มาตรการ Lockdown ทำให้กิจการห้างร้านต่างๆ ต้องปิดให้บริการ ส่งผลกระทบกันถ้วนหน้าเพื่อสกัดการแพร่ระบาด COVID-19 หลายคนต้องดิ้นรนหาทางรอด คิง เพาเวอร์ ห้างจำหน่ายสินค้าปลอดภาษี เป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการที่ปรับตัวด้วยแคมเปญขายออนไลน์เฉพาะกิจ ไม่ต้องบินก็ซื้อได้
วันที่ 13 เมษายน 2563 คิง เพาเวอร์ เปิดแคมเปญฝ่าวิกฤตสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยผนึกกำลังพันธมิตรทางการค้าและพนักงาน เปิดตัวโครงการเฉพาะกิจภายใต้กลยุทธ์ KING POWER TEAM POWER รวมพลังพนักงานสร้างเครือข่ายขายออนไลน์ครั้งใหญ่ผ่าน www.kingpower.com พร้อมอำนวยความสะดวกส่งสินค้าถึงบ้านโดยไม่มียอดขั้นต่ำ เปิดให้ลูกค้าช็อปได้แม้ไม่มีเที่ยวบิน และพร้อมจัดส่งถึงบ้าน ทั้งสินค้าแบรนด์เนมในราคา Duty Free ที่คัดสรรมาเพิ่มเติมเป็นพิเศษสำหรับแคมเปญนี้โดยเฉพาะ รวมถึงสินค้า Non-Duty free อีกมากมาย เพื่อร่วมกันก้าวข้ามผ่านวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไปด้วยกันทั้งพนักงาน พันธมิตรทางการค้าและลูกค้า
อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจไปทั่วโลก ทั้งภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ และประชาชน ประกอบกับสถานการณ์ปัจจุบันของการแพร่ระบาดในประเทศไทย ทำให้ภาครัฐมีการประกาศปิดสถานที่ให้บริการต่างๆ อันส่งผลโดยตรงกับภาคธุรกิจทั้งระบบของประเทศ รวมถึงประกาศ พ.ร.ก ฉุกเฉินให้มีการใช้ Social Distancing #อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ ทำให้องค์กรและบริษัทต่างๆ ใช้นโยบาย Work From Home
โดยที่ผ่านมากลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกและสินค้าปลอดอากร (Travel Retail) ชั้นนำระดับโลก ตระหนักและให้ความสำคัญกับการร่วมเผชิญวิกฤตนี้กับทุกภาคส่วน ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างสูงสุดในทุกด้าน ซึ่งเป็นแนวทางที่องค์กรยึดถือปฏิบัติมาตลอด 30 ปี
จากสภาวะผกผันที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ พลิกแผนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ ‘KING POWER TEAM POWER’ ที่จะเปลี่ยนพนักงานทุกส่วนเป็น ‘นักขายสินค้าออนไลน์มืออาชีพ’ ให้องค์กรขยายเครือข่ายจาก ‘ออนกราวน์’ สู่ ‘ออนไลน์’
โดยแผนธุรกิจดังกล่าวจะเกิดประโยชน์กับทั้งพันธมิตรทางการค้า พนักงานและลูกค้าอย่างสูงสุด อีกทั้งตอบโจทย์มาตรการ Social Distancing #อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ ที่เน้นให้ทุกคนไม่ต้องเดินทางออกจากบ้าน หรือให้การออกนอกบ้านเป็นไปในระดับน้อยที่สุด
ฉีกทุกกฎครั้งแรก
สำหรับกลยุทธ์พลิกวิกฤตในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการฉีกทุกกฎเกณฑ์อย่างไม่เคยมีมาก่อน เพราะที่คิง เพาเวอร์ พนักงานทุกคน คือ หัวใจสำคัญของกลยุทธ์ ประกอบกับองค์กรเรามีความเชื่อในความเป็นไปได้, ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว และเชื่อมั่นในศักยภาพของทุกคน ‘KING POWER TEAM POWER’ จึงเป็นการขับเคลื่อนทั้งระบบเริ่มจากพนักงาน และพันธมิตรทางการค้า ที่จะแสดงพลังร่วมกันขยายฐานลูกค้าจากออนกราวน์สู่ออนไลน์ ภายใต้แคมเปญ KING POWER #SHOPSAVESTAYSAFE #ช้อปที่บ้านมีแต่SaveกับSafe
โดยเป็นประสบการณ์ใหม่ที่เปลี่ยนให้ทุกคนเป็นนักขายมืออาชีพ เข้าคอร์สอินเทนซีฟฝึกอบรมด้านการขายสินค้าออนไลน์ครบวงจร โดยประสบการณ์ใหม่ในวิกฤตนี้จะเป็นโอกาสสำคัญของพนักงานในการเรียนรู้ระบบการขายสินค้าออนไลน์ ซึ่งจะเป็นเป็นประโยชน์กับพนักงานในอนาคต
จากความเข้มแข็งของกลยุทธ์ที่สร้างจากความเข้มแข็งภายในสู่ภายนอกองค์กร แคมเปญนี้จะช่วยพันธมิตรธุรกิจและผู้บริโภคได้มีช่องทางจำหน่ายและซื้อสินค้า ทั้งสินค้าแบรนด์เนมที่ร่วมแคมเปญในราคา Duty Free ที่จัดส่งถึงบ้าน และสินค้า Non-Duty Free ได้แก่ เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์, สินค้าเพื่อสุขภาพ, สินค้าแฟชั่น, ผลิตภัณฑ์ความงาม, อาหาร และขนมทานเล่น, เครื่องใช้ในบ้าน, ชุดและอุปกรณ์กีฬา, นาฬิกา และสินค้าแม่และเด็ก ผ่านช่องทางออนไลน์ www.kingpower.com และแอปพลิเคชั่น KING POWER โดยไม่มีค่าจัดส่งสินค้า
และมั่นใจได้ว่าเป็นสินค้าคุณภาพของแท้ 100% พร้อมความคุ้มค่า ทั้งส่วนลด และสิทธิประโยชน์ที่มอบให้สมาชิก และโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้สมัครสมาชิกใหม่ อาทิ ส่วนลดทันที 200 บาท, การใช้กะรัตสะสมแทนเงินสดในการซื้อสินค้า, สิทธิการผ่อนชำระสินค้าและรับเครดิตเงินคืนจากธนาคารเป็นต้นพร้อมจัดสินค้าโปรโมชั่นพิเศษหมุนเวียนนำมา ‘คืนกำไร’ ให้ลูกค้าตั้งแต่เดือนเมษายน - มิถุนายน นี้
พลิกวิกฤตเป็นโอกาส
ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา คิง เพาเวอร์ให้บริการสินค้า Duty Free และ Non-Duty Free ผ่านช่องทางออนไลน์ www.kingpower.com และแอปพลิเคชั่น KINGPOWER โดยลูกค้าที่มีและไม่มีไฟลท์บินสามารถสั่งซื้อ และจองสินค้าได้ล่วงหน้า สร้างการเติบโตด้านยอดขาย และสามารถขยายฐานลูกค้าให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยสินค้าที่มียอดการสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์สูงสุด คือ สินค้ากลุ่มเครื่องสำอาง รองลงมาคือ น้ำหอม สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ในบ้าน และสินค้าแฟชั่น ตามลำดับ
ในสภาวะโควิด-19 นี้ คิง เพาเวอร์มองเห็นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อน และสร้างการรับรู้ระบบคิง เพาเวอร์ ช็อปปิ้งออนไลน์ให้ลูกค้า โดยมีพนักงานเป็นเครือข่ายสร้างการรับรู้และเพิ่มรายได้พิเศษ ในขณะเดียวกันยังช่วยบรรเทาผลกระทบสำหรับพันธมิตรทางการค้าให้สามารถขายสินค้าได้
นอกจากนี้ยังได้ให้การร่วมสนับสนุน ให้ความช่วยเหลือการรักษา ดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อ บุคลากรทางการแพทย์ ในนามมูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา รวมทั้งสิ้น 45 ล้านบาท ให้กับสถาบันบำราศนราดูร, กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และโรงพยาบาลรามาธิบดี
- อ่านเพิ่มเติม “ดุสิตธานี” ปิดโรงแรม 7 แห่งชั่วคราว
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine