โรงแรม Cosi เวียงจันทน์ น้ำพุ โดย Centara ชูจุดเด่นความทันสมัยตอบโจทย์กลุ่มนักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่ และการเป็น 'Travel Hub' ศูนย์กลางการท่องเที่ยวจากเมืองเวียงจันทน์ไปยังเมืองอื่นๆ ของสปป.ลาว คาดการณ์ตลอดปี 2567 มียอดจองเข้าพัก 50% หลังกระแสตอบรับดีจากการเปิดตัวได้เพียง 2 เดือน
พศิน นพสุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมโคซี่ เวียงจันทน์ น้ำพุ โดย Centara เผยว่า ได้ผลตอบรับดีเกินคาดจากยอดจองเข้าพักราว 30% ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวและติดต่อธุรกิจที่เมืองเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หลังจากที่โรงแรมได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ 15% ทั้งนี้ ยอดผู้จองเข้าพักส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบ Same Day Booking และยังเป็นฐานลูกค้าจากบัตร The One Card ในเครือของ Central ที่ทำการจองและเข้าพักในวันเดียวกัน
ซึ่งผลของพฤติกรรมดังกล่าวน่าจะมาจากการที่นักท่องเที่ยวเห็นว่าโรงแรมหลายแห่งในเมืองเวียงจันทน์มีอายุเก่าแก่และเน้นดีไซน์การตกแต่งในรูปแบบ Frence Colonial ที่ได้รับอิทธิพลมาจากฝรั่งเศส อีกทั้งไม่ได้มีการอัปเดตข้อมูลผ่านเว็บไซต์มานานรวมถึงรูปภาพหรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ก็อาจจะมีสภาพไม่ตรงปกจึงได้มองหาทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้ดีกว่า พร้อมคาดการณ์ตลอดปี 2567 จะมียอดการจองเข้าพักไม่ต่ำกว่า 50% โดยเป็นผลจากการที่โรงแรมได้เปิดตัวช้าหลังจากช่วง High-Season ระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม ซึ่งถือเป็นช่วงพีคที่จะมีนักท่องเที่ยวทั้งจากไทยและยุโรปเดินทางมาเป็นจำนวนมาก
"ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ walk in เข้ามาจองพักที่โรงแรม Cosi เวียงจันทน์ น้ำพุ นอกเหนือจากเรื่องของที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดูใหม่และทันสมัยน่าเข้าพักแล้ว เหตุผลหลักต่อมาก็น่าจะเป็นเรื่องของ Location ที่ตั้งอยู่ ณ กิโลเมตรที่ 0 ถือเป็นเซ็นเตอร์ย่านใจกลางเมืองของเวียงจันทน์ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวภายในเมืองได้อย่างสะดวก อีกทั้งเวียงจันทน์ยังถือเป็นเมือง Travel Hub ที่สามารถเป็นจุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวก่อนที่จะเดินทางไปเที่ยวต่อยังเมืองอื่นๆ ได้ง่าย อาทิ การเดินทางต่อด้วยรถไปยังเมืองวังเวียงและเฟืองที่ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง ขณะที่เดินทางต่อไปเมืองหลวงพระบางจะใช้เวลาต่ออีก 4 ชั่วโมงเท่านั้น" พศินกล่าว
ทั้งนี้ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมโคซี่ เวียงจันทน์ น้ำพุ ยังบอกเพิ่มเติมอีกด้วยว่า รายละเอียดต่างๆ ของโรงแรมเน้นทำออกมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่ ครอบครัวที่ทันสมัย และคนวัยทำงาน เจ้าของธุรกิจในวัย 25-40 ปี โดยจุดเด่นที่เห็นได้ชัดคือเรื่องของเตียงนอนที่นุ่มสบาย สร้างความผ่อนคลายให้แก่ผู้เข้าพักได้อย่างเต็มที่, ระบบ Wi-Fi อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงที่รองรับไลฟ์สไตล์การทำงานของกลุ่ม Digital Normad ให้สามารถทำงานที่ไหนก็ได้ผ่านออนไลน์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ในส่วนของโซนคาเฟ่ยังเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งในส่วนของอาหารเช้านั้น ผู้เข้าพักแต่ละห้องจะได้รับการ์ดที่มีเงินจำนวนหนึ่งอยู่ในบัตรสามารถใช้แลกซื้อเครื่องดื่มและอาหารต่างๆ ที่โซนคาเฟ่ได้ตามความชอบของแต่ละบุคคล
ในส่วนของห้องพักนั้นมีจำนวนทั้งสิ้น 95 ห้อง มีให้เลือกถึง 3 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ ห้องโคซี่ (COSI) , ห้องโคซี่ พลัส (COSI Plus) และห้องโคซี่แฟมิลี่ (COSI Family) ซึ่งมีขนาดห้องตั้งแต่ 18 ตารางเมตรไปจนถึง 39 ตารางเมตร ซึ่ง ณ ปัจจุบัน เรทราคาค่าห้องพักจะยังอยู่ในช่วงโปรโมชั่นในราคาห้องละ 50 เหรียญสหรัฐฯ , 80 เหรียญสหรัฐฯ และ 100 เหรียญสหรัฐฯ ตามลำดับไปจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม หลังจากนั้นจะปรับเพิ่มอีกราวๆ 10 เหรียญ เป็นราคาปกติ
อย่างไรก็ตาม ทางผู้บริหารของโรงแรมแห่งนี้ ยังบอกอีกด้วยว่า แม้โรงแรม Cosi จะตั้งขนาบข้างอยู่ติดกับโรงแรมแบรนด์อื่นแต่ก็ไม่ได้กังวลว่าจะกระทบต่อธุรกิจแต่อย่างใด เพราะกลุ่มเป้าหมายของลูกค้าน่าจะคนละ target กัน โดยทาง Cosi จะเน้นกลุ่มนักเดินทางผู้รักอิสระ หรือกลุ่มนักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่เป็นหลัก ขณะที่โรงแรมเพื่อนบ้านที่ตั้งอยู่ข้างเคียงกันจะเน้นกลุ่มลูกค้าที่ต้องเดินทางติดต่อธุรกิจเป็นหลัก
สำหรับโรงแรม Cosi ภายใต้เครือ Centara นั้น ณ ปัจจุบัน เปิดให้บริการในไทยแล้ว 3 แห่ง ได้แก่ พัทยา, กระบี่ และสมุย โดยในส่วนของ 'โรงแรม Cosi เวียงจันทน์ น้ำพุ' ถือเป็นการขยายไปเปิดสาขาในต่างประเทศแห่งแรก ณ สปป.ลาว ซึ่งถือเป็นการบริหารงานโรงแรมภายใต้แบรนด์ในเครือ Centara จากการลงทุนของ AIDC Asia Investment, Development and Construction Sole Co., Ltd. ซึ่งถือเป็นบริษัทเอกชนชั้นนำของลาว
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : Bangkok Airways จัดแคมเปญ 'SAMUI SAVOR' กระตุ้นท่องเที่ยวท้องถิ่นผ่านร้านอาหารบนเกาะสมุย 42 แห่ง
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine