เบลล่า เดล มอนเต้ ครีก วัลเล่ย์ เป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใหม่ของ บมจ. พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ที่สร้างขึ้นโดยก้าวข้ามขีดจำกัดการทำบ้านจัดสรรมาสู่การสร้างโครงการในฝันที่ถอดแบบมาจากแหล่งท่องเที่ยวชื่อก้องโลกอย่าง Lake Como
เขาใหญ่ในปัจจุบันรายล้อมไปด้วยโครงการโรงแรม รีสอร์ต และเรสซิเดนซ์น้อยใหญ่เปิดตัวกันอย่างคึกคัก มีทั้งบ้านส่วนตัวของผู้มีฐานะดีและโครงการที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ดัง เช่น โครงการ “เบลล่า เดล มอนเต้ ครีก วัลเล่ย์” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาที่ดินขนาด 180 ไร่ โดยแบ่งพื้นที่ส่วนแรกจำนวน 56 ไร่ ออกมาพัฒนาโครงการเฟสแรก เริ่มสร้างและขายมาในช่วงก่อนโควิดพบว่า ในสถานการณ์โควิด-19 บ้านตากอากาศแบบหรูหรามียอดขายที่ดี จากมูลค่าโครงการที่เปิดเฟสแรก 1.5 พันล้านบาท ทำยอดขายได้ 1 พันล้านบาท โดยยังไม่มีกิจกรรมด้านประชาสัมพันธ์หรือการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ สะท้อนกำลังซื้อของฐานลูกค้าไฮเอนด์ที่ยังแข็งแรงและพร้อมลงทุนอสังหาฯ ในรูปแบบที่แตกต่าง
วงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF เผยว่า ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ตลาดอสังหาริมทรัพย์ทำเลเขาใหญ่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นทำเลยอดนิยมในกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งต้องการบ้านพักตากอากาศใกล้กรุงเทพฯ ในบรรยากาศขุนเขาที่มีอากาศบริสุทธิ์ตลอดทั้งปี ทำให้พื้นที่เขาใหญ่ได้รับความสนใจมากขึ้น และยังได้แรงหนุนจากโครงการทางหลวงพิเศษสายบางปะอิน-นครราชสีมา (มอเตอร์เวย์โคราช) ช่วยร่นระยะเวลาการเดินทางสะดวกรวดเร็ว ซึ่งเปิดให้บริการบางส่วนปลายเดือนธันวาคม ปี 2566
กำลังซื้อไฮเอนด์โตต่อเนื่อง
ดังนั้น ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทจึงสามารถปิดการขายบ้านตากอากาศหรูในโครงการ “เบลล่า เดล มอนเต้ ครีก วัลเล่ย์” ได้เกินความคาดหมาย ทำให้มั่นใจเปิดตัวและเปิดขายโครงการอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนธันวาคม ปี 2566 โดยเฉพาะบ้านหลังใหญ่ที่เป็นมาสเตอร์พีซของโครงการ ราคา 159 ล้านบาทได้รับความสนใจสูงมาก เนื่องจากมีรูปแบบการวางผังการใช้งาน และการออกแบบก่อสร้าง พร้อมด้วยวัสดุและการตกแต่งที่เป็นการนำเข้าเกือบทั้งหมด จึงมีรายละเอียดเฉพาะตัวได้อารมณ์บ้านสไตล์อิตาลีที่แตกต่างจากโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด
“โครงการแบบนี้ต้องบอกว่า การพัฒนาทำด้วย passion ไม่ได้มุ่งหวังกำไรสูงสุด แต่หวังผลลัพธ์โครงการที่สวยและเป็นเอกลักษณ์ ลูกค้าที่จะซื้อโครงการก็ต้องเป็นกลุ่มที่มี passion เช่นกัน” กรรมการผู้จัดการ PF ย้ำและว่า ด้วยรายละเอียดของการออกแบบก่อสร้างและวัสดุอุปกรณ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศทำให้บ้านในโครงการนี้แตกต่างอย่างชัดเจน รวมทั้งการพัฒนาในรูปแบบตกแต่งพร้อมเข้าอยู่ทำให้ลูกค้าได้เห็นภาพบ้านที่เสร็จพร้อมตกแต่ง 100% ระดับราคาที่ประกาศขายจึงเป็นที่ยอมรับ แม้จะมีสนนราคาเริ่มต้นที่ 28 ล้านบาทขึ้นไปถึงหลังใหญ่สุด 159 ล้านบาท เมื่อเทียบกับคุณภาพ แบบบ้าน วัสดุและการตกแต่ง ถือว่าคุ้มและได้เห็นภาพบ้านจริงที่สำเร็จ 100%
อีกทั้งทำเลพื้นที่กว่า 180 ไร่ แปลงนี้อยู่บริเวณที่ราบใกล้อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จึงให้บรรยากาศแบบบ้านริมทะเลสาบที่มีภูเขาเป็นวิวอันสวยงาม บรรยากาศเหมาะกับเป็นบ้านตากอากาศ เนื่องจากโครงการได้ทำการขุดทะเลสาบ (lake) ขนาดใหญ่ และทำลำธาร (creek) โดยรอบบริเวณ จำลองบรรยากาศ Lake Como แหล่งท่องเที่ยวเลื่องชื่อของประเทศอิตาลีมาไว้ในโครงการ ที่เปิดพื้นที่กว้างด้วยวิวชายเขาที่สวยงาม และอากาศบริสุทธิ์ด้วยการออกแบบแลนด์สเคปลดหลั่นกันไป เว้นระยะห่างตัวบ้านแต่ละหลังและพื้นที่ติดทะเลสาบให้ความเป็นส่วนตัวสูง
“เบลล่า เดล มอนเต้ ครีก วัลเล่ย์” เป็นวิลล่าตากอากาศระดับลักชัวรี่เฟสใหม่ภายใต้แนวคิด “Creek Valley” เป็นบ้านพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวหรือพูลวิลล่าติดทะเลสาบที่สามารถสัมผัสบรรยากาศจริงในแบบเมืองตากอากาศยุโรป โดยมีทั้งลำธารน้ำตกบนเนินต่างระดับ ทะเลสาบใจกลางโครงการท่ามกลางทิวเขาและสวนพักผ่อนขนาดใหญ่ โดยโครงการได้จัดงานเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 2-4 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา
ที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้จุดขึ้นลงมอเตอร์เวย์โคราช 5 นาที และอยู่ใกล้อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นทำเลที่มีทิวทัศน์ภูเขาสวยงามลำดับต้นๆ ของโครงการบ้านในทำเลเขาใหญ่ สำหรับแรงบันดาลใจจาก Lake Como คือ ดินแดนแสนโรแมนติกของอิตาลี มีทะเลสาบกว้างท่ามกลางทิวเขา สถาปัตยกรรมสไตล์อิตาลีรอบทะเลสาบ ทั้ง gazebo ศาลาพักผ่อนริมน้ำ สะพานหินทรงโค้ง ให้บรรยากาศแบบเมืองตากอากาศในยุโรป
การพัฒนาที่ผ่านมาโครงการเฟสแรกในพื้นที่ 56 ไร่ จำนวน 30 ยูนิต มูลค่า 1.5 พันล้านบาท มียอดขายไปกว่า 1 พันล้านบาท (ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม ปี 2566) ได้การตอบรับอย่างดีจากลุ่มลูกค้าที่ต้องการบ้านพักตากอากาศที่เชื่อมต่อสัมผัสกับธรรมชาติได้โดยตรง โดยเฉพาะบ้านริมน้ำ ทำให้บ้านติดทะเลสาบเฟสแรกขายหมดอย่างรวดเร็ว อีกทั้งโครงการยังได้รับรางวัล Best Luxury Housing Development (Khao Yai) จากการประกาศรางวัล Thailand Property Awards 2023
โครงการที่เปิดขายปัจจุบันเป็นเฟสใหม่ “เบลล่า เดล มอนเต้ ครีก วัลเล่ย์” พัฒนาบนที่ดิน 55 ไร่ จำนวน 24 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1.6 พันล้านบาท รองรับดีมานด์บ้านตากอากาศติดน้ำวิวเขาด้วยบริบทใหม่ ภายใต้แนวคิด “Creek Valley” ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้มีลำธารน้ำตก โดยลำธารจะไหลผ่านบ้านทุกหลังเป็นบ้านบนเนิน เพื่อให้เห็นทัศนียภาพของภูเขาและลำธารได้โดยไม่บังวิวกัน ขณะเดียวกันยังคงเสน่ห์ของบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยภูเขาและทะเลสาบกว้าง
จุดเด่นของบ้านเฟสใหม่คือ วิลล่าส่วนใหญ่กว่า 80% อยู่ติดน้ำ ทั้งติดทะเลสาบ หรือติดลำธาร ซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากของลูกค้า โครงการยังเพิ่มพื้นที่สวนให้เพิ่มขึ้น 3 เท่า เพื่อให้สภาพแวดล้อมโปร่งโล่ง บ้านทุกหลังมีระยะห่างเหมาะสม สามารถชมทิวทัศน์ได้อย่างสวยงาม และยังมีสวนกลางแจ้งสำหรับตั้งแคมป์เพื่อให้ความรู้สึกพักผ่อนอย่างแท้จริง
แบบบ้านรุ่นใหม่เป็นวิลล่าตากอากาศในสไตล์อิตาเลียนที่เป็นเอกลักษณ์ และเหมาะกับบรรยากาศการพักผ่อนที่เขาใหญ่ มีให้เลือก 7 แบบ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 300-1,271 ตร.ม. ทุกหลังเป็นพูลวิลล่าพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว นอกจากสามารถรองรับกลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่ด้วยวิลล่าที่มีพื้นที่ใช้สอยสูงสุดถึง 1,217 ตร.ม.แล้ว “เบลล่า เดล มอนเต้ ครีก วัลเล่ย์” ยังมีสินค้าใหม่ที่พัฒนาออกมาเพื่อขยายฐานลูกค้ากว้างขึ้น
โดยเฉพาะลูกค้าสำคัญในกลุ่ม Double Income No Kids หรือ DINKs ซึ่งเป็นครอบครัวคู่รักคนรุ่นใหม่ที่อยู่เป็นคู่ไม่มีบุตร แต่มีรายได้ เงินออม และพร้อมใช้จ่ายได้มากขึ้น เป็นกลุ่มที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว สอดคล้องกับบ้านสไต์วิลล่าขนาดพื้นที่ใช้สอย 300 ตร.ม. ในคอนเซ็ปต์ “Juliette Balcony” ที่ได้แรงบันดาลใจจากบ้านจูเลียตที่มีชื่อเสียงในอิตาลี เป็นพูลวิลล่าที่มีความโรแมนติก มีพื้นที่สำหรับปาร์ตี้ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าดังกล่าว
“เบลล่า เดล มอนเต้ เขาใหญ่” เปิดตัวอย่างเป็นทางการด้วยราคาเริ่มต้น 28 ล้านบาท และสูงสุด 159 ล้านบาท กิจกรรมการตลาดช่วงเปิดโซนใหม่ Creek Valley ได้จำลองบรรยากาศแบบเมืองอิตาลีที่หลากหลายท่ามกลางวิวงดงามของเขาใหญ่ พร้อมกิจกรรมมากมายในบรรยากาศหนาวแรกที่เขาใหญ่ นอกจากนี้ ยังจัดกิจจกรรมมอบสิทธิพิเศษเส่วนลดเพิ่มสูงสุด 4 ล้านบาท สำหรับลูกค้าที่จองภายในวันงาน
“บ้านตากอากาศที่เขาใหญ่ในราคา 10-30 ล้าน มีจำนวนมากพอสมควร แต่ของเราราคาเริ่มต้นใกล้ๆ 30 ล้าน และสูงขึ้นไปถึง 159 ล้านบาท มีคู่แข่งน้อยและรูปแบบการพัฒนาแตกต่างอย่างสิ้นเชิง” วงศกรณ์ย้ำพร้อมเผยว่า ที่ดินแปลงนี้บริษัทได้มาเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ทยอยพัฒนามาเรื่อยๆ โดยไม่เปิดโครงการ และทำการตลาดกับฐานลูกค้าที่มีในมือ ปรากฏว่าได้การตอบรับที่ดี เนื่องจากกลุ่มคนมีฐานะดีในช่วงโควิด-19 ไม่ได้เดินทางและต้องการบ้านพักตากอากาศนอกเมืองในบรรยากาศดีๆ โครงการนี้จึงตอบโจทย์
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : บันยันทรี เรสซิเดนซ์ เครสตัน ฮิลล์ ยอดพรีเซลทะลุ 1 พันล้านบาท ตอกย้ำดีมานด์ Branded Residence หรูเมืองไทยยังโต