อสังหาเครือ ‘เจ้าสัวเจริญ’ ทุ่มกว่าหมื่นล้าน พลิกโฉมที่ดินย่านช้างคลาน เชียงใหม่ สู่ ‘ลานนาทีค เดสทิเนชั่น’ - Forbes Thailand

อสังหาเครือ ‘เจ้าสัวเจริญ’ ทุ่มกว่าหมื่นล้าน พลิกโฉมที่ดินย่านช้างคลาน เชียงใหม่ สู่ ‘ลานนาทีค เดสทิเนชั่น’

FORBES THAILAND / ADMIN
01 May 2024 | 08:00 AM
READ 4141

ผู้ถือหุ้น AWC บริษัทอสังหาฯ ในเครือเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี อนุมัติเข้าลงทุนในทรัพย์สินบนพื้นที่ยุทธศาสตร์ย่านช้างคลานในโครงการ “เชียงใหม่ ไนท์ บาร์ซา” โครงการ “กาแล ไนท์ บาร์ซา” และโครงการ “เดอะ พลาซ่า เชียงใหม่” ด้วยงบลงทุนและพัฒนาของการลงทุนครั้งนี้รวมมูลค่า 11,950 ล้านบาท หนุนเชียงใหม่สู่การเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวระดับโลก ด้วยโครงการโรงแรมภายใต้แบรนด์ระดับลักชูรี สวนน้ำในโรงแรมแห่งแรกของเชียงใหม่


    วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า “AWC เชื่อมั่นในคุณค่าศิลปวัฒนธรรมอันโดดเด่นของไทยและศิลปะล้านนาที่พิเศษอันทรงคุณค่ามายาวนาน และยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเมืองเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางด้านศิลปะและวัฒนธรรมระดับโลก ผ่านโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพของบริษัททั้งในปัจจุบันที่ประกอบไปด้วยโรงแรม 3 แห่ง และศูนย์การค้า 1 แห่ง

    รวมถึงโครงการ ‘ลานนาทีค เดสทิเนชั่น’ ในอนาคตที่จะประกอบไปด้วยโรงแรมแห่งใหม่อีก 3 แห่ง รวมถึงสวนน้ำในโรงแรมแห่งแรกของจังหวัดเชียงใหม่ ร้านค้าร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อสนับสนุนการเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรมที่มีแนวคิดในการผสมผสานงานศิลปะทุกแขนงเข้าไปกับพื้นที่ เชื่อมคุณค่าจากอดีตสู่แรงบันดาลใจสำหรับอนาคต ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลกกว่า 10 ราย ที่จะมาช่วยสร้างไฮไลท์ให้กับเดสทิเนชั่นด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่


    โดยได้รับการพิจารณาอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในการเข้าลงทุนในโครงการ “เชียงใหม่ ไนท์ บาร์ซา” โครงการ “กาแล ไนท์ บาร์ซา” และโครงการ “เดอะ พลาซ่า เชียงใหม่” ที่จะได้รับการพัฒนาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ‘ลานนาทีค เดสทิเนชั่น’ ซึ่งจะเริ่มเปิดให้บริการเฟสแรกในปลายปี 2567 นี้ และจะต่อด้วยการเปิดโครงการเฟสต่างๆ ต่อเนื่องในช่วง 5 ปี เพื่อสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว และส่งเสริมการสร้างงานและเศรษฐกิจในพื้นที่ สร้างความแข็งแกร่งให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก”

    AWC ได้วางแผนการลงทุนสำหรับการพัฒนาโครงการ “ลานนาทีค เดสทิเนชั่น” ภายใต้เอกลักษณ์อันโดดเด่นในด้านศิลปะ อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และเอนเตอร์เทนเม้นท์ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์อันหลากหลายของนักท่องเที่ยวท้องถิ่นและนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ตั้งแต่ผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรม คนรักงานศิลปะ กลุ่มเพื่อน คู่รัก ครอบครัว ในทุกเจเนอเรชั่น ที่ประกอบไปด้วยแนวคิดเกี่ยวกับวัฒนธรรมล้านนาและศิลปะสมัยใหม่ สร้างศูนย์กลางงานศิลปะที่ใหญ่ที่สุด สะท้อนคุณค่าและเสน่ห์ของงานศิลปวัฒนธรรมอันรุ่งเรืองของล้านนา งานช่างสิบหมู่

    ต่อเนื่องไปจนถึงแรงบันดาลใจและงานศิลปะร่วมสมัย ศิลปะนานาชาติ ศิลปะดิจิทัล และการออกแบบเชิงนวัตกรรม เพื่อสร้างศูนย์กลางแห่งแรงบัลดาลใจและความสวยงามสำหรับทุกคนจากทั่วโลกที่รักในงานศิลปะรวมถึงวงการนักลงทุนและนักสะสมงานศิลปะระดับโลก

    ทั้งยังบูรณาการไลฟ์สไตล์และความบันเทิงหลากหลาย สร้างจุดหมายปลายทางที่ผสมผสานไลฟ์สไตล์และความบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดของภาคเหนือ ทั้งดนตรีการแสดง และความสนุกสนานมากมาย พร้อมด้วยสวนน้ำในโรงแรมแห่งแรกในภาคเหนือ ตลาดไลฟ์สไตล์ ฟู้ดเลานจ์ แหล่งรวมความสุข ความสนุก ความอร่อยมากมาย และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการพัฒนาโครงการที่จะร่วมสร้างคุณค่าเพื่ออนาคตที่ดีกว่าให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ชุมชน สังคม และเศรษฐกิจ เพื่อเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน


    “AWC มุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงการ ‘ลานนาทีค เดสทิเนชั่น’ เพื่อร่วมสร้างคุณค่าและการเติบโตร่วมกันให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย พร้อมให้การสนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่นในจังหวัดเชียงใหม่และทั่วทั้งภาคเหนือด้วยการรวมพลังผ่านการจัดงานเชิญกลุ่มศิลปิน ผู้ประกอบการร้านอาหาร ร้านค้าที่จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปะและวัฒนธรรมล้านนาในแขนงต่างๆ มาร่วมรวมพลังในโครงการ ‘ลานนาทีค เดสทิเนชั่น’ ที่จะมีการจัดขึ้นในเร็วๆ นี้

    “สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของ AWC ในการส่งเสริมและสนับสนุนแนวคิดในการผสมผสานงานศิลปะทุกแขนง ร้านค้าต่างๆ เพื่อรวมความสุข ความอร่อย เข้าไปในทุกพื้นที่ภายในโครงการ เพื่อส่งเสริมและรักษาไว้ซึ่งคุณค่าและเสน่ห์แห่งกาลเวลาจากอดีต ไปสู่การออกแบบที่ทันสมัยเป็นเสมือนแรงบันดาลใจสู่อนาคต เพื่อสนับสนุนการเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่นำเสนอเรื่องราวของศิลปะและวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าสู่สายตานักท่องเที่ยวและนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก” วัลลภา กล่าวเสริม

    นอกเหนือจากโครงการ “ลานนาทีค เดสทิเนชั่น” ในจังหวัดเชียงใหม่แล้ว AWC ยังได้รับมติอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในการเข้าลงทุนเพิ่มในโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพบนพื้นที่ระดับไพรม์โลเคชั่นในอีก 2 จุดหมายสำคัญของกรุงเทพฯ ประกอบไปด้วย การเข้าลงทุนในโครงการโอพี การ์เด้น ย่านบางรัก เพื่อเชื่อมต่อกับโครงการแฟล็กชิป โรงแรม เดอะ พลาซ่า แอทธินี โนบุ โฮเทล แอนด์ สปา แบงคอก ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ส่งเสริมจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวริมสายน้ำ คาดว่าจะเปิดดำเนินการประมาณไตรมาสที่ 4 ปี 2570

    และโครงการโรงแรมในพื้นที่ถนนสุขุมวิท 38 ซึ่งเป็นย่านไลฟ์สไตล์สุดเทรนดี้ของกรุงเทพฯ เพื่อพัฒนาโครงการโรงแรมด้านเวลเนส คาดว่าจะเปิดดำเนินการประมาณไตรมาสที่ 3 ในปี 2571 พร้อมสนับสนุนประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : AWC ผนึก Melia ร่วมพัฒนาสองโรงแรมใหม่ในพัทยา

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine