Guillaume Pousaz มหาเศรษฐีชาวสวิสผู้อยู่เบื้องหลัง Checkout.com ธุรกิจรับชำระเงินในกรุงลอนดอน ก้าวขึ้นเป็น “ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีที่ร่ำรวยที่สุดในยุโรป” หลังระดมทุนในรอบล่าสุด
ปัจจุบัน
Checkout.com มีมูลค่าแตะ 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังระดมทุน 1 พันล้านเหรียญจากกลุ่มนักลงทุน
ขณะที่ Guillaume Pousaz ซึ่งถือหุ้นราว 2 ใน 3 ของบริษัทมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิประมาณ 2.3 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งมากกว่า 2 เท่าที่ Forbes เคยประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ถึง 9 พันล้านเหรียญ
สำหรับการระดมทุนในรอบ Series D นี้ นำโดยนักลงทุนรายใหญ่อย่าง
Altimeter, Dragoneer, Franklin Templeton และอีกหลายราย ส่งผลให้ยอดรวมเงินระดมทุนของ Checkout.com แตะ 1.8 พันล้านเหรียญเป็นที่เรียบร้อย
“เงินที่ระดมได้จะถูกนำไปใช้เพื่อกระตุ้นการเติบโตในสหรัฐฯ และจะมีการจัดจ้างพนักงานเพิ่มขึ้นราว 200 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้"
ขณะที่ลูกค้ารายใหญ่ของบริษัท ได้แก่ Netflix, Farfetch, Grab และ Sony รวมถึงฟินเทคในยุโรป เช่น Klarna และ Revolut และผู้เล่นคริปโตอย่าง Coinbase และ Crypto.com
โดยในงบบัญชีล่าสุด ซึ่งเผยแพร่ในเดือนตุลาคม 2021 สำหรับปี 2020 ระบุว่า Checkout.com มีมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 73 เป็น 252 ล้านเหรียญ ในขณะที่มูลค่าการขาดทุนหลังหักภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 25 ล้านเหรียญจาก 9 ล้านเหรียญในปี 2019
เช่นเดียวกับบริษัทคู่แข่งอย่าง Stripe และ Adyen ต่างก็เติบโตท่ามกลางการระบาดโควิด-19 โดยในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว
Stripe มีมูลค่ากิจการแตะ 1.15 แสนล้านเหรียญ ส่งผลให้ทรัพย์สินสุทธิโดยประมาณของผู้ก่อตั้ง
Patrick Collison และ
John Collison อยู่ที่ 9.5 พันล้านเหรียญ
ขณะที่
Adyen ซึ่งเพิ่งเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์อัมสเตอร์ดัม มีมูลค่ากิจการอยู่ที่ 7.2 หมื่นล้านเหรียญ แม้ว่าหุ้นของบริษัทจะปรับตัวลงตั้งแต่แตะจุดสูงสุดในเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมา
ล่าสุด Checkout.com ขึ้นแท่น
‘หนึ่งในสตาร์ทอัพที่มีมูลค่ามากที่สุดในยุโรป’ ด้วยจำนวนพนักงาน 600 จาก 1,100 ตำแหน่งประจำอยู่ในลอนดอน และบริหารงานอยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินแห่งสหราชอาณาจักร (Financial Conduct Authority) ตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา ขณะที่สำนักงานอื่นๆ ตั้งอยู่ในปารีส เบอร์ลิน และซานฟรานซิสโก
ด้าน Pousaz ซึ่งอาศัยอยู่กับครอบครัวในดูไบ ลาออกจากมหาวิทยาลัยหลังสอบวิชาเศรษฐศาสตร์ไม่ผ่าน และก่อตั้ง Checkout.com ในปี 2012 และการระดมทุนในรอบล่าสุดนี้ก็ได้ผลักดันให้ Pousaz มีรายชื่อปรากฎในทำเนียบ 100 มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกของ Forbes ในฐานะผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีเพียงรายเดียวในยุโรป ขณะที่บรรดามหาเศรษฐียุโรปจำนวนมากได้รับอานิสงส์มาจากธุรกิจระดับโลก เช่น
BMW,
Chanel,
Aldi,
Lidl และ
L’Oreal
แปลและเรียบเรียงโดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค จากบทความ Checkout.com Founder Guillaume Pousaz Now Europe’s Richest Tech Billionaire After New Fundraising เผยแพร่บน Forbes.com
อ่านเพิ่มเติม:
10 ผู้ประกอบการ ขึ้นแท่น “มหาเศรษฐีพันล้าน” เพียงชั่วพริบตาในปี 2021