บมจ.ซีพีเอฟ โกลบอลฟู้ด โซลูชั่น หรือ CPFGS บริษัทย่อยของกลุ่มซีพีเอฟยื่นไฟลิ่งเข้าตลาดฯ โชว์ศักยภาพหนึ่งในผู้นำด้านการจัดจำหน่ายอาหารทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ มุ่งยกระดับอาหารและรูปแบบธุรกิจตอบโจทย์ผู้บริโภคและคู่ค้าทุกภาคส่วน
สุจริต มัยลาภ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีเอฟ โกลบอล ฟู้ด โซลูชั่น จำกัด (มหาชน หนึ่งในผู้นำด้านการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และอาหาร รวมถึงกิจการร้านอาหารและธุรกิจขนมสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของกลุ่มบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ กลุ่มซีพีเอฟ เปิดเผยว่า
บริษัทได้ดำเนินการยื่นคำขออนุญาตและยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เรียบร้อยแล้ว และได้ยื่นคำขอให้รับหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยภายหลังการไอพีโอ CPFGS ยังคงมีสถานะเป็นบริษัทย่อยของ CPF พร้อมแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ขณะที่บริษัทดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปของ CPF ภายในประเทศไทยและจำหน่ายไปยังต่างประเทศแต่เพียงผู้เดียว (exclusive distributor and exporter) สำหรับผลิตภัณฑ์จากฐานการผลิตของ CPF ในประเทศไทย
นอกจากนี้ CPFGS มีการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ CPFGS จัดหาจากบุคคลภายนอก โดยได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้านอาหารแก่ ผู้บริโภคทั่วไป รวมถึงลูกค้าเชิงพาณิชย์ (commercial customer) เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยง (HoReCa) ผ่านช่องทางที่หลากหลายทั้งในไทยและประเทศต่างๆ ทั่วโลก
โดย CPFGS ยังมีธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยภายใต้กิจการห้าดาวและกิจการร้านอาหารเชสเตอร์ รวมถึงธุรกิจขนมสำหรับสัตว์เลี้ยงด้วย ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ CPFGS จัดจำหน่ายล้วนเป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค เช่น CP, Butcher, BKP, Super Chef, Meat Zero และ Jerhigh เป็นต้น รวมทั้ง CPFGS อยู่ในตลาดที่มีโอกาสการเติบโตสูง
สำหรับธุรกิจหลักของ CPFGS ครอบคลุมถึงธุรกิจการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปในประเทศไทยและในต่างประเทศ ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์โดยหลัก ได้แก่ เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อเป็ด ไข่ไก่ เนื้อกุ้ง และเนื้อปลา ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป รวมถึง ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์ ไส้กรอก ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุง ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน
ธุรกิจร้านอาหาร คือ กิจการห้าดาว (Five Star) ร้านเชสเตอร์ (Chester s) ศูนย์อาหารฟู้ดเวิลด์ การให้บริการจัดเลี้ยง และร้านอาหารอื่นๆ ซึ่งมีจำนวน 5,101 แห่งทั่วประเทศไทย และผลิตภัณฑ์ขนมสำหรับสัตว์เลี้ยง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มมูลค่า (value-added pet snack products) ภายใต้ตราสินค้า Jerhigh และ Jinny
ส่วนช่องทางการจำหน่ายของ CPFGS มีการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารในประเทศไทยแบบ B2B2C, B2B และ B2C ผ่าน ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ เช่น 7-11, Makro, Lotus s, BigC, Tops, Central Food Hall และร้านค้าปลีกในเครือ The Mall รวมถึงเครือข่ายการจัดจำหน่ายและส่งออกไปยัง 53 ประเทศทั่วโลก ภายใต้ช่องทางการจำหน่าย B2B2C และ B2B ทั้งในทวีปเอเชีย ยุโรป อเมริกา โอเชียเนีย และแอฟริกา
ขณะเดียวกันบริษัทยังมุ่งนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายและพันธมิตรทั่วทุกมุมโลก
รวมถึงการเป็นหุ้นส่วนทางการค้ากับกลุ่มบริษัท CPF ซึ่งมีเครือข่ายกว้างขวางและมีระบบนิเวศทางธุรกิจที่หลากหลาย เป็นแหล่งจัดหาผลิตภัณฑ์ที่มีความมั่นคงและคุณภาพสูง ทำให้บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งในการแข่งขัน และมีโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจได้เป็นอย่างดีและสร้างสรรค์อาหารที่มีคุณค่า เพื่อส่งมอบการดูแลสุขภาพเชิงรุกให้แก่ประชากรโลก
ด้านรายได้งวดสิ้นปี 2565 ที่ผ่านมา CPFGS มีรายได้รวมจากการขายสินค้าจำนวน 1.71 แสนล้านบาท และมีกำไรสำหรับปีจำนวน 6.17 พันล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไร 3.6% โดยระหว่างปี 2563 และ 2565 รายได้และกำไรของ CPFGS มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีสูงถึง 18.4% และ 120.3% ตามลำดับ
“CPFGS เชื่อว่า อาหารที่ดีคือการลงทุนเพื่อสุขภาพชีวิตที่ดี เราจึงมองไปข้างหน้า ไม่หยุดสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อส่งมอบนวัตกรรมทางอาหารให้แต่ละคำที่คุณทานได้มากกว่าอาหารทั่วไป เรามุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมอาหารและคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อส่งมอบการดูแลสุขภาพเชิงรุกให้ประชากรโลก”
อ่านเพิ่มเติม: ผู้ถือหุ้น "บางจาก" อนุมัติซื้อ “เอสโซ่” 5.5 หมื่นล้าน มั่นใจ 3 ปีคืนทุน
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine