สวัสดีครับท่านผู้อ่าน
Forbes Thailand ฉบับนี้ เราหยิบเรื่อง Digital TV มาเป็นเรื่องเด่นประจำฉบับ รับกับการประกาศของรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารว่าจะวางรากฐานพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้ไปสู่ Digital Economy ซึ่งหลายคนอาจยังงงว่าจะมีนโยบายอะไร และจะทำให้เป็นจริงได้มากน้อยแค่ไหนในช่วงเวลาสั้นๆของการบริหารประเทศ แต่ที่รู้แน่ๆ คือ เรายังตกลงกันไม่ได้ว่า จะใช้ภาษาไทยกับคำ digital อย่างไรดี ดิจิตัล ดิจิตอล หรือดิจิทัล
เนื้อหาส่วนใหญ่ในฉบับนี้ วนเวียนอยู่กับเรื่องราวของโลกดิจิทัล (สะกดตามหลักการทับศัพท์ของราชบัณฑิตยสถาน) คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต การค้าขายออนไลน์ และการนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ล่าสุดมาก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในกระบวนการผลิต รวมถึงการแข่งรถ
Forbes Thailand เลือกเรื่อง Digital TV มาศึกษาเปรียบเทียบในแง่มุมระหว่างความฝันกับความจริง ผลกำไรและขาดทุน และนำเสนอให้เห็นถึงความเชื่อมโยงของผู้มั่งคั่งหลายคนในทำเนียบมหาเศรษฐีไทยของ Forbes ที่ผันตัวมาคลุกในวงการ Digital TV หลังจากที่เห็นมหาเศรษฐีอย่างน้อย 2 รายในทำเนียบ Forbes ที่ร่ำรวยมาด้วยธุรกิจโทรทัศน์แบบดั้งเดิม Analogue TV ในตลาดที่มีผู้เล่นน้อยราย
เนื่องจากธุรกิจไทยทั้งใหญ่และเล็กต่างให้ความสนใจในตลาดจีน เราจึงเปิดพื้นที่เฉพาะกิจสำหรับ Greater China พูดถึงอาณาจักรของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในจีน โอกาสทางธุรกิจของไทยในฮ่องกง ตลาดนักท่องเที่ยวจีนขนาดใหญ่จาก Guangzhou สู่ไทย และโอกาสขายสินค้าไทยในตลาดออนไลน์ในจีน ธุรกิจทั้งหมดต่างอาศัยเทคโนโลยีดิจิทัลในการบริหารจัดการทั้งสิ้น
ในเรื่องแปลจากต่างประเทศ เราเปิดอาณาจักรที่เร้นลับของ Hermès แล้วไปดูเพื่อนสาวคู่หูผู้ทำธุรกิจให้เช่าเสื้อผ้าเครื่องประดับแบรนด์ดังไปทั่วสหรัฐอเมริกา ด้วยแผนธุรกิจที่แหวกแนว และความช่วยเหลือของเทคโนโลยีดิจิตัล ธุรกิจของเธอมีมูลค่าพันล้านเหรียญในเวลาไม่นาน เป็นแนวคิดทางธุรกิจที่น่าจะนำมาปรับเข้ากับเมืองไทยได้
ผมเชื่อว่า เนื้อหาและข้อมูลในเล่มนี้ หลากหลาย เข้มข้น และท่านผู้อ่าน นำไปประยุกต์ใช้ทางธุรกิจได้แน่นอนครับ
นพพร วงศ์อนันต์
Editor-in-Chief
FORBES THAILAND
หมายเหตุ: ติดตามเรื่องเด่นของ Forbes Thailand ฉบับ พ.ย. 2014 "Digital TV เดิมพันแสนล้าน ฟองสบู่ลูกใหม่ รอวันแตก?" ได้ที่ http://www.forbesthailand.com/cover_detail.php?cover_id=18