ยุคนี้ต้อง Live ขาย! Trip.com ลุยขายดีลเที่ยวในไลฟ์ เปิดตัวสตูดิโอใหม่ในกรุงเทพฯ - Forbes Thailand

ยุคนี้ต้อง Live ขาย! Trip.com ลุยขายดีลเที่ยวในไลฟ์ เปิดตัวสตูดิโอใหม่ในกรุงเทพฯ

การขายของผ่านการ Live Streaming หรือเรียกอีกอย่างว่า Live Commerce ดูเหมือนจะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนได้จากความสำเร็จของผู้ค้าในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ คือ ช้อปปี้, ลาซาด้า และ TikTok ที่ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า การสตรีมมิ่งช่วยให้ร้านค้าหรือแบรนด์ขายของได้มากขึ้นจริงๆ


    ตัวอย่างช้อปปี้ ที่รายงานข้อมูลสถิติของ Shopee Live ช่วงเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา พบว่ามียอดออเดอร์สินค้าเพิ่มขึ้นทะลุ 40 เท่า เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

    ขณะที่ข้อมูลจาก TikTok ระบุว่า ผู้บริโภคชาวไทยเลือกช้อปสินค้าผ่าน TikTok Shop เฉลี่ยต่อวันสูงถึง 1.6 ล้านรายในช่วงสงกรานต์ 2567 ที่ผ่านมา และครีเอเตอร์ไทยไลฟ์บนแพลตฟอร์ม 700,000 รายต่อเดือน

    เรียกได้ว่า Live Commerce กำลังเป็นเทรนด์ช้อปปิ้งของผู้บริโภคในยุคนี้ ทำให้หลายร้านก็เลือกที่จะปรับตัวเข้าหาพฤติกรรมใหม่ของผู้บริโภค ด้วยการ Live Streaming ขายของบนแพลตฟอร์ม

    ล่าสุดกับ Trip.com ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวแบบครบวงจรจากจีน ที่ปัจจุบันกลายเป็นผู้ให้บริการชั้นนำของโลก ได้เปิดตัวสตูดิโอซึ่งเป็นศูนย์กลางการไลฟ์สตรีมมิ่งแห่งแรกในเอเชีย Asia Live Streaming Centre ที่สำนักงาน Trip.com กรุงเทพฯ

    โดยสตูดิโอ Asia Live Streaming Centre แห่งใหม่นี้จะใช้ในการไลฟ์สดในทุกๆ วัน เพื่อนำเสนอดีลการท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดแก่นักเดินทางชาวไทยและต่างชาติ และยังมีวัตถุประสงค์เพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวของประเทศไทยอีกด้วย


    นายโบ ซุน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Trip.com Group กล่าวว่า ศูนย์ไลฟ์สตรีมมิ่งแห่งใหม่นี้มีเป้าหมายเพื่อตอบรับความต้องการของผู้ใช้บริการ สืบเนื่องจากฐานข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้โซเชียลมีเดียในประเทศไทยที่มีจำนวนมากและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    รวมถึงประเทศไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญด้านการท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ในภูมิภาคอีกด้วย การเปิดตัวบริการใหม่ในครั้งนี้จึงมีศักยภาพที่จะช่วยยกระดับการเดินทางท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย


    Trip.com ยังเผยอีกว่า ที่เลือกเปิดตัวสตูดิโอไลฟ์สตรีมมิ่งที่ไทยเป็นแห่งแรกในเอเชีย เนื่องจากประเทศไทยมีความพร้อมในระดับหนึ่งแล้ว คนไทยเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ 80-90% ของประชากร ใช้โซเชียลมีเดีย และเล่น TikTok อยู่แล้ว นอกจากนี้คนไทยยังไลฟ์สตรีมมิ่งเพื่อธุรกิจมากขึ้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะมาสร้างฐานลูกค้าและบริการนี้นอกประเทศจีน

    Asia Live Streaming Centre แห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางของ Trip.com Group ในการไลฟ์ออกอากาศเพื่อนำเสนอดีลท่องเที่ยวสุดพิเศษทุกๆ วันบนช่องทาง TikTok ของ Trip.com Thailand โดยโปรดักต์ที่มาขาย จะแตกต่างจากบนแอปพลิเคชั่น

    กล่าวคือ บนแอปพลิเคชันจะเป็นการจองการเดินทางแบบปกติที่ระบุวันเดินทางและวันเข้าพักชัดเจน สำหรับใน Livestream จะมีจุดขายเด่นๆ ที่เปิดตัวมาคือ Presale Voucher ซึ่งเป็นการซื้อ Voucher ก่อนแล้วไป redeem ระบุวันเข้าพักทีหลังได้ และหากซื้อไปและอยากจะยกเลิกก็สามารถยกเลิกได้ โดยได้รับเงินคืน 100%

    ในช่วงแรกการ Livestream ของ Trip.com จะเริ่มต้นด้วยภาษาไทยก่อน และมีแผนขยายการให้บริการอย่างต่อเนื่องด้วยการไลฟ์เป็นภาษาอังกฤษสำหรับผู้ชมต่างประเทศในลำดับต่อไป

    นอกจากนี้ ทาง Trip.com Group ยังมีแผนที่จะจับมือกับพันธมิตรโรงแรม สถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่น และธุรกิจต่างๆ ในประเทศไทย เพื่อร่วมกันมอบข้อเสนอการเดินทางท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ ให้นักท่องเที่ยว ซึ่งจะเน้นที่ข้อเสนอที่แสดงอยู่ในรายการ Trip.Best ซึ่งเป็นรายการจัดอันดับสถานที่และบริการยอดนิยมบนแพลตฟอร์มของ Trip.com ที่จะช่วยให้ผู้ใช้บริการสามารถเลือกตัวเลือกที่ดีและเหมาะสมกับความต้องการที่สุด ณ จุดหมายปลายทางต่างๆ ทั่วโลก

    โดยการไลฟ์จะเป็นการช่วยเพิ่มช่องทางการขายให้กับพันธมิตรทางธุรกิจของ Trip.com Group เพื่อให้เหล่าพันธมิตรสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการได้อย่างเต็มที่ เช่น การจัดแคมเปญ Mega Sale ความร่วมมือกับเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ในประเทศไทย หรือแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งนับว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนการตลาดของการบริษัทเพื่อให้บริการแบบครบวงจร

    ทั้งนี้ทุกๆ แคมเปญโปรโมชั่นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น 9.9 หรือ 11.11 Mega Sale ครั้งใหญ่ของ Trip.com ในวันที่ 9 กันยายน และ 11 พฤศจิกายน หรือโปรโมชั่นใหญ่ครั้งต่อๆ ไป ก็จะถูกนำเสนอผ่านการไลฟ์ด้วย

    Trip.com Group ยังตั้งเป้าขยายช่องทางการไลฟ์สดไปบนแพลตฟอร์มของ Trip.com ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มเติมอีกด้วย โดยตั้งเป้าว่าจะเปิดตัวต่อไปในไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 และไตรมาสที่ 1 ปี 2025 โดยมีเป้าหมายในระยะยาวเพื่อขยายการไลฟ์สตรีมมิ่งนี้ไปยังตลาดอื่นๆ ที่การไลฟ์สตรีมมิ่งนั้นได้รับความนิยม

    กลยุทธ์การเปิดตัวศูนย์กลางการไลฟ์สตรีมมิ่งแห่งใหม่ในประเทศไทยนั้นสืบเนื่องจากกระแสความนิยมการไลฟ์สตรีมมิ่งที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นการตอกย้ำจุดยืนของ Trip.com Group ในการเป็นผู้นำด้านการไลฟ์สตรีมมิ่งที่เน้นด้านการท่องเที่ยว

    โดยก่อนหน้านี้ในปี 2023 ทางกลุ่มบริษัทฯได้มีการทำซีรีส์ไลฟ์สตรีมมิ่งที่เรียกว่า “Super World Trip” ที่ได้มีการไลฟ์ที่ประเทศไทยโดยได้ไลฟ์ขายห้องพักในโรงแรมได้มากกว่า 20,000 ห้อง ตามด้วยการไลฟ์สตรีมมิ่งที่โตเกียว สิงคโปร์ โซล และฮ่องกง ซึ่งช่วยกระตุ้นความต้องการในการเดินทางได้อย่างมากอีกด้วย



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : อโกด้าเผย ‘หาดใหญ่’ คว้าแชมป์เมืองท่องเที่ยวที่ห้องพักราคาคุ้มค่าที่สุดในไทย

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine