจังมีกิจกรรมร่วงลงในปีที่ผ่านมา เหลือเพียง 9% ปรากฏตามข้อมูลของ GWI ซึ่งได้สัมภาษณ์ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต 170,000 ราย ใน 32 ประเทศ โดยอ้างว่าเป็นการศึกษาวิจัยผู้บริโภคดิจิทัลที่มากที่สุดในเวลานี้
 
การลดลงอย่างฉับพลันเกิดขึ้นในแถบเอเชียแปซิฟิก ซึ่งมีอัตราผู้ใช้งาน Facebook ลดลง 12% ในขณะที่โซเชียลเน็ตเวิร์คอย่าง WeChat และ Qzone กำลังมีบทบาท โดยเฉพาะในประเทศจีน

 
ภายนอกประเทศจีนแล้ว Facebook ยังคงเป็นผู้นำของเครือข่ายสังคมออนไลน์ ด้วยส่วนแบ่ง 81% ในหมู่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตวัยผู้ใหญ่ ที่ต้องลงทะเบียนใช้งาน ส่วนใหญ่ของกลุ่มนี้ log in เข้าใช้งานอย่างสม่ำเสมอ เกินกว่าครึ่งเป็นผู้ใช้ Facebook ที่มีความกระตือรือร้น log in มากกว่าวันละหนึ่งครั้งตลอดทั้งปี 2014
 
แต่ Facebook กลับกลายมาเป็นแหล่งรวมผู้ใช้งานทั่วๆ ไป เน้นการพบปะติดต่อทางสังคมมากกว่าจะเป็นพื้นที่ของการแบ่งปันแลกเปลี่ยนความคิดอ่านอย่างกระตือรือร้น และการเช็ค Facebook ผ่านสมาร์ตโฟนโดยมากแล้ว มักเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ใช้เวลาเพียงเล็กน้อย เพื่อที่จะดูหรืออาจจะ like ภาพสักหนึ่งหรือสองภาพ
 
GWI พบว่าผู้ใช้งาน Facebook ประมาณ 40% ยอมรับว่าพวกเขานั้น "อ่านฟีดข่าวสารเพื่อไม่ให้ตกข่าว โดยไม่โพสต์หรือแสดงความเห็นแต่อย่างใดเลย" ในเดือนที่ผ่านมา เช่นเดียวกับกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งถือเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ ก็ไม่ได้โพสต์อะไรผ่านเครือข่าย Facebook เช่นกัน (เช่นการคลิก like, การแสดงความเห็นต่อรูปภาพหรือวิดีโอ หรือการส่งข้อความหาเพื่อน)

 
"มิใช่ว่าคนกำลังจะเลิกเล่น Facebook" Jason Mander หัวหน้าฝ่ายสำรวจ GWI ระบุในรายงานล่าสุด "แต่มีแนวโน้มว่าคนใช้งาน Facebook ในลักษณะที่จริงจังหรือในเชิงรุกน้อยลงกว่าที่เคยเป็นมา" แนวโน้มดังกล่าวเกิดจากปัจจัยหลายอย่างด้วยกัน เช่น ความนิยมใน Instagram ทำให้คนเริ่มอัพโหลดรูปภาพขึ้น Facebook น้อยลง หรือการเติบโตของ app สนทนาเช่น WhatApp ทำให้ผู้ใช้ย้ายไปพูดคุยกันบนแพลตฟอร์มอื่นๆ 
 
อีกประการหนึ่งก็คือการใช้งานเครือข่ายผ่านสมาร์ตโฟนในชีวิตประจำวัน ด้วยหน้าจอที่เล็กและในเวลาอันจำกัด ทำให้ผู้ใช้ส่วนมากรูดหน้าจอไล่ลงมาเพื่อกวาดสายตาข้อมูล มากกว่าจะพิมพ์ข้อความเพื่อแสดงความคิดเห็นในสิ่งที่ตัวเองสนใจ "ยิ่งช่วยลดทอนการใช้งานในเชิงรุกให้ลดลง ผู้ใช้เพียงแค่เหลือบมองสิ่งที่ปรากฏ แทนที่จะแสดงปฏิสัมพันธ์ตอบโต้กลับข้อมูลเหล่านั้น" Mander ระบุ
 
ด้วยเหตุนี้จึงช่วยให้รายรับของ Facebook ยังคงแข็งแกร่งต่อไป ตราบเท่าที่คนใช้งานยังคง "จ้องดู" สิ่งเหล่า  ทำให้การลงโฆษณาใน Facebook ยังคงประสิทธิภาพ ช่วยสร้างผลกำไรได้ต่อไป
 
แพลตฟอร์มที่มีขนาดย่อมกว่าอย่าง Instagram มีผู้ใช้งานแบบจริงจังเพิ่มถึง 47% ตลอดจน LinkedIn ที่เพิ่ม 38% นั้นเป็นการเติบโตอย่างมีศักยภาพ เนื่องมาจากผู้ใช้มีทางเลือกในการเฟ้นหาเครือข่ายออนไลน์ที่เหมาะกับตัวเองมากขึ้น และหลายๆ คนยังได้ผูกบัญชีผู้ใช้งานเข้ากับ Facebook อีกด้วย
 
เมื่อต้องใช้งานผ่านอุปกรณ์พกพา Facebook ยังคงเป็น social app ยอดนิยมอยู่ต่อไป มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตที่เป็นผู้ใหญ่ถึง 41% ยอมรับว่าใช้ app ของ Facebook เป็นประจำ  แต่สำหรับ social app ที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในปี 2014 ก็คือ Snapchat  ซึ่งมีผู้ใช้งานแบบจริงจังเพิ่มขึ้นถึง 57% มากกว่าหนึ่งในสามเป็นวัยรุ่น 16-19 ปี แพร่หลายในสหรัฐฯ อังกฤษ ไอร์แลนด์ และสวีเดน

 
นอกจากนี้ ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในทุกช่วงวัยต่างใช้เวลากับเครือข่ายสังคมออนไลน์โดยรวมเพิ่มมากขึ้น เฉลี่ยแล้ววันละ 1.72 ชั่วโมง เพิ่มจาก 1.61 ชั่วโมงเมื่อปี 2012 ขณะที่ใช้เวลาออนไลน์วันละ 6 ชั่วโมง และ 30% หมดไปกับการใช้งานเครือข่ายออนไลน์
 
"ข้อมูลสำคัญเหล่านี้เป็นอาหารความคิดสำหรับเรา ในเวลาเดียวกันกับที่นักวิเคราะห์จำนวนมากต่างพากันบอกว่า "ฟองสบู่" เครือข่ายสังคมออนไลน์กำลังจะแตกแล้ว เครือข่ายออนไลน์ชั้นนำกำลังจะตาย" Mander ระบุในรายงานว่า "ทว่าในตอนนี้ เรากลับให้เวลากับเครือข่ายออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ยิ่งกว่าช่วงต้นๆ ของทศวรรษนี้"
 
เมื่อเข้าชมผ่านเว็บไซต์ Youtube จะมาเป็นอันดับหนึ่งของทุกเครือข่ายออนไลน์ ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตถึง 82% นอกประเทศจีน ต้องเข้าไซต์แชร์วิดีโอเจ้านี้ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ขณะที่ Facebook นั้นมี 73% 
 


เรียบเรียงจาก Facebook Was The One Network People Used Less In 2014 โดย Parmy Olson