นิตยสาร Forbes ก่อกำเนิดในสหรัฐอเมริกา โดย B.C. Forbes คอลัมนิสต์ด้านการเงินชื่อดัง และคู่หูของเขาเมื่อปี 1917 โดยให้ชื่อเมื่อแรกตั้งว่า Forbes: Devoted to Doers and Doings ประกาศตรงๆว่า ตั้งใจมอบพื้นที่ให้แก่ผู้ที่ทำธุรกิจและการสร้างธุรกิจ ผ่านมาเกือบร้อยปี Forbes ยังเป็นนิตยสาร ที่นำเรื่องราวของการสร้างธุรกิจ และนักธุรกิจที่ประสบประสบความสำเร็จ และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในเรื่องของการจัดอันดับมหาเศรษฐีทั้งระดับโลก และระดับประเทศ
การจัดอันดับมหาเศรษฐีผู้มีทรัพย์สินตั้งแต่ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือที่เรียกว่า billionaire ทั้งโลกโดยทีมงานด้านความมั่งคั่งของกองบรรณาธิการ Forbes ในสหรัฐอเมริกาได้ทำกันมาทุกปี นับเป็นปีที่ 29 ในปีนี้ แม้เศรษฐกิจโลกในรอบปีที่ผ่านมายังไม่ฟื้นตัวดีนัก แต่ จำนวนมหาเศรษฐีพันล้านที่ Forbes รวบรวมได้ของปีนี้ เพิ่มขึ้น 181 คน เป็น 1,826 คน ทรัพย์สินของพวกเขารวมกันแล้วได้ 7.05 ล้านล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 6.5 แสนล้านเหรียญ
กองบรรณาธิการ Forbes Thailand ตัดสินใจเลือกเรื่องนี้ขึ้นเป็น เรื่องเด่นประจำฉบับ ด้วยเหตุผลว่าความมั่งคั่งของมหาเศรษฐีทั่วโลก นั้นอยู่รอบตัวเรา ตั้งแต่ ช็อกโกแลตทาขนมปังที่เราชอบกิน แบรนด์เสื้อผ้าที่เราเลือกซื้อ ไปจนถึงโทรศัพท์มือถือ และโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เราใช้ ¼ ของความมั่งคั่งของมหาเศรษฐีทั้งโลกอยู่ในเอเชียแปซิฟิก จำนวนเศรษฐีพันล้านหลายร้อยคนอยู่ในจีน ประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก
Forbes Thailand คัดสรร รายชื่อมหาเศรษฐีที่น่าสนใจ ตั้งแต่ 20 อันดับของโลก ไปจนถึง ทำเนียบรายชื่อเศรษฐีพันล้านในเอเชียเหนือ เอเชียใต้ เอเชียตะวันออก เอเชียตะวันออกฉียงใต้ และไทย มาให้ผู้อ่านชาวไทยรู้จักคนเหล่านี้มากขึ้น
นอกจากนี้ เรายังนำเสนอเรื่องราวน่าสนใจของนักธุรกิจไทยต่างวัยที่ประสบความสำเร็จ เช่นเคย รวมทั้งสรุปเคล็ดลับ บทเรียน ความสำเร็จ และคราบน้ำตาของบรรดา เหล่าทายาทมหาเศรษฐี จากเวที The Next Tycoons เมื่อ 16 มีนาคม มาให้ได้อ่านกันอย่างทันใจ
แม้เมษายน คือ เดือนที่ร้อนที่สุดของปี มีวันหยุดยาวมาก หากไม่อยากเปียกน้ำ รำคาญใจ มี Forbes Thailand ฉบับนี้ไว้ข้างตัว อ่านสร้างแรงบันดาลใจก็ดีไม่น้อย
สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ
นพพร วงศ์อนันต์
Editor-in-Chief
Forbes Thailand
Editor-in-Chief
Forbes Thailand