อโกด้าเผย ‘หาดใหญ่’ คว้าแชมป์เมืองท่องเที่ยวที่ห้องพักราคาคุ้มค่าที่สุดในไทย

อโกด้า เผย 9 อันดับเมืองท่องเที่ยวที่ราคาห้องพักคุ้มค่าที่สุดโดยเฉลี่ยในภูมิภาคเอเชีย โดยหาดใหญ่เลื่อนขึ้นมาครองอันดับ 1 แทนที่แชมป์เก่าเมื่อเดือนเมษายน 2567 ที่ผ่านมาอย่างอุดรธานี

    ใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวช่วงวันหยุดยาวระหว่างเดือนสิงหาคมถึงกันยายนนี้ อโกด้ามีจุดหมายปลายทางยอดนิยมในเอเชีย ที่มีดีลราคาสุดคุ้มมากมายมาแนะนำ ซึ่งในประเทศไทย หาดใหญ่ เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ราคาห้องพักต่อคืนต่ำที่สุด เฉลี่ย 1,250 บาทต่อคืน อิงจากข้อมูลการจองห้องพักระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน ถึง 7 กรกฎาคม 2567 ของอโกด้า

    โดยตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม ถึง 30 กันยายน 2567 เมืองท่องเที่ยวในเอเชียที่ราคาห้องพักคุ้มค่าที่สุด ประกอบไปด้วยหาดใหญ่ (ไทย), ยอกยาการ์ตา (อินโดนีเซีย), กูชิง (มาเลเซีย), เกาะเซียร์เกา (ฟิลิปปินส์), ดาลัด (เวียดนาม), นาริตะ (ญี่ปุ่น), กัว (อินเดีย), ไถจง (ไต้หวัน) และปูซาน (เกาหลีใต้) ตามลำดับ

    ปิแอร์ ฮอนน์ ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย อโกด้า กล่าวว่า “เมื่อช่วงสิ้นปีเริ่มใกล้เข้ามา หลายๆ คนก็อยากไปเที่ยวพักผ่อนเติมพลังกันก่อนไปฉลองเต็มที่ช่วงท้ายปี การจัดอันดับเมืองท่องเที่ยวที่ราคาห้องพักคุ้มค่าที่สุดโดยเฉลี่ยในเอเชียของอโกด้า ช่วยให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจจองที่พักง่ายขึ้น และเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวที่น่าจดจำในราคาสบายกระเป๋า

    “ไม่ว่าจะเป็นทริปสั้นๆ คลายเครียด หรือทริปพักผ่อนยาวหลายวัน จุดหมายปลายทางเหล่านี้ก็ตอบทุกโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยว เราหวังว่าการจัดอันดับครั้งนี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนออกเดินทาง ไปค้นพบสถานที่ใหม่ๆ ท่องโลกกว้างในราคาที่ถูกลงกับอโกด้า”

​

    แม้ราคาห้องพักโดยเฉลี่ยจะต่ำกว่าในหลายเมือง แต่จุดหมายปลายทางทั้ง 9 แห่งนี้ ก็พร้อมมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวที่หลากหลายให้กับทุกคนในราคาที่คุ้มค่ากว่า เช่น เมืองปูซานและไถจงที่คึกคักมีชีวิตชีวา และชายหาดทรายขาวนวลบนเกาะเซียร์เกาในฟิลิปปินส์ มาดูไฮไลต์บางส่วนของเมืองท่องเที่ยวทั้ง 9 แห่ง ที่ราคาห้องพักคุ้มค่าที่สุดในเอเชียกัน

1.หาดใหญ่, ไทย (ราคาห้องพักเฉลี่ย 1,250 บาทต่อคืน)

    หาดใหญ่เป็นจุดหมายปลายทางในไทยที่น่าสนใจไม่แพ้ที่ไหน ใครที่อยากพักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางธรรมชาติแบบยังอยู่ในเมือง ลองไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะหาดใหญ่ แล้วต่อด้วยตลาดกิมหยง ลิ้มลองอาหารพื้นเมืองหลากหลายรสชาติ เดินทางไปหาดใหญ่ได้ง่ายๆ เพราะที่นี่มีสนามบินประจำจังหวัด และด้วยทำเลที่ตั้งที่ใกล้ชายแดนมาเลเซีย เมืองแห่งวัฒนธรรม และสีสันในภาคใต้ของไทยนี้จึงเป็นประตูสู่การผจญภัยสองประเทศที่น่าตื่นเต้น

2.ยอกยาการ์ตา, อินโดนีเซีย (ราคาห้องพักเฉลี่ย 1,340 บาทต่อคืน)

    ยอกยาการ์ตา ศูนย์รวมมนต์เสน่ห์แห่งวัฒนธรรมของอินโดนีเซีย ผสมผสานประวัติศาสตร์อันยาวนานกับความทันสมัยได้อย่างลงตัว เช่น วัดบุโรพุทโธ และวัดปรัมบานันอันยิ่งใหญ่ และถนนมาลิโอโบโร่แหล่งเดินเล่นช้อปปิ้ง นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับศิลปะหัตถกรรม และอาหารท้องถิ่นได้ทั่วเมือง พร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมอันเก่าแก่ของชาวชวาได้ง่ายอีกด้วย

​

3.กูชิง, มาเลเซีย (ราคาห้องพักเฉลี่ย 1,905 บาทต่อคืน)

    กูชิง เมืองหลวงของรัฐซาราวัก ถูกขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งความมีชีวิตชีวา และธรรมชาติที่งดงาม นักท่องเที่ยวสามารถไปสัมผัสประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมได้ที่ป้อมปราการ Margherita อันเก่าแก่ พร้อมเรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นอาณานิคมในอดีตของภูมิภาค และชมวิวแม่น้ำซาราวักที่สวยงาม

    นอกจากนี้กูชิงยังมีพิพิธภัณฑ์แมว สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างแมวกับเมือง ซึ่งคำว่ากูชิง แปลว่า “แมว” ในภาษามลายู และศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าเซเมงโกห์ ที่เหมาะสำหรับคนชอบธรรมชาติ มีกลุ่มอุรังอุตังในถิ่นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติให้เดินชมอยู่มาก

​

4.เกาะเซียร์เกา, ฟิลิปปินส์ (ราคาห้องพักเฉลี่ย 2,009 บาทต่อคืน)

    เกาะเซียร์เกา มนต์เสน่ห์แห่งทะเลฟิลิปปินส์ ถูกโหวตให้เป็นเกาะที่ดีที่สุดอันดับ 10 ในเอเชียโดยนิตยสาร Condé Nast Traveler และได้รับรางวัล 2023 Readers’ Choice Awards ของนิตยสาร ด้วยหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใส และบรรยากาศสบายๆ เกาะเซียร์เกาเป็นที่รู้จักแพร่หลายในหมู่นักเซิร์ฟ โดยเฉพาะ Cloud 9 จุดเล่นเซิร์ฟชื่อดังระดับโลก

    ส่วนใครที่อยากเล่นน้ำแบบค่อยเป็นค่อยไป ผ่อนคลายไปกับสายลม ต้องไม่พลาดแอ่งหิน Magpupungko และทะเลสาบ Sugba ทั้งหมดนี้ทำให้เกาะเซียร์เกาเป็นจุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนชอบเที่ยวทะเล

5.ดาลัด, เวียดนาม (ราคาห้องพักเฉลี่ย 2,009 บาทต่อคืน)

    ดาลัดเป็นเมืองที่อากาศเย็นสบาย และทัศนียภาพสวยงามตลอดปี สายโรแมนติกต้องไม่พลาดหุบเขาแห่งความรัก สวนดอกไม้ดาลัด และสถานีรถไฟดาลัดที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ สำหรับนักเดินทางที่ชื่นชอบการผจญภัย ยังมีภูเขา Lang Biang ที่อยู่ไม่ไกลจากดาลัด ตอบโจทย์คนอยากเดินป่า หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ

6.นาริตะ, ญี่ปุ่น (ราคาห้องพักเฉลี่ย 2,043 บาทต่อคืน)

    แม้นาริตะจะเป็นเมืองที่ผู้คนทั่วโลกจำได้จากสนามบินนานาชาติในเมือง ที่ถือเป็นศูนย์กลางของการเดินทางในญี่ปุ่น แต่นาริตะก็ยังมีสถานที่น่าสำรวจ และค้นพบสิ่งใหม่ๆ อยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ทางวัฒนธรรมอันเก่าแก่ หรืออาหารเลิศรส สวนสาธารณะนาริตะซันเปรียบเสมือนโอเอซิสแห่งความสงบ รายล้อมด้วยบ่อน้ำ ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ และเส้นทางเดินป่าที่ให้นักท่องเที่ยวได้หลบหลีกความวุ่นวายในเมือง

    ใครที่ชอบกินอาหารทะเลไม่ควรพลาดปลาไหล (อุนากิ) อาหารจานเด็ดของเมืองที่มีให้เลือกลิ้มรสหลากหลายรูปแบบ ที่ร้านอาหารดั้งเดิมตลอดสองฝั่งถนนนาริตะซัน โอมเตะซันโด

7.กัว, อินเดีย (ราคาห้องพักเฉลี่ย 2,341 บาทต่อคืน)

    กัวขึ้นชื่อเรื่องความมีชีวิตชีวา ชายหาดที่สวยงาม และสถานบันเทิงยามค่ำคืน เป็นเมืองท่องเที่ยวที่วัฒนธรรมอินเดีย และโปรตุเกสผสมผสานกันอย่างมีเอกลักษณ์ สวรรค์เขตร้อนแห่งนี้ที่อุดมไปด้วยแสงแดด คลื่นลมทะเล หาดทราย และอาหารทะเล ยังเป็นที่รู้จักแพร่หลายในด้านวิถีชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ที่เรียกกันว่า “susegad” หาดบากา โบสถ์ Bom Jesus และน้ำตกดัดซาการ์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองที่ต้องไม่พลาด นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสวัฒนธรรม รวมไปถึงจิตวิญญาณของคนในท้องถิ่น พร้อมดื่มด่ำไปกับความงามของเมืองอันน่าประทับใจ

8.ไถจง, ไต้หวัน (ราคาห้องพักเฉลี่ย 3,407 บาท ต่อคืน)

    ไถจง ตั้งอยู่ใจกลางเกาะไต้หวัน เป็นเมืองที่รวมความงดงามทางวัฒนธรรมและธรรมชาติไว้ด้วยกันอย่างลงตัว นักท่องเที่ยวสามารถกับเรียนรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ผ่านนิทรรศการที่น่าตื่นตาตื่นใจได้ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ธรรมชาติแห่งชาติ และสัมผัสเสน่ห์ของศิลปะข้างถนนได้ที่หมู่บ้านสายรุ้ง

    สำหรับใครที่อยากเดินช้อปปิ้ง และลิ้มรสอาหารท้องถิ่นต้องแวะไปตลาดกลางคืนเฟิงเจีย ส่วนสายธรรมชาติก็ต้องไปเยือนทะเลสาบสุริยันจันทราอันโด่งดังของไต้หวันที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล

9.ปูซาน, เกาหลีใต้ (ราคาห้องพักเฉลี่ย 4,017 บาทต่อคืน)

    ปูซานเป็นเมืองท่าที่โดดเด่นทั้งชายหาด ภูเขา และวัดวาอาราม นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่างหาดแฮฮุนแด หมู่บ้านวัฒนธรรมคัมชอน และวัดพอมอซาแล้ว ปูซานยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมายรอให้นักท่องเที่ยวไปค้นพบ เช่น ตลาดกุกแจ หนึ่งในตลาดดั้งเดิมที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี แหล่งรวบรวมอาหาร และของวินเทจมากมายที่สายช้อปปิ้งไม่ควรพลาด และทางเดินลอยฟ้าออยุคโด อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวจะได้ดื่มด่ำกับกับทัศนียภาพ 360 องศา บนสะพานพื้นกระจกที่ทอดยาวไปถึงหน้าผาที่ติดทะเล

เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ปารีส 2024 กระตุ้นเศรษฐกิจฝรั่งเศส วีซ่าเผยร้านค้ารายย่อยยอดขายพุ่ง 26%

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine