รัฐผนึกเอกชนหนุนอุตสาหกรรมทางทะเลไทย - Forbes Thailand

รัฐผนึกเอกชนหนุนอุตสาหกรรมทางทะเลไทย

ไฟรเวิร์คส มีเดีย ผนึกกำลังภาครัฐเอกชน จัดงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมทางทะเล ผู้ร่วมงานทะลุ 10.000 คน ชี้ไทยมีศักยภาพเป็นศูนย์กลางการเดินเรือในอาเซียน วอนรัฐเร่งสนับสนุนอุตสาหกรรมต่อเรือในประเทศไทย มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท รองรับการเป็นฮับโลจิสติกส์ในภูมิภาค


    บริษัท ไฟร์เวิร์คส มีเดีย (ไทยแลนด์) ได้จัดงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมทางทะเล รวม 3 งานได้แก่ งาน “Thailand Marine & Offshore Expo 2022” หรือ TMOX งาน “Oil & Gas Thailand 2022” หรือ OGET และ งาน “Powerex Asia 2022” โดยมีผู้ร่วมงานกว่า 10,000 คน ที่ศูนย์นิทรรศการเเละการประชุมไบเทค บางนา

    ภัทรวิน จงวิศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาร์ซัน จำกัด (มหาชน) ในฐานะเลขาธิการ สมาคมต่อเรือและซ่อมเรือไทย กล่าวว่า อุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ เป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานทางเศรษฐกิจสำคัญประเทศ โดยปัจจุบันร้อยละ 90 ของปริมาณการค้าระหว่างประเทศ อาศัยการขนส่งทางน้ำ เนื่องจากสามารถบรรทุกได้ในปริมาณมาก และมีต้นทุนการขนส่งที่ราคาถูกกว่าการขนส่งประเภทอื่นๆ ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ ยังเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพด้านความมั่นคงของประเทศ ปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท


    “อยากให้ภาครัฐสนับสนุนอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือในประเทศ ซึ่งการขนส่งทางเรือมีต้นทุนต่ำกว่าการขนส่งทางบกหรือทางอากาศถึง 2 เท่า กระตุ้นความต้องการใช้ภายในประเทศ จะทำให้อุตสาหกรรมต้นน้ำมีการพัฒนา จะทำให้เกิดการจ้างงานและสร้างรายได้หมุนเวียนภายในประเทศ ซึ่งการจัดงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมทางทะเลในครั้งนี้ แสดงให้เห็นศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการเดินเรือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นช่องหนึ่งในการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพทั้งด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และองค์ความรู้ รวมถึงเป็นเวทีสร้างความร่วมมือทางธุรกิจในระดับนานาชาติ“ ภัทรวินกล่าว

 

คาดมูลค่าเงินสะพัด 170 ล้านบาท


    เคนนี่ ยง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟร์เวิร์คส มีเดีย (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้จัดงาน กล่าวว่า งานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมการทางทะเล ทั้ง 3 งานเป็นงานที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมทางทะเลและนอกชายฝั่ง มีการนำสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนี้มาจัดแสดง ตั้งแต่การออกแบบ การต่อเรือการดูแลรักษา การซ่อมแซม การเดินเรือ การขนส่งทางเรือ ถือเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งจัดมาเป็นปีที่ 11 แล้ว โดยปีนี้มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 10,000 คน และมีเงินสะพัดราว 170 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้เป็นการจับคู่ธุรกิจถึง 50 ล้านบาท


    ภายในงานมีการจัดแสดงนวัตกรรมล่าสุด ในส่วนของบริษัทที่ให้บริการด้านน้ำมันและก๊าซ อาทิ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) “PGPICC” จากประเทศอิหร่าน “Greatwall Drilling” จากประเทศจีน รวมถึงบริษัทชั้นนำด้านธุรกิจทางทะเล อาทิ “มาร์ซัน” และ “เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์” เป็นต้น

    นอกจากนี้ ยังมีพาวิลเลี่ยนจากประเทศสิงค์โปร์ จากสมาคม Singapore Industrial Automation Association หรือ SIAA ที่นำเสนอโซลูชันเทคโนโลยีที่มาช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมการน้ำมัน ก๊าซ และอุตสาหกรรมนอกชายฝั่งทะเล การต่อเรือ รวมถึงผู้ประกอบการจากนานาประเทศ อาทิ ผู้ประกอบการจาก สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฟินแลนด์ อิตาลี อิหร่าน อินเดีย เกาหลีใต้ จีน สิงคโปร์ และมาเลเซีย เป็นต้น

    กนกพร ดำรงกุล ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า งานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมทางทะเลทั้ง 3 งาน เป็นหนึ่งในทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล ทั้งอุตสาหกรรมด้านขนส่งโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมด้านพลังงาน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมต่อเรือและการขนส่งทางเรือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมทางทะเลและนอกชายฝั่ง สามารถยกระดับขีดความสามารถและสร้างรายได้ให้กับประเทศในอนาคต


อ่านเพิ่มเติม: 


​ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine

TAGGED ON