Cargill ประเทศไทย เผยทุ่มงบลงทุน 2.3 พันล้านบาท หรือราว 70 ล้านเหรียญฯ ในประเทศไทย รองรับการเติบโตของความต้องการบริโภคไก่ปรุงสุกและอาหารทะเลในตลาดโลก ด้าน David MacLennan ประธานกรรมการบริหารและและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มคาร์กิลล์ เผยงบลงทุนในไทยแล้วกว่า 3.8 หมื่นล้านบาทตลาด 50 ปีในไทย
David MacLennan ประธานกรรมการบริหารและและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มคาร์กิลล์ เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อร่วมฉลองความสำเร็จตลอด 50 ปีในไทยพร้อมเผยถึงธุรกิจในประเทศไทยที่ว่า “มีคนถามว่าคาร์กิลล์คืออะไร เราอยากสรุปสั้นว่าเราคือบริษัทหล่อเลี้ยงโลกด้วยอาหารบนความปลอดภัย เรานำอาหารไปสู่ทั่วโลกด้วยความปลอดภัยและยั่งยืน” David MacLennan กล่าวถึงที่มาถึงการลงทุนในประเทศเมื่อ 50 ปีที่ผ่านมาว่าเมื่อนึกถึงประเทศไทยเรานึกถึงประเทศแห่งอาหารเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จากเนื้อไก่ ซื้อช่วงเริ่มต้น Cargill ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับมันสำปะหลัง ตั้งแต่การลงทุนในวันแรกจนถึงปัจจุบันหากคิดมูลค่าอัตราแลกปัจจุบันลงได้ลงทุนไปแล้วราว 1.15 พันล้านเหรียญฯ หรือถ้าคิดเป็นเงินไทยในปัจจุบันราว 3.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งในปัจจุบันเรามีการจจ้างงานไปแล้วกว่า 17,000 คนทั่วประเทศไทย มีโรงงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิต 14 แห่ง โดยเราจำนวนผลิตภัณฑ์จากเนื้อไก่ ผลิตอาหารเพื่อปศุสัตว์ และสินค้าจากประมงในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจำหน่ายในประเทศและส่งออก”สำหรับภาพ 50 ปีจากนี้ต่อไป เดวิด ยังคงให้ความสำคัญกับเอเชีย จีน เอเชียตะวันเฉียงใต้โดยเฉพาะในประเทศไทย โดยจากเป็นทวีปที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยสาเหตุนี้เองจึงเป็นอีกหนึ่งที่มาของการลงทุนจำนวน 70 ล้านเหรียญฯ ในการเดินหน้าสู่ยุคต่อไปในการดำเนินธุรกิจ
“งบลงทุนรวมกว่า 70 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในครั้งนี้นำมาพัฒนาธุรกิจของกลุ่มบริษัทในสองส่วนคือธุรกิจเนื้อไก่ 65 ล้านเหรียญ และ 5 ล้านเหรียญฯ ในธุรกิจอาหารทะเล ซึ่งเป็นไปและสอดคล้องกับกลยุทธ์องค์กรในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองความต้องการของคู่ค้าและลูกค้าของบริษัทฯ ซึ่งครอบคลุมการนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวบการผลิตและจัดจำหน่ายไก่ปรุงสุก รวมถึงการขยายฐานการผลิตเนื้อไก่ปรุงสุกในจังหวัดนครราชสีมา ด้านงบประมาณบางส่วนนำไปใช้สำหรับเปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสัตว์น้ำ และทำการปรับปรุงยกระดับมาตรฐานโรงงานผลิตอาหารสัตว์น้ำในจังหวัดเพชรบุรี” David กล่าว ด้านการลงทุนด้านเทคโนโลยีบริษัทได้ลงทุนระบบ SAP เข้ามาประยุกต์ใช้ในตลาดเมืองไทยและพร้อมใช้งานราวไตรมาสที่ 2 ของปี 2562 ด้วยระบบดังกล่าวนี้ทำให้เราสามารถเชื่อมโยงเข้ากับผู้ใช้อื่นๆ ที่ใช้งานในระบบเดียวกันได้ นอกจากนี้เรายังเตรียมนำการวิเคราะห์ข้อมูลแบบดิจิทัลมาใช้วิเคราะห์จากข้อมูลด้านดิจิทัลที่เรามี ทั้งนี้ David เปิดเผยด้วยว่าสำหรับรายได้ปี 2018 (มิถุนายน – พฤษภาคมของทุกปี) ประเทศไทยเรามีรายได้มากกว่า 1 พันล้านเหรียญฯ สำหรับปีหน้าคาดการณ์บริษัทเติบโตราว 3-5 เปอร์เซ็นต์ ทั้งมีสัดส่วนการส่งออกเนื้อไก่ปรุงสุกปยังประเทศญี่ปุ่นเป็นอันดับหนึ่ง และมีการส่งออกไปยังยุโรป และแคนาดา อีกด้วย